02 ธันวาคม 2567 21:41:45
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ไปรษณีย์
.:::
วัดราชโอรสฯ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงผูกพันถึงกับรับสั่งว่า “ตายแล้ว” จะมาอยู่ที่นี้
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: วัดราชโอรสฯ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงผูกพันถึงกับรับสั่งว่า “ตายแล้ว” จะมาอยู่ที่นี้ (อ่าน 393 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2481
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 107.0.0.0
วัดราชโอรสฯ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงผูกพันถึงกับรับสั่งว่า “ตายแล้ว” จะมาอยู่ที่นี้
«
เมื่อ:
22 พฤศจิกายน 2565 20:21:52 »
Tweet
ต้นพิกุล วัดราชโอรสฯ ที่เรื่องเล่าวว่า รัชกาลที่ 3 เคยรับสั่งว่า “ตายแล้ว” จะมาอยู่ที่นี้
(ภาพจาก
www.matichonacademy.com
)
วัดราชโอรสฯ ที่รัชกาลที่ 3 ทรงผูกพันถึงกับรับสั่งว่า “ตายแล้ว” จะมาอยู่ที่นี้
ผู้เขียน - คนไกล วงนอก
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2565
รัชกาลที่ 3 ทรงมีความผูกพันกับวัดราชโอรสฯ หรือวัดจอมทอง ตั้งแต่ครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็น กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ จนมีเรื่องเล่ากันว่า พระองค์เคยมีรับสั่งว่า “ถ้าข้าตายแล้ว ข้าจะมาอยู่ที่ต้นพิกุล [ที่วัดแห่ง] นี้”
วัดราชโอรสฯ เป็นวัดเก่าของชุมชนดั้งเดิมที่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในพระราชพงศาวดารระบุว่า “เป็นวัดข้าหลวงเดิมได้ทรงกระทำมาแต่ยังเป็นกรมอยู่” หมายความว่า รัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์วัดเก่านี้ตั้งแต่ พ.ศ.2360 เมื่อยังดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ครั้งสร้างวัดเสร็จแล้วโปรดให้มีงานฉลองเมื่อ พ.ศ.2374
การบูรณะปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ ในแต่งกลอนเพลงยาวสรรเสริญพระเกียรติฯ ที่เสมียนมีแต่งทูลเกล้าฯถวายรัชกาลที่ 3 ตอนหนึ่งกล่าวถึงการสร้างวัดราขโอรสฯไว้ว่า
วัดไหนไหนก็ไม่ลือระบือยศ เหมือนวัดราชโอรสอันสดใส
เป็นวัดเดิมเริ่มสร้างไม่อย่างใคร ล้วนอย่างใหม่ทรงคิดประดิษฐ์ทำ
ทรงสร้างด้วยมหาวิริยาธึก โอฬารึกพร้อมพริ้งทุกสิ่งขำ
ล้วนเกลี้ยงเกลาเพราเพริศดูเลิศล้ำ ฟังข่าวคำลือสุดอยุธยา
จะรำพันสรรเสริญก็เกินสมุด ขอยกหยุดพองามตามเลขา
กำหนดสร้างพระอาวาสโดยมาตรา ประมาณช้านับได้สิบสี่ปี [สั่งเน้นคำโดยผู้เขียน]
สาระสําคัญในกลอนเพลงยาวๆ นี่กล่าวถึง “วัดราชโอรสฯ” เป็น “วัดเดิมเริ่มสร้าง” ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด “สิบสี่ปี”
ที่ว่า “เป็นวัดเดิมเริ่มสร้างไม่อย่างใคร” นั้น การทรงสร้างวัดราชโอรสฯ ชั้นเดิมมิได้เกี่ยวข้องแก่ราชการ จึงทรงพระราชดําริเปลี่ยนแปลงแบบอย่างสร้างตามพอพระราชหฤทัย มักเอากระบวนแบบอย่างจีนมาใช้มาก แต่สร้างโดยฝีมืออันประณีต
พ.ศ.2363 การก่อสร้างวัดราชโอรสฯ ยังไม่แล้วเสร็จ รัชกาลที่ 2 โปรดให้กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ยกกองทัพไปขัดตาทัพรอพม่าที่เมืองกาญจนบุรี เมื่อพม่าไม่ยกทัพเข้ามา จึงเสด็จยกทัพกลับเมื่อ พ.ศ.2364
พ.ศ.2365 จอห์น ครอว์เฟิร์ด ได้เห็นการก่อสร้างวัดราชโอรสฯ แล้วมีบันทึกลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2365 ว่า “ตามบรรดาวัดที่เราได้เห็นมาแล้วในกรุงเทพฯ ไม่มีวัดไหน จะทําด้วยฝีมือประณีตงดงามเท่าวัดนี้ ขณะที่เราไปนั้นวัดกําลังก่อสร้างอยู่ เราได้มีโอกาสเห็นลําดับแห่งการก่อสร้าง เช่น องค์พระประธานก็เห็นหล่อขึ้นแล้ว แต่บางส่วนวางเรียงรายอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่ง รอไว้ประกอบเมื่อภายหลัง ได้ทราบว่าโลหะที่ใช้ในการนี้ คือ ดีบุก สังกะสี ทองแดง เจือด้วยธาตุอื่นๆ อีกบ้างโดยไม่มีส่วนที่แน่นอนเพราะจักเป็นการยากอยู่บ้างที่จะกําหนดส่วน
เมื่อใครๆ ก็มาทําบุญหยอดโน่นหยอดนี่ลงไปตามแต่จะศรัทธาไม่มีการห้ามหวง องค์พระที่หล่อขึ้นเป็นตอนๆ นี้ข้างในกลวง เนื้อหนาประมาณ 2 นิ้ว (ฟุต) เวลาเอาออกจากพิมพ์ดูขรุขระ แต่ข้อนี้ไม่สําคัญ เพราะถึงอย่างไรก็จะต้องลงรักปิดทองอีกชั้นหนึ่ง พระพุทธรูปองค์นี้จะทําเป็นพระนั่ง หน้าตัก 10 ฟิต ซึ่งถ้าจะทําเป็นพระยืนก็จะสูงถึง 22 ฟิต
แผนผังวัดก็คล้ายๆ กับวัดอื่น ๆ คือเป็นรูปสี่เหลี่ยม ตึกกลาง (คือโบสถ์) ซึ่งจะไว้พระประธานเป็นห้องเดียวแต่ใหญ่งาม เห็นมีแท่นรองที่จะประดิษฐานพระประธานอยู่แล้ว ทําด้วยหินอ่อนจีนสลักภาพต้นไม้และสัตว์ หลังคาโบสถ์ดูแปลกแต่ใช่ว่าไม่งาม ใช้กระเบื้องซึ่งเคลือบน้ำยาเขียว
บริเวณรอบๆ โบสถ์เป็นสวน ปลูกต้นไม้ประดับและต้นไม้ผล กุฎิพระเป็นแบบใหม่ เพราะแทนที่จะเป็นเครื่องไม้ กุฏิในวัดนี้ก่อเป็นตึกหมด ใช้อิฐฉาบปูน ทําให้รู้สึกว่าเหมือนบ้านเรือนน้อยๆ ในประเทศอังกฤษ กุฏิเหล่านี้ อยู่รวมกันในด้านหนึ่งแห่งพื้นที่บริเวณวัด มีอยู่ 50 หลังด้วยกัน เรียงเป็นแถว ที่ปลายแถวเป็นกุฏิเจ้าคณะ ใหญ่กว่ากุฏิอื่นๆ” [จัดย่อหน้าใหม่และสั่งเน้นคำโดยผู้เขียน]
จากบันทึกของครอว์เฟิร์ด จะเห็นว่าเมื่อ พ.ศ. 2365 งานก่อสร้างดําเนินต่อเนื่องไปมากแล้ว และกําลังคืบหน้าไปเรื่อยๆ การก่อสร้างที่ต้องใช้ถึง 14 ปี ส่วนหนึ่งจึงเป็นไปเพื่อสร้างสรรค์ศิลปสถาปัตยกรรมแบบใหม่ที่ไม่เคยมีการทํามาก่อน ดังกลอนเพลงยาวของเสมียนมีที่ว่า “เป็นวัดเดิมเริ่มสร้างไม่อย่างใคร”
ส่วนรายละเอียดความงามนั้น กลอนเพลงยาวยอพระเกียรติรัชกาลที่ 3 ที่พระยาไชยวิชิต (เผือก) แต่งทูลเกล้าฯ ให้รายละเอียดไว้ ตามที่ได้ยกมาตอนหนึ่งดังนี้
อันวัดวาอาวาสประหลาดสร้าง ยักย้ายหลายอย่างโบสถ์วิหาร
ช่อฟ้าหางหงส์ทรงบุราณ ไม่ทนทานว่ามักจะหักพัง
พระอารามนามราชโอรส หน้าบันชั้นลดลายฝรั่ง
…………. ………..
แท่นศิลาน่านั่งบริกรรม บําเพ็ญธรรมกรรมฐานที่ศูนย์
พระศรัทธาเป็นเดิมเพิ่มพูน ยกหนุนศาสนาสารพัด
เหลือมนุษย์สุดสร้างได้อย่างนี้ เป็นยอดทานบารมีโพธิสัตว์
พวกผู้ดีได้อย่างไปสร้างวัด เป็นทรงนอกออกอัดทุกวันมา [สั่งเน้นคำโดยผู้เขียน]
แสดงว่าในมุมของงานศิลปสถาปัตยกรรม ไม่ว่าจะป็นความแปลกใหม่ ความงามของวัดราชโอรสฯ คงเป็นที่ยอมรับในจึงเป็นเหตุให้ “พวกผู้ดีได้อย่างไปสร้างวัด เป็นทรงนอกออกอัดทุกวันมา”
นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ
“ความผูกพัน” ของรัชกาลที่ 3 กับวัดราชโอรสฯ
ว่าในสมัยที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่นั้น มักเสด็จมาที่วัดราชโอรสฯ เป็นประจํา ทั้งนี้ คงเป็นเพราะทรงมีความเคารพเลื่อมใส และคุ้นเคยกับพระสุธรรมเทพเถร (ทอง) ผู้เป็นเจ้าอาวาสเป็นพิเศษ
อีกทั้งทรงมีความผูกพันกับวัดที่พระองค์ทรงสถาปนาขึ้นใหม่ บางครั้งเสด็จมาในเวลาค่ำๆ ให้มหาดเล็กพายเรือเลียบไปตามแนวลําคลองและคูของวัดซึ่งมีกุฏิเรียงราย หากทอดพระเนตรแสงไฟและทรงสดับเสียงท่องบ่นสาธยาย ก็จะทรงให้หยุดเรือพระที่นั่ง และทรงให้เคาะหน้าต่าง เมื่อพระภิกษุโผล่ออกมาก็จะทรงเอาน้ำมันมะพร้าวถวาย หากผ่านไปกุฏิใดไม่มีแสงไฟและเสียงท่องหนังสือก็จะเสด็จผ่านไป เหตุการณ์เช่นนี้มีอยู่เสมอ ทั้งยามว่างจากราชกิจก็มักจะพาผู้ใกล้ชิดมาพักผ่อน นมัสการสนทนากับเจ้าอาวาส พายเรือเล่นรอบๆ วัด รอบๆ เกาะเป็นที่สนุกสนาน (หนังสือวัดราชโอรสฯ : 2525 : หน้า 137)
นอกจากนี้ยังมีคำบอกเล่าเกี่ยวกับพระแท่นที่ประทับโคนต้นพิกุลในบริเวณโบสถ์วัดราชโอรสฯ อีกเรื่องหนึ่งดังนี้ (หนังสือวัดราชโอรสฯ : 2525: หน้า 51-52)
ในบริเวณกําแพงแก้วที่ลานมุมซ้ายด้านหน้าโบสถ์มีต้นพิกุลใหญ่ต้นหนึ่งเล่ากันมาว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะดํารงพระอิสริยยศเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ เมื่อเสด็จมาคุมงานก่อสร้าง หรือตรวจงานก่อสร้างหรือเสด็จประพาสวัดนี้ จะเสด็จประทับบนพระแท่นหินที่วางอยู่โคนต้นพิกุลนี้เป็นประจํา และเคยมีรับสั่งว่า
“ถ้าข้าตายแล้ว ข้าจะมาอยู่ที่ต้นพิกุลนี้”
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...