[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 11:02:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่องโสเภณี สมัยกรุงศรีอยุธยา มีแต่ลูกสาวขุนนาง!?  (อ่าน 156 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2325


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 มีนาคม 2566 09:40:46 »


จิตรกรรม สังวาส ภาพเขียน ซ่องโสเภณี

ซ่องโสเภณี สมัยกรุงศรีอยุธยา มีแต่ลูกสาวขุนนาง!?


ที่มา - ศิลปวัฒนธรรม ฉบับ มีนาคม 2536
ผู้เขียน - กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2566


ลา ลูแบร อัครราชทูตจากราชสำนักฝรั่งเศสที่เดินทางเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรีในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหราชได้บันทึกถึงสภาพสังคม ประชากร รวมถึงซ่องโสเภณี ในสมัยกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างน่าสนใจ

ประชากรในกรุงศรีอยุธยามีเท่าไหร่?
ตอบว่าไม่มีหลักฐานเลย และยังไม่มีเครื่องมือใดๆ คำนวณได้ แต่เท่าที่รู้จากจดหมายเหตุของ มร.เดอะ ลา ลูแบร อัครราชทูตจากราชสำนักฝรั่งเศสที่เดินทางเข้ามาเจริญทางพระราชไมตรีในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯ (ราชอาณาจักรสยาม โดย ลา ลูแบร – แปลโดย สันต์ ท.โกมลบุตร. สำนักพิมพ์ก้าวหน้า ๒๕๑๐) ว่า ในพระราชอาณาจักรสยามมีประชากรประมาณ ๑,๙๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งลา ลูแบร บอกไว้ด้วยว่า มากไปๆ ตัวเลขนี้จะให้เชื่อแน่นอนยังไม่ได้

ลา ลูแบร ยังบันทึกเรื่องราวลึกลับไว้อีกว่ามีโสเภณี ๖๐๐ คน อยู่ในซ่องของ “ออกญามีน” ถ้าจำนวนไม่ “เว่อร์” เกินไปก็แสดงว่าทั้งกรุงศรีอยุธยาต้องมีโสเภณีนับเป็นพันๆ เพราะเพียงซ่องเดียวก็ปาเข้าไป ๖๐๐ แล้ว

“ออกญามีน” เป็นใคร?
ลา ลูแบรบันทึกว่า “บรรดาผู้ที่มีบันดาศักดิ์สูงนั้น หาใช่เจ้านายใหญ่โตเสมอไปไม่ เช่นเจ้ามนุษย์อัปรีย์ที่ซื้อผู้หญิงและเด็กสาวให้มาฝึกเป็นหญิงนครโสเภณีคนนั้นก็ได้รับบันดาศักดิ์เป็นออกญา เรียกกันว่าออกญามีน (Oc-ya-Meen) เป็นบุคคลที่ได้รับการดูถูกดูแคลนมากที่สุด มีแต่พวกหนุ่มลามกเท่านั้นที่ไปติดต่อด้วย” ซ่องของออกญามีนไม่ใช่ซ่องเถื่อน แต่เป็นซ่องที่ตั้งขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายเพราะมีการส่งส่วย “เสียเงินภาษีถวายพระมหากษัตริย์” ด้วย

โสเภณีเหล่านี้เป็นใคร? มาจากไหน?
ลา ลูแบร บันทึกว่าบรรดาโสเภณี ๖๐๐ คน “ล้วนแต่เป็นบุตรีขุนนางที่ขึ้นหน้าขึ้นตาทั้งนั้น” นอกจากนี้หัวหน้าซ่อง “ยังรับซื้อภรรยาที่สามีขายส่งลงเป็นทาสีด้วยโทษคบชู้สู่ชาย” มารับแขกเป็นโสเภณีด้วย ที่เป็นเช่นนี้เพราะ “สามีเป็นผู้ทรงอำนาจเด็ดขาดในครอบครัว ถึงขนาดอาจขายบุตรและภรรยาทั้งหลายเสียได้ ยกเว้นภรรยาหลวงแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่เขาจะทำได้เพียงขับไล่ไปเสียให้พ้นเท่านั้น” การลงโทษเมียและลูกสาวที่ “ขุนนาง” ไม่พอใจคือ ขายเข้าซ่อง

ทำไมต้องเป็นเมียและลูกสาวขุนนาง?
เรื่องนี้ลา ลูแบรบอกร่องรอยไว้ว่าภรรยาพวกขุนนางผู้ใหญ่ไม่ค่อยได้พบปะใคร และไม่ค่อยได้ออกจากบ้านไปไหนมาไหน นอกเสียจากไปเยี่ยมญาติและไปทำบุญที่วัดเป็นบางครั้งบางคราวซึ่งก็มักอยู่ข้างๆ บ้านนั่นเอง เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะความเป็น “ผู้ดี” หรือความเป็น “เบญจกัลยาณี” ที่จะต้องยึดถือคติ “อยู่กับเหย้า เฝ้ากันเรือน” อย่างเข้มงวด ซึ่งลา ลูแบร บันทึกว่า “แทนที่นางจะรู้สึกว่าตนดำเนินชีวิตอยู่ในที่กวดขัน กลับรู้สึกเป็นเกียรติแก่ตัวเสียซ้ำ และเห็นว่าการไปไหนมาไหนได้โดยเสรีนั้น กลับเป็นสิ่งที่น่าอัปยศไปเสียอีก กลับจะเห็นว่าสามีไม่ยกย่องและดูหมิ่นนางไปเสียด้วยซ้ำ ถ้าเขาปล่อยปละละเลยให้นางไปไหนมาไหนได้ตามชอบใจ”

พฤติกรรมกวดขันดังกล่าวจะยิ่งเข้มงวดมากขึ้นถ้าขุนนางผู้นั้นมีศักดิ์และอำนาจสูงขึ้นทำให้เกิดประเพณีไม่อนุญาตให้หญิงสาวสนทนาพาทีกับชายหนุ่่ม ซึ่งเท่ากับสร้างความกดดันทางเพศอย่างยิ่ง ฉะนั้นหญิงสาวจะมักลักลอบพบชายหนุ่มในที่ลับๆ ได้เสมอๆ แม้ในหมู่นารีราชบาทบริจาริกาของพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ผู้ตกอยู่ในที่แวดล้อมกวดขันมั่นคงก็หลบลี้หนีไปหาชายชู้จนได้ ถ้าถูกจับได้ก็ตาย ถึงไม่ตายก็ถูกขายเข้าซ่อง เพราะเป็นเรื่องศักดิ์ศรีและหน้าตาของผู้มีอำนาจที่ถูกทำให้เสียศักดิ์ศรีและเสียหน้า

เมียและลูกของพวกไพร่ล่ะมีชีวิตเป็นยังไง? ถูกขายเข้าซ่องบ้างไหม?
ตรงกันข้ามกับเจ้าขุนมูลนายทุกประการ เพราะบรรดาเมียและลูกของพวกไพร่ต้องทำมาหากินและทำมาค้าขายเล็กๆ น้อยๆ “มีอิสระที่จะไปไหนมาไหนได้เต็มที่” จึงไม่มีความเก็บกดทางเพศและไม่ต้องถูกขายเข้าซ่อง ถ้าจะเก็บกดก็คงเรื่องไม่มีจะกิน

แต่พวกไพร่อาจถูกขายเป็นทาสี เพราะผู้ชายเสียการพนันแล้วขายลูกเมียใช้หนี้ซึ่งมีโอกาสเข้าไปอยู่ในซ่องได้เหมือนกัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 มีนาคม 2566 09:42:41 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
กบฏญาณพิเชียร (พ.ศ.๒๑๒๔) - กบฏไพร่ สมัยกรุงศรีอยุธยา
สุขใจ ห้องสมุด
Kimleng 0 196 กระทู้ล่าสุด 02 เมษายน 2566 18:27:57
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.255 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 18:21:06