[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 19:51:11 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โบราณสถานพะเนียดคล้องช้าง เมืองลพบุรี  (อ่าน 235 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 27 มีนาคม 2566 16:39:47 »





โบราณสถานพะเนียดคล้องช้าง เมืองลพบุรี


“...ราวหนึ่งในสี่ของลิเออ (๑ กิโลเมตร) จากเมืองละโว้ มีเพนียดอยู่แห่งหนึ่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ล้อมรอบด้วยคันดินสูงเป็นที่นั่งดูของผู้ทัศนา ภายในแนวคันดินนี้มีเสาต้นใหญ่ๆ ปักลงในดิน ห่างกันชั่วระยะสองฟุต ใช้เป็นช่องสำหรับหลบออกมาของพวกนักล่าช้างเมื่อถูกช้างไล่ติดพันมา ทางด้านท้องทุ่งนั้นมีช่องทางเข้าออกใหญ่ และตรงกันข้ามด้านที่มาจากในเมืองนั้น เขาสร้างเป็นช่องทางเล็กๆ เข้าไว้เป็นทางเดินแคบๆ ซึ่งช้างจะผ่านไปได้โดยยาก ทางแคบนี้สิ้นสุดลงที่คอกใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเขาใช้เป็นที่สำหรับฝึกช้างให้เชื่อง…”

จดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยาม ของบาทหลวงตาชารด์
โบราณสถานพะเนียดคล้องช้าง ตั้งอยู่ในค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด ๗๗x๙๕ เมตร มีคันดินกว้าง ๑๐ เมตร ความสูง ๒-๓ เมตร ล้อมรอบ ทางทิศตะวันออกเว้นเป็นช่องทางเข้า-ออก  ส่วนทางทิศตะวันตกเชื่อมต่อกับประตูเมืองเของเขตคูเมืองกำแพงเมืองชั้นที่ ๒ เมืองลพบุรี ซึ่งยังคงปรากฏร่องรอยของแนวกำแพงก่ออิฐถือปูน และช่องประตูที่มีเสาและบานประตูไม้เสริมความแข็งแรงด้วยหมุดเหล็ก ชาวบ้านเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ประตูพะเนียด” ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดเกี่ยวกับประวัติการก่อสร้าง สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นก่อน พ.ศ.๒๒๑๖ เนื่องจากจดหมายเหตุของคณะบาทหลวงฝรั่งเศสบันทึกเหตุการณ์ไว้ โดยสรุปว่า เมืองละโว้เป็นเมืองที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดการเสด็จมาประทับมากกว่าเมืองอื่นๆ พระองค์เสด็จมาประทับทุกๆ ปีคราวละ ๙-๑๐ เดือน เพื่อทรงไล่เสือและคล้องช้าง ส่วนในจดหมายเหตุการเดินทางสู่ประเทศสยามของบาทหลวงตาชารด์ ซึ่งเดินทางมากับคณะทูตของพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ ในปี พ.ศ.๒๒๒๘ ได้บันทึกเรื่องราวการจับช้างและฝึกช้างให้เชื่องซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงจัดให้ เชอวาลิเอร์ เดอ โชมองต์ ราชทูตฝรั่งเศสและคณะได้ชม

นอกจากนี้ในผังเมืองละโว้ Plan de la Ville de Louvo ที่มีการคัดลอกและพิมพ์เผยแพร่ต่อกันมาจากต้นฉบับแผนที่ร่างโดยเมอซิเออร์ เดอ ลามาร์ (M. de la Mare) ผู้ร่วมเดินทางมากับคณะราชทูตเชอวาลิเอร์ เดอ โชมองต์ เมื่อปี ๒๒๒๘  พบว่าในทางด้านทิศตะวันออกของเมืองละโว้นอกแนวกำแพงเมืองชั้นที่ ๒ บริเวณตรงกับประตูเมืองปรากฏสิ่งก่อสร้างเป็นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ภายในมีแนวของสิ่งปลูกสร้างเป็นจุดตั้งเรียงกันผังรูปสี่เหลี่ยมซ้อนกัน ๒ ชั้น และทางด้านทิศตะวันตกในส่วนที่อยู่ถัดจากประตูเมืองออกไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมซึ่งอาจจะเป็นอาคารสิ่งปลูกสร้างบางอย่าง และมีคำอธิบายเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า “ที่ที่เรานำช้างมา” และ “ไว้เก็บช้างป่า” สอดคล้องตรงกับปรากฏในแผนที่ Plan de la Ville de Louvo  Demeure ordinaire des Rois de Siam ของกรมแผนที่ทหาร พิมพ์ปี ๒๔๗๗ ที่มีคำอธิบายภาษาไทยคู่กับชื่อสถานที่ต่างๆ ซึ่งบรรยายไว้เป็นภาษาฝรั่งเศส โดยกล่าวถึงบริเวณดังกล่าวว่า “พระเนียดเป็นที่สำหรับจับช้างป่า” ซึ่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับโบราณสถานพะเนียดคล้องช้างดังกล่าวนี้มีความสำคัญทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์เป็นอย่างสูง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเมืองลพบุรีในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ในปี ๒๕๖๓  สำนักศิลปากรที่ ๔ ลพบุรี ทำการขุดตรวจทางโบราณคดีพะเนียดคล้องช้าง ประตูพะเนียด และคันดินกำแพงเมือง เมืองลพบุรี พบหลักฐานว่าการสร้างพะเนียดคล้องช้างใช้วิธีการขุดลอกหน้าดินออก เพื่อนำไปพูนเป็นแนวคันดินโดยรอบเชื่อมต่อกับแนวกำแพงเมืองชั้นที่ ๒ หลังจากนั้นจึงนำเอาเศษอิฐหักมาบดถมปรับพื้นที่ แต่ไม่พบร่องรอยของเสาตะลุง ตามที่ปรากฏหลักฐานในผังเมืองละโว้ Plan de la Ville de Louvo ของคณะราชทูตและบาทหลวงชาวฝรั่งเศส ในพะเนียดคล้องช้างมีการจัดระบบประปาวางท่อดินเผานำน้ำเข้ามาใช้ โดยมีบ่อพักน้ำก่ออิฐถือปูนมีอาคารหลังคาคลุม แนวของท่อประปาจะผ่านเข้ามาทางทิศตะวันออกของพะเนียดคล้องช้าง

การศึกษาชั้นดินทางวัฒนธรรมพบว่ามีการใช้งานพะเนียดคล้องช้าง ๒ สมัย คือ สมัยอยุธยาตอนปลาย พุทธศตวรรษที่ ๒๒-๒๓ โบราณวัตถุที่พบได้แก่ ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาจากแหล่งเตาแม่น้ำน้อย จังหวัดสิงห์บุรี เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ชิง ท่อดินเผา ชิ้นส่วนงาช้าง และเครื่องมือเหล็ก และสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔-๕ โบราณวัตถุที่พบได้แก่ ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจีน   

ส่วนการขุดตรวจทางโบราณคดีบริเวณประตูพะเนียดและคันดินกำแพงเมือง เมืองลพบุรี พบหลักฐานว่ามีการก่อสร้างและใช้งาน ๓ ระยะ ได้แก่ สมัยแรกเริ่มกำหนดอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘-๒๐ พบร่องรอยการปักเสาระเนียดที่อาจเป็นแนวกำแพงเมืองรุ่นแรก ในระยะที่ ๒ ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๒ มีการสร้างคันดินความสูงไม่มากนักขึ้นทางทิศตะวันออกของแนวเสาระเนียดเดิม และก่อกำแพงอิฐขึ้นบนคันดิน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของการขุดตัดแนวคันดินและกำแพงอิฐออกไปสอดคล้องกับบันทึกในเอกสารทางประวัติศาสตร์ว่าในรัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิโปรดเกล้าฯ รับสั่งให้รื้อแนวกำแพงอิฐเมืองลพบุรีออก และระยะที่ ๓ รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พุทธศตวรรษที่ ๒๓) ปรากฏร่องรอยการถมดินเสริมแนวกำแพงเมืองให้มีความสูงเพิ่มขึ้น พร้อมกับการซ่อมแซมประตูและกำแพงเมืองขึ้นใหม่











กรมศิลปากร (ที่มาเรื่อง/ภาพประกอบ)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
เที่ยวเมืองทหาร หลังวันรัฐประหาร (เมืองลพบุรี)
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 3417 กระทู้ล่าสุด 30 พฤษภาคม 2557 11:27:28
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.608 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 20 เมษายน 2567 17:04:37