[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 17:26:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กบฏไทรบุรี (พ.ศ.๒๓๗๓-๒๓๗๕, ๒๓๘๑)  (อ่าน 209 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5469


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 04 เมษายน 2566 11:21:44 »


เว็บไซท์ hatyaifocus.com (ที่มาภาพประกอบ)

กบฏไทรบุรี (พ.ศ.๒๓๗๓-๒๓๗๕, ๒๓๘๑)

กบฏไทรบุรี เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองไทรบุรี ซึ่งเป็นหัวเมืองประเทศราชของไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แต่รัฐบาลไทยก็สามารถปราบปรามลงได้ หลังจากนั้น ไทยได้แบ่งแยกเมืองไทรบุรีออกเป็น ๓ เมือง และแต่งตั้งบุคคลในท้องถิ่นที่เหมาะสมเป็นผู้ปกครอง เหตุการณ์ต่างๆ ในดินแดนไทรบุรีจึงสงบลง

ไทรบุรีเป็นหัวเมืองมลายูตะวันตก ซึ่งเป็นประเทศราชของไทยเช่นเดียวกับปัตตานี (ต่อมาถูกแบ่งออกเป็น ๗ หัวเมือง คือ ปัตตานี ยะลา ยะหริ่ง ระแงะ สายบุรี หนองจิก และรามันห์) กลันตัน และตรังกานู  ประชาชนของหัวเมืองเหล่านี้นับถือศาสนาอิสลาม การปกครองหัวเมืองมลายูนี้ ไทยจะแต่งตั้งเจ้าเมืองในกรณีที่เจ้าเมืองเดิมถึงแก่กรรม พร้อมทั้งพระราชทานยศ บรรดาศักดิ์ ตลอดจนให้ความคุ้มครองในกรณีที่หัวเมืองเหล่านี้ถูกคุกคาม ส่วนหัวเมืองมลายูก็จะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรุงเทพฯ และต้องให้ความร่วมมือเมื่อกรุงเทพฯ ต้องการ เช่น เมื่อเกิดสงครามหรือกบฏจะต้องช่วยส่งกำลังพล เสบียงอาหารมาช่วย ตลอดจนจัดส่งต้นไม้เงินต้นไม้ทองมาเป็นเครื่องราชบรรณาการทุกๆ ๓ ปี หัวเมืองเหล่านี้อยู่ภายใต้การดูแลของหัวเมืองชั้นเอกทางภาคใต้ เช่น เมืองนครศรีธรรมราชดูแลไทรบุรีและกลันตัน เมืองสงขลาดูแลบริเวณ ๗ หัวเมืองตรังและตรังกานู อยู่ใต้การบังคับบัญชาของกรมพระกลาโหม ซึ่งมีหน้าที่บังคับบัญชาหัวเมืองภาคใต้

ในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งตนกูปะแงรันขึ้นเป็นพระยาไทรบุรี และตั้งตนกูปัศนูเป็นพระยาอภัยนุราช ตำแหน่งรายามุดา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) มีพฤติการณ์ที่จะแยกออกเป็นอิสระจากไทย ใน พ.ศ.๒๓๕๕ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราชนำตัวพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) มาเข้าเฝ้า แต่พระยาไทรบุรีไม่ยอมมาเข้าเฝ้าตามท้องตรา ในปีต่อมา พระยาไทรบุรีได้ส่งบุตรชายมาเข้าเฝ้าที่กรุงเทพฯ แทน  อย่างไรก็ตาม เมื่อพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) ทำความดีความชอบโดยตีเมืองเประมาเป็นเมืองประเทศราชของไทยได้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาไทรบุรี แต่ต่อมาปรากฏหลักฐานว่า เจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) ได้คบคิดกับพม่าจะเข้ามาตีไทย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราช (น้อย) ยกทัพไปปราบเมืองไทรบุรี ใน พ.ศ.๒๓๖๔ เกิดการสู้รบกันทำให้เสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก ใน พ.ศ.๒๓๖๕ เจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) ได้หนีไปพึ่งอังกฤษที่เกาะหมาก (ปีนัง)

จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้รัฐบาลไทยส่งคนไทยไปเป็นเจ้าเมืองไทรบุรีแทนคนพื้นเมือง โดยโปรดเกล้าฯ ให้บุตรของเจ้าพระยานครศรีธรรมราช ๒ คน คือ พระภักดีบริรักษ์ (แสง) เป็นเจ้าเมืองไทรบุรี (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระยาอภัยธิเบศร์) และตั้งนายนุชเป็นปลัดเมือง (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นพระเสนานุชิต) แต่วิธีการดังกล่าวนี้ทำให้เกิดกบฏขึ้นในเมืองไทรบุรีถึง ๒ ครั้ง คือ ใน พ.ศ.๒๓๗๓-๒๓๗๕ และ พ.ศ.๒๓๘๑

ในปลาย พ.ศ.๒๓๗๓ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ตนกูเด่นซึ่งเป็นหลานของเจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) ได้รวบรวมผู้คนยกเข้าตีเมืองไทรบุรีได้ เจ้าพระยานครศรีธรรมราชจึงมีหนังสือกราบบังคมทูลมายังกรุงเทพฯ และเกณฑ์หัวเมืองมลายูอื่นๆ มาช่วย แต่หัวเมืองเหล่านั้นไม่ยอมมา และขณะเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์ไม่สงบขึ้นในบริเวณ ๗ หัวเมืองด้วย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ ต่อมาคือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์) ว่าที่สมุหพระกลาโหมเป็นแม่ทัพเรือยกทัพไปช่วย เจ้าพระยาพระคลังยกทัพไปถึงเมืองสงขลาใน พ.ศ.๒๓๗๕ แต่ทัพของเจ้าพระยานครศรีธรรมราชสามารถยกเข้าไปตีเมืองไทรบุรีคืนได้แล้ว ตนกูเด่นและศรีตะวันกรมการเมืองได้ฆ่าตัวตาย เมื่อจัดการเมืองไทรบุรีเรียบร้อยแล้ว ทัพของเจ้าพระยานครศรีธรรมราชจึงไปสมทบกับทัพของเจ้าพระยาพระคลังตีหัวเมืองทั้ง ๗ ได้ ไทยได้เปลี่ยนแปลงเจ้าเมืองใหม่โดยตั้งคนไทยและคนมลายูที่สวามิภักดิ์ต่อไทยเป็นเจ้าเมืองแทน

ใน พ.ศ.๒๓๘๑ ได้เกิดกบฏขึ้นในเมืองไทรบุรีอีกครั้งหนึ่ง โดยตนกูมหะหมัดสหัสซึ่งเป็นหลานของเจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) และตนกูมหะหมัดอาเก็บได้รวบรวมกำลังยกเข้าตีเมืองตรังได้ แล้วให้หวันมาลีอยู่รักษาเมือง จากนั้นก็ยกทัพมาตีเมืองไทรบุรี เจ้าเมืองไทรบุรีคือพระยาอภัยธิเบศร์และพระเสนานุชิตปลัดเมืองเห็นว่าจะรักษาเมืองไว้ไม่ได้ จึงล่าถอยมาอยู่ที่เมืองพัทลุง

ขณะนั้น เจ้าพระยานครศรีธรรมราชเดินทางมาราชการที่กรุงเพทฯ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยานครศรีธรรมราชรีบเดินทางกลับไปจัดการเรื่องเมืองไทรบุรี และโปรดเกล้าฯ ให้เกณฑ์เมืองพัทลุงร่วมกับทัพเมืองนครศรีธรรมราชไปตีเมืองไทรบุรีคืน  นอกจากนี้ มีพระราชดำริว่าเมื่อใดที่เมืองไทรบุรีเกิดกบฏขึ้น เมืองมลายูอื่นๆ ที่อยู่ใต้การดูแลของเมืองสงขลาก็จะพลอยเกิดกบฏขึ้นด้วย จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา (ทัต ต่อมาคือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ) จางวางกรมพระคลังสินค้าเป็นแม่ทัพ และเจ้าพระยายมราชเป็นทัพหน้ายกไปช่วยตีเมืองไทรบุรีแต่เมื่อกองทัพยกไปถึงเมืองสงขลาในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๓๘๒ ก็ทราบว่าทัพเมืองนครศรีธรรมราชตีเมืองไทรบุรีคืนมาได้แล้ว

หลังจากนั้น ทางราชการได้เปลี่ยนแปลงวิธีการปกครองเมืองไทรบุรีใหม่ เนื่องจากเห็นว่า หากให้คนไทยเป็นผู้ปกครองเมืองไทรบุรีอีกต่อไป บุตรหลานของเจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) ก็จะคิดกบฏอยู่ตลอดเวลา เพราะมิได้ให้คนพื้นเมืองปกครองกันเอง จึงแบ่งเมืองไทรบุรีออกเป็นเมืองย่อย ๓ เมือง คือเมืองไทรบุรี เมืองปะลิส และเมืองสตูล  โดยให้เจ้าเมืองแต่ละเมืองเป็นอิสระต่อกันและมีฐานะเป็นเมืองประเทศราช แล้วแต่งตั้งคนพื้นเมืองที่มีความจงรักภักดีต่อไทยและเป็นที่เคารพของพลเมืองขึ้นเป็นเจ้าเมือง ใน พ.ศ.๒๓๘๕ เมื่อเจ้าพระยาไทรบุรี (ปะแงรัน) กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานอภัยโทษ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้กลับไปปกครองบเมืองไทรบุรีตามเดิม แต่ให้แบ่งเมืองไทรบุรีอีก โดยแยกเมืองกปังปาสูออกไปเป็นเมืองอีกเมืองหนึ่ง ซึ่งเป็นการยุติปัญหาเมืองไทรบุรีลงได้

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้ง ๒ พระองค์ได้ทรงพยายามกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทรบุรีกับรัฐบาลที่กรุงเทพฯ มากยิ่งขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานเมืองกปังปาสูให้แก่พระยาไทรบุรี (ตนกูอะหมัด) เมื่อเจ้าเมืองกปังปาสูถึงแก่กรรม ทำให้พระยาไทรบุรีมีความภักดีต่อไทยยิ่งขึ้น ใน พ.ศ.๒๔๐๕ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนนเชื่อมระหว่างเมืองสงขลากับหัวเมืองมลายูตะวันตก ทำให้มีการติดต่อกันได้รวดเร็วยิ่งขึ้น  ใน พ.ศ.๒๔๑๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้เมืองไทรบุรีขึ้นตรงต่อรัฐบาลที่กรุงเทพฯ ไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเมืองนครศรีธรรมราชอีกต่อไป  และ ใน พ.ศ.๒๔๓๘ ก็โปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์เจ้าเมืองไทรบุรีเป็นเจ้าพระยา  ใน พ.ศ.๒๔๔๐ โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิรูปการปกครองหัวเมืองมลายูตะวันตก ซึ่งประกอบด้วยไทรบุรี ปะลิส และสตูลเป็นมณฑลไทรบุรี โดยให้เจ้าพระยาไทรบุรีเป็นข้าหลวงเทศาภิบาล

ปัจจุบัน ดินแดนมณฑลไทรบุรีบางส่วนอยู่ในประเทศไทยและส่วนใหญ่อยู่ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลจากการที่ไทยยอมตกลงยกดินแดนไทรบุรีและปะลิส รวมทั้งหัวเมืองมลายู คือ กลันตัน และตรังกานู ให้แก่อังกฤษเมื่อวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๑ เพื่อแลกกับการยกเลิกสิทธิสภาพนอกอาณาเขตบางส่วนกับอังกฤษ ดินแดนที่ยังคงอยู่ในความปกครองของไทยคือ จังหวัดสตูล และดินแดนส่วนใหญ่ของอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ส่วนเมืองไทรบุรีและปะลิส ปัจจุบันคือ รัฐเกดะห์ และรัฐปะลิส ของประเทศมาเลเซีย.



ที่มา - กบฏไทรบุรี (พ.ศ.๒๓๗๓-๒๓๗๕, ๒๓๘๑) สารานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน จัดพิมพ์เผยแพร่

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.351 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 15:06:34