[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 เมษายน 2567 16:06:15 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “เสือสมิง” ไสยศาสตร์ในตำนาน  (อ่าน 276 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2321


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 06 เมษายน 2566 16:17:52 »



“เสือสมิง” ไสยศาสตร์ในตำนาน เสือแปลงร่างเป็นคน คนกลายเป็นเสือ! ที่มาของอำเภอเขาสมิง!!

“เสือสมิง” เป็นเรื่องไสยศาสตร์เวทมนต์คาถาในสมัยโบราณที่ร่ำลือกันมานาน กล่าวกันว่า เสือสมิงก็คือเสือที่เคยกินคนมามาก จึงถูกวิญญาณคนที่ถูกกินเข้าสิง จนสามารถแปลงร่างเป็นคนได้ บ้างก็ว่าเสือสมิงเป็นคนนี่เอง แต่แก่กล้าคาถาอาคมจนสามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ บ้างก็เรียกประเภทคนเป็นเสือนี้ว่า “เสือเย็น” และมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเสือสมิงทั้งสองประเภทนี้ไว้มาก ร.๕ ก็ทรงเล่าไว้

เรื่องหนึ่งเล่ากันว่า มีพรานหนุ่มคนหนึ่งออกไปนั่งห้างล่าสัตว์ในตอนกลางคืนขณะที่เมียกำลังท้องแก่ กลางดึกคืนนั้นก็มีคนมาตามถึงห้างส่องสัตว์บอกว่าเมียเจ็บท้องกำลังจะคลอด เมื่อพรานหนุ่มคนนั้นลงมาจากต้นไม้ คนที่มาตามก็กลายร่างเป็นเสือตะปบพรานกิน

แต่เสือสมิงก็ไม่ได้เก่งกว่าคนเสมอไป เจอเอาคนที่มีคาถาอาคมแก่กล้า เสือสมิงก็ต้องวิ่งหนีเหมือนกัน เล่ากันว่า ปู่กับหลานเข้าไปหาของป่าจนถลำลึกหลงป่าหาทางออกไม่ได้ ใกล้ค่ำปู่ได้ยินเสียงใบไม้กลอบแกลบอยู่ข้างหลังเหมือนมีอะไรตามมา เมื่อหยุดฟังเสียงนั้นก็หายไป ปู่จึงพาหลานปีนขึ้นไปนอนบนต้นไม้ใหญ่ หวังว่าเช้าค่อยหาทางออกจากป่าจะปลอดภัยกว่า กลางดึกคืนนั้นอากาศเย็นและวังเวง ขณะที่ปู่กำลังจะเคลิ้มหลับ ได้ยินเสียงใบไม้กลอบแกลบที่พื้นดินอีก จึงปลุกหลานให้ตื่นระวังตัว หลานมองไปตามเสียงเห็นผู้หญิงคนหนึ่งดูเหมือนแม่ของตนมายืนอยู่โคนต้นไม้ แล้วร้องบอกว่า “แม่มาตามหนูกลับบ้าน ลงมาหาแม่เร็ว” หลานก็ดีใจขยับจะลงไป ปู่รีบคว้ามือไว้แล้วบอกว่า “นั่นไม่ใช่แม่แกหรอก” ว่าแล้วก็เสกใบไม้ขว้างไปยังหญิงคนนั้น พลันก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวด พยายามจะปีนต้นไม้ขึ้นมาให้ได้ ปู่จึงเสกใบไม้ขว้างไปอีก หญิงคนนั้นจึงกลายร่างเป็นเสือ คำรามร้องด้วยความเจ็บปวดแล้ววิ่งหนีหายไป

อีกเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของชาวไทยพวน เล่าเรื่องของคนกลายเป็นเสือไว้ว่า มีเจ้าอาวาสวัดหนึ่งอายุมากแล้ว เป็นคนเรียนวิชาอาคมแก่กล้า และเป็นคนไม่ชอบอาบน้ำ แต่ก่อนก็มีพระเณรและเด็กวัดอาศัยอยู่ด้วยหลายคน ต่อมาก็หายไปทีละคนจนเหลือเจ้าอาวาสเพียงองค์เดียว วันหนึ่งมีพ่อค้าคนหนึ่งเดินทางมาจากในเมืองไปขออาศัยวัดนอน ชาวบ้านเตือนว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เล่นคาถาอาคมมากให้ระวังตัว พ่อค้าถือดีว่าตัวเองก็มีคาถาอาคมเหมือนกันจึงไปขอนอนในวิหาร เจ้าอาวาสก็มาคุยอยู่ด้วยจนค่ำจึงกลับกุฏิ พอตกดึกเจ้าอาวาสก็มาตะโกนถามว่าหลับหรือยัง ไม่หลับก็ออกมาคุยกันหน่อย พ่อค้ารู้ทันจึงไม่ออกไป แล้วเอาตอกไม้ไผ่ที่จักไว้มาสานเป็นรูปวัว ทำพิธีเสกคาถาให้เป็นวัวธนู ครู่ใหญ่เจ้าอาวาสก็เรียกอีก พ่อค้าไม่ยอมตอบ และได้ยินเสียงคล้ายเสืออยู่หน้าประตูวิหาร ก็รู้ว่าเสือเย็นออกล่าเหยื่อแล้ว จึงปล่อยวัวธนูออกไป มีเสียงวัวต่อสู้กับเสืออย่างดุเดือด ครู่หนึ่งจึงได้ยินเสียงเสือร้องอย่างเจ็บปวดขณะที่วิ่งหนีไป รุ่งเช้าออกไปดูก็เห็นเสือตัวหนึ่งนอนตายอยู่ไม่ไกลวิหาร และหลังวิหารก็พบกองกระดูกคนและสัตว์เป็นจำนวนมาก

เรื่องของเสือเย็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นตำนานของอำเภอเขาสมิงในจังหวัดตราด กล่าวว่า เขาเล็กๆลูกหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๓ กม. ซึ่งเป็นต้นเหตุให้อำเภอทุ่งใหญ่ซึ่งตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นอำเภอเขาสมิงในวันนี้ ว่ามีชายคนหนึ่งหมกมุ่นในเรื่องคาถาอาคม ได้ทำพิธีเสกของไสยศาสตร์ขึ้น ๒ อย่าง อย่างหนึ่งเรียกว่า น้ำมันสมิง เมื่อนำมาทาตัวจะทำให้กลายเป็นเสือสมิงได้ กับอีกอย่างคือน้ำมนต์ เพื่ออาบร่างเสือสมิงให้กลับเป็นคน ต่อมาเขามีความแค้นเพื่อนคนหนึ่งถึงกับต้องการฆ่า จึงเอาน้ำมันสมิงทาตัว แต่ก่อนจะทาได้นำน้ำมนต์ไปให้ภรรยาไว้ บอกว่าถ้ามีเสือเดินมาหาให้เอาน้ำมนต์นี้สาดลงบนตัวเสือ เขาก็จะกลับเป็นคนตามเดิม ครั้นล้างแค้นเพื่อนได้สำเร็จกลับมาหาภรรยา แต่พอภรรยาเห็นเสือก็ตกใจ มือสั่นทำขันน้ำมนต์ตกหกหมด เขาจึงกลับเป็นคนไม่ได้ เกิดความเสียใจอย่างมาก นั่งร้องไห้จนตายกลายเป็นภูเขา ผู้คนเรียกกันว่า เขาสมิง มาจนถึงวันนี้

อีกตำนานกล่าวเป็นคนละเรื่องเลยว่า ภูเขาลูกนี้แต่ก่อนเป็นที่อยู่ของผู้แก่กล้าคาถาอาคม จนไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้คนในหมู่บ้านได้ต้องหนีมาปลีกวิเวก มีชายคนหนึ่งเชื้อสายเขมร ชื่อว่า สมิง มีวิชาแปลงร่างเป็นเสือสมิง แต่ก่อนมาหมกมุ่นในไสยศาสตร์ก็เป็นคนถือศีลไม่กินเนื้อสัตว์ เมื่อเป็นเสือสมิงจึงเป็นเสือที่ไม่กินเนื้อ แต่ก็เกิดความว้าเหว่อยากเจอเพื่อนมนุษย์ จึงใช้เถาสะบ้าซึ่งเป็นเถาวัลย์อย่างหนึ่งโหนตัวข้ามแม่น้ำตราดไปร่วมกับชาวบ้านฝั่งตรงข้ามที่ลานนวดข้าวตอนกลางคืนเป็นประจำ ในชุดมีผ้าคาดพุง ถือไต้สำหรับจุดไฟอันใหญ่ไว้ในมือ ซึ่งชาวบ้านก็ต้อนรับอย่างอบอุ่นในวงเหล้า แต่สังเกตเห็นความแปลกบางอย่างของเขา คือเป็นคนไม่มีเงา และต้องมีไต้ไว้ข้างตัวเสมอ เมื่อออกไปรำวงในลานนวดข้าวก็ต้องคว้าไต้เหน็บผ้าคาดพุงไปด้วย อีกทั้งเสียงหัวเราะของเขายังกระหึ่มเกินเสียงคน และไม่มีใครเคยเห็นบ้านของเขา

แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อสมิงมาที่หมู่บ้านนี้ พืชพันธุ์ธัญญาหารได้ผลดีกว่าที่เคย บางปีที่ฝนตกหนักน้ำป่าหลาก สมิงก็จะเตือนชาวบ้านให้รู้ล่วงหน้า ปีที่ฝนแล้งสมิงก็จะเตือนให้กักเก็บน้ำไว้ใช้ มีความห่วงใยชาวบ้านเหมือนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน

ต่อมามีสำเภาค้าลำหนึ่งเข้ามาในแม่น้ำตราด เสากระโดงได้เกี่ยวกับเถาสะบ้าที่สมิงใช้โหน ทำให้เรือผ่านไปไม่ได้ นายเรือจึงสั่งให้ตัดเถาสะบ้าออก ทันใดก็มีเสียงคำรามขึ้น ท้องฟ้ามืดมัวลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพายุก่อตัวขึ้น ก่อคลื่นลูกใหญ่ซัดสาดสำเภาจนพลิกคว่ำ

จากวันนั้นชาวบ้านก็ไม่พบกับสมิงอีก นอกจากจะได้ยินเสียงโหยหวนคล้ายเสียงของเสือมาจากฝั่งตรงข้าม ชาวบ้านต่างอาลัยโหยหาสมิง ชายไม่มีเงา ผู้ไม่เคยปรากฏตัวในเวลากลางวัน และไร้บ้าน จึงร่วมกันสร้างศาลเล็กๆไว้ที่ริมตลิ่งเถาสะบ้า และทำพิธีบวงสรวงเชิญวิญญาณสมิงให้สถิต

ในการเสด็จประพาศต้นป่าเมืองจันทบุรีในปี พ.ศ.๒๔๑๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชนิพนธ์ถึงความเชื่อเรื่องเสือสมิงของผู้คนในแถบนี้ว่า

“...ราษฎรชาวเมืองเชื่อถือกลัวเสือสมิงกันมาก เล่ากันว่าที่เมืองเขมรมีอาจารย์ทำน้ำมันเสือสมิงได้ ศิษย์ได้ลักน้ำมันนั้นทาตัวกลายเป็นเสือสมิงไปถึง ๓ คน พลัดเข้ามาในแขวงเมืองจันทบุรี ตัวหนึ่งเป็นเสือดุร้าย เที่ยวขบกัดคนตายที่พลิ้ว ๒ คน ที่ปากจั่น ๑ คน ที่ป่าสีเซ็น ๒ คน รวม ๕ คน อาจารย์เที่ยวตาม ได้บอกชาวบ้านว่าศิษย์สามคนลักน้ำมันเสือสมิงทาตัวเข้า กลายเป็นเสือไปทั้งสามคน บิดามารดาของศิษย์นั้นเขาจะเอาลูกของเขา จึงมาเที่ยวตามหา แล้วสั่งไว้ว่าใครพบปะเสือนี้แล้วให้เอาไม้คานตี ฤๅมิฉะนั้นให้เอากะลาครอบรอยเท้าเสือนั้น ก็จะกลับเป็นคนได้ แต่วิธีจะแก้นี้ทำได้ก็แต่เมื่อเสือนั้นยังไม่ทันกินคน รังควานทับเสียแล้ว ถึงจะทำวิธีที่บอกก็ไม่อาจกลับเป็นคนได้...”

ความเชื่อเรื่องคนกลายเป็นสัตว์นี้ไม่ใช่มีเฉพาะชาวตะวันออกเท่านั้น ชาวตะวันตกก็เคยเชื่อในเรื่องนี้เช่นกัน อย่างเชื่อกันว่าด้วยอำนาจเวทมนต์ มนุษย์สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้ในคืนพระจันทร์เต็มดวง และไม่ใช่แค่หมาป่าเท่านั้น เป็นเสือ หมี สิงโต แมว และสัตว์อีกหลายประเภท ปัจจุบัน ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ที่ขัดกับหลักความเป็นจริงนี้ เป็นสิ่งที่คนสมัยใหม่ไม่ยอมรับกันแล้ว


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 เมษายน 2566 16:25:29 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.353 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 14 เมษายน 2567 18:21:42