[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 16:11:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หม่อมเจ้าหญิงหลานปู่ ร.๒ ขายตัวเป็นทาส! ผจญชีวิตลำบากถึง ๒๕ ปีจึงเผยตัว!  (อ่าน 188 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2327


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 เมษายน 2566 16:08:44 »




หม่อมเจ้าหญิงหลานปู่ ร.๒ ขายตัวเป็นทาส! ผจญชีวิตลำบากถึง ๒๕ ปีจึงเผยตัว!

เผยแพร่: ผู้จัดการออนไลน์ 23 ก.ย.2565
โดย: โรม บุนนาค


หม่อมเจ้าหญิงองค์นี้ก็คือ ท่านหญิงออน พระธิดาพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเรณู พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ส่วนพระมารดาคือหม่อมราชวงศ์อิ่ม น้องสาวของหม่อมราชวงศ์แสง ภรรยาในสมเด็จฯ กรมหมื่นมาตยาพิทักษ์ ไม่ปรากฏว่าพระบิดาของท่านหญิงรับราชการในกรมกองใด สิ้นพระชนม์ในปี ๒๓๘๔ สมัยรัชกาลที่ ๓ ขณะท่านหญิงอายุได้ ๙ ปี

เมื่อพระบิดาสิ้นพระชนม์ ท่านหญิงออนได้ไปอาศัยอยู่กับหม่อมเจ้าประสงค์สรร พระธิดาในกรมหมื่นมาตยาพิทักษ์กับหม่อมราชวงศ์แสง ในพระบรมมหาราชวัง

ต่อมาก็ไปอยู่กับหม่อมเจ้าไพบูลย์ พระเชษฐาต่างมารดาของท่านหญิง แต่ก็ไม่ได้รับการอุ้มชูเลี้ยงดูอย่างพระญาติ ต้องอยู่ในฐานะคนรับใช้ ท่านหญิงจึงสนิทสนมกับกลุ่มคนรับใช้ที่เป็นทาส และสนิทสนมเป็นพิเศษกับทาสหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ แสง

ต่อมาแสงกับเอมซึ่งเป็นพี่สะใภ้ ไถ่ตัวออกไปได้ ท่านหญิงซึ่งมีจิตปฏิพัทธ์กับแสงจึงหนีออกไปอยู่กับเอม และมีลูกกับแสงคนหนึ่งมีชื่อว่า แพ โดยอยู่ด้วยกันในฐานะยากลำบาก เมื่อเอมเสียชีวิตลง ท่านหญิงจึงเข้าสวมชื่อแทน และออกขายตัวเป็นทาสร่วมกันทั้งพ่อแม่ลูกหลายแห่ง จนที่สุดมาเป็นทาสเถ้าแก่ปริก และเป็นอยู่ถึง ๑๑ ปีจนลูกสาวอายุ ๒๕ ท่านหญิงอายุ ๖๐ เข้าวัยชรามีอาการป่วย รู้สึกว่าทนใช้ชีวิตทาสต่อไปไม่ไหวแล้ว ต้องการใช้ความเป็นเจ้าเข้ามาช่วยให้พ้นจากการเป็นทาส จึงหนีออกจากบ้านเถ้าแก่ปริกไปหาหม่อมเจ้าหญิงเจริญเนตร พระขนิษฐา ที่วังกรมหมื่นวิษณุนารถนิภากร พระเจ้าพี่ยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขอให้ท่านหญิงเจริญเนตรช่วยยืนยันว่าตัวเป็น “หม่อมเจ้าออน” ไม่ใช่ “อีเอม” เพื่อตัวเองและลูกสาวจะได้พ้นจากความเป็นทาส เมื่อเถ้าแก่ปริกทราบเรื่องจึงได้ทูลเกล้าฯถวายฎีกา

เรื่องหม่อมเจ้าหญิงมีสามีเป็นไพร่ขายตัวเป็นทาส ถือว่าเป็นความผิดต่อราชสำนัก จึงเข้าศาลพระราชตระกูล ประกอบด้วยผู้พิจารณา ๑๐ ท่าน คือ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์, พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย พระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต) พระยามนตรีสุริยวงศ์ (ชุ่ม บุนนาค) และเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) ทุกท่านต่างลงความเห็นว่า หม่อมเจ้าออนไม่รักเกียรติยศของการเป็นเจ้า ถึงกับปลอมตัวเป็นไพร่และขายตัวเป็นทาส ไม่รักษาวงศ์ตระกูล และไม่เกรงกลัวพระราชอาญา จึงสมควรถอดถอนบรรดาศักดิ์ลงเป็นไพร่

บางท่านแม้จะเห็นด้วยกับการถอดลงเป็นไพร่ แต่ก็เห็นที่มาของปัญหานี้ อย่างกรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย ทรงกล่าวว่า “ธรรมดาของหม่อมเจ้าผู้หญิงนั้นได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิตอยู่น้อยนัก ทั้งไม่มีผู้อุปการะด้วย ถ้าเป็นคนที่มีความอุสาหะเลี้ยงตัวได้ ก็พอดำรงยศอยู่ได้ ที่เป็นคนใช้สอยฟูม…ฤๅหาไม่ได้ก็ต้องขัดสน เป็นหนี้สินลงแล้วก็ต้องประพฤติความชั่วไปต่างๆ แม้ถึงจะได้รับพระราชทานเบี้ยหวัดก็ต่อปีหนึ่งจึงได้รับพระราชทาน ก็ใช้สอยหมดไปโดยที่มักไม่ใคร่ได้ประมาณเวลา”

ส่วนเจ้าพระยาภาสกรวงศ์มีความเห็นว่า “แม้ว่าจะมีความคับแค้นขัดสนประการใด ทางที่จะบำบัดความขัดสนไม่ให้เสื่อมเสียชาติตระกูลก็มีอยู่ โดยเข้ารับราชการฉลองพระเดชพระคุณในหน้าที่พนักงานประการใดก็ได้ ฤๅมิฉะนั้นพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งเป็นกุลเชษฐ์ผู้ใหญ่ก็มีโดยมาก ชอบที่จะเข้าพักพิงอาศัยรับใช้สอยทำการงานให้ท่าน ก็คงจะทรงอนุเคราะห์ตามสมควร ก็คงดำรงชาติตระกูลอยู่ได้”

ส่วนกรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ทรงเห็นด้วยกับความผิดในโทษเรื่องไม่รักษาเกียรติแห่งความเป็นเจ้า แต่ได้ตั้งคำถามถึงปัญหาในทางเศรษฐกิจของหม่อมเจ้าที่ต้องประสบไม่เฉพาะแต่ในกรณีของท่านหญิงออนว่า

“ด้วยการที่หม่อมเจ้าเป็นทาส จะไม่เฉพาะแต่หม่อมออน เพราะหม่อมเจ้าที่ยากจนอัตคัด จำต้องยืมเงินกู้เงินเจ้านายแลผู้มีบรรดาศักดิ์อยู่ หม่อมเจ้านั้นๆมักเข้ารับราชการอยู่ในวังในบ้านเหมือนเป็นทาสกลายๆอยู่ เป็นแต่รู้ประมาณการรักษาเกียรติยศ ไม่ปิดบังตัวว่าเป็นเจ้า แลเลือกผู้มีบรรดาศักดิ์สมควรให้ปกครองเท่านั้น ที่เป็นการผิดนักก็เรื่องนี้”

ในที่สุดท่านหญิงออนถูกตัดสินว่ามีความผิด เพราะเป็นเจ้าแต่ไม่รักษาเกียรติยศ มีผัวเป็นไพร่ ขายตัวเป็นทาส พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯมีพระราชกระแสรับสั่งให้เอาตัวท่านหญิงมาจำไว้ในพระบรมมหาราชวัง โดยทรงเห็นว่า

“หม่อมเจ้าออนมีทุกข์ร้อนสิ่งไรควรจะกราบทูลแก่เจ้านายผู้ใหญ่ผู้น้อยในราชตระกูล ให้ทราบความทุกข์ร้อนจึงจะสมควร หม่อมเจ้าออนมิได้ประพฤติตามบรรดาศักดิ์ บังอาจยอมเป็นเมียอ้ายแสงซึ่งเป็นไพร่ต่ำศักดิ์ แล้วไปขายตัวเป็นทาสผู้มีชื่อต่อๆกันมาจนถึงเถ้าแก่ปริกนี้ หม่อมเจ้าออนมีความผิด ให้ถอดหม่อมเจ้าออนจากยศบรรดาศักดิ์หม่อมเจ้าแล้ว เอาตัวมาจำไว้ในพระบรมมหาราชวัง”

กรณีที่หม่อมเจ้าหญิงขายตัวเป็นทาสนี้ มิได้มีแต่หม่อมเจ้าหญิงออนรายเดียว ในเอกสารกระทรวงยุติธรรมในสมัยรัชกาลที่ ๕ ปรากฏเรื่องราวอีกว่า หม่อมเจ้าแฝง ขายตัวเป็นทาสพระอภัยพลภักดิ์ จากนั้นก็หลบหนี พลตระเวนจับตัวกลับมาแล้วส่งไปศาลราชตระกูล ถูกจำตรวน ระหว่างนั้นหม่อมเจ้าแฝงคลอดบุตรที่เกิดกับนายจัน หม่อมเจ้าแฝงจึงทำเรื่องราวร้องทุกข์ทางไปรษณีย์

คดีนี้มีเรื่องราวว่า หม่อมเจ้าแฝง พระธิดาในพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเริงคะนอง หรือพระองค์เจ้าป๊อก พระราชโอรสในสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรในรัชกาลที่ ๓ กับเจ้าจอมมารดาเอม ได้สมัครนักใคร่กับไพร่ชื่อจัน ต่อมาก็ชะตาเดียวกับหม่อมเจ้าออน ได้ขายตัวเป็นทาสของพระยาอภัยพลภักดิ์ร่วมกับสามี แต่แล้วหม่อมเจ้าแฝงได้หนีไป แล้วถูกพลตระเวนจับจำตรวนส่งไปยังศาลราชตระกูล ระหว่างนั้นหม่อมเจ้าแฝงก็คลอดบุตรที่เกิดกับจันสามีไพร่ หม่อมเจ้าแฝงจึงส่งจดหมายร้องทุกข์ทางไปรษณีย์

เมื่อเรื่องถึงพระเนตรพระกรรณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯก็ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า แฝงเป็นหม่อมเจ้า และได้รับการชุบเลี้ยงตามสมควร หากมีปัญหาใดก็ควรกราบทูลเจ้านายผู้ใหญ่ในราชตระกูลให้ทรงทราบ แต่การกระทำของแฝงไม่สมกับบรรดาศักดิ์ เพราะไปได้สามีต่ำศักดิ์ ขายตัวเป็นทาส ความผิดเหล่านี้จึงรับสั่งให้ถอดจากฐานันดรชั้นหม่อมเจ้าไปเป็นไพร่ แล้วให้จองจำอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ส่วนจัน ไพร่ผู้ริอ่านรักใคร่หม่อมเจ้าหญิง ให้เฆี่ยน ๓๐ ทีแล้วส่งให้มูลนายมารับตัวไป

นี่ก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อซึ่งเกิดขึ้นจริง และได้รับการบันทึกไว้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.293 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 09 ธันวาคม 2566 02:31:33