29 เมษายน 2567 20:14:32
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
.:::
พระเจ้าหยางตี้ กับตำนานเสวยสุขลากนางในเข้าศาลาเมื่อมีอารมณ์ ยุคเสื่อมราชวงศ์สุย
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: พระเจ้าหยางตี้ กับตำนานเสวยสุขลากนางในเข้าศาลาเมื่อมีอารมณ์ ยุคเสื่อมราชวงศ์สุย (อ่าน 194 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2327
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
พระเจ้าหยางตี้ กับตำนานเสวยสุขลากนางในเข้าศาลาเมื่อมีอารมณ์ ยุคเสื่อมราชวงศ์สุย
«
เมื่อ:
04 พฤษภาคม 2566 12:46:01 »
Tweet
ภาพเขียนพระเจ้าหยางตี้ โดย
Yen Li-pen
(600-673) ประกอบกับฉากหลังตกแต่งเพิ่มเติม
“พระเจ้าหยางตี้” กับตำนานเสวยสุขลากนางในเข้าศาลาเมื่อมีอารมณ์ ยุคเสื่อมราชวงศ์สุย
ผู้เขียน - กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนธรรม วันพุธที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2566
ในสมัยราชวงศ์สุยของจีนถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่มีผลต่อการวางระบบในราชวงศ์ต่อมา อย่างไรก็ตาม ในยุคสมัยของ “พระเจ้าหยางตี้” จักรพรรดิองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ พระองค์กลับเป็นที่จดจำว่าเป็นองค์จักรพรรดิที่มัวเมาในสุรานารี ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยและกลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่เริ่มต้นความรุนแรงจนนำมาสู่จุดสิ้นสุดของราชวงศ์สุย
ราชวงศ์สุยครองอำนาจในจีนระหว่างคริสต์ศักราช 581-618 ดำเนินการสืบทอดนโยบายของบรรพบุรุษ และยังมีส่วนบุกเบิกเส้นทางในอนาคตของจีนอีกราชวงศ์หนึ่ง ในช่วงต้นราชวงศ์ค่อนข้างมั่นคง เศรษฐกิจรุ่งเรืองในระดับหนึ่ง แต่ในช่วงปลายของรัชสมัยพระเจ้าเหวินตี้ แผ่นดินเริ่มวุ่นวายและนำมาสู่การขึ้นครองราชย์ของหยางกว่าง พระราชโอรสองค์ที่ 2 ของพระองค์ กลายมาเป็น
พระเจ้าหยางตี้
ช่วงเวลานั้นถูก
นักประวัติศาสตร์มองว่าเป็นอีกช่วงหนึ่งที่นำมาสู่ความขัดแย้งและจุดจบของราชวงศ์ในที่สุด
รัชสมัยพระเจ้าเหวินตี้ พระนางตู๋กูฮองเฮาให้กำเนิดโอรส 5 พระองค์ องค์โตคือหยางหย่ง องค์รองคือหยางกว่าง หยางหย่งเป็นรัชทายาทจากที่เป็นโอรสที่เกิดจากพระมเหสี และได้เข้าร่วมบริหารประเทศ ประกอบความดีความชอบหลายประการ แต่หลี่เฉวียน นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์จีนชี้ว่า หยางหย่งมีข้อเสียคือ เอาแต่ใจ หรูหราฟุ่มเฟือย และลุ่มหลงกับนางสนม
ส่วนหยางกว่างเป็นเจ้าครองแคว้นจิ้น เป็นคนที่รูปลักษณ์ภายนอกดี และเงียบขรึม ซึ่งอาจมองได้ว่าเขาเป็นนักวางแผน โดยหลี่เฉวี่ยน บรรยายว่า หยางกว่างแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษผู้ขยันขันแข็ง ไม่ชอบสุรานารี หยางกว่างจึงเป็นที่โปรดปรานของพระบิดาและพระมารดา เมื่อครั้งนำทัพไปปราบราชวงศ์เฉินทางตอนใต้ ก็ฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองไว้ด้วย
ในช่วงศักราชเหรินโซ่วปีที่ 4 พระเจ้าสุยเหวินตี้ประชวรหนักและสิ้นพระชนม์ ในเวลานั้นมีเพียงคนสนิทของหยางกว่างปรนนิบัติรับใช้ในห้องที่ประทับของพระเจ้าเหวินตี้ในวังเพียงลำพังหลังจากที่เขาขับไล่ขันทีและนางสนมกำนัลไปจนหมด แม้สาเหตุของการสิ้นพระชนม์ยังไม่สามารถบ่งชี้ได้ชัดเจน แต่ว่ากันว่าหยางกว่างมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ด้วย ไม่นานหลังพระเจ้าเหวินตี้สิ้นพระชนม์ หยางกว่างขึ้นเป็นจักรพรรดิ กลายเป็นพระเจ้าหยางตี้
ส่วนชะตากรรมขององค์ชายคนโตนั้น หลี่เฉวียน นักเขียนที่ศึกษาข้อมูลประวัติศาสตร์จีนบรรยายว่า หยางกว่างปลอมแปลงราชโองการของพระเจ้าเหวินตี้ และให้ประหารหยางหย่งด้วยการแขวนคอ
ชาร์ลส ฮูมานา และหวังอู่ ผู้เขียนหนังสือ “ความลับเรื่องเซ็กซ์ของชาวจีน” (
Chinese Sex Secrets
) บรรยายว่า หลังจากขึ้นครองราชย์แล้ว พระเจ้าหยางตี้ทรงกำจัดเชื้อพระวงศ์และคนใกล้ชิดที่เข้าข่ายเป็นผู้สามารถแย่งชิงบัลลังก์ของพระองค์จนหมด เมื่อทรงยึดครองบัลลังก์อย่างมั่นคงแล้ว พระองค์เริ่มหันมาสนใจการปกครองและสร้างสิ่งก่อสร้าง
ช่วงต้นของรัชสมัยพระเจ้าหยางตี้ พระองค์ปฏิรูประบบต่างๆ ตามรากฐานเดิมที่พระเจ้าเหวินตี้วางไว้ อาทิ ระบบขุนนาง การทหาร การเก็บภาษีและเกณฑ์แรงงาน หลี่เฉวียน อธิบายว่า ระบบ 3 กระทรวง 6 ฝ่ายและระบบการสอบขุนนางเคอจวี่ที่วางไว้นั้นก็มั่นคงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ความมั่นคงในระบบเป็นแค่ช่วงเวลาตั้งต้นเท่านั้น และมาสูญเปล่าจากความวุ่นวายทางการเมือง
นอกเหนือจากการวางระบบการปกครองแล้ว พระเจ้าหยางตี้ก็เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ริเริ่มสร้างที่ประทับอันยิ่งใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยแรงงานจำนวนมากทั้งชายและหญิง สิ่งก่อสร้างนี้ถูกเรียกว่า “พระราชวังมังกร” (
Dragon Palace
) พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่ในสวนที่มีกำแพงล้อมรอบ กินพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 100 ตารางไมล์ ใจกลางของพระราชวังมีทะเลสาบที่ใช้แรงงานขุดสร้างขึ้นเอง กว้าง 5 ลี้ (ประมาณ 2 ไมล์) ขณะที่ 2 ฝั่งของทะเลสาบปลูกสร้างด้วยอาคาร 16 หลังเพื่อเป็นที่พักของขันทีและนางกำนัล
ชาร์ลส ฮูมานา และหวังอู่ บรรยายเรื่องหลังฉากที่เล่าสืบต่อกันมาว่า ระหว่างที่พระองค์เสด็จออกจากที่ประทับในพระราชวัง ไม่ว่าจะด้วยทรงม้าหรือเกี้ยว พระเจ้าหยางตี้ต้องมีนางสนมกำนัลคนรับใช้ติดตามไปด้วยราวพันราย
ตำนานเรื่องการเสวยสุขของพระองค์เล่ากันมาว่า เมื่อพระองค์ถูกจู่โจมด้วยอารมณ์ทางเพศที่ไม่สามารถควบคุมได้แบบเร่งด่วน เมื่อนั้น พื้นที่ซุ้มหรือศาลาที่ล้อมรอบด้วยรั้วปลายแหลมจะถูกจำกัดบริเวณให้เป็นที่ส่วนพระองค์ภายในระยะ 2 ลี้
เมื่อถอนพระองค์จากขบวน พระองค์จะมีผู้ติดตามเป็นสตรีที่ได้รับคัดเลือกจำนวนหนึ่งเข้าไปในซุ้มเล็กๆ ด้วย ผู้ติดตามที่เหลือจะตั้งขบวนพิเศษขึ้นภายนอก และเริ่มขับกล่อมร้องและบรรเลงเพลงที่พระองค์ทรงโปรดปราน นักประวัติศาสตร์ทราบกันดีว่า พระองค์ทรงสามารถด้านการประพันธ์ เชี่ยวชาญด้านการดนตรี
เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนผ่านภาพเขียนในศตวรรษที่ 19 ชิ้นหนึ่งที่อยู่ในการครอบครองของมหาวิทยาลัยอินเดียนา ซึ่งสะท้อนเรื่องราว จักรพรรดิ “ผู้ไม่เหน็ดเหนื่อย” พระองค์ทรงยืนหันเข้าหาม้านั่งสูงที่มีหญิงสาวนอนอยู่บนม้านั่ง 2 นาง ด้านข้างพระองค์รายล้อมด้วยสตรีที่ช่วยเหลือพระองค์ ด้านหนึ่งปลดฉลองพระองค์และอีกข้างหนึ่งใช้มือพยุง “แท่งมรกต” ในช่วงเวลาแห่งการเสวยสุขกับสตรี
หลังจากที่สร้างพระราชวังเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์ทรงใช้กำลังคนจำนวนมหาศาลเพื่อขุดคลองทงจี้ อันเป็นเส้นทางให้พระองค์เสด็จท่องเที่ยวได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างการขุดคลอง หลี่เฉวียน บรรยายว่า มีแรงงานเหนื่อยจนเสียชีวิตจำนวนมาก
ระหว่างการขุดคลอง พระเจ้าหยางตี้มีรับสั่งให้สร้างเรือหลายประเภทที่ใช้เดินทางลงไปทางใต้ เรือที่หรูหราที่สุดเป็นเรือมังกรซึ่งว่ากันว่า ยาว 300 ฟุต สูง 4 ชั้น แบ่งดาดฟ้าเรือออกเป็น 4 จุด ภายในเรือตกแต่งด้วยหยกและทอง เครื่องตกแต่งภายในปกคลุมด้วยหนังเสือ หมี และเสือดาว
เรือมังกรนี้ถูกบรรยายว่า จัดเตรียมบรรทุกขันที นารี นักดนตรี และนักแสดงไปจำนวนมาก อีกทั้งยังบรรทุกทรัพย์สินมีค่าของราชวงศ์อีกไม่น้อยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นพระราชวังลอยน้ำก็ว่าได้ การท่องเที่ยวทางเรือของพระองค์เอิกเกริกอย่างมาก
ว่ากันว่า พระเจ้าสุยหยางตี้รับสั่งให้เมืองและอำเภอต่างๆ ที่อยู่เลียบ 2 ฝั่งคลองในระยะ 500 ลี้ต้องถวายอาหารให้ เมื่อพระองค์เสวยไม่หมดก็จำเป็นต้องโยนทิ้ง บรรดาขุนนางท้องถิ่นก็พยายามสรรหาอาหารมาถวายเพื่อเอาใจ
การเดินทางท่องเที่ยวของพระองค์เป็นไปอย่าง “เอ้อระเหย” ใช้เวลากับการเสวยสุขอย่างเต็มที่ พระองค์เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองเจียงตูถึง 3 ครั้ง การใช้ชีวิตอย่างสุขสบายของพระองค์สวนทางกับการเกณฑ์แรงงานและเก็บภาษีที่เข้มข้น ซึ่งทำให้ประชาชนเริ่มแค้นเคืองในพระองค์
สถานการณ์ทางภาคเหนือก็ไม่สู้ดี เมื่อมีกบฏเกิดขึ้นหลายแห่ง เหล่าทหารองครักษ์ของพระองค์ร้อนใจและเป็นห่วงบ้าน หลี่เฉวียน บรรยายว่า หลักฐานทางประวัติศาตร์บันทึกว่า วันที่ 17 เดือน 3 ศักราชต้าเย่ปีที่ 14 (คริสต์ศักราช 618) นายพลตำแหน่งโย่วทุนเว่ยก่อการกบฏ บุกเข้าโจมตีพระตำหนัก ทหารใช้ผ้าแพรรัดคอพระเจ้าหยางตี้ ชะตากรรมของโอรสและพระราชนัดดาของพระองค์ก็ไม่พ้นเคราะห์ นอกจากฝังช่วงเวลาเสวยสุขขององค์จักรพรรดิไปแล้ว ยังเป็นการสิ้นสุดความเป็นเอกภาพทางการเมืองของราชวงศ์สุยด้วย
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 พฤษภาคม 2566 12:53:13 โดย ใบบุญ
»
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...