[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
04 กรกฎาคม 2568 18:16:40 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - จีนมีแผนออกกฎหมายใหม่ ห้ามประชาชนสวมเสื้อ-แสดงออกในเชิงที่จะทำร้ายความรู้สึ  (อ่าน 167 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 กันยายน 2566 11:46:37 »

จีนมีแผนออกกฎหมายใหม่ ห้ามประชาชนสวมเสื้อ-แสดงออกในเชิงที่จะทำร้ายความรู้สึกคนในชาติ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-09-12 11:34</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพคอสเพลย์เยอร์ชาวจีน 是影子不是本人 ที่ถูกตำรวจจีนจับกุมในเมืองซูโจวเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ทางการจีนกำลังพิจารณากฎหมายสั่งห้ามสวมเสื้อผ้าหรือแสดงออกในแบบที่พวกเขาอ้างว่า "ทำร้ายความรู้สึกของชาวจีน" โดยเสนอบทลงโทษคุมขังผู้คนที่กระทำผิดในเรือนจำเป็นเวลา 15 วัน หรือสั่งปรับ แต่ก็มีความกำกวมทางนิยามและชาวเน็ตจีนตั้งคำถามว่าสุดท้ายแล้วจะทำอะไรไม่ได้บ้าง ซึ่งมีนักวิเคราะห์มองว่าอาจจะเป็นการพยายามปลุกกระแสชาตินิยมในช่วงที่จีนกำลังประสบปัญหาของตัวเอง</p>
<p>ทางการจีนมีแผนการจะบังคับใช้กฎหมายใหม่ที่จะลงโทษบุคคลใดก็ตามที่สวมเสื้อผ้าหรือแสดงออกในแบบที่ล่วงเกินต่อความรู้สึกของรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน</p>
<p>ในร่างกฎหมายดังกล่าวระบุห้ามพฤติกรรมในหลายแบบไม่ว่าจะเป็นการสวมเสื้อผ้าหรือใช้วาจาในทางที่ "ทำลายขวัญกำลังใจของชาวจีนและทำร้ายความรู้สึกของชาวจีน" ผู้ที่นำเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้คือ คณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาประชาชนแห่งชาติจีน โดยระบุว่าเป็นหนึ่งในกฎหมายที่พวกเขาให้ความสำคัญลำดับแรกๆ ในการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายภายในปีนี้</p>
<p>ร่างกฎหมายดังกล่าวระบุบทลงโทษจำคุกผู้ฝ่าฝืนเป็นเวลา 15 วัน หรือ ปรับเป็นเงินสูงสุด 5,000 หยวน (ราว 24,000 บาท) อย่างไรก็ตามยังไม่มีการระบุรายละเอียดให้ชัดเจนว่ารูปภาพหรือคำพูดแบบไหนที่จะถือว่าเป็นการล่วงเกินในสายตาของรัฐบาลจีน</p>
<p>กฎหมายใหม่นี้ถูกมองว่าเป็นการที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงพยายามจะปิดกั้นการต่อต้านภายในประเทศจีนที่มีประชากรอยู่ประมาณ 1,400 ล้านคน จากการที่เขาปกครองประเทศมายาวนานเป็นเวลาราว 10 ปีแล้ว</p>
<p>ก่อนหน้านี้มีกรณีที่มีผู้หญิงรายหนึ่งในจีนถูกจับกุมในเมืองซูโจว ใกล้กับเซียงไฮ้ เพราะเธอสวมกิโมโน ซึ่งเป็นชุดแต่งกายตามธรรมเนียมของญี่ปุ่น นอกจากนี้แล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาทางการจีนก็ทำการปราบปรามผู้คนที่สวมชุดสีรุ้งที่คอนเสิร์ตหรือแจกจ่ายธงที่มีสัญลักษณ์ LGBTQ+ บนนั้นด้วย</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/XBM-6rXVJtY?si=fr5aHH7VQUoCX20h" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">คอสเพลย์เยอร์ชาวจีน 是影子不是本人 ที่ถูกตำรวจจีนจับกุมในเมืองซูโจวเมื่อวันที่ 10 ส.ค. 65</span></p>
<p>การเสนอร่างกฎหมายใหม่นี้สร้างความไม่พอใจให้กับชาวเน็ตจีน พวกเขาแสดงความไม่พอใจลงบนโซเชียลมีเดีย มีผู้คนตั้งคำถามว่าแล้วรัฐบาลจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งไหนทำร้ายจิตใจคนในชาติหรือไม่ มีชาวเน็ตบางคนตั้งคำถามว่า "ขวัญกำลังใจของคนในชาติควรจะมีความเข้มแข็งและยืดหยุ่นไม่ใช่หรือ... ทำไมมันถึงจะถูกทำลายลงได้ง่ายๆ เพราะชุดแต่งกายล่ะ"</p>
<p>ตั้งแต่ก่อนหน้าที่จะมีการร่างกฎหมายนี้ ทางการจีนก็เคยแสดงความอ่อนไหวต่อการแต่งกายของผู้คนที่พวกเขามองว่าเป็นการเมืองมาก่อนหน้านี้แล้ว คือเมื่อปี 2562 ที่มีการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งผู้ประท้วงได้ใช้เสื้อสีดำไม่มีลาย กางเกงขายาว และหน้ากาก มาเป็นเครื่องแบบในการประท้วง จนทำให้ทางการจีนถึงขั้นสั่งห้ามไม่ให้มีการส่งออกเสื้อสีดำจากจีนแผ่นดินใหญ่ไปยังฮ่องกง นอกจากนี้ยังมีการแบน หมวกกันน็อก, ร่ม, วิทยุสื่อสาร, โดรน, แว่นครอบตานิรภัย และโซ่เหล็ก ด้วย</p>
<p>สื่อที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนอย่างเรดิโอฟรีเอเชียระบุว่ารัฐบาลจีนและสื่อของรัฐบาลจีนมักจะอ้างใช้คำว่า "ทำร้ายความรู้สึกของชาวจีน" มาเพื่อใช้วิจารณ์คำพูดหรือการกระทำจากคนนอกประเทศที่ทางการจีนไม่ยอมรับ แต่ในตอนนี้พวกเขานำมาใช้กับประชาชนจีนเองด้วย</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">หรือนับจากนี้ไปจะต้องสวมชุดประธานเหมากันหมด?</span></h2>
<p>กฎหมายดังกล่าวนี้มีชื่อว่า กฎหมายการบริหารความมั่นคงสาธารณะ ในตัวกฎหมายไม่ได้ระบุนิยามชัดเจนว่าการ "ทำร้ายความรู้สึก" ของประชาชนหรือรัฐบาลจีนหมายความว่าอย่างไร แต่ก็มีการเตือนว่า "การปฏิเสธคุณงามความดี" ของวีรบุรุษนักปฏิวัติและผู้สละชีพ หรือการสร้างตำหนิต่ออนุสรณ์สาธารณะถูกนับรวมอยู่ในนิยามนี้ด้วย</p>
<p>ในจีนมีกฎหมายที่ห้ามการหมิ่นวีรบุรุษนักปฏิวัติและผู้สละชีพอยู่แล้ว รวมถึงมีกฎหมายห้ามหมิ่นเพลงชาติ และห้ามหมิ่นทหารและตำรวจ อยู่ก่อนหน้ากฎหมายล่าสุดนี้ด้วยเช่นกัน</p>
<p>ข่าวเรื่องกฎหมายดังกล่าวยังทำให้ประชาชนจีนแสดงความกังวลว่าพวกเขายังจะวิจารณ์ฟุตบอลจีนได้หรือไม่ในอนาคต หรือตั้งคำถามว่า การกระทำต่างๆ อย่าง "การดูการ์ตูนอนิเมะ" "ขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา" "สวมสูทผูกเนคไท" ถือเป็นการละเมิดกฎหมายด้วยหรือเปล่า มีชาวเน็ตรายหนึ่งระบุประชดว่า "ถ้างั้น แต่นี้ไปชาวจีนจะต้องสวมชุด(เครื่องแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีน)แบบประธานเหมากันหมดน่ะสิ"</p>
<p>มีประชาชนบางส่วนแสดงความกังวลว่าการชื่นชมประเทศอื่นๆ อาจจะถูกมองว่าเป็นการทำร้ายความรู้สึกชาวจีนหรือชาติจีนด้วยใช่หรือไม่ มีบางความคิดเห็นมองว่า "นี่อาจจะเอาไว้ใช้แปะป้ายประชาชนว่าเป็นคนทรยศ หรือ เป็นขบถ" มีรายหนึ่งระบุว่า "ถ้าการสวมเสื้อผ้าของคนๆ หนึ่งมันทำร้ายความรู้สึกคุณ คุณก็เปราะบางเกินไป"</p>
<p>แต่ก็มีความคิดเห็นของฝ่ายสนับสนุนทางการจีนที่อ้างว่ากฎหมายใหม่นี้จะช่วยในการต่อสู้กับ "การแทรกซึม" รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ยุคปัจจุบันได้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">หรือจะนำมาอ้างใช้ในประเด็นอ่อนไหว เพื่อปลุกระดมชาตินิยมในจีน</span></h2>
<p>Gong Yujian ชาวจีนผู้ต่อต้านรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ที่อาศัยอยู่ในไต้หวันตั้งข้อสังเกตว่า การร่างกฎหมายใหม่ในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวพันการที่รัฐบาลจีนมีปฏิกิริยากับเรื่องที่ญี่ปุ่นปล่อยน้ำเสียจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายในฟุกุชิมา ซึ่งถ้าหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านร่างออกมาก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการบังคับใช้กับผู้คนที่แสดงออกเชื่อมโยงกับ 3 ประเทศนี้คือ ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ และไต้หวัน ที่จีนมักจะอ้างว่าเกี่ยวข้องกับการ "ทำร้ายความรู้สึกของชาวจีน" มากที่สุด</p>
<p>มีตัวอย่างสำหรับเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในปี 2565 เมื่อแบรนด์ชุดกีฬายี่ห้อ "Li-Ning" ขอโทษหลังจากที่แฟชั่นดีไซน์ของพวกเขาบางส่วนถูกโยงว่าคล้ายกับชุดฟอร์มทหารญี่ปุ่น</p>
<p>Gong มองว่า ที่ทางการวางแผนนำกฎนี้มาใช้เพื่อทำให้เกิดการปลุกระดมความคิดแบบชาตินิยมต่อไป นอกจากนี้ยังทำไปเพื่อทำให้เกิดการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อวิธีการแต่งกาย, อาหาร, ที่อยู่อาศัย และวิธีการเดินทางของผู้คนด้วย</p>
<p>"มันพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจีนภายใต้การปกครองแบบเผด็จการเบ็ดเสร็จของสีจิ้นผิงนั้นกำลังเดินหน้าอย่างสับสนวุ่นวายไปสู่การปฏิวัติวัฒนธรรมอีกครั้ง และผลลัพธ์ในตอนจบนั้นก็คือการที่ประชาชนชาวจีนสูญสิ้นเสรีภาพโดยสิ้นเชิง" Gong กล่าว</p>
<p>มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่าร่างกฎหมายเรื่องการทำร้ายจิตใจชาวจีนฉบับนี้ มีออกมาในช่วงเดียวกับที่มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเล่นงานบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นชาวต่างชาติในจีน เช่น การแก้ไขกฎหมายต่อต้านการจารกรรม และกฎหมายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ</p>
<p>Wu Se-Chih จากสมาคมนโยบายข้ามช่องแคบไต้หวัน กล่าวว่า กฎหมายใหม่เหล่านี้เป็นสิ่งที่รวมอยู่ในแผนการเดียวกันของรัฐบาลจีน คือแผนการตัดความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมองว่าเป็น "อริต่างชาติ" ออกจากประชาชนจีน เรื่องนี้ยังเกี่ยวข้องกับกระแสนิยมต่อต้านญี่ปุ่นที่ถูกปลุกขึ้นมาจากเรื่องที่ญี่ปุ่นทิ้งน้ำเสียจากโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ด้วย</p>
<p>Wu Se-Chih บอกว่ากฎหมายใหม่เหล่านี้ยังมีเรื่องความกำกวมและเรื่องน่ากังขาอยู่มาก และน่าสงสัยว่าจะมีการนำมาบังคับใช้ในระดับไหน</p>
<p>"ความภาคภูมิใจในชาติของจีนจะถูกทำลายลงเพียงเพราะการสวมเสื้อที่สื่อถึงญี่ปุ่น, อเมริกัน หรือวัฒนธรรมชาติอื่นๆ หรือโดยการทานอาหารที่ร้านอาหารญี่ปุ่น หรือโดยการขับรถอเมริกัน รถยุโรป หรือรถญี่ปุ่นอย่างนั้นหรือ" Wu กล่าว</p>
<p>Wu ตั้งคำถามอีกว่าถ้าทางการจีนห้ามไม่ให้คนชื่นชอบวัฒนธรรมอื่นๆ แล้วหันมาสร้างกระแสต่อต้านญี่ปุ่น ต่อต้านสหรัฐฯ แทน มันจะไม่ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับจีนเองหรอกหรือ และมันจะไม่กลายเป็นการทำร้ายจิตใจชาวจีนหรอกหรือ</p>
<p>Wu วิเคราะห์ว่า เป็นไปได้ที่ทางการจีนพยายามปลุกปั่นความรู้สึกแบบชาตินิยมเพื่อเชื่อมโยงกับการปกครองแบบอำนาจนิยมและเผด็จการเบ็ดเสร็จของตัวเอง และเพื่อเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจออกจากปัญหาเศรษฐกิจที่จีนกำลังเผชิญอยู่</p>
<p> </p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<p>China considers law banning clothes that ‘hurt feelings’, The Independent, 06-09-2023</p>
<p>‘Hurting the feelings of the Chinese people' could be punished by jail time, Radio Free Asia, 07-09-2023</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/09/105864
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.13 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 17 พฤศจิกายน 2567 01:01:14