[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 04:20:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - นักวิชาการภาคอีสานหนุนภาค ปชช. เบรกเมกะโปรเจกต์ 'ผันน้ำโขง เลย ชี มูล'  (อ่าน 67 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 16 กันยายน 2566 06:18:45 »

นักวิชาการภาคอีสานหนุนภาค ปชช. เบรกเมกะโปรเจกต์ 'ผันน้ำโขง เลย ชี มูล'
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-09-16 06:01</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: (ซ้าย) <span style="color:null;">สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์</span><span style="color:#d35400;"> </span>และ (ขวา) นิรันดร คำนุ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นักวิชาการอีสานหนุนภาคประชาสังคม เบรกนายกฯ ดันเมกะโปรเจกต์ 'ผันน้ำโขง เลย ชี มูล' มูลค่า 2.27 ล้านล้านบาท ขอ รบ.ฟังเสียงคนเห็นต่าง-ปชช.ผู้ได้รับผลกระทบ ไม่อยากให้ลงเงินมหาศาล แลกผลกระทบใหญ่หลวง เสนอปฏิรูปทำ EIA และ SEA ให้น่าเชื่อถือ ให้ความสำคัญภาควิชาการ</p>
<p> </p>
<p>16 ก.ย. 2566 ที่จังหวัดขอนแก่น จากกรณีที่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 8-9 ก.ย. 2566 ซึ่งเมื่อ 8 ก.ย. นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีตลอดจนหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขื่อนอุบลรัตน์ และพบปะประชาชนอยู่ในพื้นที่ชลประทาน และอยู่นอกพื้นที่ชลประทาน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาภัยแล้งผลกระทบจากเอลนีโญ พื้นที่ทำกินและการบริหารจัดการน้ำ ทำให้นายกรัฐมนตรีได้กล่าวว่า รัฐบาลนี้ต้องไม่ท่วม ไม่แล้ง เล็งผุดโครงการ "โขง-เลย-ชี-มูล" แก้ปัญหาภัยแล้งในภาคอีสาน </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53189981301_f4615d3d1b_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เศรษฐา ทวีสิน ลงพื้นที่ขอนแก่น เมื่อ 8 ก.ย. 2566 (ที่มา: </span><span style="color:#d35400;">เฟซบุ๊ก เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin</span><span style="color:#d35400;">)</span></p>
<p>ขณะที่เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำโขงได้ออกมาโต้และให้ความเห็นต่อนายกรัฐมนตรีในกรณีแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอีสานจะต้องศึกษารอบด้าน ไม่ใช่ฟังแต่นักการเมืองและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง วันนี้ด้านนักวิชาการภาคอีสานยังให้ความเห็นหนุนภาคประชาชนเบรกเมกะโปรเจกต์ ผันน้ำโขง เลย ชี มูน หลังนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคอีสาน</p>
<p>สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาสิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี กล่าวว่า นายกฯ เศรษฐา อย่าด่วนตัดสินใจ หลังประกาศดันเมกะโปรเจกต์ ผันน้ำโขง เลย ชี มูล มูลค่า 2.27 ล้านล้านบาท โดยเฟสแรกใช้เงิน 3 แสนล้าน เพื่อขุดลอก-ขยาย ปากแม่น้ำเลย-น้ำโขง เพื่อทำคลองผันน้ำเข้ามาแม่น้ำเลย และเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขา วางท่อส่งน้ำ มายังลุ่มน้ำโมง อ.สุวรรณคูหา และเส้นทางหนึ่งก็ส่งน้ำไปยังเขื่อนอุบลรัตน์ </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53189688109_542b11bf3d_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">สันติภาพ ศิริวัฒนไพบูลย์</span></p>
<p>ก่อนนี้มีการก่อสร้างประตูน้ำศรีสองรักอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ มูลค่า 5 พันล้านบาท โดยไม่ได้ทำรายงาน EIA เนื่องจากเป็นโครงการที่มีการเก็บกักน้ำไม่ถึงปริมาณที่กำหนดให้ต้องทำ EIA และกรมชลฯ ก็อ้างว่าไม่เกี่ยวกับโครงการผันน้ำ ทั้งๆ ที่ประตูน้ำศรีสองรักฯ เป็นการดัดแปลงแม่น้ำเลยใหม่ มีการขุดคลองลัดแม่น้ำเลย ทำประตูน้ำขนาดใหญ่ในคลองลัดใหม่ 2 แห่ง และแทบจะเป็นจุดเดียวกันกับแม่น้ำเลยที่ต้องขุดลอก เพื่อรองรับการผันน้ำ และประตูน้ำย่อมมีส่วนสำคัญในการควบคุมระดับแม่น้ำเลยเชื่อมต่อกับระดับแม่น้ำโขงในจุดที่มีการผันน้ำ ยังมีโครงการทำพนังกั้นน้ำในแม่น้ำเลยอีก โดยทำคันดินยกขอบพนังให้สูงขึ้นจากตลิ่งแม่น้ำเลย เพื่อให้เก็บน้ำในแม่น้ำเลยมากขึ้น และอาจจะสร้างผลกระทบจากภัยน้ำท่วมในหลายชุมชนริมแม่น้ำเลยของ อ.เชียงคาน เป็นอีกความเสี่ยงหนึ่งของชุมชนที่จะได้รับผลกระทบจากที่น้ำหลากจากภูเขาสูงไม่สามารถไหลลงแม่น้ำเลยได้เพราะมีพนังกั้นอยู่ น้ำก็จะย้อนมาท่วมชุมชนริมน้ำแน่นอน นับเป็นผลกระทบจากการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับระบบนิเวศอย่างมโหฬารอีกโครงการหนึ่ง</p>
<p>โครงการประตูน้ำศรีสองรัก กับโครงการผันน้ำโขง เลย ชี มูล จึงเป็นโครงการเดียวกัน แต่การแยกโครงการออกจากกัน ก็เป็นเหตุผลทางเทคนิคที่หลีกเลี่ยงการทำรายงาน EIA ให้โครงการประตูน้ำฯ ทำไปก่อน ส่วนโครงการผันน้ำฯ ก็จะทำทีหลัง </p>
<p>เป็นที่น่าสังเกตว่า มูลค่าโครงการเฟสแรก 3 แสนล้านบาท แต่ค่าชดเชยที่ดินที่เส้นท่อผันน้ำผ่านที่ดินชาวบ้าน จะจ่ายแค่ 1.3 พันล้าน เฉลี่ยไร่ละประมาณ 4 หมื่นบาท </p>
<p>โครงการนี้ ผลักดันมาตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในโมดูลน้ำที่ศาลปกครองสั่งให้รับฟังความเห็นใหม่ ตอนหาเสียงปี 2566 พรรคเพื่อไทย ก็ชูนโยบายนี้ และมี สส. จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดขอนแก่น หนุ่นเต็มที่ เนื่องจากงบฯ มหาศาล</p>
<p>วันที่นายกฯ เศรษฐา มาลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย ก็แถลงสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ อ้างแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จึงขอให้ข้อมูลด้วยเห็นว่า นายกฯ เป็นนักธุรกิจ น่าจะคำนึงเรื่องความคุ้มค่า และการสร้างประโยชน์ให้ประชาชนอย่างแท้จริง ต้องอย่าด่วนตัดสินใจ เพราะแค่ชื่อโครงการนายกฯ ยังเรียกผิดเป็น โครงการ โขง ชี มูน เลย แสดงว่าท่านมีข้อมูลเรื่องนี้น้อยมาก หากฟังแค่ สส. กรมชลฯ หรือ สทนช. จับรายงานสรุปโครงการไม่กี่หน้ายัดใส่มือโดยท่านยังไม่ได้อ่านศึกษารายละเอียดและยังไม่ได้รับฟังเสียงของฝ่ายที่เห็นต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาจได้รับผลกระทบฯ และผู้ที่เคยได้รับผลกระทบแล้วจากโครงการ โขง ชี มูน เดิมที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้ ทั้งจากเขื่อน ประตูน้ำต่างๆ ในแม่น้ำชีและแม่น้ำมูน </p>
<p>"จึงอยากให้นายกฯ ฟังเสียงประชาชนก่อน เหมือนกับที่ท่านไม่เห็นด้วยกับการขอเพิ่มงบฯ งานพืชสวนโลกไปอีกเท่าตัวจาก 2.5 พันล้าน โดยไม่เป็นเหตุเป็นผล" สันติภาพ กล่าว </p>
<p>ในส่วนของภาควิชาการ และประชาชนที่ศึกษาติดตาม ปัญหาและผลกระทบจากการจัดการน้ำขนาดใหญ่ในภาคอีสานมานาน ก็อยากเห็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่านี้ ไม่เอาอนาคตและเงินจำนวนมหาศาลไปลงกับโครงการขนาดใหญ่ที่ผลกระทบรุนแรง เช่น โครงการผันน้ำ 2.27 ล้านบาทนี้ รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่จะปลุกผีปัดฝุ่นของเก่าเอามาทำใหม่ในอนาคต เช่น โครงการผันน้ำยวมมาน้ำปิง และลงเขื่อนภูมิพล โครงการสร้างเขื่อนปากชม กั้นแม่น้ำโขง ที่ อ.ปากชม จ.เลย เพื่อดันน้ำไปถึงปากน้ำเลยรองรับการผันน้ำ ซึ่งต้องใช้งบอีกมหาศาล เป็นการปู้ยี่ปูยำกระทำชำเราแม่น้ำโขงจากการพัฒนาอีกคำรบใหญ่ โดยไม่สนใจเรื่องผลกระทบต่อชุมชน ความคุ้มค่า ระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพ ฯลฯ</p>
<p>ประชาชนอยากเห็นระบบการจัดการน้ำที่เข้าถึงเป้าหมายเชิงพื้นที่มากกว่า ไม่ไปดัดแปลงแม่น้ำ ลำน้ำ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำจนเกิดความเสียหายและขาดสมดุล ควรมุ่งจัดการแหล่งน้ำขนาดกลาง ขนาดเล็ก ร่วมกับท้องถิ่นและชุมชน โดยกระจายอำนาจและงบประมาณมายังจุดที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะท่วมหรือแล้ง ที่ตอบโจทย์ประชาชนในแต่ละภูมินิเวศที่แตกต่างหลากหลาย ใช้เงินน้อยและผลกระทบน้อยกว่าเมกะโปรเจกต์ โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อยู่นอกเขตฯ และอาศัยน้ำฝน (ไม่ว่าจะมีเมกะโปรเจกต์ใด น้ำก็ไปไม่ถึง) เน้นสร้างแหล่งเก็บน้ำและระบบจัดการน้ำในไร่นา บูรณาการร่วมกับชุมชน ท้องถิ่น กรมพัฒนาที่ดิน หรือแม้แต่กรมชลฯ ก็มี สำนักจัดรูปที่ดินและระบบจัดการน้ำเพื่อเกษตรกรรม ที่สนับสนุนและพัฒนาระบบการจัดการน้ำในระดับไร่นา แต่ก็ไม่คอยได้รับการสนับสนุนภารกิจมากนัก ไม่เหมือนกับสำนักพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่</p>
<p>จึงอยากให้รัฐบาลฯ โดยเฉพาะท่านนายกฯ ใหม่ ที่อยากพิสูจน์ผลงานในมิติใหม่ฉีกแนวออกไปจากเดิม ไม่ฟังความข้างเดียวแล้วสร้างปัญหาซ้ำซ้อนตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นสำคัญ ดังนี้</p>
<p>1. การทบทวนโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งทำให้เกิดหนี้สาธารณะผูกพันในอนาคตที่สูง และเสี่ยงไม่คุ้มค่า มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพที่รุนแรงจนไม่อาจชดเชยความสูญเสียหรือลดผลกระทบได้ เช่น โครงการผันน้ำ โขง เลย ชี มูน โครงการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขง หรือเขื่อน ประตูน้ำ ในแม่น้ำสายหลักที่สำคัญ เช่น แม่น้ำสงคราม ซึ่งเป็นแรมซาร์ไซต์ (พื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ) แห่งล่าสุด และเป็นแม่น้ำใหญ่สายเดียวที่ยังไม่มีเขื่อนปิดกันลำน้ำ</p>
<p>2) ปฏิรูประบบการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) การประเมินสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ให้มีความเป็นอิสระในการพิจารณา มีความเป็นธรรม มีความน่าเชื่อถือในการพิจารณาและตรวจสอบ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาควิชาการที่หลากหลาย ภาคประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงตั้งแต่ขั้นริเริ่มโครงการ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">นักวิชาการมอง 'วาทกรรมอีสานแล้ง' มาจากนักการเมือง-ประชาชนต้องการการบริหารจัดการน้ำต้นทุน</span></h2>
<p>ด้านอาจารย์นิรันดร คำนุ หัวหน้าภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า "วาทกรรมอีสานแล้ง" เป็นเสมือนเครื่องมือทางการเมืองของนักการเมืองรุ่นเก่า ที่มักก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับคนทั่วไปเกี่ยวกับสภาพเชิงนิเวศของภาคอีสานว่า "อีสานนั้นแห้งแล้งกันดาร" อยู่เสมอ ซึ่งในข้อเท็จจริงสภาพภูมิอากาศความร้อนแล้ง เป็นเพียงฤดูกาลหนึ่งของอีสานที่มีลักษณะเฉพาะเชิงนิเวศหมุนเวียนสลับสับเปลี่ยน ทั้งฤดูร้อนที่แล้ง ฤดูหนาวที่เยือกเย็น และฤดูฝนที่มีน้ำท่วม-น้ำหลาก อยู่เป็นปกติ แต่ไม่มีผลกระทบรุนแรงยาวนาน จากบทเรียนข้อสรุปในหลายเวทีของเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำภาคอีสานทุกลุ่มน้ำต่างยืนยันว่า สภาพปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งของภาคอีสานเป็น "ปัญหาเรื่องการจัดการน้ำต้นทุน" ให้มีเพียงพอกับการใช้น้ำทั้งในการอุปโภค-บริโภค หรือในภาคเกษตรกรรมในแต่ละปี โดยสิ่งที่ยืนยันสมมุติฐานนี้คือข้อมูลเชิงประจักษ์ของปรากฏการณ์ผลกระทบภายหลังการก่อสร้างเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำทั้งในลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี ซึ่งพบว่าในฤดูฝนภาคอีสานทั้งลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี เกิดสภาพน้ำท่วมตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำจนถึงท้ายน้ำ ในขณะที่พอถึงฤดูหนาว และฤดูร้อน อีสานกลับแล้งจนแม่น้ำบางจุดตื้นเขินเดินข้ามได้ ซึ่งยืนยันว่านี่คือปัญหาการบริหารจัดการน้ำ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53189884216_d6ee088688_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">นิรันดร คำนุ</span></p>
<p>นิรันดร ระบุต่อว่า บทเรียน 30 ปี จากโครงการโขง ชี มูล สะท้อนความไม่เข้าใจในบริบทเชิงนิเวศ และความหลากหลายของระบบลุ่มน้ำอีสาน ที่สัมพันธ์กับวิถีชีวิตของผู้คนในลุ่มน้ำ สัมพันธ์กับระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม และระบบความเชื่อ ซึ่งยึดโยงกันไว้ในฐานะฐานทรัพยากรที่เป็นหัวใจของระบบรวมทั้งหมดของชุมชนท้องถิ่น ในขณะที่โลกทัศน์ของหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำมักมอง "น้ำ" เป็นเพียงทรัพยากรที่ต้องจัดการและจัดเก็บ มองน้ำเสมือนทรัพยากรที่ต้องถูกกักเก็บในภาชนะกะละมังใบใหญ่ โดยลืมพิจารณาภาพความสัมพันธ์ของน้ำกับระบบนิเวศและผู้คนประชาชนในท้องถิ่น โลกทัศน์การมองน้ำแบบแยกส่วนของหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก่อให้เกิดโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่เกี่ยวกับการกักเก็บน้ำ และความพยายามในการผันน้ำโขงมาสู่ลุ่มน้ำในภาคอีสาน ขณะที่วาทกรรมเรื่องอีสานแล้ง-ท่วม ก็กลายเป็นเครื่องมือการแสวงหาผลประโยชน์จากปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งในภาคอีสานมายาวนานร่วม 30 ปี นับตั้งแต่เกิดโครงการโขง ชี มูล ขึ้นในภาคอีสาน และที่น่าเศร้าก็คือบรรดาโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อจะคลี่คลายปัญหาเรื่องน้ำ กลับยิ่งทำให้ปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง เกิดขึ้นหนักกว่าเดิมตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ถามภาครัฐ ทำไมยังดันเมกะโปรเจกต์ แม้มีงานวิจัยเรื่องบ่งชี้เรื่องผลกระทบ</span></h2>
<p>นิรันดร กล่าวว่า ภาพการลงพื้นที่ภาคอีสานของนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยมีการพูดคุยให้สัมภาษณ์ในทำนองที่จะฟื้นและพัฒนาต่อ โครงการ โขง เลย ชี มูล ตามที่เสนอข่าวเมื่อช่วงวันที่ 8-9 ก.ย. 2566 คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าใดนัก เพราะว่าในรัฐบาลที่ผ่านมาเมื่อครั้งพรรคเพื่อไทย เป็นฝ่ายค้าน ก็ปรากฏความพยายามในการเสนอโครงการ โขง เลย ชี มูล ต่อรัฐบาล โดย สส.อีสานจากพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลานั้น ขณะที่หากตัดภาพมายังปัจจุบัน สิ่งที่น่าสนใจและน่าตั้งคำถามมากที่สุดก็คือ เหตุใด พรรคการเมืองอย่างพรรคเพื่อไทยจึงสนใจ ที่จะผลักดัน และขับเคลื่อนโครงการ โขง เลย ชี มูล ทั้งๆ ที่ทราบข้อมูลจากผลการศึกษา และผลการวิจัยหลายฉบับซึ่งชี้ชัดถึงปัญหาจากการดำเนินโครงการโขง ชี มูล เช่น กรณีการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและผลกระทบทางสังคม กรณีเขื่อนราษีไศล และกรณีเขื่อนหัวนา ในแม่น้ำมูล รวมถึงกรณีเขื่อนร้อยเอ็ด กรณีเขื่อนยโสธร-พนมไพร และกรณีเขื่อนธาตุน้อย ในแม่น้ำชี ซึ่งผลการศึกษาต่างก็ชี้ชัดว่า โครงการ โขง ชี มูล นั้นมีปัญหาทำให้เกิดผลกระทบ ถึงขั้นว่าต้องฟื้นฟูเยียวยาระบบนิเวศ และผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าว ขณะที่การศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการ รวมถึงข้อกังวลข้อคำถามถึงความคุ้มค่า คุ้มทุน หลักประกันความเสี่ยงและความสูญเสียทั้งในระยะสั้น และระยะยาวก็มิได้มีสิ่งยืนยันว่าจะเกิดผลดี ผลเสียอย่างชัดเจนหากดำเนินโครงการนี้ต่อไป</p>
<p>ถ้าหากตีความเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจจะดำเนินโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ใดๆ ก็ตาม ในด้านลึก ก็อาจจะพบว่ามีนัยยะของความพยายามในการควบคุมจัดการฐานทรัพยากรสำคัญของชาติให้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไฟฟ้า หรือพลังงานต่างๆ ซึ่งเป็นเสมือนการคุมบังเหียนประเทศของนักปกครองที่ควบคู่กับการควบคุมบังเหียนทางรัฐศาสตร์บวกเศรษฐศาสตร์เชิงอรรถประโยชน์นิยมของชนชั้นนำ โดยอาจจะใช้กฎหมาย หรือยุทธศาสตร์ชาติต่างๆ เป็นเครื่องมือ ในขณะที่องค์ประกอบของระบบการเมืองเช่นนี้ มักจะมีสัดสวนของ 1. บรรดาพรรคการเมือง-นักการเมืองชั้นนำที่ดูแลกระทรวงนั้นๆ 2. ข้าราชการประจำเจ้ากระทรวง เจ้ากรม 3. ทุนใหญ่ในด้านพลังงานและการจัดการทรัพยากรบวกธนาคารแหล่งทุน "อาจจะพากันดีลลับ" เพื่อร่วมกันกำหนดให้เกิดโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ที่อาจจะมีธงอยู่แล้วว่าจะต้องดำเนินโครงการให้ได้ผ่านกลไกของรัฐ และระบบรัฐสภา เนื่องจากโครงการลักษณะใหญ่เช่นนี้หากมีการดำเนินการที่ไม่รัดกุม และหากไม่มีการศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน เม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากโครงการก็จะกลายเป็นสายธารผลประโยชน์ที่ไหลไปหล่อเลี้ยงธุรกิจ-กิจการของบรรดากลุ่มผลประโยชน์ และนักการเมืองที่รอฉวยโอกาสจากโครงการลักษณะเช่นนี้ ขณะที่ประชาชนตาดำๆ ก็จะกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ และเผชิญชะตากรรมที่ต้องรอคอยการชดเชย เยียวยา และการแก้ไขปัญหาเป็นวงจรอยู่เช่นนี้</p>
<p>"การประกาศตัวเป็นรัฐบาลประชาชน" ของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา นั้นมีความหมายอย่างยิ่งต่อวิถีปฏิบัติในทางการเมืองต่อจากนี้ไป ว่าสิ่งที่รัฐบาลจะพิจารณาดำเนินการนั้นจะต้องยึดโยงกับพี่น้องประชาชน ในขณะที่บทเรียนการล่มสลายของหลายพรรคการเมืองก็ควรเป็นแนวทางที่การเมืองใหม่ในปัจจุบันต้องเรียนรู้ และวิพากษ์ปัญหาการเมืองเก่าที่เน้นเฉพาะผลประโยชน์ของพรรคพวก และให้ข้าราชการประจำชี้นำนโยบายได้โดยไม่มีสมการของพี่น้องประชาชนอยู่ในสูตรของการตัดสินใจในการดำเนินนโยบาย หรือโครงการใดๆ ซึ่งน่าจะไปไม่รอด ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป หากรัฐบาลปัจจุบันตั้งมั่นจะเป็นรัฐบาลประชาชนอย่างแท้จริง จะต้องลงมือแก้สมการปัญหาให้ถูกที่ ถูกเวลา คือการรับฟังประชาชนเจ้าของปัญหา รวมถึงการทบทวนบทเรียนปัญหาที่ผ่านมา การพิจารณาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านอย่างหนักแน่น และการสร้างทางเลือกในการแก้ไขปัญหาที่หลากหลายสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ทุนทางสังคม และผู้คน และต้องอย่ายอมให้โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ของรัฐกลายร่างเป็นปีศาจร้ายทำลายวิถีชีวิตของผู้คนลุ่มน้ำ และทำลายฐานทรัพยากรระบบนิเวศลุ่มน้ำที่หลากหลาย รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตั้งสติเพื่อมอง "น้ำ" ให้เห็นชีวิต เห็นผู้คนประชาชน และเห็นระบบนิเวศที่สัมพันธ์กับสายน้ำ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/09/105920
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 349 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 361 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 265 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ประเทศไทยกำลังเดินถอยหลังเรื่องความคุ้มครองความยากจนผู้สูงอายุ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 274 กระทู้ล่าสุด 17 สิงหาคม 2566 17:55:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - เผยนักกิจกรรมชายแดนใต้ถูกคุกคามหลังไลฟ์สดการปิดล้อม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 208 กระทู้ล่าสุด 20 สิงหาคม 2566 15:35:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.57 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 15 เมษายน 2567 23:34:56