พบประกาศพระราชทานเครื่องราชฯ ให้แก่ชาวต่างปท. เปลี่ยนจากนายกฯ เป็นผู้รับสนองฯ เป็นไม่ปรากฎชื่อ
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2023-11-14 14:40</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>พบประกาศพระราชทานเครื่องราชฯให้แก่ชาวต่างประเทศ เปลี่ยนจากประกาศสำนักนายกฯ โดยมีนายกฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการนาม เป็นพระบรมราชโองการ และไม่ปรากาฎชื่อผู้รับสนองพระบรมราชโองการเหมือนก่อนหน้า</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53331583110_9a685d8704_h.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">เปรียบเทียบประกาศพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ จาก 21 เม.ย.2566 และก่อกน้านั้น ที่ออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และมีนายกฯ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ กับประกาศล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา ออกเป็นพระบรมราชโองการ และไม่ปรากาฎชื่อผู้รับสนองพระบรมราชโองการเหมือนก่อนหน้า</span></p>
<p>14 พ.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (13 พ.ย.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ [1. นางทาเลีย เจรัลดีน ลิน (Mrs. Thalia Geraldine Lyn) 1. นายโฮเซ กิเยร์โม โรโม โรเมโร (Mr. José Guillermo Romo Romero)]</p>
<p>โดยทั้ง 2 เป็น อดีตกงศุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงคิงส์ตัน จาเมกา และกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ เมืองกวาดาฮารา สหรัฐเม็กซิโก เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนภารกิจของสถานเอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศ ในการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างประเทศกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองดูแลคนไทยในต่างประเทศ และเป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย</p>
<p>ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นในเว็บไซต์เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา พบว่า ประกาศ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ เป็นครั้งที่ 2 ที่ไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ โดยครั้งก่อนหน้าคือวันที่ 10 ต.ค.2566 ในพระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ [1. นางทาเลีย เจรัลดีน ลิน (Mrs. Thalia Geraldine Lyn) 2. นายโฮเซ กิเยร์โม โรโม โรเมโร (Mr. José Guillermo Romo Romero)] </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53331351923_ebf518dbb5_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพตัวอย่างการสืบค้น ประกาศพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ จาก</span>
<span style="color:#e67e22;">เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา</span><span style="color:#e67e22;"> ย้อนหลัง</span></p>
<p>ทั้งที่ก่อนหน้านั้นออกเป็นประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี และมีนายกฯ เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เช่น เมื่อวันที่ 21 เม.ย.2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ [จำนวน 4 ราย 1.นายว็อล์ฟกัง คีสลิง (Mr. Wolfgang Kiessling) ฯลฯ] 19 ม.ค.2566 ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ [จำนวน 3 ราย 1. นายอาคิลเล เบนัซโซ (Mr. Achille Benazzo) ฯลฯ] หรือ 31 พ.ค.2565 ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้แก่ชาวต่างประเทศ [จำนวน 5 ราย 1. นายโยะชิฮิโระ มิวะ (Mr. Yoshihiro Miwa) ฯลฯ] เป็นต้น</p>
<p>อนึ่ง กรณีการมีผู้ลงนามรับสนองฯ นั้น iLaw เขียนไว้ใน หลักพระมหากษัตริย์ทรงกระทำผิดมิได้ (The King Can Do No Wrong) ตามรัฐธรรมนูญ 20 ฉบับ เมื่อพ.ย. 2563 (ดู
https://www.ilaw.or.th/node/5785) ว่า ตามระบอบประชาธิปไตย เมื่อกษัตริย์ถูกคุ้มครองไม่ให้ถูกฟ้องร้องได้แล้ว การกระทำของกษัตริย์นั้นย่อมต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายด้วย และการกระทำต่างๆ ต้องมีผู้ลงนามรับสนอง และบุคคลนั้นจะเป็นผู้รับผิด ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า กษัตริย์มิได้ใช้พระราชอำนาจในทางที่ริเริ่ม (Active) แต่เป็นการใช้อำนาจแบบเชิงรับ (Passive) เช่น กษัตริย์มีพระราชอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี แต่การแต่งตั้งนั้นมิใช่ว่าจะแต่งตั้งผู้ใดก็ได้ตามอำเภอใจ แต่ต้องเป็นผู้ที่ได้รับเลือกผ่านมติมหาชน (จากประชาชนโดยตรงหรือจากรัฐสภา) เมื่อมีผู้ทูนเกล้าเสนอรายชื่อแล้ว กษัตริย์จึงลงปรมาภิไธยเพื่อแต่งตั้งผู้นั้นเป็นนายกฯ และผู้ที่ลงนามรับสนอง คือผู้ที่ทูนเกล้ารายชื่อนั้น ก็จะต้องเป็นผู้รับผิด ซึ่งหลักเช่นนี้เองที่ทำให้กษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตยมีความแตกต่างจากกษัตริย์ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความผันผวนทางการเมืองมาก เนื่องด้วยวงจรการรัฐประหาร ออกประกาศคณะปฏิวัติและยกเลิกรัฐธรรมนูญ ทำให้ในประวัติศาสตรร์มีระยะเวลาที่อยู่ในสภาวะไร้รัฐธรรมนูญอยู่เป็นช่วงๆ จากนั้นจึงมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และประกาศใช้ ดังนี้ โฉมหน้าของ “ผู้ลงนามรับสนอง” ตามรัฐธรรมนูญแต่ละฉบับจึงแตกต่างกันออกไป โดยแยกพิจารณาได้สองกรณี คือกรณีทั่วไป และกรณีพิเศษ โดย ผู้รับสนองพระบรมราชโองการในกรณีปกติ จึงวนเวียนอยู่ที่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี หรือประธานสภา ส่วนกรณี “พิเศษ” ด้วยเหตุที่ประเทศไทยมีการรัฐประหารและต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่อยู่บ่อยครั้ง โฉมหน้าของผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการจึงเปลี่ยนแปลงไปบ้าง และในบางครั้งอาจไม่ได้เป็นผู้แทนของปวงชน ในบางกรณีคณะรัฐประหารก็อาจจะแปรสถานะอยู่ในรูปแบบอื่น และกลายเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/11/106800