[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 21:27:19 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำนานรักแห่งแดนหิมาลัย “กษัตริย์จิกมี-พระคู่หมั้น” คู่ขวัญแห่งภูฏาน  (อ่าน 11130 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:42:24 »

 

เทพนิยายแห่งรัก'ราชา - สามัญชน'ภูฏาน  

อีก 1 ความสนใจของคนไทย และปลื้มปีติยินดีที่แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองไทย หรือเป็นชนเชื้อสายไทยก็ตาม แต่กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏานองค์นี้ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับคนไทยเมื่อครั้งที่เสด็จมาเป็นพระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี อยู่ไม่น้อย...
  
   ข่าวคราวของมกุฎราชกุมารแห่งภูฏานเมื่อครั้งเสด็จมาเมืองไทยเมื่อครานั้น ยังคงเป็นที่จดจำของคนไทย  และสื่อต่างๆ ก็เฝ้าติดตามจนกระทั่งถึงวันที่พระองค์ขึ้นครองสิริราชสมบัติต่อจากพระราชบิดา

  
  
   กษัตริย์หนุ่มแห่งภูฏานผู้นี้ นอกจากจะมีพระสิริโฉมที่งดงาม และมีมาดสุขุมนุ่มนวลแล้ว พระองค์ยังเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ และมุ่งมั่นกับหน้าที่ของการดูแลประชาชนที่พระองค์ต้องปกครอง แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป เช่นเดียวกับเรื่องความรักที่พระองค์เองนั้นรู้สึก ซึ่งหญิงสาวที่สามารถมัดหัวใจพระราชาหนุ่มองค์นี้ได้ก็คือ เจตซุน เพมา สาวสามัญชนที่กำลังจะเป็นเจ้าหญิงคนใหม่แห่งราชวงศ์วังชุก
  
   รู้จักกับว่าที่ราชินีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน
    
  
  
   'นางสาว เจตซุน เพมา'  หญิงสาวในวัย 20 ปี เป็นบุตรคนที่ 2 จากพี่น้อง 5 คนของนายโทนทับ ดียัลเซน กับนางโซนัม สุกี เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2533 ที่กรุงทิมพู ประเทศภูฏาน  ในวัยเด็กจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ประเทศภูฏาน ก่อนเดินทางไปเรียนต่อที่ลอว์เรนซ์ สคูล ในเมืองซานาวาร์ หิมาจัลประเทศ และที่เซนต์โจเซฟคอนแวนต์ในกาลิมพง ประเทศอินเดีย  หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยนีเจนต์คอลเลจ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ  นอกจากเรื่องการศึกษา และสติปัญญาที่หญิงสาวคนนี้มีเพรียบพร้อมแล้ว  
  
   นิยายรัก ความประทับใจ พระราชาผู้ยิ่งใหญ่กับสาวสามัญชน
    
  
  
   เส้นทางความรักของทั้งสอง สื่อต่างๆ นั้นต่างเปรียบว่าทั้งสองเปรียบเสมือนคู่ของเจ้าชายวิลเลียม และเคท มิดเดิลตัน แห่งอังกฤษ   เพราะต่างพบรักกับหญิงสาวสามัญชนเหมือนกัน  ขณะที่ความรักของเจ้าชายจิกมีกับนางสาวเจตซุน เพมา ดำเนินไปอย่างราบเรียบ ความโรแมนติกที่ทั้งสองได้แสดงออกต่อกันก็เริ่มเปิดเผยต่อสาธารณชนให้รับรู้มากขึ้น ว่าหญิงสาวผู้นี้ คือว่าที่ราชินีที่จะเคียงคู่พระองค์ในอนาคต  พระองค์ก็เริ่มที่จะเผยความในใจที่พระองค์มีต่อหญิงสาวผู้นี้ให้กับสื่อมากขึ้น
  
   ซีนโรแมนติก คู่รักแห่งปีของประเทศภูฏาน
    
  
  
   การประกาศหมั้นของทั้งสอง ทำให้ประชาชนชาวภูฏานต่างรู้สึกยินดีอย่างมาก ฝ่ายของเจ้าชายจิกมีเอง ก็ได้ตรัสถึงว่าที่เจ้าสาวด้วยความชื่นชม ว่าเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดด้วยสติปัญญา และเป็นคนที่จิตใจดี ซึ่งพระองค์ทรงเริ่มรู้จักกัน ตั้งแต่ที่พระคู่หมั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยทิมพู  และตั้งแต่นั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองก็พัฒนามากขึ้น  และเริ่มตามเสด็จไปพบปะประชาชนตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศอยู่บ้าง
  
   ความต่างที่ลงตัวระหว่างกษัตริย์จิกมี และพระคู่หมั้น
    
  
  
   แม้ว่าทั้งสองจะเกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างกัน อีกคนคือกษัตริย์ที่มีภาระหน้าที่อันใหญ่หลวง ส่วนฝ่ายพระคู่หมั้น แม้ว่าจะเป็นสามัญชนธรรมดา แต่ก็เกิดมาในตระกูลที่มีฐานะดี  นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีรสนิยมความชอบคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะงานศิลปะ จิตรกรรม ภาพวาด อีกทั้งพระคู่หมั้นของกษัตริย์จิกมียังชื่นชอบการเล่นกีฬาบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ  อีกทั้งยังเต้นระบำพื้นเมืองพันกรา และการเต้นรำแบบตะวันตกอีกด้วย
  
   อีกไม่กี่วันความปลื้มปีติที่จะได้เห็นพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสของทั้งสองก็จะยิ่งมากขึ้น โดยพิธีจะจัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ณ เมืองปุนาคา โดยจะจัดอย่างเรียบง่าย และเป็นตามประเพณีดั้งเดิมของภูฏาน ซึ่งคงนำความสุขมาสู่ทั้งสองพระองค์ และประชาชนทั่วประเทศ
   Twitter : Sriploi_social
  
http://www.thairath.co.th/content/life/208156

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ตุลาคม 2554 10:06:31 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:47:02 »

  ชาวภูฏานปลื้มปิติ กษัตริย์จิกมี เข้าพิธีอภิเษกสมรส



 
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  
  

 
พระราชพิธีอภิเษกสมรสในภูฏาน
   


ภูฏาน เตรียมถ่ายทอดสดพิธีอภิเษกสมรส กษัตริย์จิกมี (ไอเอ็นเอ็น)
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก jaipur.co, deccanchronicle.com

         โทรทัศน์ภูฏาน ถ่ายทอดสด พระราชพิธีอภิเษกสมรส "กษัตริย์จิกมี" ทั่วประเทศ พร้อมงานเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่

         พระราชพิธีอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และเป็นกษัตริย์ที่มีอายุน้อยที่สุดในโลกกับ น.ส.เจตซุน เปมา วัย 21 ปี บุตรสาวนักบินใหญ่ ครอบครัวชนชั้นสูงของประเทศ ในวันนี้ หลังการประกาศหมั้นหมายกันมา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

        ล่าสุดสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน พร้อมด้วย นางสาวเจตซุน เปมา เจ้าสาว เดินทางถึงศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ในเมืองพูนาคา ซอง (Punakha Dzong) สถานที่ใช้ในการประกอบพิธีอภิเษกสมรส โดยในพิธีประกอบด้วย สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก พระบิดา พร้อมด้วยพระมเหสีทั้ง 4 พระองค์ , เจ้าบ่าว-เจ้าสาว และพระสังฆราช หรือ เจเคนโป (Je Khenpo) และห้ามมิให้สื่อมวลชน เข้าทำข่าวเกินกว่าสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ให้ รวมถึงห้ามประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม

         ถึงแม้ว่าเจ้าสาวจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปห้องโถงภายในศาลเจ้าที่ใช้ในการประกอบพิธี แต่นางสาวเปมา ได้ทำพิธีหมอบกราบอยู่ด้านนอก เพื่อขอพรจาก "ซับดรุง งาวัง นัมเยล" ลามะองค์สำคัญของภูฏาน ในสมัยศตวรรษที่ 17 ท่ามกลางงานพิธีที่เต็มไปด้วยข้าราชการที่สวมโก (Gho) ชุดประจำชาติที่ของภูฏาน

        นางสาวเจตซัน เปมา ขณะนี้ขึ้นดำรงตำแหน่ง พระราชินีองค์ใหม่แห่งราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการแล้ว หลังเข้าพิธีอภิเษกสมรส กับ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ผู้เป็นที่รักของชาวภูฏานทั้งประเทศ จนได้รับการขนานนามว่า "ดรากอน คิง" โดยหลังจากนี้ไป จะมีการเฉลิมฉลองอย่างต่อเนื่อง 3 วัน พร้อมด้วยงานรื่นเริ่งต่าง ๆ ทั่วประเทศ

         ด้านสถานีโทรทัศน์ภูฏาน ได้ทำการถ่ายสดพระราชาพิธีไปทั่วประเทศ เฉกเช่นงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียม ขณะที่ทั่วประเทศได้เตรียมความพร้อมด้วยการประดับประดาไฟ ธงชาติ และรูปคู่ของคู่รักกษัตริย์ ไปทั่วประเทศ ขณะที่ชาวภูฏานเองก็รู้สึกตื่นเต้น ยินดี และต่างรอคอยงานพระราชพิธีที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา และจะมีงานเฉลิมฉลอง ติดต่อกันถึง 3 วัน 3 คืน

         ทั้งนี้ งานพระราชพิธีอภิเษกสมรส มีขึ้นที่เมืองพูนาคา ซอง (Punakha Dzong) เมืองหลวงเก่าของประเทศ ซึ่งเต็มไปด้วยจิตวิญญาณทางศาสนาและร่องรอยทางวัฒนธรรม
        


 
    
     

[25 พฤษภาคม] สื่อภูฏานเผยประวัติ เจตซัน เปมา ว่าที่ราชินี กษัตริย์จิกมี


        กลายเป็นข่าวมงคลที่มีผู้คนทั่วโลกติดตาม และร่วมยินดีมากที่สุดข่าวหนึ่ง หลังจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก หรือที่คนไทยรู้จักในพระนาม "เจ้าชายจิกมี" จะเข้าพิธีอภิเสกสมรสกับนางสาวเจตซัน เปมาหญิงสามัญชนวัยเพียง 21 ปี ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ทำให้สื่อมวลชนของประเทศภูฏานตีพิมพ์เรื่องราว และประวัติของว่าที่พระราชินีแห่งกษัตริย์จิกมีเป็นการใหญ่

        โดยนางสาวเจตซัน เปมา (Jetsun Pema) เกิดเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2533 ในกรุงทิมพู เมืองหลวงของประเทศภูฏาน เป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวน 5 คนของนายโทนทับ ดียัลเซน (Dhondup Gyaltshen) และนางโซนัม สุกี (Sonam Chuki)

         นางสาวเจตซัน เปมา จบการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ในโรงเรียนที่ประเทศภูฏาน ก่อนจะเดินทางไปเรียนต่อที่ลอว์เรนซ์ สคูล ในซานาวาร์ หิมาจัลประเทศ และที่เซนต์โจเซฟ คอนแวนต์ ในกาลิมพง ประเทศอินเดีย และขณะนี้กำลังศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรีเจนต์ คอลเลจในลอนดอน ประเทศอังกฤษ

         ทั้งนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ยังได้ตรัสถึงว่าที่พระราชินีของพระองค์อย่างเป็นทางการว่า แม้ เจตซัน เปมา จะมีอายุน้อย แต่เธอเป็นผู้มีบุคลิกและจิตใจที่อบอุ่นอ่อนโยน มีเมตตา ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เมื่อผนวกเข้ากับภูมิปัญญาที่เธอจะได้รับ ในอนาคตเมื่อเธอมีวัยวุฒิและสั่งสมประสบการณ์ได้มากขึ้น เธอจะข้ารับใช้ที่ดีของแผ่นดินภูฏาน

         ขณะที่นายอูเกน นิดับ (Ugyen Nidup) องครักษ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ซึ่งเดินทางมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ชาวภูฏานทุกคนรู้สึกปลาบปลื้มและตื่นเต้นกับข่าวดีนี้เป็นอย่างมาก และเฝ้ารอคอยพิธีอภิเษกสมรสครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งจะทำให้ชาวภูฏานภาคภูมิใจ


 
  
  
  
  



[20 พฤษภาคม] เจ้าชายจิกมี แต่งงาน หญิงสามัญชน ตุลาคมนี้

         สำนักข่าวเอเอฟพี (AFP) รายงานเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน พระชนมายุ 31 พรรษา ทรงประกาศหมั้นหญิงสามัญชน และจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมนี้

        รายงานระบุว่า ข่าวดีดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นโดย ดาโซ คินลีย์ ดอร์จี เลขานุการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศแห่งภูฏาน โดยเธอได้เล่าว่า เจ้าชายจิกมี่ ทรงเปิดเผยข่าวดีนี้ ในช่วงเปิดการประชุมสภาว่า พระองค์ทรงหมั้นและกำลังจะมีพิธีอภิเษกสมรสในเดือนตุลาคมนี้ โดยหญิงสาวผู้โชคดีที่กำลังจะเป็นพระมเหสีของเจ้าชายจิกมี่ เป็นหญิงสาวสามัญชน นามว่า เจตซัน เปมา ชาวภูฎาน วัย 21 ปี

         ซึ่งพระกระแสรับสั่งของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ดังกล่าวมีดังนี้ "ข้าพเจ้าคิดมานานแล้ว และตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องแต่งงาน เหล่าพสกนิกรของข้าพเจ้าคาดหวังไว้ว่าผู้ที่จะมาเป็นราชินีในอนาคตของพวกเขาจะต้องสวยสง่า เพรียบพร้อมสมบูรณ์แบบ มีการศึกษาที่ดี ซึ่ง เจตซัน เปมา คนรักของข้าพเจ้านั้น เป็นผู้หญิงที่มีหัวใจที่งดงาม จิตใจดี และพร้อมที่จะสนับสนุนข้าพเจ้าในทุก ๆ เรื่อง และเป็นคนที่ข้าพเจ้าไว้วางใจมาก ข้าพเจ้าไม่อาจทราบได้ว่าเหล่าพสกนิกรจะพูดถึงเธอว่าอย่างไรกันบ้าง แต่ข้าพเจ้าบอกได้เพียงว่า เจตซัน เปมา มีคุณสมบัติที่เพรียบพร้อมเท่าที่สตรีคนหนึ่งพึงมี"

         สำหรับ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก เสด็จพระราชสมภพเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก และ สมเด็จพระราชินี อาชิ เชอริง ยางดน วังชุก

        สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงเข้าพิธีราชาภิเษกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 โดยในขณะนั้น พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระเยาว์ที่สุดในโลก แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น พระองค์ก็ทรงได้รับการยกย่องจากชาวภูฏานรวมถึงชาวไทยส่วนใหญ่ว่าทรงมีพระจริยวัตรที่งดงาม และทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า จากการที่ทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเองในหมู่ประชาชน จึงสร้างความประทับใจแก่พสกนิกรอย่างสูง ถึงแม้ว่าพระองค์ไม่ต้องทรงรับพระราชภารกิจการบริหารประเทศ เนื่องจากสมเด็จพระราชบิดาได้ทรงวางระบอบปกครองแบบประชาธิปไตยขึ้นมาอยู่ก่อนแล้ว แต่พระองค์เองก็ยังทรงเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ในการสร้างเอกภาพและเสถียรภาพ ในประเทศที่มีประชากรเพียง 650,000 คน โดยมุ่งเน้นด้านความสุขมวลรวมของประชากรภายในประเทศเป็นสำคัญ

http://hilight.kapook.com/view/58989
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ตุลาคม 2554 10:01:18 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:50:22 »

อภิเษกสมรสกษัตริย์จิกมี-ราชินีเปมา สองพระคู่ขวัญแห่งดินแดนมังกรสายฟ้า


สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคซาร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับ น.ส.เจ็ตซัน เปมา วัย 21 ปี ณ ลานพระราชพิธีซึ่งจัดขึ้นภายในป้อมปราการเมืองพูนาคา


ป้อมปราการแห่งพูนาคา หรือ พูนาคาซอง สถานที่จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรส


ภาพของสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี และพระราชินีถูกนำไปประดับตามวงเวียนบนถนนในกรุงทิมพู ก่อนที่พระราชพิธีอภิเษกสมรสจะเริ่มขึ้น


เด็กชาวภูฏานฝึกซ้อมการแสดง ซึ่งจะใช้ในงานเฉลิมฉลองวันที่ 15 ตุลาคม


ผู้โดยสารสายการบิน ดรุก แอร์ จากกรุงนิวเดลี แสดงใบขาเข้าของภูฏาน ซึ่งมีภาพสมเด็จพระราชาธิบดีและพระคู่หมั้น


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - และแล้ววันแห่งความชื่นมื่นปลื้มปีติของพสกนิกรชาวภูฏานก็มาถึง เมื่อสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคซาร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับ พระคู่หมั้น เจ็ตซัน เปมา หญิงสาวนักศึกษาสามัญชน วัย 21 ปี ณ ลานพระราชพิธี ซึ่งจัดขึ้นภายในป้อมปราการเมืองพูนาคา ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา
     
      แม้จะไม่ได้เป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตไปทั่วโลกอย่างเช่นครั้งงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษ และพระชายาแคทเธอรีน มิดเดิลตัน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่ในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ก็สร้างความประทับใจให้กับประชาชนในดินแดนบนเทือกเขาหิมาลัยแห่งนี้ทั้งประเทศ รวมถึงชาวไทยอีกหลายๆ คน
     
      สำหรับบรรยากาศพระราชพิธีอภิเษกสมรสนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย และถูกต้องตามโบราณราชประเพณีแห่งภูฏาน ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีก็ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนา น.ส.เจ็ตซัน เปมา ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน จากนั้นจึงทรงจูงพระหัตถ์พระราชินีเสด็จฯ เข้าไปบนแท่นสักการะอันศักดิ์สิทธิ์ภายในป้อมพูนาคา ซึ่งเป็นที่ตั้งพระศพขององค์กษัตริย์ผู้ก่อตั้งภูฏานเมื่อศตวรรษที่ 17 เพื่อทรงรับพรและประกอบพิธีสวดมนต์ตามคติทางพุทธศาสนา โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการระดับสูง ร่วมเป็นสักขีพยานโดยพร้อมเพรียง ขณะที่พระบิดา ผู้เป็นพระราชาธิบดีองค์ก่อน ทรงเสด็จพร้อมด้วยพระชายาทั้ง 4 พระองค์ เป็นผู้พระราชทานผ้าพันพระศอสีสันสวยงามตระการตาให้แก่เจ้าสาว ที่มีท่าทางประหม่า โดยในพระราชพิธี กษัตริย์จิกมี และพระชายาต้องทรงดื่มนม อันเป็นตัวแทนของชีวิตนิรันดร์ด้วย
     
      หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินี เจ็ตซัน เปมา ก็ได้เสด็จออกทักทายผู้ที่มาเข้าเฝ้าฯ ถวายพระพร ในส่วนที่เปิดให้สาธารณชนเข้าร่วม พระองค์ได้ทรงอุ้มเด็กๆ ลูบหัว และจับมือ อันเป็นการปฏิบัติที่ไม่เคยได้พบเห็นจากกษัตริย์องค์ก่อนๆ อย่างที่คนรุ่นเก่าแก่ต้องคอยก้มหน้าเพราะไม่กล้าสบตาเจ้าแผ่นดินของพวกเขา
     
      นอกจากนี้ รัฐบาลภูฏานยังจัดการถ่ายทอดสดพระราชพิธีอภิเษกสมรสไปทั่วประเทศ เพื่อให้พสกนิกรกว่า 700,000 คนได้ซึมซับบรรยากาศอันน่าประทับใจกันโดยถ้วนหน้า และใน 3 วันหลังจากนี้ก็มีการจัดงานรื่นเริงตามเมืองและหมู่บ้านต่างๆ ทั่วภูฏานด้วย
     
      ส่วนชาวบ้านชนเผ่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามเขตภูเขาสูงของภูฏานเกือบตลอดทั้งปี ก็ลงมายังพื้นราบเพื่อเฉลิมฉลองพระราชพิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์จิกมี เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปซึ่งมาจับจองพื้นที่ริมฝั่งถนนที่จะเสด็จพระราชดำเนินผ่านกันตั้งแต่เช้า
     
      ด้านเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงภูฏานมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ และตรวจตรารถยนต์ทุกคันที่เข้ามาใกล้บริเวณพระราชพิธี เนื่องจากก่อนหน้าพระราชพิธีมงคงนี้เพียงไม่กี่วัน กลับเกิดเหตุระเบิด 2 ระลอกแต่ไม่รุนแรง ที่เมืองพุโชนลิง บริเวณชายแดนฝั่งที่ติดกับอินเดีย ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ในวันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม โดยกลุ่มแนวร่วมปฏิวัติแห่งภูฏาน หรือยูอาร์เอฟบี ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยเชื้อสายเนปาล ได้ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุก่อกวนดังกล่าว เพื่อเรียกร้องความสนใจจากองค์กษัตริย์
     
      สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ได้ทรงมีพระราชปฏิสันถารอย่างผ่อนคลายสบายๆ กับผู้สื่อข่าวกลุ่มเล็กๆ ระหว่างที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปรอบๆ ภายหลังเสวยพระกระยาหารกลางวัน ซึ่งเป็นพระราชจริยวัตรที่ทรงโปรดปราน
     
      “เรามีความสุขมาก เราเฝ้ารอเวลานี้มาระยะหนึ่งแล้ว มันไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะแต่งงานเมื่อใด ตราบเท่าที่เป็นการแต่งงานกับคนที่ใช่” กษัตริย์จิกมีมีพระราชดำรัส “สำหรับเราแล้ว แน่นอนที่สุดว่าเราได้แต่งงานกับคนที่ใช่”
     
      “พระราชินีทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบของเธอได้อย่างวิเศษสุด เรามีความภาคภูมิใจในพระราชินีมาก” กษัตริย์จิกมี ทรงตรัสกับผู้สื่อข่าว “พระราชินีเป็นมนุษย์ที่มหัศจรรย์ มีความเฉลียวฉลาด พระราชินีและเรามีเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งที่เหมือนๆ กัน นั่นคือ ความรักและความหลงใหลในศิลปะ”
     
      สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ทรงเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก ซึ่งปกครองภูฏานมานานกว่า 100 ปี และสถาบันกษัตริย์นี้เองที่เป็นพลังสำคัญในการนำความมั่นคงมาสู่ดินแดนซึ่งเคยร้อนระอุด้วยไฟสงคราม และทำให้ภูฏานคงความเป็นเอกราชอยู่ได้ท่ามกลางวงล้อมของชาติมหาอำนาจ ขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถรักษาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม และสภาพแวดล้อมอันอุดมสมบูรณ์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
     
      นับตั้งแต่ข่าวการหมั้นหมายระหว่างสมเด็จพระราชาธิบดี และ เจ็ตซัน เปมา เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา อาจทำให้สาวๆ ชาวไทยที่ชื่นชมในพระราชจริยวัตรอันงดงามต้องอกหักไปตามๆ กัน ทว่า สำหรับชาวภูฏานซึ่งรักและเคารพสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งใด ประกาศดังกล่าวถือเป็นข่าวมหามงคลที่นำความปลาบปลื้มยินดีมาสู่พวกเขา
     
      **ตำนานรักแดนหิมาลัย
     
      สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี หรือ “เจ้าชายจิกมี” ที่คนไทยรู้จักกันดี ทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งภูฏาน เมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา พร้อมทรงนำภูฏานเข้าสู่ยุคประชาธิปไตย ตลอดจนทรงสืบสานต่อจากสมเด็จพระราชบิดาของพระองค์ ในเรื่องของปรัชญา “ความสุขมวลรวมประชาชาติ” (Gross National Happiness) อันเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก โดยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา กษัตริย์หนุ่มพระองค์นี้ทรงถูกเรียกขานด้วยพระนามต่างๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น “เค 5” ซึ่งหมายถึงรัชกาลที่ 5 หรือ “เจ้าชายผู้ทรงเสน่ห์จากแดนหิมาลัย”
     
      ด้วยพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงมุ่งมั่นปฏิบัติเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวภูฏาน พสกนิกรกว่า 700,000 คนทั่วประเทศ จึงพร้อมใจถวายความจงรักภักดีแด่กษัตริย์พระองค์ใหม่ ไม่ต่างจากที่พระราชบิดาทรงเคยได้รับมา โดยที่เสียงสะท้อนถึงพระจริยวัตรอันงดงามของกษัตริย์จิกมี เป็นสิ่งที่ได้ยินได้ฟังทั่วไปในกรุงทิมพู
     
      “รัชกาลที่ 5 แม้จะทรงครองราชย์ได้ไม่นาน แต่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมายเหลือเกิน” เชอริง ทอปเกย์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านภูฏาน ให้สัมภาษณ์ และว่า “ทรงเสด็จฯไปทุกที่ และแทบจะเรียกได้ว่า ทรงเคยพบประชาชนเกือบทุกคนในประเทศนี้”
     
      อย่างไรก็ดี ประวัติความเป็นมาของพระราชินียังไม่เป็นที่ทราบกันมากนัก เว้นแต่รายละเอียดทั่วๆ ไป เช่นว่า เธอเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลตัวยง และยังอยู่ในวัยสดสาว เธอถูกเปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคมในฐานะพระคู่หมั้น หลังจากนั้น เธอก็ได้ติดตามสมเด็จพระราชาธิบดีในการเสด็จฯเยี่ยมเยียนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยล่าสุดคือ การเสด็จฯเยี่ยมผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวทางตะวันตกของประเทศ
     
      ใบหน้างามแฉล้มของ เจ็ตซัน ปรากฏอยู่บนโปสเตอร์นับพันใบ รวมถึงของที่ระลึกอีกหลากชนิด เช่น จานที่ระลึก และเข็มกลัด ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อพระราชพิธีอภิเษกสมรสโดยเฉพาะ ขณะที่เธอสามารถเอาชนะใจชาวแดนมังกรสายฟ้าไปอย่างง่ายดาย ด้วยบุคลิกที่เคร่งขรึมและสงบเสงี่ยมเป็นนิจ
     
      ซุง ชุก นักศึกษาวิชาธุรกิจวัย 23 ปี เผยว่า “ผมไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเธอมากนัก แต่เธอสวยมาก” พร้อมกับสำทับว่า “สมเด็จพระราชาธิบดีทรงเลือกคนถูกแล้ว” ยิ่งไปกว่านั้น ชาวภูฏานจำนวนมากยังประทับใจในอิทธิพล ที่ เจ็ตซัน มีต่อกษัตริย์จิกมี ซึ่งทรงแสดงออกถึงความรักและความชื่นชมที่มีต่อพระคู่หมั้นอย่างเปิดเผย หรือแม้แต่จูงมือเธอระหว่างที่เสด็จฯไปทรงปฏิบัติภารกิจตามสถานที่ต่างๆ
     
      “พระองค์ทรงรักเธอมาก” จูร์เม โชเดน นักเรียนหญิงวัย 16 ปี ให้สัมภาษณ์ระหว่างรอซ้อมการแสดง ซึ่งใช้ในพิธีเฉลิมฉลองอภิเษกสมรสวันที่ 15 ตุลาคม “ไม่ว่าจะเสด็จฯไปที่ไหน ก็จะทรงจูงมือพระคู่หมั้นตลอดเวลา ตอนนี้เด็กวัยรุ่นก็เริ่มทำตามกันแล้ว”
     
      กษัตริย์จิกมี ทรงพบ พระราชินีเจ็ตซัน เป็นครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน ระหว่างเสด็จฯไปทรงพักผ่อนเป็นการส่วนพระองค์กับพระราชวงศ์ ซึ่งขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 17 พรรษา ส่วน เจ็ตซัน บุตรสาวของกัปตันสายการบิน ดรุก แอร์ ของภูฏานก็ยังเป็นเพียงเด็กหญิงวัย 7 ขวบเท่านั้น
     
      เจ้าชายหนุ่มทรงคุกพระชงฆ์ลงกับพื้น และตรัสกับเด็กน้อยว่า “เมื่อเธอโตขึ้น หากฉันยังไม่แต่งงาน และเธอก็ยังไม่มีใคร ฉันจะแต่งงานกับเธอ หากว่าความรู้สึกของเรายังเหมือนเดิม”
     
      เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาจากอินเดียและสหรัฐฯ สมเด็จพระราชาธิบดี หรือ เจ้าชายจิกมี ในขณะนั้น ก็ทรงเข้าศึกษาระดับปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ซึ่งพระสหายของพระองค์ที่นั่นเล่าว่า ทรงเป็นนักศึกษาที่ตั้งใจเล่าเรียนอย่างยิ่ง
     
      “ท่านไม่ค่อยชอบออกงานสังคมเท่าไหร่ แต่ก็ทรงมีพระสหายหลายคน” พระสหายคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุ “เมื่อก่อนทรงเป็นอย่างไร ตอนนี้เมื่อทรงเป็นกษัตริย์แล้วก็ยังทรงเป็นอย่างนั้น คือเป็นคนมีเหตุผลและเชื่อถือได้”
     
      คินเลย์ เปม ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมลังเทนแซมปา ซึ่งเคยถวายพระอักษรแด่กษัตริย์จิกมี และสอน เจ็ตซัน เปมา ในต่างช่วงเวลากัน เล่าว่า เธอยังจำ พระราชินีพระองค์ใหม่แห่งภูฏานได้ดีว่าเป็นกัปตันทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน และเคยคว้ารางวัลด้านการพูดในที่ประชุมชนมาแล้ว
     
      “เธอไม่เคยมีท่าทีมักใหญ่ใฝ่สูง และฉันเชื่อว่า เธอไม่เคยคิดฝันด้วยซ้ำว่าจะได้เป็นพระราชินี” ผอ.โรงเรียน เผย
     
      ปัจจุบัน พระราชินีเจ็ตซัน ทรงกำลังศึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาวิทยาลัยรีเจนต์ในกรุงลอนดอน และมีความสนใจงานศิลปะต่างๆเป็นพิเศษ แต่บทบาทของพระองค์นับจากนี้คือการปฏิบัติภารกิจด้านการกุศล และถวายการอบรมแก่รัชทายาทแห่งบัลลังก์ภูฏานพระองค์ถัดไป ทันทีที่มีพระราชโอรส-ธิดา
     
      และแน่นอนว่า หลังผ่านพ้นพระราชพิธีอภิเษกสมรส ประชาชนชาวภูฏาน รวมทั้งสังคมโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนคนไทยที่มีความผูกพันกับกษัตริย์จิกมีคงจะเฝ้าติดตามพระราชกรณียกิจของทั้งสองพระองค์อย่างใกล้ชิดต่อไป รวมทั้งติดตามข่าวดีของการก่อกำเนิดรัชทายาทแห่งดินแดนมังกรสายฟ้าอย่างมิวางตาเลยทีเดียว


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000131419

กษัตริย์จิกมีเตรียมอภืเษกสาวสามัญชนโดยดำรง พุฒตาล2


บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:53:50 »

"ภูฏาน" และพิธีราชาภิเษกสมรส ที่ปลุก "ความสุขมวลรวมประชาชาติ"


   ช่างทอชุดในภูฏานกำลังทำงานอย่างขะมักเขม้น ท่ามกลางความตื่นเต้นของชาวภูฏานที่จะได้ชมพระราชพิธีอภิเษกสมรสของพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุกตามแบบราชประเพณี

   สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี พระชนม์พรรษา 31 พรรษา ซึ่งทรงขึ้นครองราชย์เมื่อปี 2008 จะเข้าพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับ นส.เจตซุน เพมา สตรีสามัญชนวัย 21 ปี ในวันที่ 13 ตุลาคมนี้

   

   คณะผู้จัดงานได้จัดเตรียมพระราชพิธีแบบเรียบง่าย ซึ่งเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าราชวงศ์ภูฏานทุกพระองค์ทรงมีพระจริยาวัตรเรียบง่าย ซึ่งแตกต่างจากประชาชนชาวภูฏานส่วนใหญ่ที่รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สัมผัสพิธีอันเป็นมงคลครั้งหนึ่งในชีวิต

   ณ บ้านหลังหนึ่งในกรุงทิมพู เคลซาง โชเดน และมารดาของเธอกำลังเร่งตัดชุดให้แก่ว่าที่สมเด็จพระราชินีคนใหม่ ซึ่งใช้เส้นใยทองคำและสีเหลืองเป็นหลัก

   

   โชเดนกล่าวว่า ว่าที่พระราชินีจะสวมชุดซึ่งเป็นสีตามธาตุ ซึ่งตามวัฒนธรรมของภูกานแล้วมีทั้งหมด 5 ธาตุ อาทิ สีแดงคือธาตุไฟ และสีเหลืองคือธาตุดิน ขณะที่ว่าที่พระราชินีทรงเกิดในธาตุดิน ดังนั้นชุดของพระองค์จึงต้องมีสีเหลือง

   นส.เจตซุน เพมา ว่าที่พระราชินีซึ่งได้สั่งตัดคีร่า (Kira) ซึ่งเป็นชุดประจำชาติสำหรับสตรีไว้หลายชุด ทอจากไหมดิบ ที่ใช้เวลาหลายเดือนในการทอและอาจมีราคาสูงถึง 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 90,000 บาท)

   ขณะนี้ช่างทอผ้าชื่อดังหลายคนของภูฏานกำลังแข่งกันตัดชุดถวายว่าที่ราชินี โชเดนเผยว่า หากใครได้รับเลือกก็จะถือเป็นเกียรติอันสูงสุด โดยมารดาของเธอ นางคึนซาง วังชุก เคยถวายงานตัดฉลองพระองค์สำหรับพระมหากษัตริย์และพระราชินีทั้ง 4 พระองค์ก่อนมาแล้ว ซึ่งรวมถึงพระขนิษฐาของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน

   

   ภูฏานเป็นประเทศแรกที่คิดค้น "ความสุขมวลรวมประชาชาติ" (Gross National Happiness) เพื่อเป็นมาตรการในการวัดระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชากรในประเทศ แทนการวัดการพัฒนาจากอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ภูฏานไม่มีถนนถึงหรือกระทั่งหน่วยเงินตราแลกเปลี่ยนของตนเอง จนกระทั่งเมื่อกลางยุค 1960 และเพิ่งมีโทรทัศน์เมื่อปี 1999

   ภูฏานยังคงดำเนินมาตรการจำกัดการท่องเที่ยวภายในประเทศ และเพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวครั้งแรกเมื่อปี 1974 ปัจจุบันเก็บภาษีท่องเที่ยวสูงถึงหลายร้อยดอลลาร์สหรัฐต่อคนต่อวัน และไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางในประเทศโดยไม่มีไกด์ท้องถิ่นประกบติด ด้วยเกรงว่าการไหลบ่าของนักท่องเที่ยวจะทำลายสภาพแวดล้อมของประเทศ

   สถานที่หลักในการประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส จะมีขึ้นที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองปุนาคา ตั้งอยู่ในหุบเขาลึก ซึ่งมีแม่น้ำไหลผ่าน 2 สาย สถานที่ดังกล่าวสามารถเข้าถึงด้วยสะพานทางเท้าเท่านั้น ขณะที่มีการเร่งบูรณะสถานที่จัดพิธี อาทิ การทาสีใหม่ และการแต่งสวน

   นายดอร์จิ วังชุก โฆษกสำนักพระราชวังเผยว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงย้ำมาโดยตลอดว่าต้องการให้พิธีเรียบง่ายและเป็นไปตามประเพณี ซึ่งเป็นแนวทางที่ทรงยึดในการดำเนินพระองค์ เนื่องจากพระองค์ไม่ทรงโปรดความหรูหราฟู่ฟ่า ดังนั้นจึงไม่มีการเชิญราชวงศ์หรือหัวหน้ารัฐบาลต่างชาติมาร่วมในพิธี ซึ่งเป็นสิ่งที่เปรียบเทียบไม่ได้กับพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคเธอรีน

   กษัตริย์วังชุก ซึ่งทรงโปรดการเล่นเบสบอล และทรงเป็นแฟนเพลงตัวยงของเอลวิส เพรสลีย์  สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 5 ของราชวงศ์วังชุก ซึ่งปกครองประเทศมานับตั้งแต่ปี 1907

   สมาชิกราชวงศ์ส่วนใหญ่ใช้ชีวิตในบ้านพักเดี่ยวในกรุงทิมพู มากกว่าในพระราชวัง โดยหนึ่งในกลุ่มแขกที่ได้รับเชิญล่าสุด คือสมาชิกสมาคมยกน้ำหนักแห่งทิมพู
   
   
   งานพิธีเฉลิมฉลองหลักจะจัดขึ้นที่สนามกีฬากรุงทิมพู ในวันที่ 16 ตุลาคมนี้  ด้านพสกนิกรชาวภูฏานต่างตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในงานฉลองและจะได้ชมพระบารมีของสมเด็จพระราชาธิบดีและพระราชินีพระองค์ใหม่ พร้อมทั้งชมการแสดงทางวัฒนธรรมหลายหลายประเภท อีกทั้งประชาชนชาวภูฏานเองก็จะได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสืบสานวัฒนธรรม โดยการร่วมสวมชุดประจำชาติที่ดีที่สุดของตนกันอย่างพร้อมเพรียง

   ผู้หญิงหลายคนเลือกที่จะสวมชุด"คิร่า" ขณะที่ผู้ชายจะใส่ชุด " โฆ" ซึ่งเป็นชุดที่พวกเขาสวมใส่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เพื่อแสดงความเป็นชาติ

   

   ขณะที่เจ้าของร้านผลิตและจำหน่ายรองเท้าบูทประจำชาติในกรุงทิมพู เปิดเผยว่า ยอดการสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า นับตั้งแต่ที่สมเด็จพระราชาธิบดีทรงประกาศพิธีอภิเษกสมรสเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยพนักงานของเขาต้องทำงานล่วงเวลาทุกวันนับตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนกระทั่ง 4 ทุ่ม

   สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ขึ้นครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2006 ต่อจากสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก พระราชบิดา ซึ่งทรงประกาศสละราชสมบัติให้แก่มกุฎราชกุมารจิกมี เคซอร์ นัมเกล วังชุก ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาธิบดีองค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุก ซึ่งเร็วขึ้นจากเดิม 2 ปี เนื่องจากทรงเห็นว่าภูฏานกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านระบอบการปกครองของประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปสู่ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1315384190&grpid=03&catid&subcatid

The Royal Wedding King Jigme And Queen of Bhutan


Bhutan`s Royal Wedding ♥♥


Bhutan Royal Wedding 2011
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:56:09 »

กษัตริย์จิกมี สุดโรแมนติก จุมพิตราชินี อวดชาวภูฏาน


 
   เห็นภาพจุมพิตบันลือโลกสุดหวานเจี๊ยบที่ “สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก” โชว์ความสวีต จุ๊บ “สมเด็จพระราชินีเจ็ตซัน” ต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก โดยทำสถิติจุ๊บทีเดียวสามครั้งรวด!! สาวๆทั่วโลกคงกรี๊ดกันสลบ และอยากล้วงลึกว่า ทำไมซินเดอเรลล่าสาวผู้นี้จึงพิชิตหัวใจกษัตริย์หนุ่มเจ้าเสน่ห์มาครองได้?!
   
   เธอคือรักแท้รักแรกในวัยเยาว์ของ “กษัตริย์จิกมี” และเมื่อทั้งคู่โคจรกลับมาพบกัน พร้อมตกลงใจคบหาเป็นคู่รัก ขณะนั้น “สาวน้อยเจ็ตซัน” มีวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น และเพิ่งเรียนจบมัธยมปลายจากโรงเรียนมัธยมลอว์เรนซ์ เมืองซานาวาร์ รัฐหิมาจัลประเทศ เธอถูกเรียกตัวเข้าวังภูฏานทันที เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเป็นว่าที่พระราชินีองค์ใหม่
      
 
      อันที่จริง “กษัตริย์จิกมี” ทรงมีพระประสงค์ที่จะเก็บงำความสัมพันธ์ไว้เงียบเชียบ และแม้กระทั่งการหมั้นหมายของทั้งคู่ก็ดำเนินไปอย่างเงียบๆมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนจะทรงประกาศข่าวอภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการ เนื่องจากตั้งพระทัยว่า นอกจากพระราชินีของพระองค์ต้องเป็นสตรีชาวภูฏานแท้ๆแล้ว ยังจะต้องเข้ากับครอบครัวของพระองค์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือ ต้องมีประวัติขาวสะอาดไม่เคยออกเดตกับหนุ่มคนใด
   
 
   ภายในเวลา 4 ปีเศษ เด็กสาวบุคลิกร่าเริงแจ่มใส รูปร่างสูงโปร่งราว 5 ฟุต 10 นิ้ว ซึ่งเป็นนักกิจกรรมตัวยงของโรงเรียน และชอบเล่นบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ เช่นเดียวกับความชื่นชอบในศิลปะแบบเดียวกับ “กษัตริย์จิกมี” ก็ค่อยๆเปลี่ยนจากดักแด้กลายเป็นผีเสื้อแสนสวย ไม่เพียงแต่จะทรงงดงามเปล่งประกายขึ้นผิดหูผิดตา ทว่า “เจ็ตซัน” ยังเติบโตขึ้นเป็นสุภาพสตรีเต็มตัว และสามารถวางตัวได้อย่างยอดเยี่ยม ราวกับเกิดมาเพื่อเป็นเจ้าหญิง แม้จะแอบกุ๊กกิ๊กบ้าง
      
 
      และ “กษัตริย์จิกมี” นี่เอง คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด โดยเฉพาะปฏิบัติการแปลงโฉมซินเดอเรลล่าสาวครั้งใหญ่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการฉายพระรูปคู่เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในฐานะว่าที่พระราชินีองค์ใหม่ของภูฏาน เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กษัตริย์หนุ่มรูปงามทรงคุมเข้มทุกขั้นตอนด้วยพระองค์เอง ตั้งแต่การเลือกเมกอัพอาร์ทิสต์และช่างทำผมชื่อดังจากประเทศไทย, การจัดหาทีมช่างภาพที่ถูกพระทัย รวมไปถึงการคัดเลือกภาพเปิดตัว
   
 
   โชคดีที่ผลงานของแฮร์สไตลิสต์เมืองไทย “คุณใหม่-รัชดา พ่วงพวงงาม” และเมกอัพอาร์ทิสต์คิวทอง “คุณป๊อก-พรรวิษิษฐ์ สุขารมณ์” เป็นที่ถูกพระทัยของ “กษัตริย์จิกมี” ทั้งคู่จึงได้รับความไว้วางพระทัยให้ทำหน้าที่แต่งหน้าทำผมถวายพระราชินีองค์ใหม่อีกครั้ง ตลอดงานพระราชพิธีอภิเษกสมรส วันที่ 13-15 ต.ค. 2554 โดยทั้งคู่เล่าว่า ได้เดินทางมาถึงภูฏานตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียมงานล่วงหน้า และก่อนถึงวันจริงหนึ่งวัน “กษัตริย์จิกมี” โปรดเรียกตัวเข้าไปที่วัง เพื่อให้ทดลองแต่งหน้าทำผมเจ้าสาว โดยได้ทำให้เลือก 3 สไตล์ พระองค์รับสั่งว่า ไม่เอาทรงเก่าที่เคยเกล้าผมตอนถ่ายพระรูปเปิดตัว เพราะเคยทำไปแล้ว และโปรดให้เป็นสไตล์โก้หรูเป็นธรรมชาติ ไม่ฟู่ฟ่าเกินไป ซึ่งก็เข้ากับบุคลิกของเจ้าสาวที่ชื่นชอบทรงผมสบายๆเป็นธรรมชาติ ไม่เนี้ยบมาก
   
 
   และแล้วเมื่อถึงวันจริงคือ วันที่ 13 ต.ค.2554 ซึ่งเป็นพระราชพิธีทางการสำคัญที่สุด ทีมแต่งหน้าทำผมจากเมืองไทยต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อไปเตรียมแต่งหน้าทำผมให้เจ้าสาวที่ตำหนักใกล้ๆ “พูนาคา ซอง” สถานที่จัดพระราชพิธีอภิเษกสมรส โดยระหว่างที่กำลังขะมักเขม้นแปลงโฉมเจ้าสาวให้สวยพริ้ง เจ้าบ่าวสุดหล่อก็เสด็จเข้ามาเซอร์ไพรส์พระราชินีของพระองค์ พร้อมกอดและจุมพิตให้กำลังใจหนึ่งจุ๊บ...สวีตสุดๆแบบนี้ ก็ต้องเห็นใจพระองค์ท่านนะเพคะ เป็นเจ้าบ่าวคนไหนก็ตื่นเต้นอยากเห็นหน้าเจ้าสาวเร็วๆ ส่วนที่ปลื้มสุดๆก็คือ “กษัตริย์จิกมี” ทรงรับปากกับสื่อไทยแล้วว่าจะทรงพาพระราชินีเจ็ตซันเสด็จฯมาเยือนประเทศไทยในเร็วๆนี้แน่นอน เพราะทรงรักเมืองไทย และทราบดีว่าคนไทยรักพระองค์ขนาดไหน...ก็ได้แต่ลุ้นว่า จะทรงเลือกเมืองไทยเป็นสถานที่ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์!!

http://www.thairath.co.th/content/life/209737


BHUTAN ROYALS KISS.MP4

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5068


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 ตุลาคม 2554 09:57:10 »



เปิดตำนานรักแห่งแดนหิมาลัย “กษัตริย์จิกมี-พระคู่หมั้น” คู่ขวัญแห่งภูฏาน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000131921

ชาวภูฏานสุดปลื้ม! กษัตริย์จิกมีทรง “จุมพิต” พระราชินีในพิธีฉลองอภิเษกสมรส

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000129959

พสกนิกรชื่นมื่น! กษัตริย์จิกมีทรงอภิเษกสมรส “เจ็ตซัน เปมา” เป็นพระราชินีภูฏาน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000130518
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.066 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 02 เมษายน 2567 15:10:41