ทำไม ‘เพลงเพื่อชีวิตยุคเก่า’ จึงแผ่วหายในการชุมนุมปี 2563
<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-01-04 17:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล : รายงาน</p>
<p>กิตติยา อรอินทร์ : ภาพปก</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>การชุมนุมของเยาวชน นิสิต นักศึกษาในปี 2563 กลายเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จิตสำนึกทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ผลิบาน เพลงเพื่อชีวิตรุ่นเก่ายุค 80-90 กลับแผ่วหายไปจากการชุมนุมที่มักเป็นของคู่กันมาตลอด ทำไมคนรุ่นใหม่ ณ เวลานั้นจึงไม่เอาเพลงเพื่อชีวิตยุคเก่า ‘ประชาไท’ ชวนไปหาคำตอบ</p>
<div class="summary-box">
<ul>
<li>การขึ้นเวที กปปส. ของศิลปินเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่จำนวนหนึ่งและการแต่งเพลงสนับสนุนประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือเป็นจุดสิ้นสุดของเพลงเพื่อชีวิตยุคเก่า</li>
<li>เพลงเพื่อชีวิตต้องไม่รับใช้อำนาจ แต่ต้องรับใช้ประชาชนในฐานะที่เท่าเทียมกันกับศิลปิน มิใช่วางตัวเหนือกว่าประชาชน</li>
<li>ดนตรีเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 21 เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ทางดนตรีของคนรุ่นใหม่ด้วยตนเองและปลดแอกจากคนเดือนตุลาฯ เกิดเพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่ที่มีความหลากหลายทั้งท่วงทำนองและแนวดนตรี</li>
<li>เมื่อจิตสำนึกประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่เพิ่มสูงขึ้น พวกเขาจึงพิจารณาทั้งบทเพลงและตัวศิลปินว่ามีอุดมการณ์สอดคล้องกับบทเพลงของตน สอดคล้องกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนหรือไม่ ผลคือศิลปินเพลงเพื่อชีวิตรุ่นใหญ่จำนวนหนึ่งมีจุดยืนสนับสนุนรัฐประหาร ทำให้พวกเขาบทเพลงเหล่านี้ไม่ตอบโจทย์สังคมการเมืองและหมดหน้าที่ไปแล้ว</li>
</ul>
</div>
<p> </p>
<p>อาจจะช้าเกินไปมาก แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปในการชุมนุมของนักเรียน นักศึกษา และเยาวชนในปี 2563 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย เกิดการชุมนุมที่นำโดยนักเรียน นักศึกษากระจายไปทั่วประเทศ หากไม่มีโควิด-19 เข้ามาแทรกแซงจังหวะ ตอนนี้ฉากทัศน์การเมืองไทยอาจเป็นอีกแบบ?</p>
<p>การชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่ๆ องค์ประกอบที่ขาดไม่ได้คือเพลงและดนตรีเพื่อชีวิต (แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีเพลงแนวอื่นในการชุมนุม) ในการชุมนุมใหญ่ทางการเมือง 4 ครั้งก่อนหน้านั้น-พฤษภาทมิฬ 2635, พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปี 2549 และ 2551, การชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เราได้เห็นบทบาทและฟังบทเพลงของนักดนตรีเพื่อชีวิตที่เฟื่องฟูในยุค 80-90</p>
<p>ทว่า ในปี 2563 กลับต่างออกไป บทบาทและบทเพลงเพื่อชีวิตในอดีตแทบจะเหือดหายไปจากความรับรู้ของเยาวชน เพลงเพื่อชีวิตที่คนยุคนั้นคุ้นเคยในสไตล์ดนตรีกลับมีแร็ป ร็อค ป๊อป และแนวอื่นๆ ผลิขึ้นมาแทนที่</p>
<p>บทบาทของนักดนตรีเพื่อชีวิตในอดีตและบทเพลงของพวกเขาหายไปไหน?</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กปปส. กับจุดสิ้นสุดของเพลงเพื่อชีวิตยุคเก่า</span></h2>
<p>ชิษณุพงศ์ อินทร์แก้ว นักวิชาเกรียน (เจ้าตัวนิยามตัวเอง) ผู้เขียนวิทยานิพนธ์ ‘เพลงประท้วงในประเทศไทย ยุคหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557’ อธิบายว่า ในช่วงการชุมนุมของ กปปส. มีกลุ่มศิลปินเพื่อชีวิตระดับตำนานหลายคน ขึ้นเวทีม็อบ กปปส. นั่นถือเป็นจุดสิ้นสุดของเพลงเพื่อชีวิตยุคเก่าและเป็นจุดเริ่มต้นของเพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่</p>
<p>เขาเล่าว่าตอนที่แอ๊ด คาราบาวหรือยืนยง โอภากุลแต่งเพลงนาวารัฐบุรุษ ปี 2557 ก็ทำให้เกิดกระแสลบทางการเมืองต่อนักเพลงเพื่อชีวิตยุคนั้น ตอนปี 2563 ที่มีการชุมนุมใหญ่ที่สุดหลังจากปี 2557 ที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues เล่นเพลงเมดอินไทยแลนด์กลับโดนผู้ร่วมชุมนุมโห่ นั่นเป็นจุดหนึ่งที่ชิษณุพงศ์เห็นว่าหมดยุคของศิลปินเพื่อชีวิตในอดีตแล้ว</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53441655156_8e6e621968.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ชิษณุพงศ์ อินทร์แก้ว</span></p>
<p>ชิษณุพงศ์กล่าวต่อว่า ขณะที่เพลงเพื่อชีวิตยุค 6 ตุลาคม 2519 หรือเพลงยุคป่าซึ่งมีอุดมการณ์ชัดเจนที่ตรงกับการชุมนุมปี 2562-2563 เพลงจึงไม่ใช่แค่เพลง แต่ผูกโยงอุดมการณ์ของผู้ร้องเข้าไปด้วย ทำให้เพลงของวงโฮปหรือคีตาญชลีได้เปล่งเสียงในการชุมนุม อย่างไรก็ตาม เพลงยุคนั้นที่เป็นที่รู้จักวงกว้าง เช่น ถั่งโถมโหมแรงไฟ แสงดาวแห่งศรัทธ ยังได้รับการขับขาน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงยุคป่า เพลงสหาย อย่างเพลงจากลานโพธิ์ถึงภูพาน เป็นต้น</p>
<p>ในมุมมองส่วนตัวของชิษณุพงศ์เห็นว่าเป็นเรื่องราวยุคหลังออกจากป่า เช่น คาราวานยุคหลังออกจากป่าแล้วก็มีคาราบาวเกิดขึ้น รวมถึงศิลปินเพื่อชีวิตอื่นๆ เมื่อเพลงเพื่อชีวิตเข้าสู่ยุคธุรกิจเทปบวกกับกลไกทุนนิยมทำให้เจ้าของค่ายเพลงซึ่งมีส่วนเกี่ยวเนื่องกับรัฐบาลทหารอยู่แล้ว ทำให้เนื้อหาของเพลงเพื่อชีวิตยุคขบวนการนักศึกษาปี 2516 ถูกลดทอนเนื้อหาลงเหลือเป็นเพียงแฟชั่น กลายเป็นเพลงรักหรือเพลงที่พูดถึงชีวิต เพลงเพื่อชีวิตกลายเป็นสินค้าซึ่งเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เพลงเพื่อชีวิตเนื้อหาเบาลงไป ไม่กล้าวิพากวิจารณ์รัฐบาล แนวคิดสังคมนิยมที่เคยอยู่ในเพลงเพื่อชีวิตก็เหือดหายไป</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/oVxoA0epfe0?si=hWdhQtTRNB_OPApk" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เพลงที่ไม่รับใช้อำนาจ</span></h2>
<p>ถึงจุดนี้ต้องย้อนกลับไปหานิยามของเพลงเพื่อชีวิต เราเลือกถามคำถามนี้กับชูเวช เดชดิษฐรักษ์ แห่งวงสามัญชนซึ่งให้นิยามว่าคือเพลงที่พูดถึงชีวิต พูดถึงเลือดเนื้อของคน เขาอธิบายว่าปกติแล้วเพลงในบริบทโลกมักรับใช้อำนาจบางอย่าง เช่น เพลงคลาสสิค เพลงโอเปร่ารับใช้ชนชั้นสูง ในโบสภ์มีการใช้เพลงเพื่อสร้างความโอ่อ่า ความอลังการ ความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในดนตรีไทย จิตร ภูมิศักดิ์เขียนว่าได้รับอิทธิพลจากเขมรสืบทอดมาเป็นเพลงที่พูดถึงความสง่าผ่าเผยของสถาบันพระมหากษัตริย์ ความสง่าผ่าเผยของอิริยาบถต่างๆ</p>
<p>“ผมคิดว่าการครอบครองดนตรีคือการครอบครองอำนาจในการส่งต่อความรู้สึกบางอย่างต่อผู้คน เพื่อใช้มันสนับสนุนอำนาจของชนชั้นปกครอง ดังนั้น ดนตรีเพื่อชีวิตของมนุษย์ย่อมแตกต่างกันกับดนตรีในอดีตที่เอาไว้รับใช้ชนชั้นสูง”</p>
<p>เมื่อเป็นเช่นนี้ เพลงเพื่อชีวิตจึงมีราคาที่ต้องจ่าย หลายครั้งคราที่ฝ่ายปกครองไม่ยอมรับ ชูเวชยกตัวอย่างบ็อบ ดีแลน ที่เพลงของเขาไม่เคยอยู่ในสถานะเครื่องมือของรัฐ ขณะที่เอลวิส เพรสลี่เป็นเครื่องมือของรัฐชัดเจน ผ่านกิจกรรมเดินสายเพื่อส่งต่ออุดมการณ์ชาตินิยม โจมตีคอมมิวนิสต์ เพราะฉะนั้นดนตรีเพื่อชีวิตจึงเป็นเพลงที่อุทิศให้ชีวิตมนุษย์ ซึ่งจิตร ภูมิศักดิ์จะอธิบายขยับไปอีกว่าดนตรีเพื่อชีวิตควรเป็นดนตรีเพื่อประชาชนและประชาชนไม่จำเป็นต้องชอบ หมายความว่าหลายครั้งดนตรีศิลปะเพื่อประชาชน มันไปกระตุก กระชาก ความจริงบางอย่างที่ประชาชนไม่อยากฟัง</p>
<p>“ผมคิดว่าผมยอมรับแล้วถูกสังคมสาปแช่งก็ได้ แม้ว่าโอเค เราคิดว่าเราจะทำเพื่อชีวิต แล้วรวมไปถึงเพื่อชีวิตเราเอง คือเราไม่ได้คิดว่ามันแยกขาดหรืออุทิศตนขนาดนั้น ผมจะหมายถึงว่าเพื่อชีวิตผมด้วย ถ้าไปดูเพลงเพื่อชีวิตยุค 14 ตุลาคมจะมีเซ๊นส์ความเป็นปัญญาชนชี้นำสังคม มี hierarchy นิดหน่อยไหม ซึ่งผมไม่เคยเรียกตัวเองแบบนั้น แต่ถ้าเราเป็นวงดนตรีเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 21 เรารับได้กับคำนี้ เพราะว่าเรากลัวที่จะต้องแบกคำว่าเพื่อชีวิตในยุคก่อนมาด้วย”</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/VYOjWnS4cMY?si=MGYy_CqIT1OUr6JL" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>ดังนั้น เพลงเพื่อชีวิตจึงไม่ถูกจำกัดด้วยแนวดนตรี แต่อยู่ที่เนื้อหา ชูเวชมีทัศนะว่าเพลงของ EMINEM ก็มีเนื้อหาเป็นเพลงเพื่อชีวิต หรือเพลงแร็ป THIS IS AMERICA ของดอนัลด์ โกลเวอร์ ที่พูดถึงประเทศอเมริกาเป็นประเทศที่มีแต่อาชญากรรม การสบถของคนผิวดำที่ปลดปล่อยเรื่องราวโครงสร้างอยุติธรรมของอเมริกา ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://tlhr2014.com/wp-content/uploads/2020/09/DSCF0153.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ แห่งวงสามัญชน (คนกลาง)</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ดนตรีเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 21</span></h2>
<p>ชูเวสกล่าวว่าดนตรีเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 21 ต่างจากดนตรีเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 20 ตรงที่ศิลปินเห็นตนเองเป็นส่วนหนึ่งของผู้ได้ประโยชน์ อยู่ในระนาบเดียวกันของคำว่าชาวบ้าน ไม่ใช่ปัญญาชนที่ชี้นิ้วสั่งการ หรือบอกว่าอุทิศตนให้</p>
<p>“เราอยู่ในระนาบเดียวกับเขา เท่ากันกับมวลชน ซึ่งวิธีคิดแบบนี้เราจะไม่รู้สึกว่าเราเสียสละอะไรมากมายครับ และเราไม่ได้คิดว่ามวลชนจะต้องตอบแทนอะไรเราในอนาคต เราเห็นวงเพื่อชีวิตหลายวงที่วันหนึ่งเคยร้องคำว่าโค่นล้มจักรพรรดิฟาสซิสต์ ศักดินา แล้ววันหนึ่งก็ไปร่วมกับม็อบที่สามารถเทิดพระเกียรติ เรียกร้องนายกฯ มาตรา 7 ได้อย่างไม่อายอุดมการณ์ตัวเอง คือซ้ายเก่าบางคนอาจจะไม่เชื่อเรื่องประชาธิปไตยแล้วก็ได้ เขาอาจจะต้องการยึดอำนาจรัฐเพื่อเปลี่ยนแปลง ทีนี้พอถึงเวลาที่มีคนมารัฐประหารเขาเลยไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อน เพราะว่า concept ของการคิดว่าคนนี้เป็นคนดีหรือเปล่า ถ้าอำนาจอยู่ฝั่งที่เราชอบ เราก็แฮปปี้ มันคือต้องการปลายทางที่ดีเลย คนกลางไม่ได้นำไปสู่สิ่งนั้น แสดงว่าเป้าหมายของการโค่นล้มจักรวรรดิฟาสซิสต์และศักดินาของเขาในอดีตมันคือการสร้างฟาสซิสต์ใหม่หรือเปล่า”</p>
<p>เพลงเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 20 ณ เวลานี้ที่การต่อสู้ของประชาชนเข้มข้นมาก มันหมดหน้าที่แล้วหรือไม่ ชูเวชกล่าวว่าเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เด็กรุ่นใหม่ก็ยังร้อง มันพิสูจน์ผ่านกาลเวลา แล้วพวกเขาก็พิจารณามากขึ้นว่าใครเป็นผู้แต่ง ต่อให้เนื้อหาดีแต่ถ้าพิจารณาแล้วเป็นการผลิตซ้ำหรือเพิ่มอำนาจให้ผู้แต่ง พวกเขาก็ไม่นำมาร้อง แต่เลือกที่จะเปิดโอกาสให้วงใหม่ๆ ได้มีพื้นที่ ชูเวชเข้าใจว่าเด็กรุ่นใหม่พยายามสร้างประวัติศาสตร์ เพราะรุ่นเขาโตมากับการถูกคนยุคเดือนตุลาฯ ทวงบุญคุณและปรามาสพวกเขาไว้มากว่าเป็นพวกไม่สนใจการเมือง ทำม็อบลงถนนไม่ได้ เอาแต่เพลงเก่าๆ ไปร้อง ไม่ผลิตผลงานตัวเอง</p>
<p>“ผมก็เลยเลือกที่จะไม่ร้องเพลงที่เชื่อเรื่องฟาสซิสต์ไปเลย ไปให้สุด แต่งเพลงของตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นของวงสามัญชนว่าเราอยากบันทึกประวัติศาสตร์ของตัวเอง อยากมีเพลงของตัวเองไว้ให้ร้อง อย่าง เพลงอนาคตคือ ของมิลลิกับยังโอห์ม ผมว่านี่คือเพื่อชีวิตนะ แค่อยู่ในฟอร์มของ RAP เฉยๆ”</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe width="560" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/59xwwN065IY?si=ga3rup5Bo0MhYOUV" title="YouTube video player" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen=""></iframe></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ศิลปินเพื่อชีวิต แต่สนับสนุนรัฐประหาร</span></h2>
<p>ส่วนชิษณุพงศ์เลือกที่จะเรียกว่า เพลงประท้วงหรือ Protest Song ในภาษาอังกฤษ เพราะไม่มีคำว่า Music for Life ในต่างประเทศ ขณะที่เพลงประท้วงมีความหมายที่ตรงกับเพลงเพื่อชีวิตในสังคมไทยมากกว่า ซึ่งหมายถึงเพลงเพื่อประชาชน เพลงที่ต้องการให้สังคมดีกว่าเดิม</p>
<p>นอกจากนี้เพลงเพื่อยุคก่อนก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักเป็นส่วนใหญ่ แต่เพลงที่เล่าเรื่องราวชีวิตคนจน เพลงที่พูดถึงปัญหาความรุนแรงเชิงโครงสร้างแทบไม่มี นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกจะใช้คำว่า เพลงประท้วงสำหรับเพลงที่พูดถึงชีวิตผู้คนและลดความ romanticize ของเพลงเพื่อชีวิตลง เขายกตัวอย่างเพลงประท้วงของวงสามัญชนที่พูดถึงปัญหาความรุนแรงเชิงโครงสร้าง ซึ่งเขาถือว่าเป็นเพลงประท้วงที่เกิดขึ้นในยุคนี้</p>
<p>แล้วเพลงเพื่อชีวิตในศตวรรษที่ 20 ล่ะเป็นอย่างไร ชิษณุพงศ์อธิบายว่าเป็นยุคของธุรกิจเทปที่ทำให้เพลงเพื่อชีวิตได้รับความนิยมสูงเนื่องจากพูดถึงคนจน ชีวิตชนบท ความรักที่ไม่สมหวัง มีความ romanticize ที่ทุนนิยมอนุญาตว่าต้องสู้ทุกวันเพื่อชีวิตที่ดี แต่ทุนนิยมไม่อนุญาตให้วิพากษ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เพลงเพื่อชีวิตในยุคนั้นจึงโดนลดทอนเป็นเพียงแฟชั่น โดนลดทอนความเป็นศิลปินเพื่อประชาชน</p>
<p>“ในเรื่องบทบาททางการเมือง ผมว่ามันก็โดนลดบทบาทเพราะอาจเรียกได้ว่าเป็นการเลือกฝั่งเผด็จการในยุคนั้น ซึ่งเป็นปกติของนักดนตรีที่บางทีเขาอาจจะไม่มีความแหลมคมทางการเมือง สนับสนุนรัฐประหาร มันไม่ตรงกับศิลปินเพื่อชีวิตอยู่แล้ว เพื่อชีวิตเป็นเพลงของผู้ที่มีสถานะรองหรือเป็นคนที่ต่อต้านอำนาจนิยม แต่เขาไปสนับสนุนพวกนี้ก็ไม่สมเหตุสมผล แล้วก็ไม่มีหลักอะไรสักอย่างที่จะพูดเนื้อหาทางการเมือง ปัจจุบันตำนานหลายท่านสนับสนุนรัฐประหาร ไม่อยู่ในร่องในรอย ไม่ได้เหมือนตอนที่สนับสนุนขบวนการนักศึกษา มันเลยทำให้เขาโดนลดทอนความเป็นศิลปินเพื่อประชาชน</p>
<p>“แล้วก็เกิดศิลปินอย่างพวกแก้วใส วงสามัญชนที่มีอุดมการณ์ชัดเจน ต่อสู้กับเผด็จการ มันตรงข้ามกับศิลปินเพื่อชีวิตในตำนานบางคนที่พัวพันกับผู้มีอำนาจ พัวพันกับการเชียร์ให้คนไปบุกรุกป่า มันจึงโดนลดทอนไปเลย”</p>
<p>ดังที่ชิษณุพงศ์กล่าวไว้ในช่วงแรกว่าเพลงเพื่อชีวิตยุคก่อนสิ้นสุดลงเกิดการชุมนุมของ กปปส. และเมื่อแอ๊ด คาราบาวแต่งเพลงนาวารัฐบุรุษ ขณะเดียวกันก็มีเพลงบทเพลงของวงสามัญชนปล่อยออกมา เขาเห็นว่าเป็นจุดตัดเพราะตอนที่แอ๊ด คาราบาวปล่อยเพลงนาวารัฐบุรุษ ประยุทธ์ จันทร์โอชาที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งองคมนตรีแต่งเพลงคืนความสุข ก็มีคนถูกจับ ถูกปรับทัศนคติ ถูกคุมขัง เขาจึงถือเป็นการสิ้นสุดยุคของคาราบาว แต่เพลงของวงสามัญชนพูดถึงคนที่ถูกจับและมีพัฒนาการ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/XtFKjPRlt74?si=oAX2s1rPtATlMMkI" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>“ก่อนหน้านั้นก็มีเพลงของคนเสื้อแดงใช่ไหมครับ เพลงของพี่แป๊ะ บางสนาน เพลงของพี่อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ซึ่งเป็นเพลงที่ค่อนข้างที่จะโจมตี แล้วก็มีการผลิตที่ยังไม่เหมือนวงสามัญชนเลย ถ้าเป็นลักษณะทางดนตรี ซึ่งเขาจะใช้การใช้คอร์ดง่ายๆ ไม่มีความป๊อบเท่าสามัญชน ผมจึงคิดว่าวงสามัญชนเป็นหมุดหมายใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคของปี 2557 และเป็นจุดสิ้นสุดของเพลงเพื่อชีวิตยุคเก่า”</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เพราะศิลปินและอุดมการณ์สวนทางกัน คนรุ่นใหม่จึงไม่ยอมรับ</span></h2>
<p>“ผมว่า (เพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่) มันกลับไปคล้ายกับยุคของขบวนการนักศึกษา 2516 คือมันมีแนวคิดสังคมนิยมอยู่ในนั้น การโจมตีผู้มีอำนาจ การต้องการสังคมที่ดีกว่า การพูดถึงรัฐสวัสดิการ ซึ่งในยุคนั้นมีแนวคิดอยู่แล้วแต่ไม่ชัดเท่ายุคนี้ แต่การต่อสู้กับผู้มีอำนาจถ้าพูดตรงๆ ก็คือเพลงที่มีเนื้อหาแนวๆ 112 ค่อนข้างเยอะเลย แบบเพลงไม่มีคนบนฟ้าของ t_047 มันชัดเจนว่า เฮ้ย คนมันเท่ากันนะ แล้วก็เพลงที่พูดถึงคนที่โดนจับ โดนอุ้มหายก็เยอะมากในยุคนี้ ซึ่งคล้ายๆ ยุค 2516 เพลงการะเกดของวงต้นกล้าก็เป็นดนตรีไทยที่โจมตีแล้วยกตัวอย่าง King ขึ้นมาเลย แต่ในยุคนี้จะมีเพลงอยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ของวงสามัญชน ที่มันแตกต่างกับเพลงวงอื่นๆ” ชิษณุพงศ์กล่าวและอธิบายต่อว่า</p>
<p>เพลง อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เป็นเพลงที่นำเสนอแนวคิดว่าจะไปสู่สังคมที่ดีได้อย่างไร ซึ่งค่อนข้างแปลกใหม่ในยุคนี้ เป็นการนำแนวคิดรัฐสวัสดิการที่ได้รับความนิยมมากล่าวถึงในเพลง ขณะเดียวกันศิลปะของยุคนี้ก็มีลักษณทิ่มแทงผู้มีอำนาจ นำเสนอปัญหาความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เช่น กลุ่ม Rap Against Dictatorship ที่ด่า เสนอปัญหา และเสนอว่าจะมีสังคมที่ดีอย่างไร ลักษณะทางดนตรีก็ป๊อบขึ้น มีความหลากหลายซึ่งเป็นพัฒนาการทางดนตรีในยุคสมัยนี้ที่เข้าใกล้เทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น ศิลปินสามารถทำเพลงเองได้ใน Home Studio ต่างจากสมัยก่อน จึงทำให้แนวเพลงยุคนี้ขยายกว้างขึ้น มีเนื้อหาและรูปแบบทางดนตรีหลากหลายขึ้น</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="
https://www.youtube.com/embed/rHtXL-Ig1J8?si=vHnMI49s0SESyV7E" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>แม้ว่าเพลงเพื่อชีวิตยุคก่อนหลายเพลงก็ยังเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน แต่ผู้ฟังก็พิจารณาอุดมการณ์ทางการเมืองของศิลปินควบคู่กับผลงานด้วย เมื่อเนื้อหากับอุดมการณ์สวนทางกันทำให้เกิดความรู้สึกถึงความเทียม ความหลอกลวง ชิษณุพงศ์กล่าวเสริมว่าต้องยอมรับด้วยว่าเนื้อหาของการประท้วงในยุคนี้ทะลุเพดานไปแล้วและมีเนื้อหาทางการเมืองที่แหลมคม</p>
<p>“ผมเคยไปคุยกับเด็ก ม.ต้น ในม็อบ เขาก็พูดถึงเนื้อหาทางการเมือง การไม่เอา 112 ได้แหลมคมมาก พูดถึงคุณภาพชีวิต ปัญหาผังเมือง คือมันไปไกลมาก ผมคิดว่าเนื้อหาก็ต้องไกลไปด้วย มันมีเพลงของไทยทศมิตรที่ถือเป็นเพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่ แต่คนก็ไม่ได้มองเขาเป็นศิลปินเพื่อชีวิต แต่เขายอมรับในอุดมการณ์ของตัวศิลปิน”</p>
<p>สรุปได้ว่าการที่เพลงเพื่อชีวิตศตวรรษที่ 20 แผ่วหายไปในการชุมนุมปี 2563 เป็นเพราะจุดยืนของศิลปินเพื่อชีวิตระดับตำนานหลายคนสวนทางกับแนวคิดประชาธิปไตย คนรุ่นใหม่ซึ่งมีสำนึกทางการเมืองมากขึ้นก็พิจารณาเห็นความไม่คงเส้นคงวานี้จึงไม่สนับสนุน อีกทั้งยังต้องการเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเพลงเพื่อชีวิตในยุคของตนเองขึ้นมาที่มีเนื้อหาแหลมคมทิ่มแทงอำนาจทะลุเพดานกว่า เพื่อผลักดันสังคมที่ดีกว่า ซึงเพลงเพื่อชีวิตศตวรรษที่ 20 ไม่สามารถทำหน้าที่นี้ได้แล้วในศตวรรษที่ 21</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C-0" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">สัมภ
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/01/107500 







