[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
04 กรกฎาคม 2568 01:39:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - อัยการสั่งฟ้อง 2 อ. 1 นศ. มีเดียอาร์ท มช. คดีตัดโซ่เข้าหอศิลป์ฯ แสดงงานศิลปะ หลัง ตร.  (อ่าน 316 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 23 มกราคม 2567 20:47:24 »

อัยการสั่งฟ้อง 2 อ. 1 นศ. มีเดียอาร์ท มช. คดีตัดโซ่เข้าหอศิลป์ฯ แสดงงานศิลปะ หลัง ตร.ภาค 5 เห็นแย้ง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-01-23 19:49</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>อัยการสั่งฟ้องคดี ‘ทัศนัย-ศรยุทธ-ยศสุนทร’ มีเดียอาร์ท มช. คดีตัดโซ่หอศิลป์เข้าไปแสดงงานศิลปะ ข้อหาทำลายทรัพย์และบุกรุก หลัง ผบ.ตำรวจภาค 5 เห็นแย้งให้สั่งฟ้องแม้อัยการเจ้าของสำนวนเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องแล้ว</p>
<p>23 ม.ค. 2567 สำนักข่าวลานเนอร์และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ ทัศนัย เศรษฐเสรี, ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ สองอาจารย์ภาควิชา Media Art and Design มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ บัณฑิตจากสาขาวิชาและมหาวิทยาลัยเดียวกันมาตามหมายนัดฟังฝ่ายโจทก์ฟ้องคดีต่อศาล ในคดีที่ทั้ง 3 คนร่วมกันตัดโซ่และเข้าไปใช้พื้นที่ของหอศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพื่อจัดแสดงงานศิลปะประจำปีตามรายวิชาเรียน เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2564</p>
<p>คดีนี้ผู้แจ้งความดำเนินคดีคือ อัศวิณีย์ หวานจริง คณบดีคณะวิจิตรศิลป์ในเป็นผู้ไปแจ้งความที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยได้รับมอบอำนาจจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ให้ดำเนินคดีกับทั้ง 3 คน และทางตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวทั้งสามคนในชั้นสอบสวน 2 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ร่วมกันทําให้เสียทรัพย์ และร่วมกันบุกรุก โดยกระทําความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป</p>
<p>อย่างไรก็ตาม เมื่อคดีนี้ถึงชั้นพิจารณาของอัยการ อัยการเจ้าของสำนวนเคยมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปแล้ว แต่ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 มีความเห็นแย้งให้สั่งฟ้องคดีนี้</p>
<p>อัยการระบุในคำฟ้องถึงพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหาว่าระหว่างวันที่ 16 -24 ต.ค. 2564 ทัศนัย, ศรยุทธ และยศสุนทรจำเลยในคดีนี้ร่วมกับพวกตัดโซ่ที่คล้องประตูรั้วทางเข้า-ออกหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปในบริเวณหอศิลป์ฯ และอาคารสํานักงานฯ เป็นเหตุให้ทรัพย์สินภายในได้รับความเสียหาย ได้แก่ โซ่และแม่กุญแจ, กุญแจประตูหอศิลป์ ประตูห้องควบคุมไฟฟ้า ผนังห้องภายในห้องนิทรรศการ กล้องวงจรปิด พื้นอิฐบล็อกที่จอดรถ โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาและให้การต่อสู้คดีแล้ว</p>
<p>ในรายงานของลานเนอร์ระบุว่า นักศึกษาพยายามขออนุญาตใช้สถานที่จากผู้ดูแลและผู้บริหารของหอศิลป์มช. ตามระเบียบ เพื่อแสดงผลงานศิลปะตามวิชาที่ลงเรียน แต่ทางผู้บริหารไม่มีคำสั่งว่าจะอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าว จนอาจส่งผลต่อการเรียนการสอน นักศึกษาจึงได้ประกาศร่วมกันทวงคืนหอศิลป์ แต่พบว่าในวันที่นัดหมายทางเจ้าหน้าที่หอศิลป์ฯ ได้คล้องโซ่และล็อกประตูไว้ด้วยทั้งที่ปกตินักศึกษาและอาจารย์สามารถเข้าออกได้ อีกทั้งวันดังกล่าวเจ้าหน้าที่ยังตัดน้ำตัดไฟด้วย กลุ่มนักศึกษาและอาจารย์จึงได้ร่วมกันตัดโซ่เพื่อเข้าไปใช้งานพื้นที่ และมีการจัดแสดงงานศิลปะจนเสร็จสิ้น</p>
<div class="more-story">
<p>ศาลปกครองให้เหตุผลยันสิทธิ นศ.วิจิตรศิลป์ มช. จัดแสดงศิลปนิพนธ์ที่หอศิลป์ แม้จำหน่ายคดี</p>
</div>
<p>ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองเชียงใหม่อ่านคำพิพากษาระบุว่า การกระทำของผู้อำนวยการหอศิลปวัฒนธรรม และคณบดีคณะวิจิตรศิลป์ เรื่องที่ไม่มีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ใช้หอศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั้งที่ได้รับคำขอของนักศึกษาผู้ฟ้องคดีแล้วในระยะเวลาตามสมควร</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">อ.และนศ.ถูกฟ้องเพราะพยายามใช้ทรัพยากรของมหาลัยเป็นเรื่องน่าละอาย</span></h2>
<p>ศรยุทธ เอี่ยมเอื้อยุทธ กล่าวกับสื่อมวลชนก่อนเข้าฟังการพิจารณาคดีว่า การมารวมตัวกันครั้งนี้เพื่อต้องการมาแสดงเจตจำนงและข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือสถานศึกษาเป็นผู้ปิดกั้นการเข้าถึงสิทธิในการศึกษาและการเรียนการสอน จากไม่ให้นักศึกษาใช้พื้นที่หอศิลปวัฒนธรรมในการแสดงผลงาน แม้ว่าก่อนหน้านี้ศาลปกครองจะเคยมีคำสั่งให้คุ้มครองสิทธินักศึกษาและการกระทำในครั้งนั้นแล้ว รวมไปถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย (กสม.) ยังเคยส่งข้อวินิจฉัยเบื้องต้นไปยังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกทั้งอัยการจังหวัดเชียงใหม่ก็ส่งเรื่องไปแล้วว่าไม่ฟ้อง</p>
<p>“หน่วยงานที่ทำงานด้านความยุติธรรมที่น่าเชื่อถือของสังคมไทยทั้ง 3 หน่วยงานได้วินิจฉัยกรณีเรียบร้อยแล้ว คำถามก็คือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงยังดำเนินการฟ้องอยู่ หรือว่าในสายตาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สถานะของ 3 หน่วยงานนี้มันไม่มีน้ำหนัก” ศรยุทธ กล่าว</p>
<p>ด้าน ทัศนัย เศรษฐเสรี กล่าวว่าการที่มหาวิทยาลัยฟ้องดำเนินคดีกับพวกเขาทั้ง 3 คนในครั้งนี้ไม่ได้เป็นการใช้กฎหมายเพื่อความยุติธรรม เป็นการแจ้งความเท็จหรือเป็นการฟ้องปิดปากหรือไม่</p>
<p>ยศสุนทร รัตตประดิษฐ์ กล่าวว่า ตึกของภาควิชาที่เขาเรียนนั้นอยู่ในรั้วเดียวกันกับหอศิลปฯ โดยจะมีการทำงานศิลปะในบริเวณตึกของภาควิชาเป็นเรื่องปกติ และยังเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานของนักศึกษาด้วย</p>
<p>“ถ้าผมไม่ตัดโซ่เข้าไปในวันนั้นก็มีคนอื่นอยู่ดีอะครับ สิ่งที่มาจำกัดการศึกษาก็ไม่ควรมีอยู่แล้วในรั้วอุดมศึกษา เพราะความรู้ใหม่ๆ มันต้องการรั้วที่กว้างที่สุด ไม่ใช่มาล็อครั้วและทำให้มันแคบ และปิดไม่ให้พูดได้ การแสดงงานไม่ได้ก็เหมือนการปิดปากคนทำงานศิลปะ มันไม่ถูกต้อง พวกผมก็เลยตัดสินใจไปทำงานของพวกเราต่อก็แค่ตัดโซ่ เพราะตึกเราก็อยู่ในนั้นอยู่แล้ว”</p>
<p>ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี คณาจารณ์จากภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ อาจารย์และนักศึกษาทั้ง 3 คน ได้กล่าวว่า ตั้งแต่เธอเป็นอาจารย์ที่ มช.ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยฟ้องอาจารย์มหาวิทยาลัยเพราะจะเข้าไปใช้ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยเพื่อทำให้นักศึกษาสามารถเรียนจบได้</p>
<p>“เป็นเรื่องที่น่าอายมากและไม่เคยเกิดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้มาก่อน ของประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะอาจารย์ร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน จึงขอเรียกร้องให้ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ถอนฟ้องไปเสีย เราไม่ควรจะใช้อำนาจทางกฎหมายในการทำเรื่องแบบนี้” ปิ่นแก้ว กล่าว</p>
<p>ด้าน ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ก็ได้มาให้กำลังแก่ทั้ง 3 คน กล่าวว่า ตนในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น พื้นที่มหาวิทยาลัยควรเป็นพื้นที่สาธารณะและควรจะเป็นพื้นที่ที่ต้องให้เด็กมีสิทธิในการแสดงออก เพราะถ้าหากมีการปิดกั้นสิทธิในการแสดงออกก็เหมือนไม่ได้พัฒนาการศึกษา</p>
<p>“คนที่สั่งการกลับเป็นคณบดีที่ควรจะต้องดูแลลูกศิษย์ของตน ผู้ปกครองให้ความไว้วางใจในการดูแลลูกหลาน แต่กลับทำแบบนี้กับเขาดิฉันถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน”</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107754
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 29 มิถุนายน 2568 18:47:17