[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 23:23:59 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - พูดคุย-ส่งกำลังใจจำเลยคดี ม.112 'มายด์ ภัสราวลี-ลลิตา-อุกฤษฏ์-แอดมินคนกลมคนเหลี่  (อ่าน 45 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 29 มกราคม 2567 03:14:34 »

พูดคุย-ส่งกำลังใจจำเลยคดี ม.112 'มายด์ ภัสราวลี-ลลิตา-อุกฤษฏ์-แอดมินคนกลมคนเหลี่ยม'
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2024-01-28 20:11</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>เรียบเรียงเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์ iLaw </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>Stand Together ครั้งที่ 4 พูดคุยและส่งกำลังใจให้กับจำเลยคดี ม.112 ที่มีนัด 29-31 ม.ค.นี้ ประกอบด้วย มายด์ ภัสราวลี ลลิตา มีสุข อุกฤษฏ์ นักศึกษานิติ ราม และแอดมินคนกลมคนเหลี่ยม iLaw ชี้ในเดือนแรกของปี 67 คดีการเมืองยังคงไม่มีท่าทีจะหยุดลง และมีนัดฟังคำพิพากษาคดี ม.112 มากถึง 10 คดี </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488611043_0a25f5a299_b.jpg" /><span style="color:#e67e22;">ภาพจาก iLaw</span></p>
<p>เมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2567 iLaw จัดงาน Stand Together ครั้งที่ 4 ที่อาคาร ALL RISE รัชดา-ลาดพร้าว ชวนฟัง พูดคุย และส่งกำลังใจให้กับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ในเดือนแรกของปี 2567 ที่คดีการเมืองยังคงไม่มีท่าทีจะหยุดลง และมีนัดฟังคำพิพากษาคดีมาตรา 112 มากถึงสิบคดี แม้จะมีรัฐบาลประชาธิปไตยจากการเลือกตั้งมาได้สักระยะหนึ่งแล้วก็ตาม</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/R15wRKgL8GI?si=KYCtbypGjItMCCwb" title="YouTube video player" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen=""></iframe></p>
<p>ผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จากกรณีปราศรัยในการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 ลลิตา มีสุข ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ม.ค. 2567 จากกรณีแชร์ Tiktok วิจารณ์การใช้ภาษีของประชาชน และ อุกฤษฏ์ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หรือ ก้อง ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 30 ม.ค. 2567 จากกรณีแชร์ข่าวชุมนุมประท้วงสถาบันกษัตริย์ในประเทศเยอรมนี รวมทั้ง จิรวัฒน์ แอดมินเพจคนกลมคนเหลี่ยมและจำเลยคดีมาตรา 112 ซึ่ง 31 ม.ค. นี้ อัยการนัดส่งฟ้องศาลอาญา</p>
<p>ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ได้แจ้งให้ประชาชนเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ไปสู่การนิรโทษกรรมประชาชนที่จะเกิดขึ้น และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 1-14 ก.พ.นี้ โดยเปิดให้ประชาชนช่วยกันลงชื่อเพื่อเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนด้วย</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53492835531_4fbe32bd69_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ภัสราวลี' คำปราศรัยล่องหนที่สื่อสารตรงถึงพระมหากษัตริย์</span></h2>
<p>ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จากกรณีปราศรัยในการชุมนุมที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 กล่าวว่า คำปราศรัยในวันที่ 24 มี.ค. 2564 ที่สี่แยกราษฎ์ประสงค์ นั้นเป็น "คำปราศรัยล่องหน" ที่ถูกทำให้หายไปหมดแล้ว เพราะหลายสื่อหลายช่อง เช่น สำนักข่าว Voice TV ได้ลบคลิปการปราศัรยดังกล่าวไปแล้ว โดยในการชุมนุมครั้งนั้นผู้มีส่วนร่วมหลายคนถูกดำเนินคดีฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะที่ภัสราวลีถูกดำเนินคดีมาตรา 112 เพียงคนเดียว                      </p>
<p>ภัสราวลียืนยันว่า การปราศรัยครั้งนั้นมีความสุภาพ นอบน้อม และจริงใจในการนำเสนอปัญหาทางสังคมอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้สถาบันกษัตริย์มองเห็นถึงความสำคัญว่าทำไมประชาชนต้องออกมาชุมนุมในช่วงเวลาดังกล่าว เพราะเชื่อว่าประชาชนสามารถสื่อสารข้อเรียกร้องไปยังพระมหากษัตริย์โดยตรงได้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488611713_df6b4cf3b6_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภัสราวลี (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>“มายด์ยังจำคำปราศรัยของวันนั้นได้ไม่ลืม.. สิ่งที่สื่อสารในวันนั้นไม่ได้สื่อสารถึงพระมหากษัตริย์อย่างเดียว แต่สื่อสารถึงคนสามกลุ่ม สื่อสารถึงประชาชนว่า ให้เห็นว่าตอนนี้บ้านเมืองเป็นอย่างไร รักได้แต่ต้องรักให้ถูกทาง ถึงกลุ่มอนุรักษ์นิยมว่าเห็นเหมือนกันใช่ไหมว่ามีปัญหา ถ้ายิ่งดึงดันกันต่อไปความล่มสลายคงมาในไม่ช้า และสุดท้ายถึงองค์พระมหากษัตริย์… เป็นคำถามเป็นข้อเสนอแนะที่เราพยายามพูดกับพระองค์ท่านโดยตรงว่ามันเป็นปัญหาจริงๆ อยากให้ท่านเองก็ได้รับรู้ถึงข้อกังวลตรงนี้ด้วย”</p>
<p>ภัสราวลี เล่าถึงการชุมนุมในครั้งนั้นว่า เนื่องจากตนต้องการแสดงพลังในการต่อสู้เพื่อเพื่อนที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้า (รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ และอานนท์ นำภา) เธอจึงเลือกที่จะพูดถึงสถาบันกษัตริย์ก่อนที่จะไม่มีเวลาต่อสู้และส่งเสียง รวมถึงการพูดถึงรัฐบาล  เธอแน่ใจว่าการปราศรัยไร้ซึ่งคำด่าว่า เสียดแทง เธอเองไม่แน่ใจว่าทำไมเพียงแค่การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาจะสร้างความไม่พอใจให้ชนชั้นนำไทยขนาดไหน เเต่ตอนนี้เนื้อหาเหล่านั้นหายไปหมดเเล้ว รวมทั้งการสื่อสารครั้งนั้นคือการสื่อสารไปยัง ประชาชน กลุ่มอนุรักษนิยมและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เธอยืนยันว่าเธอพูดเรื่องจริงและไม่มีคำพูดใดที่อาฆาตมาดร้าย เธอเป็นเพียงประชาชนผู้เห็นต่าง</p>
<p>ภัสราวลีกล่าวว่า ถึงแม้เนื้อหาในวันดังกล่าวจะพูดบนพื้นฐานความเป็นจริง มีการอ้างอิงบทกฎหมาย พระราชบัญญัติ และประกาศที่เผยแพร่ออกสู่สาธารณะทั้งสิ้น อีกทั้งยังไม่มีคำหยาบคาย แต่ก็ยังทำให้ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ถูกแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษโดยกลุ่ม “ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน” หรือ ศปปส. แต่ก็ไม่ได้โกรธที่พวกเขาพยายามดำเนินคดี เพราะคิดว่าพวกเขายังไม่คุ้นชินนักกับความแตกต่างหลากหลายในสังคมเพียงเท่านั้น</p>
<p>สำหรับที่มาของ ภัสราวลี เธอเล่าว่าว่าเธอเองนั้นคือเด็กวัยรุ่นทั่วไป ที่วางเเผนตามบริบทสังคมวิ่งตามความฝันตัวเอง  แต่เมื่อเติบโตขึ้นและได้รับรู้ปัญหาทางสังคมและการเมือง เธอตระหนักว่าตัวเธอเองจะไม่สามารถอยู่ท่ามกลางชีวิตที่สุ่มเสียงและอาจไร้อนาคตเพราะสภาพสังคมที่มีปัญหาและไม่เอื้อแก่การวางแผนทางความฝัน จนเธอคิดได้ว่าเธอจะไม่ละทิ้งเรื่องการเมืองที่มีผลกระทบต่อชีวิตตัวเอง</p>
<p>การถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ทำให้เสียเวลาในชีวิตไปมากรวมทั้งยังทำให้คนรอบตัวเริ่มเว้นระยะห่างมากขึ้น สิ่งนี้ส่งผลกระทบไปสู่ครอบครัวของเธอด้วย ตัวอย่างสำคัญคือกรณีที่เพื่อนฝูงของแม่ตนเริ่มนำครอบครัวของเธอไปนินทาลับหลังจนสภาพจิตใจของครอบครัวย่ำแย่ นอกจากนี้ยังต้องรับมือจากการถูกเจ้าหน้าที่ติดตามไปถึงที่พักอาศัย โดยเฉพาะเมื่อเจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปพูดคุยกับพ่อที่เป็นผู้พิการภัสราวลีให้ได้แม้จะรู้ว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านประหนึ่งจงใจ</p>
<p>“การโดนมาตรา 112 ทำให้เราถูกตีตราจากสังคมว่าเราเป็นคนล้มเจ้า… กำแพงวาทกรรมแบบนี้ทำให้สิ่งที่เราอยากสื่อสารจริงๆ ถูกกั้นกำแพงจากฝ่ายตรงข้าม” มายด์เล่า</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488465661_8c85953fae_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภัสราวลี (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>มายด์ ยืนยันด้วยว่าตนเตรียมตัวไปหมดแล้ว จึงใช้เวลากับครอบครัวให้มากที่สุด และเธอหวังอย่างยิ่งว่าจะได้กลับมาใช้เวลากับพวกเขาอีกในเร็ววันคดีของตนเอง มายด์ว่าตนเองยังอยู่ในระยะของการต่อสู้ เเละยังคงเลือกที่จะต่อสู้เเม้ตัวเองจะอยู่ในเรือนจำ เเละมายด์จะไม่หยุดพูดความจริง เพราะยังยืนยันว่าสามารถพูดได้  เเละบอกย้ำถึงชนชั้นนำว่าอย่ากลัวที่จะรับฟังความเห็นของเธอ เพราะไม่ว่าอย่างไร เธอเองก็จะยังคงต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเปลี่ยนแปลงเช่นเดิม</p>
<div class="note-box">
<p style="margin-left: 40px;">เกี่ยวกับคดีของภัสราวลี                  </p>
<p style="margin-left: 40px;">30 ก.ย.64 อัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ภัสราวลี เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันสถาบันเบื้องสูง ร่วมกันชุมนุม หรือทำกิจกรรม ที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดและอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคระบาดโควิด-19  ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 และ 112 พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 4, 9, 18 จาก #ม็อบ24มีนา ที่แยกราชประสงค์</p>
<p style="margin-left: 40px;">โดยพนักงานอัยการโจทก์ระบุฟ้องพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2564 เวลากลางวัน จำเลยกับพวก และผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน ได้จัดกิจกรรมชุมนุมในที่สาธารณะ บริเวณแยกราชประสงค์ จำเลยได้ปราศรัย ดูหมิ่นใส่ร้ายสถาบันเบืองสูง ด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาคำฟ้องแล้ว ให้ประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำอ.1600/2564 ขณะที่ ภัสราวลี จำเลยแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในชั้นพิจารณาโดยตีราคาประกัน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข ห้ามจำเลยไปทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ในอันที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อีก และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และให้จำเลยมาศาลตามนัดทุกครั้ง โดยถือปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวอย่างเคร่งครัด</p>
<p style="margin-left: 40px;">และมีนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 31 ม.ค. 2567</p>
<p style="margin-left: 40px;">(อ่านรายงานเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ลลิตา' รับสารภาพด้วยเงื่อนไขชีวิตของตัวเอง</span></h2>
<p>ลลิตา มีสุข ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ม.ค. 2567 จากกรณีแชร์ Tiktok วิจารณ์การใช้ภาษีของประชาชน พูดถึงต้นเหตุการถูกคดีครั้งนี้ว่า มาจากการทำคลิปวิจารณ์ตอบโต้ออกนโยบายของพรรคพลังประชารัฐและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้านประชานิยมในโครงการประชารัฐ โดยในคลิปดังกล่าวมีการใช้คำราชาศัพท์ทั้งสิ้นหนึ่งคำจึงถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีมาตรา 112 แม้ว่าเนื้อหาคลิปจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใดก็ตาม เรื่องนี้ลลิตามองว่าเป็นความพยายาม “บิด” ให้การกระทำของเธอผิดตามมาตราดังกล่าวให้ได้ ซึ่งยิ่งสะท้อนปัญหาของการบังคับใช้มาตรา 112</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53487563562_c7886f677f_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ลลิตา (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>เมื่อถูกถามว่าทำไมจึงรับสารภาพในคดีนี้ ลลิตากล่าวว่าแต่ละคนมีเงื่อนไขในชีวิตไม่เหมือนกัน การรับสารภาพในคดีมาตรา 112 ไม่ได้เป็นการยอมรับว่ากระทำสิ่งผิดแต่เป็นสภาวะจำยอมที่ต้องทำ อย่างลลิตามองว่าคุณแม่ของเธอกำลังจะหายจากการป่วยอยู่แล้ว หากเธอต้องสู้คดีไปจนสุดทางกระทั่งเข้าเรือนจำนั้นจะเป็นผลเสียมากกว่าดี อีกทั้งการอยู่นอกเรือนจำยังทำให้สามารถส่งเสียงเรียกร้องและต่อสู้ทางการเมืองต่อไปได้เรื่อยๆ อีกด้วย</p>
<p>ถึงแม้จะถูกดำเนินคดีแล้วแต่ลลิตาก็ยังจะทำงานสื่อสารในประเด็นทางการเมืองต่อไปเท่าที่ทำได้ เธอเชื่อว่าจะยิ่งน่าเชื่อถือขึ้นเมื่อเธอกลายเป็นผู้ประสบภัยโดยตรง และหากสามารถพูดคุยชี้แจงกับคนได้มากขึ้นก็เชื่อว่าจะสามารถนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงได้ในสักวันหนึ่ง</p>
<p>ลลิตา เล่าภูมิหลังของเธอว่า เป็นคนที่ใช้ชีวิตทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมาตั้งแต่เด็กจนทำให้ได้เห็นความเหลื่อมล้ำระหว่างสองแห่ง แม้คนในกรุงเทพฯ จะรู้สึกว่าหลายสิ่งในเมืองมีปัญหาแต่ก็ยังห่างไกลจากความเหลื่อมล้ำที่เธอพบเจอมาจากต่างจังหวัด ความไม่เท่าเทียมเหล่านี้ทำให้ลลิตาพยายามสื่อสารมาตลอดตั้งแต่ยังเรียนอยู่มัธยมศึกษา โดยเฉพาะในช่วงความขัดแย้งระหว่างชุมนุมเสื้อสีในกรุงเทพฯ</p>
<p>ขณะนั้นโรงเรียนของลลิตายังเปิดพื้นที่ให้ทหารได้เข้าไปประจำการเพื่อสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง และการสลายการชุมนุม “ทุกวัน” ด้วยกระสุนและแก๊ซน้ำตาส่งผลกระทบต่อมุมมองทางการเมืองของของลลิตาเป็นอย่างมาก เธอจึงแสดงออกทางการเมืองในพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์เสมอมาจนกระทั่งปี 2564 ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองหลังยุคชุมนุมเสื้อสี</p>
<p>เธอยังบอกอีกว่าประสบการณ์ในการใช้ชีวิตอยู่ทั้งสองที่นั้น ทำให้เธอเห็นถึง ความแตกต่างตั้งแต่เรื่อง อาหาร ชาวบ้าน วิธีชีวิต ระบบสาธารณูปโภค ความเป็นอยู่ที่ฝั่งหนึ่งชนบทแร้นแค้น แต่ในขณะที่อีกฝั่งเจริญและมีทุกสิ่งอย่างอำนวยความสะดวก เธอยืนยันว่าขณะนั้นเธอคิดว่านี่เหมือนการอยู่คนละโลก เมื่อเติบโตขึ้นนั่นจึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ใช้เเพลตฟอร์มตัวเองในการเเสดงความคิดเห็นในสังคม เพราะเธอเองก็เติบโตมาในยุคที่การเมืองมีทั้ง สถานการ์ณความรุนแรง เหตุปะทะ และความขัดแย้ง การสลายการชุมนุมจึงทำให้เห็นว่าการเมืองนั้นไม่เพียงอยู่ใกล้กันกับชีวิตคน เเต่การเมืองและชีวิตคนมันคือเรื่องเดียวกัน         </p>
<p style="text-align: center;">   <img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488612233_81427712af_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ภาพจาก iLaw</span></p>
<p>ลลิตา กล่าวว่าเลือกใช้ชื่อเสียงของตนเองในการขับเคลื่อนและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองในพื้นที่ของตัวเองมาโดยตลอดจนเมื่อปี 2564 เธอถูกดำเนินคดีในกรณีการวิจารณ์การใช้งบประมาณดังกล่าว เธอยืนยันว่าการวิพากษ์วิจารณ์ขณะนั้นเธอต้องการแสดงความคิดเห็นเพียงถึงรัฐบาลในการใช้งบประมาณช่วงโควิด 19 ที่นำภาษาของประชาชนมาแจกจ่ายและเรียนนโยบบายเหล่านั้นว่า บัตรประชารัฐ เงินลุงตู่ หรืออื่น ๆ  เธอยืนยันว่าเนื้อหหาที่สามารถสุ่มเสี่ยงและโดนแจ้งข้อหาเป็นเพียงคำที่เธอพูดว่า การกระทำเหล่านั้นนับเป็น  ‘พระมหากรุณาธิคุณ’ จนถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดี</p>
<p>เธอให้ความเห็นว่า ตัววเธอเองก็ยังคงสงสัยข้องใจในกระบวนการของกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่ามีความกว้างใหญ่ไพศาล หรือกระบวนการใช้งานดังกล่าวอาจกลายเป็นเครื่องมือของผู้ใช้งาน จนเธอเองรู้สึกใครก็ตามที่ถูกฟ้องด้วยกฎหมายดังกล่าวก็อาจถูกกลั่นแกล้ง และตัวเองเธอเองก็ได้รับผลกระทบเหล่านั้น</p>
<div class="note-box">
<p style="margin-left: 40px;">เกี่ยวกับคดีของ ลลิตา นั้น</p>
<p style="margin-left: 40px;">ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เธอ ถูกอภิวัฒน์ ขันทอง ในฐานะประธาน คตส.ตามคำสั่งนายกฯ เข้าแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ให้ดำเนินคดีในฐานความผิด “หมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ” และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ​ กรณีโพสต์คลิปวิดีโอสั้นใน TikTok วิจารณ์การใช้ภาษีประชาชน เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2564 ซึ่งเธอยืนยันว่า มีเจตนาเพียงวิจารณ์รัฐบาลเท่านั้น</p>
<p style="margin-left: 40px;">ณัฐพล กิตติตระกูล พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 บรรยายพฤติการณ์คดี ระบุว่า</p>
<p style="margin-left: 40px;">ขณะเกิดเหตุ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเป็นประมุข และรัชกาลที่ 10 เป็นพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน โดยที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 6 ระบุไว้ว่า กษัตริย์อยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้</p>
<p style="margin-left: 40px;">เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2564 จำเลยได้หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายกษัตริย์ด้วยการโพสต์คลิปสั้นในแอปพลิเคชัน TikTok เป็นภาพเคลื่อนไหวของจำเลยกล่าวข้อความพูดถึงงบประมาณที่นำมาแจกประชาชนและงบประชาสัมพันธ์ของสถาบันกษัตริย์นั้นมาจากภาษีประชาชน ไม่ได้เป็นบุญคุณของรัฐบาลหรือสถาบันกษัตริย์ การกดขี่ประชาชนให้จนแล้วนำเงินมาแจก ให้ประชาชนรู้สึกเป็นบุญคุณ จะได้ง่ายต่อการปกครอง ทั้ง ๆ ที่ประชาชนควรจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีจากเงินภาษีของตนเอง ตอนท้ายจำเลยได้ทำปากพูดคำว่า “พระมหา” โดยไม่ออกเสียง ก่อนตามด้วยด้วยการกล่าวคำว่า “กรุณาธิคุณ”</p>
<p style="margin-left: 40px;">เมื่อบุคคลที่สามได้เห็นคลิปดังกล่าวทำให้เข้าใจได้ว่า กษัตริย์รัชกาลที่ 10 นำเงินงบประมาณแผ่นดินหรือเงินภาษีซึ่งเป็นของประชาชนไปแจกประชาชน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับพระองค์เอง เป็นเงินจำนวนปีละหมื่น ๆ ล้านบาท รวมทั้งกดขี่ให้ประชาชนยากจน แล้วนำเงินไปแจก เพื่อให้ประชาชนซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ทำให้ปกครองได้โดยง่าย อันเป็นการใส่ความรัชกาลที่ 10 ด้วยข้อความเท็จ โดยประการที่น่าจะทำให้รัชกาลที่ 10 เสื่อมเสียเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชังอย่างร้ายแรง และเป็นการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์</p>
<p style="margin-left: 40px;">โดยวันที่ 29 ม.ค.นี้ ศาลมีนัดฟังคำพิพากษา</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">'อุกฤษฏ์' นักศึกษานิติรามฯ กับนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์</span></h2>
<p>อุกฤษฏ์ ซึ่งมีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 30 ม.ค. นี้ จากกรณีแชร์ข่าวชุมนุมประท้วงสถาบันกษัตริย์ในประเทศเยอรมนี เขาเล่าถึงคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว “John New World” ซึ่งทำให้เขาถูกตำรวจเข้าจับกุมที่ในที่พัก พยายามกดดันให้เขารับสารภาพโดยไม่มีทนายความอยู่ด้วย โชคดีที่ต่อมาเขาได้พบกับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 อีกหนึ่งคนที่สถานีตำรวจทุ่งสองห้องจึงได้บังเอิญพบกับทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และได้รับสิทธิตามกฎหมายอย่างที่ควรจะเป็น</p>
<p>ต่อมาอุกฤษฏ์ยังถูกเจ้าหน้าที่จาก สน.บางแก้วเข้าอาญัติตัวด้วยข้อหาแชร์โพสต์จากเพจ John New World ในข้อหามาตรา 112 อีกหนึ่งคดี และยังถูกกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. แจ้งข้อหาเพิ่มในคดีแรกจากสามกรรมเป็นห้ากรรม แม้ว่าข้อกล่าวหาที่เพิ่มเข้ามานั้นอุกฤษฏ์จะไม่ได้มองว่าจะสามารถเข้าข่ายมาตรา 112 ได้ก็ตาม ทำให้เขามีคดีมาตรา 112 สองคดี โดยคดีแรกศาลอาญาตัดสินลงโทษจำคุกห้าปี 30 เดือน ขณะที่คดีที่สองศาลจังหวัดสมุทรปราการตัดสินลงโทษจำคุกสามปี และคดีสองนี้เองที่คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์กำลังจะมา</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488465826_313b738156_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">อุกฤษฏ์ (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>อุกฤษฏ์กล่าวว่าเขาเริ่มสนใจการเมืองอย่างจริงจังในช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะเขามองว่าสังคมที่มีปัญหาผู้นำประเทศก็ควรที่จะใส่ใจแก้ไขปัญหาให้มากขึ้น ต่อมาจึงเริ่มชุมนุมกับกลุ่ม “ลุกพ่อขุนฯ โค่นล้มเผด็จการ” และกลุ่ม “ทะลุราม” ตามลำดับ เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และการมีรัฐสวัสดิการ</p>
<p>อุกฤษฏ์พูดคล้ายกับสิ่งที่ลลิตากล่าวก่อนหน้า คือ การถูกคดีมาตรา 112 ทำให้เขาไม่สามารถวางแผนชีวิตในอนาคตได้ โดยเฉพาะบริษัทเอกชนที่ไม่อยากจะรับพนักงานผู้มีคดีมาตรา 112 ติดตัวจนเขามีปัญหาด้านการเงินในระดับหนึ่ง นอกจากนี้คดีมาตรา 112 ยังทำให้เขามีปัญหาด้านการเรียน เพราะในช่วงของการต่อสู้คดีครั้งแรกเขาสูญเสียเวลาเรียนไปทั้งสิ้นเกือบหนึ่งเทอมจากการไม่ได้ประกันตัวและต้องอยู่ในเรือนจำ จนทำให้หลังประกันตัวต้องไปสอบแต่ละวิชาใหม่</p>
<p>นอกจากการไม่สามารถวางแผนชีวิตได้ ผลกระทบหลังโดนคดีอีกประการ อุกฤษฏ์ เล่าว่า แม้ครอบครัวฝั่งแม่จะเข้าใจและสนับสนุนตน แต่ฝั่งพ่อมองอีกแบบ โดยมองว่าไม่ควรไปยุ่งการเมืองแล้วมาสาปแช่งตนพูดให้ตนรู้สึกผิด อย่างไรก็ตามแม้จะต้องใช้เวลาอธิบายทำความเข้าใจกันแต่เขายังอนุรักษ์นิยมอยู่</p>
<p>อุกฤษฏ์ กล่าวอีกว่า ตนโดนคดี 112 นั้นทำให้คนมองว่าตนหัวรุนแรงและดูอันตราย ทั้งที่ตนแค่คิดเห็นที่แตกต่าง</p>
<p>“ตอนนี้ตนเคลียร์สัมภาระตัวเองเรียบร้อยเตรียมตัวเตรียมใจแล้วอย่างไรก็ตามตนมี 2 คดี” อุกฤษฏ์ กล่าว อย่างไรก็ตาม เข้ายังหวังว่าอยากให้นิรโทษคดีการเมืองทุกคดี รวมถึง 112 ด้วย แต่ต้องยกเว้นคนทำหารรัฐประหาร</p>
<div class="note-box">
<p style="margin-left: 40px;">ข้อมูลคดีของ อุกฤษฏ์ อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง และนักกิจกรรมเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เขาถูกจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(3)(5) เป็นคดีที่ 2 หลังได้รับการประกันตัวจากศาลอาญาในชั้นฝากขังคดีมาตรา 112 คดีแรก โดยคดีนี้มีศิวพันธุ์ มานิตย์กุล ประชาชนชาวสมุทรปราการเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ กล่าวหาว่า อุกฤษฏ์ใส่ความรัชกาลที่ 10 โดยการแชร์ข้อความและรูปเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วงรัชกาลที่ 10 ในประเทศเยอรมนีจากเฟซบุ๊กหนึ่ง พร้อมโพสต์ข้อความประกอบ</p>
<p style="margin-left: 40px;">เช่นเดียวกับคดีแรก อุกฤษฏ์ถูกออกหมายจับโดยที่พนักงานสอบสวนไม่ได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาก่อน</p>
<p style="margin-left: 40px;">ร.ต.อ.ชูมิตร ชุณหวาณิชพิทักษ์ พนักงานอัยการ จังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ</p>
<p style="margin-left: 40px;">คำฟ้องโดยสรุประบุว่า ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบัน ทรงเป็นประมุขดํารงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ และมีสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ เป็นองค์ราชินี</p>
<p style="margin-left: 40px;">ระหว่างวันที่ 7-26 พ.ค. 2563 จำเลยได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยมีใจความว่า “อย่างนี้ต้องทรงพระเจริญเต็มที่เลยนะเนี่ย” ประกอบกับข้อความที่แชร์มาจากโพสต์เฟซบุ๊กมีใจความว่า “นักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยชาวไทยและชาวเยอรมัน ได้มีการชุมนุมประท้วงหน้าโรงแรมใหญ่ ซอนเนนบิคล์…” และมีรูปพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 10</p>
<p style="margin-left: 40px;">ข้อความดังกล่าวถือเป็นข้อความเท็จทั้งสิ้น ในหลวงรัชกาลที่ 10 ไม่ได้เป็นไปตามที่ใส่ความแต่อย่างใด การกระทำของจำเลยเป็นการล่วงเกิน ใส่ร้าย ใส่ความ ดูหมิ่น และหมิ่นประมาทรัชกาลที่ 10 โดยมีเจตนาทำให้ประชาชนที่อ่านข้อความมีความรู้สึกเกลียดชังรัชกาลที่ 10</p>
<p style="margin-left: 40px;">นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 30 ม.ค. 2567</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">แอดมินเพจคนกลมคนเหลี่ยม ใช้การ์ตูนสะท้อนปัญหา</span></h2>
<p>จิรวัฒน์ แอดมินเพจคนกลมคนเหลี่ยมและจำเลยคดีมาตรา 112 กล่าวว่า ตนมีคดีเดียวในตอนนี้คือ มาตรา 112 มาจากการ์ตูนทั้งหมด คิดว่าเพราะเขียนเหมือนไป โดนมาตรา 112 ไป 4 กรรม คดี วันที่ 31 ม.ค. นี้ อัยการจะส่งฟ้องศาลอาญา ก็ยังไม่มั่นใจว่าตนจะได้ประกันหรือไม่</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488878945_96fa46dd37_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">จิรวัฒน์ (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>อย่างไรก็ตาม จิรวัฒน์ เล่าว่า ตนเคยเข้าเรือนจำไปตอนคดีฉีกบัตรกับ ปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ ในคดีฉีกบัตรประชามติ ที่เข้าไปอยู่ 1 วัน โดยในนั้นที่มีปัญหาทั้งสุขอนามัย รวมทั้งตรวจที่มีการละเมิดร่างกาย เช่น การแหกก้นเพื่อค้นหายาเสพติด ทั้งที่ตนมาด้วยคดีการเมืองไม่ได้มาด้วยคดียาเสพติด และตนก็เตรียมตัวไว้ในครั้งนี้หากต้องกลับเข้าไปอีก</p>
<p>แอดมินเพจคนกลมคนเหลี่ยม เล่าถึงที่มาของตัวเองที่สนใจการเมืองว่า ตนเองโตมาในพื้นที่ กทม. และสมุทรปราการ ย่านที่ตนอยู่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมทั้งจีน ไทย อิสลาม ทำให้เห็นความแตกต่างหลากหลาย ทำให้คิดว่าประเทศนี้มีความหลากหลาย และมาสนใจเรื่องการเมืองจริงๆ ช่วง ม.ต้น ที่อ่านหนังสือมากนำมาสู่การตั้งคำถามและการเปรียบเทียบระหว่างสังคมไทยกับหนังและหนังสือที่อ่าน ตั้งคำถามมากกับสิ่งที่เราเจอ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม เสรีภาพ สังคมของเรา เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยเริ่มเห็นปัญหาในระดับสังคมที่กว้างขึ้น ทำให้เห็นปัญหาทางสังคมไปเรื่อยๆ จนถึงยอดบนสุดของปัญหาว่ามันคืออะไร นำมาสู่ความสนใจเรื่องการเมือง</p>
<p>“สิ่งเดียวที่ดีที่สุดในชีวิตของผมคือการตั้งคำถามกับสิ่งที่เจอ” จิรวัฒน์ กล่าว พร้อมเล่าว่า ตนเคยเจอประสบการณ์ที่ต้องมาเรียนสายจากการที่ถนนติดจากอุบัติเหตุ แต่ครูที่เป็นฝ่ายปกครองจะตีตนทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมาสาย ขณะที่รุ่นพี่ตนกลับไม่กล้าพูดหรืออธิบายต่อครูเลย ทั้งที่ครูควรเข้าใจสาเหตุเนื่องจากคนที่มาสายมีจำนวนมาก สิ่งที่เกิดขึ้นจึงเกิดการตั้งคำถามตามมาหลายๆ อย่าง</p>
<p>แอดมินเพจคนกลมคนเหลี่ยม เล่าต่อถึงสาเหตุที่ใช้การวาดการ์ตูนมาสื่อสารนั้นเพราะชอบการวาดการ์ตูน และหลังจบมัธยมตนก็ไปเรียนต่อ ปวช. เรียนศิลปะ และอีกเช่นกันตอนเรียนศิลปะที่จะอวยไม่ว่าจะเป็นศาสนา เจ้าในวงการศิลปะ นอกนั้นก็เป็นสายลมแสงแดด แต่กลับไม่สนใจประเด็นทางสังคม ความรุนแรงในโรงเรียน ตนจึงสงสัยว่า ศิลปะในสังคมไทยจะรับใช้แค่อำนาจนิยมเหล่านี้เท่านั้นหรือ จึงคิดว่าหากอยู่ในแวดวงศิลปะแล้วต้องวาดอะไรซ้ำๆ แบบนี้ ตนจึงไม่อยากอยู่แล้ว แต่ก็ถือว่าได้ฝีมือมา ในเพจตนก็จะมีการเขียนเรื่องปัญหาความรุ่นแรง อำนาจนิยมในโรงเรียนด้วย</p>
<p>เมื่อตนสนใจเรื่องการเมือง และเป็นนักกิจกรรม แต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพและยังอยากแสดงออกจึงมาทำเพจคนกลมคนเหลี่ยม โดยการนำเสนอแบบตลกร้าย แม้จะเป็นปัญหาที่เครียด ตนดีใจที่เอาเรื่องตลกมาฉาบในเรื่องที่เครียดได้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53488465971_95efd289a7_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">จิรวัฒน์ (ภาพจาก iLaw)</span></p>
<p>การทำเพจนั้น จิรวัฒน์ เล่าว่า ทำให้ตนก็ต้องไล่ดูข่าวและประเด็นสังคมการเมือง ใช้เวลาวาดไม่นาน แต่ใช้เวลาคิดประเด็นนั้นนานกว่า เขาย้ำดว้ยว่าประเทศนี้ไม่ได้แก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่แก้เพียงปัญหาแบบผักชีโรยหน้า สุดท้ายอำนาจรัฐหรืออำนาจอะไรบ้างอย่างทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ ถามว่าเครียดไหมก็เครียดเพราะการแก้ปัญหาพักๆ แล้วผ่านไป</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/01/107829
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - [Live] คุยกับ มายด์ ภัสราวลี ว่าด้วย 2 แสนชื่อและก้าวต่อไปเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 102 กระทู้ล่าสุด 29 สิงหาคม 2566 01:02:53
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - [Live] คุยกับ มายด์ ภัสราวลี กลุ่มล่าชื่อเอาอย่างไร หลังรบ.ตั้ง 35 กก.ศึกษาแนวทางทำปร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 55 กระทู้ล่าสุด 05 ตุลาคม 2566 21:02:58
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - [Live] คุยกับ มายด์ ภัสราวลี กลุ่มล่าชื่อเอาอย่างไร หลังรบ.ตั้ง 35 กก.ศึกษาแนวทางทำปร
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 58 กระทู้ล่าสุด 06 ตุลาคม 2566 01:38:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - พูดคุย-ส่งกำลังใจจำเลยคดี ม.112 'มายด์ ภัสราวลี-ลลิตา-อุกฤษฏ์-แอดมินคนกลมคนเหลี่
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 62 กระทู้ล่าสุด 28 มกราคม 2567 20:55:08
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - พิพากษาจำคุก 2 ปี 'มายด์ ภัสราวลี' คดี ม.112 เหตุร่วมปราศรัย #ม็อบเพราะประเทศนี้เ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 51 กระทู้ล่าสุด 01 กุมภาพันธ์ 2567 04:39:00
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.789 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้