นักวิเคราะห์กังวลกรณี 'โดนัลด์ ทรัมป์' ขู่ประเทศ 'นาโต' หวั่นกระทบความมั่นคงยุโรป
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-02-20 11:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพโดย Tia Dufour จาก
Trump White House Archived</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ พูดถึงกลุ่มประเทศนาโตเมื่อไม่นานนี้ว่าเขาจะ "สนับสนุน" ให้รัสเซียโจมตีประเทศพันธมิตรสหรัฐฯ ได้สร้างความตระหนกให้กับยุโรป แล้วปูตินก็ยังแสดงท่าทีเห็นด้วยกับทรัมป์เรื่องนาโต ทำให้ผู้นำในประเทศยุโรปและนักวิเคราะห์จำนวนมากมองว่ายิ่งน่าเป็นห่วง เมื่อทรัมป์ถูกประเมินว่าอาจได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 67 นี้</p>
<p>"(นาโต) ไม่สามารถเป็นพันธมิตรทางการทหารแบบ 'สั่งเอาตามใจ' ได้ มันไม่สามารถเป็นพันธมิตรทางการทหารที่งานของพวกเขาขึ้นอยู่กับอารมณ์ขันของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้" โจเซป บอร์เรลล์ ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง โต้ตอบความเห็นต่อพันธมิตรนาโตของ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 2567 นี้</p>
<p>ก่อนหน้านี้ ทรัมป์กล่าวไว้ในการหาเสียงที่รัฐเซาธ์แคโรไลนาเมื่อ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ถ้าเขาได้เป็นประธานาธิบดี เขาจะเตือนกลุ่มประเทศพันธมิตรนาโตทั้งหลายว่า เขา "สนับสนุน" ให้รัสเซีย "ทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ" ต่อประเทศที่ไม่ได้ "ชำระบิล" ของพวกเขาเอง</p>
<p>การพูดของทรัมป์ครั้งนี้ส่งผลให้เกิดความตระหนกต่อกลุ่มประเทศสมาชิกนาโตในยุโรป ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มประเทศยุโรปหลายประเทศเริ่มรู้สึกกระวนกระวายมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเมื่อมีนักวิเคราะห์ประเมินถึงความเป็นไปได้ที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในปีนี้</p>
<p>เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวถึงความคิดเห็นของทรัมป์ว่า "คำกล่าวใดๆ ก็ตามที่สื่อเป็นนัยว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปกป้องกันเองนั้น จะเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของพวกเราทั้งหมด รวมถึงสหรัฐฯ เองด้วย ทำให้ทหารอเมริกันและทหารยุโรปตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงมากขึ้น"</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">หรือทรัมป์จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสำเร็จ?</span></h2>
<p>นักวิเคราะห์ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งรอบแรก กลายเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้มีโอกาสที่ยุโรปจะต้องเผชิญกับทรัมป์อีกครั้ง</p>
<p>คริสทีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางของยุโรประบุว่าความเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ นั้นนับเป็น "ภัยคุกคามอย่างชัดเจนต่อยุโรป"</p>
<p>อเล็กซานเดอร์ เดอ ครู นายกรัฐมนตรีเบลเยียมกล่าวไว้ที่การประชุมสภายุโรปเมื่อกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาว่า "ถ้าหากปี 2567 จะนำ 'อเมริกาต้องมาก่อน' (นโยบายชาตินิยมของทรัมป์) กลับมาอีกครั้ง มันจะเป็นการทำให้เกิดสภาพการณ์แบบ 'ยุโรปตามลำพัง' หนักกว่าที่เคยเป็นมาตลอด"</p>
<p>ในเอกสารรายงานที่ตีพิมพ์โดยกลุ่มคลังสมอง "คณะมนตรียุโรปด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ" (ECFR) ระบุว่านายกรัฐมนตรีสวีเดน คาร์ล บิลด์ ประเมินถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้งจะส่งผลกระทบไกลไปถึงระดับโลก</p>
<p>บิลด์ระบุว่า หากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะละทิ้งนโยบายแก้ปัญหาโลกร้อนแล้วไปขยายการลงทุนด้านเชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่ม และนโยบายสำหรับนาโตในกรณีดีที่สุดก็จะหยุดนิ่งอยู่เฉยๆ แล้วเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะกระชับสัมพันธ์ระหว่างมิตรสหายคนสนิทอย่างวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียและวิกเตอร์ ออร์บาน ประธานาธิบดีฝ่ายขวาของฮังการีแทน ส่วนสงครามการค้าก็จะหนักข้อขึ้น</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">อะไรยังไง? ปูติน บอกว่าเขาอยากให้ 'ไบเดน' ชนะมากกว่า 'ทรัมป์'</span></h2>
<p>วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียแสดงความคิดเห็นไว้เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ผ่านทางคำถามของรายการโทรทัศน์ที่ถามว่าระหว่างไบเดนและทรัมป์เขาอยากให้ใครชนะ ปูตินบอกว่า เขาอยากให้ไบเดนชนะมากกว่า เพราะไบเดน "มีประสบการณ์มากกว่า คาดเดาได้ง่ายกว่า และมีความหัวเก่า" และบอกอีกว่า รัสเซียพร้อมที่จะ "ทำงานกับผู้นำสหรัฐฯ คนไหนก็ตามที่ได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชนอเมริกัน"</p>
<p>ความคิดเห็นของปูติน มีออกมาหลังจากที่ก่อนหน้านี้หนึ่งวันไบเดนกล่าวหาทรัมป์ว่า "ก้มหัวให้กับเผด็จการรัสเซีย" และเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันฝ่าฝืนอิทธิพลของทรัมป์โดยกลับมาให้งบประมาณช่วยเหลือยูเครนที่กำลังเผชิญสงครามการรุกรานจากรัสเซียมากกว่านี้</p>
<p>ทรัมป์กำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาว่ามีความเห็นใจต่อปูตินมากเกินไป และหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ก็เคยประเมินว่ารัสเซียได้แทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในปี 2559 ทำให้ทรัมป์เอาชนะฮิลลารี คลินตัน ด้วย</p>
<p>ถึงแม้ว่าปูตินจะพูดสนับสนุนไบเดนแบบไว้ตัว แต่ปูตินก็ยังคงบอกอีกว่านโยบายของสหรัฐฯ ต่อรัสเซียนั้น "ผิดพลาดและเป็นอันตราย" และบอกว่าทรัมป์พูดถูกต้องที่กล่าวหาเรื่องอนาคตของนาโต</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำไมคำพูดของทรัมป์สั่นคลอนความเป็นพันธมิตรของนาโต</span></h2>
<p>ตอนเป็นประธานาธิบดีทรัมป์เคยขู่ว่าจะถอนสหรัฐฯ ออกจากการเป็นสมาชิกนาโตหลายครั้ง เขาเตือนว่าเขาจะทำให้ยุโรปต้องจ่ายเงินให้สหรัฐฯ เพื่อให้สหรัฐฯ คุ้มครองพวกเขา ทำให้เกิดความกังขาต่อสหรัฐฯ ที่มีพันธกรณีตามค่านิยมแก่นกลางของความเป็นพันธมิตรทางการทหารนาโต ใน "มาตรา 5" ของสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ระบุว่า "การโจมตีต่อเป้าหมายหนึ่งหรือมากกว่านั้นในยุโรปและอเมริกาเหนือจะถูกนับว่าเป็นการโจมตีต่อพวกเขาทั้งหมด"</p>
<p>ความคิดเห็นล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้นักการทูตหลายคนบอกว่า "น่าเป็นห่วง" และถ้าหากทรัมป์ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้เขาอาจจะยิ่งมีความมุทะลุบ้าบิ่นมากกว่าเมื่อเทียบกับสมัยแรก</p>
<p>แอลิสัน วูดวาร์ด ผู้ช่วยนักวิจัยอาวุโสจากสถาบันเพื่อยุโรปศึกษาในบรัสเซลกล่าวว่า ครั้งหลังสุดที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มันได้สร้างความว้าวุ่นครั้งใหญ่ที่สุดในความสัมพันธ์สหรัฐฯ-ยุโรป ทำให้ในตอนนี้เหล่าผู้นำต่างก็เตรียมรับการเปลี่ยนแปลง ถ้าหากว่าทรัมป์จะได้รับเลือกตั้งกลับมาอีกครั้ง</p>
<p>เรื่องนี้ยังเกิดขึ้นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของสถานการณ์ความมั่นคงในยุโรปด้วย เนื่องจากประเทศพันธมิตรบางส่วนเตือนอย่างเปิดเผยว่าสงครามที่รัสเซียทำต่อยูเครนอาจจะถูกยกระดับขึ้นอีก</p>
<p>มิคาล บารานอวสกี กรรมการผู้จัดการของ “เยอรมันมาร์แชลฟันด์อีสต์” องค์กรคลังสมองสหรัฐฯ กล่าวถึงความคิดเห็นของทรัมป์ได้สร้างความเป็นไปได้ที่นาโตจะถูกทดสอบจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ความคิดเห็นของทรัมป์จึง "ทำให้ยุโรปมั่นคงน้อยลง" อีกทั้งยังสร้างข้อกังขาในใจของผู้นำหลายคนรวมถึงกลุ่มผู้นำของยุโรปฝั่งตะวันออก ว่าสหรัฐฯ จะยืนหยัดร่วมกับยุโรปหรือไม่ถ้าหากว่าเกิดการโจมตีขึ้นกับพวกเขา</p>
<p>เรื่องนี้ทำให้รัฐบาลทั่วยุโรปเข้าใจว่ากลุ่มประเทศพันธมิตรนาโตในยุโรปจะต้องเตรียมพึ่งพาตนเองมากขึ้นในเรื่องการป้องกันตนเองไม่ว่าใครก็ตามจะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ</p>
<p>บาร์ต เคเรอมาน ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จากสถาบันลูเวนเพื่อยุโรปและนานาชาติศึกษาในเบลเยียม กล่าวในฐานะนักวิเคราะห์รัฐบาลสหรัฐฯ ว่า การที่ทรัมป์มีโอกาสได้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัยหนึ่งนั้นทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้ยุโรปส่งเสริมความร่วมมือและการบูรณาการในด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคง</p>
<p>"ถ้าคุณต้องการจะลดความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะถอนตัวจากสมาชิกภาพของนาโต เมื่ออยู่ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ คุณจะต้องทำอะไรสักอย่างเกี่ยวกับการแบ่งเบาภาระ และนอกเหนือจากทรัมป์แล้ว ถ้าหากยุโรปต้องการเล่นบทบาทที่สำคัญในเวทีโลก พวกเขาจะต้องลงทุนมากขึ้นในด้านกลาโหม เนื่องจากโลกกำลังมีความมั่นคงน้อยลงเรื่อยๆ" เคเรอมานกล่าว</p>
<p> </p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<ul>
<li>
Experts fear Trump's NATO comments 'made Europe less secure', DW, 12-02-2024</li>
<li>
Can Europe cope with another Donald Trump presidency?, 27-01-2024</li>
<li>
Vladimir Putin says he prefers Joe Biden over Donald Trump in US election, Financial Times, 15-02-2024</li>
</ul>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108143