กัมพูชาตอบยูเอ็นกรณี ‘วันเฉลิม’ ไม่เป็นคดีอุ้มหายอ้างไม่พบหลักฐาน จนท.รัฐกัมพูชาเอี่ยว แต่ยังสืบอยู่
<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-02-20 15:43</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กัมพูชาตอบคำถามคณะกรรมการอุ้มหายฯ ของยูเอ็น ปฏิเสธกรณีของวันเฉลิมไม่ใช่คดีอุ้มหายตามเงื่อนไขอนุสัญญาอุ้มหาย เนื่องจากไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐของกัมพูชาเอี่ยว แต่ยังสืบสวนและหาตัววันเฉลิมอยู่และกระบวนการเป็นความลับ ผอ.มูลนิธิผสานวัฒนธรรมติงแม้ก่อนหน้านี้กัมพูชาจะไม่เคยรับว่าวันเฉลิมอยู่ในประเทศมา 3 ปีแต่เมื่อทราบว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐตนก็น่าจะรู้และบอกได้ว่าเป็นของรัฐใดหรือบุคคลใด</p>
<div class="more-story">
<p>
ผู้ลี้ภัยการเมืองไทยทิ้งคำพูดสุดท้าย 'หายใจไม่ออก' ก่อนถูกคนร้ายอุ้มหายในพนมเปญ</p>
</div>
<p>มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเผยแพร่ข่าวพิจารณาทบทวนสถานการณ์การบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศกัมพูชาของคณะกรรมการว่าด้วยการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (CED) องค์การสหประชาชาติ ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ (19 ก.พ. 2567) ตามเวลาประเทศไทย 21.00 น. ซึ่งประเทศกัมพูชาในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาฉบับดังกล่าว</p>
<p>ระหว่างการพิจารณาดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้ตั้งคำถามต่อประเทศกัมพูชาถึงกรณีการบังคับสูญหาย วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยจากการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 ที่ถูกบังคับสูญหายระหว่างที่เขาลี้ภัยในกัมพูชาเมื่อเดือนมิถุนายน 2563 และยังมีการพิจารณาการบังคับให้สูญหายอีก 3 ราย และคณะกรรมการฯ ได้ขอให้ประเทศกัมพูชารายงานถึงความคืบหน้าของคดีทั้ง 4 ดังกล่าว</p>
<p>ในรายงานของมูลนิธิระบุถึงกรณีของวันเฉลิมว่า ตัวแทนประเทศกัมพูชาได้ตอบคำถามของคณะกรรมการโดยแจ้งว่า กรณีดังกล่าวอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนและสำนวนคดีอยู่กับศาลและผู้พิพากษาที่กำลังไต่สวนอยู่ และเป็นความลับ แต่ในกรณีวันเฉลิมไม่เป็นกรณีการบังคับสูญหายตามอนุสัญญาฯ เนื่องจากไม่พบหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐกัมพูชาเกี่ยวข้อง</p>
<p>กรณีของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็น 1 ใน 2 กรณีที่ก่อนหน้านี้ สหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน (FIDH) มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (TLHR) ได้ส่งรายงานสถานการณ์การบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศกัมพูชาต่อคณะกรรมการตามอนุสัญญาอุ้มหายฯ เป็นเอกสารข้อมูลจากภาคประชาสังคมที่ ได้ตั้งคำถามถึงการสืบสวนสอบสวนกรณีการบังคับสูญหายวันเฉลิม</p>
<p>พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าวถึงการตอบคำถามของตัวแทนประเทศกัมพูชาต่อกรณีของวันเฉลิมว่า ก่อนหน้านี้ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทางกัมพูชาไม่เคยยอมรับว่าวันเฉลิมอยู่ที่กัมพูชาและหายตัวไปจากกัมพูชา หากตอบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ของประเทศกัมพูชาเกี่ยวข้องกับกรณีวันเฉลิม ประเทศกัมพูชาก็ต้องมีข้อมูลในทางสืบสวนว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใดหรือเป็นการกระทำของบุคคลกลุ่มใดที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐกัมพูชา เรื่องการสืบสวนสอบสวนคดีละเมิดสิทธิฯ ไม่ใช่เรื่องความลับ เรื่องนี้ต้องเปิดเผยในเวทีการประชุมของสหประชาชาติ เพื่อให้เกิดการปรับโครงสร้างกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของกัมพูชา ทั้งครอบครัว ญาติพี่น้องของวันเฉลิม มีสิทธิที่จะรู้ความจริงว่าวันเฉลิมสูญหายไปอย่างไร ใครเป็นผู้อุ้มวันเฉลิมไป</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ประเทศกัมพูชากล่าวยืนยันระหว่างการรายงานและตอบคำถามต่อคณะกรรมการฯ ในครั้งนี้ว่า “กัมพูชาไม่มีกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหาย ดังนั้นจึงไม่มีข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับกรณีเหล่านี้” นอกจากนี้ ทางการกัมพูชา เคยออกมาให้ข้อมูลว่า “ไม่พบว่าวันเฉลิมอยู่และหายไปในประเทศกัมพูชา” และแม้ว่าประเทศกัมพูชาจะยืนยันในข้อมูลดังกล่าว ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้มีการตั้งคำถามว่าเมื่อใดจะมีการระบุว่าการบังคับให้สูญหายเป็นความผิดทางอาญาในประเทศเพื่อให้มีการสืบสวนสอบสวนได้และมีสถิติข้อมูล รวมทั้งถามย้ำถึงถึงความคืบหน้าในการสืบสวนสอบสวนถึง 4 กรณีที่เชื่อว่าเป็นกรณีการบังคับให้บุคคลสูญหายนอกจากกรณีของวันเฉลิมด้วย</p>
<p>ทั้งนี้ การประชุมนี้จะจัดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม 2567 ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยการพิจารณาทบทวนสถานการณ์การบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศกัมพูชาจะมีถึงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาไทย 16.00-19.00 น. ทาง
เว็บไซต์ของยูเอ็น โดยเมื่อการทบทวนเสร็จสิ้นคณะกรรมการฯ จะมีการสรุปความเห็นให้แก่ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ข้อเสนอแนะและแนวทางในการดำเนินการให้ประเทศกัมพูชาสามารถปฏิบัติตามอนุสัญญาฯ ที่ได้บังคับใช้และให้สิทธิที่รับรองไว้ในอนุสัญญาฯ ได้อย่างเป็นจริงต่อไป มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนประชาชนที่ติดตามและสื่อมวลชนร่วมกันจับตาการประชุมในครั้งนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108145 







