เครือข่ายประชาชนชุมพร-ระนอง คัดค้านแลนด์บริดจ์ เดินสายร้องสถานทูต-UN
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-03-04 21:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เครือข่ายประชาชนชุมพร-ระนอง คัดค้านแลนด์บริดจ์ เดินสายร้องสถานทูต ขอให้รัฐบาลและนักลงทุนโปรดใคร่ครวญการลงทุนโครงการอย่างรอบคอบ เหตุโครงการนี้จะสร้างผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านที่ทำกิน ที่อยู่อาศัยและฐานทรัพยากร อันจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนอย่างรุนแรง</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53566303712_e87f350d6f_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53567597130_a6406d2fa3_b.jpg" /></p>
<p>4 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ระหว่างวันที่ 4 - 6 มีนาคมนี้ เครือข่ายประชาชนชุมพร-ระนอง คัดค้านแลนด์บริดจ์ ประกอบด้วย สภาประชาชนภาคใต้ เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะ และเครือข่ายรักษ์ระนอง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้คัดค้านโครงการเมกะโปรเจกต์แลนด์บริดจ์ หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน (ชุมพร-ระนอง) เ จะมีกิจกรรมยื่นหนังสือคัดค้านโครงการดังกล่าว ทั้งยื่นต่อสถานเอกอัครราชต่างๆ และองค์การสหประชาชาติ (UN) รวมทั้งติดตามความคืบหน้ากับนายกฯที่ทำเนียบรัฐบาล และเตรียมเดินทางยื่นหนังสือตรวจสอบความไม่โปร่งใสของโครงการแลนด์บริดจ์ ต่อ 3 กรรมาธิการ ที่รัฐสภาต่อ นั้น</p>
<p>วันนี้ (4 มี.ค.)
GreenNews รายงานว่า เครือข่ายฯ เดินทางมายื่นจดหมายเปิดผนึกที่สถานทูต 3 แห่งซึ่งเป็นสถานทูตฯ จากประเทศที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้เดินทางไปโรดโชว์เพื่อชักชวนนักลงทุนในต่างประเทศมาลงทุนในโครงการแลนด์บริดจ์ ได้แก่ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย </p>
<p>โดย จดหมายเปิดผนึก ถึงเอกอัครราชทูตทั้ง 3 แห่ง ระบุ ขอให้รัฐบาลและนักลงทุนในประเทศของท่าน โปรดใคร่ครวญการลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์อย่าง รอบคอบ เพราะโครงการนี้จะสร้างผลกระทบกับประชาชนในพื้นที่ ทั้งด้านที่ทำกิน ที่อยู่อาศัยและฐานทรัพยากร อันจะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิชุมชนอย่างรุนแรง</p>
<p>“พวกเรารู้ดีว่าการพัฒนาเป็นสิ่งจำเป็น แต่การพัฒนาจะต้องไม่เบียดขับประชาชนในพื้นที่ให้ตกขอบสังคม และต้องดำเนินไปโดยเคารพต่อหลักการสิทธิมนุษยชน” อีกทั้ง สิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดียังได้รับการประกาศให้เป็นสิทธิมนุษยชนที่จะต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง และความตระหนักต่อการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ (Climate change) จำเป็นที่จะต้องได้รับการคุ้มครอง เราจึงขอส่งจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ผ่านสถานทูต เพื่อสื่อสารให้รัฐบาลและนักธุรกิจในประเทศของท่านได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นการเบื้องต้น ด้วยเชื่อว่าข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกพูดถึงและจะไม่ถูกสื่อสารไปยังพวกท่านอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้ง ประเทศของท่านเป็นประเทศหนึ่งในประเทศสมาชิกของสหประชาชาติและประชาคมโลกที่มีหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษยชนและร่วมผลักดันการลดการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ พวกเราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลและนักธุรกิจประเทศของท่านได้โปรดพิจารณาใคร่ครวญการเข้ามาลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์ฯอย่างรอบคอบ และไม่สนับสนุนการลงทุนในโครงการนี้ ก่อนที่ความเสียหายเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับพวกเราและประชาคมโลกในอนาคต" บางส่วนของจดหมายเปิดผนึก ระบุ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53567355113_7b2d7df852_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53567156541_070135b066_b.jpg" /></p>
<p>ขณะที่จดหมายยื่นต่อองค์การสหประชาชาติ (UN) มีผู้แทนโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้แทนโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทยมารับ สำหรับข้อเรียกร้องของเครือข่ายระบุให้สหประชาชาติเฝ้าระวัง และตรวจสอบว่าโครงการแลนด์บริดจ์ชุมพร – ระนอง เป็นการประกอบธุรกิจที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่</p>
<p>“รัฐบาล และภาคธุรกิจของทุกประเทศจะต้องปกป้องและเคารพภายใต้ข้อตกลง หรือ ปฏิญญาระหว่างประเทศว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งประเทศไทยก็ได้ยอมรับต่อนานาชาติในการรับรองนำเอาข้อแนะนำด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN Guiding Principle on Business and Human Rights: UNGPs) มาปรับใช้ในประเทศไทยจนเป็นที่มาของการจัดทำแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน (National Action Plan on Business and Human Rights: NAP) </p>
<p>อย่างไรก็ตาม แม้ประเทศไทยจะมีการพูด และมีแผนปฏิบัติการว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน พวกเราก็ยังไม่สามารถมีความเชื่อมั่นได้ว่า รัฐบาลไทยจะดำเนินการตามแผนที่กำหนด และหลักการ UNGPs ไม่ว่าจะเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ที่จะเคารพต่อสิทธิในการกำหนดเจตจำนงแห่งตน (Self-Determination Rights) ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการกำหนดวิถีชีวิตที่ประชาชนต้องการโดยไม่ถูกขัดขวางหรือเลือกปฏิบัติในการกำหนดวิถีการดำรงชีวิตของชุมชนท้องถิ่นที่จะไม่ถูกรบกวน </p>
<p>นอกจากนี้ ดังที่กล่าวแล้วว่า โครงการจะส่งผลกระทบในหลายด้านหลายมิติ ซึ่งการดำเนินการของรัฐบาลไทยจึงเป็นการดำเนินการที่จะต้องมีการทบทวนตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจดำเนินโครงการเอง ตลอดไปถึงความสามารถ และมีความจริงใจที่จะกำกับหรือกำชับเรื่องนี้กับประเทศต่าง ๆ ที่จะเข้ามาลงทุนทางธุรกิจในโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง ได้ </p>
<p>พวกเราจึงมีความเห็นร่วมกันที่จะต้องนำข้อห่วงกังวลในเรื่องนี้ส่งต่อให้กับองค์กรระหว่างประเทศในสหประชาชาติ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ และให้ความเห็นต่อรัฐบาลอีกทางหนึ่ง ซึ่งพวกเราเห็นว่าองค์กรและหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของท่านจะสามารถทำหน้าที่นี้ได้เป็นอย่างดี จึงขอส่งหนังสือและรายละเอียดเบื้องต้นมาให้ท่านได้พิจารณาดำเนินการต่อไป โดยพวกเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อท่านเพื่อให้เกิดการคุ้มครองและปกป้องสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน และสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่ดีต่อไป” หนังสือเปิดผนึกจากเครือข่ายฯ ระบุ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/03/108310