[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 03:36:23 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ฮิวแมนไรท์ วอตช์ เรียกร้องปล่อยตัวชาวอุยกูร์ถูกคุมขังในไทยนับ 10 ปี  (อ่าน 34 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 12 มีนาคม 2567 22:18:09 »

ฮิวแมนไรท์ วอตช์ เรียกร้องปล่อยตัวชาวอุยกูร์ถูกคุมขังในไทยนับ 10 ปี
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-03-12 17:40</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ห้องกักตัว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู กรุงเทพฯ (ที่มา: google map)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนสากล "ฮิวแมนไรท์ วอตช์" เรียกร้องรัฐบาลไทยยุติการคุมขังชาวอุยกูร์ จากจีน และให้ลี้ภัยประเทศที่ 3 หลังชาวอุยกูร์ถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2557 และมีผู้เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวอย่างน้อย 5 ราย</p>
<p> </p>
<p>12 มี.ค. 2567 เว็บไซต์องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์ วอตช์ รายงานเมื่อ 8 มี.ค. 2567 ระบุว่า ขณะนี้มีชาวอุยกูร์ ประมาณ 40 คนอยู่สถานกักกัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สวนพลู ซึ่งถูกทางการไทยควบคุมตัวตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2567 รวมระยะเวลา 1 ทศวรรษ และเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเคารพกฎหมายสากล และกฎหมายในประเทศ ไม่ส่งกลับผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไปเผชิญอันตราย อีกทั้ง เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวพวกเขา และให้ชาวอุยกูร์ทั้งหมดเดินทางลี้ภัยไปในประเทศที่พวกเขาต้องการ</p>
<p>กรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12-13 มี.ค. 2557 เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไทยได้พบชาวอุย์กูร์ จำนวน 220 คน ลี้ภัยมาจากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ที่ป่าสวนยาง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ถูกควบคุมตัวกระจายไปยังห้องกักที่ต่างๆ ทั่วประเทศ </p>
<p>เมื่อ 9 ก.ค. 2558 ทางการไทยได้บังคับส่งตัวชายอุยกูร์ 109 คน จากสถานกักกันคนต่างด้าวทั่วประเทศไทย ตามคำขอรัฐบาลจีน โดยมีการใส่กุญแจ และถุงคลุมหัว และส่งตัวพวกเขาให้กับเจ้าหน้าที่จีนที่กรุงเทพฯ จากนั้น มีการส่งตัวขึ้นเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชาวจีนที่มารับตัวในระหว่างการส่งตัว</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/481/19607503465_bc3ed5c944_b.jpg" /></p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52258018771_767d4f012a_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">แฟ้มภาพ ชาวอุยกูร์จำนวน 109 คนถูกเอาถุงดำคลุมหัวและใส่กุญแจมือ ระหว่างถูกส่งตัวกลับประเทศจีน</span></p>
<p>องค์กรตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์เหมือนกับเป็นอาชญากรร้ายแรง ซึ่งถือว่าดูหมิ่นศักดิ์ศรีพวกเขา และถ่ายภาพขณะที่มีการผูกตาและใส่กุญแจมือ โดยหลังจากวันนั้น ยังไม่มีใครทราบชะตากรรมของพวกเขา</p>
<p>ต่อมา ประเทศไทยตัดสินใจกักตัวชายชาวอุยกูร์ประมาณ 50 รายในสถานกันกัน ตม. ประเทศไทย และปล่อยให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากการถูกกักตัวโดยไม่มีเวลากำหนด </p>
<p>ปัจจุบัน นับตั้งแต่มีการควบคุมตัวชาวอุยกูร์ เมื่อปี 2557 ยังคงมีชายอุยกูร์ อย่างน้อย 43 ราย ในสถานกักตัวคนต่างด้าว ซอยสวนพลู กรุงเทพฯ หน่วยคนเข้าเมืองได้ปฏิเสธไม่ให้หน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ UNHCR สามารถเข้าถึงตัวพวกเขา ปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเหล่านี้มีสิทธิที่จะขอรับสถานะของผู้ลี้ภัย </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำไมชาวอุยกูร์ต้องลี้ภัย </span></h2>
<p>ชาวอุย์กูร์ อาศัยอยู่ในมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ประเทศจีน มีจำนวนประชากรราว 10 ล้านราย คิดเป็น 45 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนประชากรทั้งหมดในมณฑลซินเจียง </p>
<p>เมื่อ พ.ค. 2557 รัฐบาลจีน ภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เริ่มปฏิบัติการตามโครงการ 'Strike Hard Campaign เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายที่รุนแรง' ซึ่งเป็นการปฏิบัติมิชอบ และเร่งดำเนินการในปี 2560 คาดว่ามีการจับกุมตัวโดยพลการและคุมขังชาวอุยกูร์และชาวมุสลิมเชื้อสายเตอร์กิซ ประมาณ 1 ล้านคนในซินเจียง ในช่วงที่มีปฏิบัติการนี้เข้มข้นมากสุด พวกเขาถูกสอดแนมข้อมูล ถูกบังคับใช้แรงงาน ถูกบังคับให้พลัดพรากจากครอบครัว และถูกปฏิบัติมิชอบอย่างอื่น แม้จะเป็นโครงการที่อ้างว่ามุ่งต่อต้านการก่อการร้าย แต่ก็มีการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่ทำกิจกรรมอย่างชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งการรับโทรศัพท์ผ่านว็อทส์แอปจากคนที่อยู่ต่างประเทศ ในปี 2565  องค์การสหประชาชาติ ระบุว่า สภาพในซินเจียง "อาจมีลักษณะเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ"</p>
<p>ตามโครงการนี้ รัฐบาลจีนยังได้ละเมิดต่อชาวอุยกูร์ที่หลบหนีไปต่างประเทศ นับแต่ปี 2557 ทางการไทยได้จับกุมผู้ชาย ผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์มากถึง 350 คนที่หลบหนีการประหัตประหารมาจากจีน แม้รัฐบาลไทยจะอนุญาตให้ ผู้หญิงและเด็กประมาณ 173 คน เดินทางออกจากประเทศไทยไปตุรกี ตามความปรารถนาของพวกเขา แต่กลับปฏิบัติต่างไปอย่างสิ้นเชิงและละเมิดสิทธิของชายชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัวไว้
                                       
นอกจากชายชาวอุยกูร์ที่ต้องอยู่ในสถานกักตัวคนต่างด้าวต่อไป ยังมีชายชาวอุยกูร์ อย่างน้อย 5 คนที่ถูกคุมขังดำเนินคดีทางอาญา เนื่องจากหลบหนีออกจากสถานกักตัวคนต่างด้าวในจังหวัดมุกดาหาร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย หลังใช้โทษจนครบ คาดว่าพวกเขาจะยังคงถูกกักตัวโดยไม่มีเวลากำหนดต่อไป</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทำร้ายร่างกายละเมิดสิทธิฯ ของผู้ถูกคุมขัง  เข้าไม่ถึงสิทธิติดต่อบุคคลภายนอก</span></h2>
<p>องค์กรสิทธิมนุษยชน ระบุว่า สำหรับชาวอุยกูร์ทุกคนที่ถูกกักตัวในประเทศไทย หน่วยตรวจคนเข้าเมืองไทยปฏิเสธไม่ให้พวกเขาเข้าถึงทนายความ สมาชิกครอบครัว กลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และบุคคลอื่นๆ อีกทั้ง สภาพภายในสถานกักตัวคนต่างด้าวของไทยมีลักษณะแออัด และขาดสุขอนามัย ผู้ต้องกักขาดแคลนอาหาร น้ำ และบริการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม</p>
<p>ยกตัวอย่างความแออัดกรณีของไทย ผู้ต้องกักในสถานกักตัวคนต่างด้าวของไทยมักถูกกักในห้องแบบเปิด และบางครั้งมีคนอยู่แออัดมากกว่า 100 คน </p>
<p>นอกจากนี้ สมัยก่อนผู้ต้องกักที่เป็นเด็กถูกควบคุมตัวพร้อมกับผู้ใหญ่ ทำให้เกิดอันตรายในแง่ความคุ้มครองทางสังคม แต่ในปี 2562 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เห็นชอบที่จะงดเว้นการกักตัวเด็ก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีกลับยังคงเห็นการกักตัวเด็กในห้องกัก</p>
<p>ฮิวแมนไรท์ วอตช์ ระบุว่า มีการสัมภาษณ์อดีตผู้ต้องกักเข้าเมืองผิดกฎหมาย พบว่าห้องกักที่ซอยสวนพลูมีการทุบตี และการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องหลายรูปแบบ และก่อนหน้านี้องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับสถานกักกันเคยรวบรวมหลักฐานร้องเรียนต่อรัฐบาล แต่มีความเห็นว่ารัฐบาลไม่ได้แสดงความใส่ใจอย่างจริงจังที่จะแก้ปัญหาร้ายแรงเหล่านี้</p>
<p>องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวด้วยว่า พยานบางคนระบุว่า ชาวอุยกูร์ได้รับการปฏิบัติเลวร้ายกว่าผู้ต้องกักคนอื่น อีกทั้ง บทความของสำนักข่าวต่างชาติ VICE News เปิดเผยโดยอ้างคำพูดจากผู้ต้องกัก ระบุว่า "พวกเขาถูกปฏิบัติเหมือนเป็นผู้ก่อการร้าย … ไม่อนุญาตให้ใครมาเยี่ยม ไม่สามารถรับเงิน และไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้โทรศัพท์มือถือ แกนนำของพวกเขาจะถูกลงโทษ หากเจ้าหน้าที่พบว่าพวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือ"</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ตลอด 10 ปีมีผู้เสียชีวิต 5 ราย</span></h2>
<p>รายงานจากฮิวแมนไรท์ วอตช์ และสภาอุย์กูร์โลก รายงานว่า เกือบ 10 ปี มีชาวอุยกูร์เสียชีวิตภายใต้การควบคุมของทางการไทย จำนวน 5 ราย โดยเมื่อปี 2557 มีทารก และเด็กวัย 3 ปี เสียชีวิต ต่อมา ปี 2561 ชายวัย 27 ปี เสียชีวิตจากโรคมะเร็งระหว่างอยู่ในห้องกัก</p>
<p>ปี 2566 มีชายชาวอุยกูร์เสียชีวิต 2 ราย ด้วยโรคปัญหาเกี่ยวกับตับ และปอด ระบบทางเดินหายใจ ระหว่างถูกคุมตัวในห้องกักสวนพลู กรุงเทพฯ</p>
<p>องค์กรสิทธิมนุษยชน ระบุว่า หากทางไทยอำนวยความสะดวกอย่างเหมาะสมให้พวกเขาเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ ให้เข้าถึงที่ปรึกษาทางกฎหมาย หรือหน่วยงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอื่นๆ พวกเราอาจป้องกันไม่ให้เกิดการเสียชีวิตเช่นนี้ได้ แต่ชาวอุยกูร์ถูกตัดขาดจากความสนับสนุน และถูกปล่อยทิ้งให้ต้องทนทรมานระหว่างการกักตัว ซึ่งฮิวแมนไรท์ วอตช์ ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลไทยตั้งใจเอาใจรัฐบาลจีน ซึ่งยังคงเรียกร้องให้ประเทศไทยบังคับส่งกลับบุคคลเหล่านี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไทยต้องยึดหลักการกฎหมายสากลไม่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปเผชิญอันตราย</span></h2>
<p>ขณะที่รัฐบาลไทย กลัวว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีน แต่พวกเขาก็กังวลกับปฏิกิริยาด้านลบจากนานาชาติแบบที่เกิดขึ้นในปี 2558 ตอนที่ไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ ส่งผลให้กลุ่มรัฐบาลประเทศต่างๆ รวมทั้งสหรัฐฯ แคนาดา และสหภาพยุโรปและประเทศสมาชิก เรียกร้องให้ประเทศไทยปล่อยตัวชาวอุยกูร์ที่ยังกักตัวอยู่ และอนุญาตให้พวกเขาเดินทางอย่างปลอดภัยไปประเทศที่ 3</p>
<p>ฮิวแมนไรท์ วอตช์ กล่าวว่า ประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) ประเทศไทยมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะไม่ส่งตัวบุคคลไปยังสถานที่ใด ที่เสี่ยงจะทำให้เขาถูกทรมาน หรือ เมื่อ ก.พ. 2566 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายของไทย เริ่มมีผลบังคับใช้ กฎหมายนี้กำหนดว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไม่ "ขับไล่ ส่งกลับ  หรือส่งบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังอีกรัฐหนึ่ง หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้น จะไปตกอยู่ในอันตรายที่จะถูก กระทำทรมาน ถูกกระทำการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือถูกกระทำให้สูญหาย"</p>
<p>ฮิวแมนไรท์ วอตช์ เรียกร้องว่า รัฐบาลนำโดยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ควรระงับการตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับไปประเทศจีน และตระหนักถึงพันธกรณีของไทยที่มีต่อกฎหมายสากล นอกจากนี้ รัฐบาลไทยควรปล่อยตัวชาวอุยกูร์ทั้งหมด และให้พวกเขาลี้ภัยไปประเทศที่ 3 เพื่อให้พวกเขาได้กลับไปพบหน้ากับครอบครัวอีกครั้ง </p>
<p>อนึ่ง ต่อกรณีที่ทำไมผู้ลี้ภัยที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย และไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญา ถึงถูกคุมขังอย่างยาวนานนั้น จากการสอบถามภาคประชาสังคม ระบุว่า ปกติ หากผู้ลี้ภัยถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุม เจ้าหน้าที่จะอาศัยอำนาจตามกฎหมาย มาตรา 54 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ผลักดันผู้ลี้ภัยออกนอกประเทศ แต่ปัญหาอยู่ที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาว่า ตม.สามารถควบคุมตัวได้นานเท่าไร ก่อนผลักดันออกประเทศ ดังนั้น จึงส่งผลทำให้ ตม.สามารถควบคุมตัวผู้ถูกกักนานเท่าไรก็ได้ และเป็นผลให้ชาวอุยกูร์ต้องอยู่ในห้องกักมาอย่างยาวนานถึง 10 ปี  
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/03/108402
 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
[ข่าวมาแรง] - ศาลอนุมัติหมายจับเจ้าของโกดังเก็บดอกไม้เพลิงมูโนะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 349 กระทู้ล่าสุด 02 สิงหาคม 2566 14:49:17
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - องค์กรพิทักษ์สัตว์เรียกร้องให้เพิ่มเรื่องสวัสดิภาพสัตว์และห้ามใช้ยาปฏิชีวน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 361 กระทู้ล่าสุด 05 สิงหาคม 2566 15:31:10
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - คาดแบงก์พาณิชย์ไทยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กนง.
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 265 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:04:42
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - ประเทศไทยกำลังเดินถอยหลังเรื่องความคุ้มครองความยากจนผู้สูงอายุ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 274 กระทู้ล่าสุด 17 สิงหาคม 2566 17:55:22
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวมาแรง] - เผยนักกิจกรรมชายแดนใต้ถูกคุกคามหลังไลฟ์สดการปิดล้อม
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 208 กระทู้ล่าสุด 20 สิงหาคม 2566 15:35:02
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.42 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 01:53:33