ยูนิเซฟเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎรให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อเด็กเป็นอันดับแรก
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-04-01 13:20</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ยูนิเซฟและโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเพิ่มการลงทุนในเด็ก โดยทั้ง 2 หน่วยงานร่วมนำเสนอข้อมูลเชิงประจักษ์แก่สำนักงบประมาณของรัฐสภาและสำนักงานเลขาธิการของสภาผู้แทนราษฎร</p>
<p> </p>
<p>1 เม.ย.2567 ฝ่ายสื่อสารองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย และโครงการพัฒนาแห่<wbr></wbr>งสหประชาชาติ (UNDP) เรียกร้องให้รัฐบาลไทยเพิ่<wbr></wbr>มการลงทุนในเด็ก โดยทั้ง 2 หน่วยงานร่วมนำเสนอข้อมูลเชิ<wbr></wbr>งประจักษ์แก่สำนักงบประมาณของรั<wbr></wbr>ฐสภาและสำนักงานเลขาธิ<wbr></wbr>การของสภาผู้แทนราษฎรในงานสั<wbr></wbr>มมนา "เสริมพลังอนาคตไทย: บทบาทสภาผู้แทนราษฎรต่<wbr></wbr>อการยกระดับการลงทุนเพื่อเด็<wbr></wbr>กในประเทศไทย" ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐสภาเมื่อวันที่<wbr></wbr>28 มีนาคมที่ผ่านมา</p>
<p>รายงานระบุด้วยว่างานสัมมนาครั้งนี้มุ่งเน้<wbr></wbr>นการหาแนวทางในการเพิ่มการลงทุ<wbr></wbr>นในเด็กเพื่อให้เกิดประโยชน์สู<wbr></wbr>งสุดต่อชีวิตและพัฒนาการของเด็กๆ โดยยูนิเซฟได้นำเสนอข้อมูลสถานก<wbr></wbr>ารณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยล่<wbr></wbr>าสุดเมื่อปี 2565 จัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ<wbr></wbr>และยูนิเซฟ ซึ่งเป็นการสำรวจด้านเด็<wbr></wbr>กและสตรีที่ครอบคลุมที่สุดเพื่<wbr></wbr>อให้ผู้กำหนดนโยบายมีข้อมู<wbr></wbr>ลในการประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาครั้<wbr></wbr>งนี้ ประกอบไปด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็<wbr></wbr>นคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญจากยูนิเซฟ และตัวแทนคณะกรรมการที่ปรึ<wbr></wbr>กษาเยาวชนยูนิเซฟ</p>
<p>ผลสำรวจสถานการณ์เด็กล่าสุดชี้<wbr></wbr>ให้เห็นว่า แม้ความเป็นอยู่ของเด็<wbr></wbr>กในประเทศไทยจะมีความก้าวหน้<wbr></wbr>าในหลายด้าน เช่น การเข้าถึงวัคซีน หรือการเข้าเรียนในระดับชั้<wbr></wbr>นประถมศึกษา แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึ<wbr></wbr>กษาและการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยพบว่าอัตราการเข้าเรียนระดั<wbr></wbr>บปฐมวัยลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่<wbr></wbr>านมา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความพร้<wbr></wbr>อมและพัฒนาการของเด็กเล็ก นอกจากนี้ยังพบว่า เด็ก 1 ใน 4 คนไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อพั<wbr></wbr>ฒนาการของเด็กๆ โดยเฉพาะในขวบปีแรก ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของการพั<wbr></wbr>ฒนาตลอดชีวิต</p>
<p>คยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า รัฐสภาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาผู้<wbr></wbr>แทนราษฎร มีบทบาทสำคัญในกระบวนการจั<wbr></wbr>ดสรรงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่<wbr></wbr>าความต้องการของเด็กในด้านต่างๆ จะได้รับการตอบสนอง ในฐานะตัวแทนของประชาชนซึ่งได้<wbr></wbr>รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่<wbr></wbr>กำหนดอนาคตของชาติ ท่านสามารถสร้างความแตกต่างได้<wbr></wbr>อย่างมหาศาลต่ออนาคตของเด็ก ๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว</p>
<p>ยูนิเซฟได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกั<wbr></wbr>บแนวทางการจัดการด้<wbr></wbr>านงบประมาณและการจัดสรรทรั<wbr></wbr>พยากรอย่างมีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมสิทธิเด็กในด้านต่<wbr></wbr>าง ๆ เช่น การศึกษา สุขภาพ และการคุ้มครองเด็ก พร้อมชี้ให้เห็นว่าประเทศที่ให้<wbr></wbr>ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์<wbr></wbr>มีแนวโน้มที่จะเติบโตทางเศรษฐกิ<wbr></wbr>จสูงกว่าในระยะยาว นอกจากนี้ ดัชนีทุนมนุษย์ของธนาคารโลก ยังระบุว่า เด็กไทยที่เกิดในวันนี้จะเติ<wbr></wbr>บโตขึ้นและสามารถมีผลิตภาพได้<wbr></wbr>เพียงร้อยละ 61 เมื่อพวกเขาอายุครบ 18 ปี แต่หากประเทศไทยลงทุนเด็<wbr></wbr>กและเยาวชนได้อย่างมีประสิทธิ<wbr></wbr>ภาพ จะมีโอกาสเพิ่มผลิตภาพได้อีกร้<wbr></wbr>อยละ 39 ของที่สูญเสียไป</p>
<p>เรอโน เมแยร์ ผู้แทนโครงการพัฒนาแห่<wbr></wbr>งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “บทบาทสำคัญของสมาชิกสภาผู้<wbr></wbr>แทนราษฎรเกี่ยวข้องกั<wbr></wbr>บกระบวนการจัดสรรงบประมาณ ได้แก่ การทบทวน อนุมัติ และติดตามการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งงานสัมมนาที่จัดขึ้นโดยสำนั<wbr></wbr>กงานงบประมาณรัฐสภา ยูนิเซฟ และ ยูเอ็นดีพี มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ว่<wbr></wbr>าการจัดสรรงบประมาณตอบโจทย์<wbr></wbr>ความท้าทายที่เด็กไทยเผชิญอย่<wbr></wbr>างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายที่<wbr></wbr>เราพบจากผลสำรวจสถานการณ์เด็<wbr></wbr>กและสตรี ทั้งนี้สหประชาชาติได้พัฒนาเครื่<wbr></wbr>องมือหลายอย่างที่สนับสนุนให้<wbr></wbr>สมาชิกรัฐสภาใช้บทบาทของตนได้ ตั้งแต่ การจัดสรรงบประมาณที่คำนึงถึงมิ<wbr></wbr>ติหญิงชาย ไปจนถึงการจัดกลุ่มเพื่อติ<wbr></wbr>ดตามงบประมาณด้านการเปลี่<wbr></wbr>ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่าเป้<wbr></wbr>าหมายการพัฒนาประเทศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยื<wbr></wbr>นและงบประมาณของประเทศมี<wbr></wbr>ความสอดคล้องกัน”</p>
<p> </p>
<p>“การลงทุนเพื่อสิทธิเด็กไม่ได้<wbr></wbr>เป็นเพียงสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้<wbr></wbr>น แต่ยังเป็นการลงทุนทางเศรษฐกิ<wbr></wbr>จที่ชาญฉลาด เราทุกคนรู้ดีว่าประเทศไทยกำลั<wbr></wbr>งเผชิญกับความท้าทายด้านประชากร อัตราการเกิดที่ลดลงและการเป็<wbr></wbr>นสังคมผู้สูงอายุอาจเป็นภัยคุ<wbr></wbr>กคามที่ร้ายแรงที่สุดต่อการพั<wbr></wbr>ฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ดังนั้น การลงทุนด้านการศึกษา สาธารณสุข และการคุ้มครองทางสังคม ไม่เพียงแต่จะส่งเสริมให้<wbr></wbr>ประชาชนมีบุตรมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เด็กที่เกิดใหม่มี<wbr></wbr>จุดเริ่มต้นชีวิตที่ดีและเติ<wbr></wbr>บโตขึ้นอย่างมีศักยภาพในการสร้<wbr></wbr>างอนาคตที่สดใสให้กั<wbr></wbr>บประเทศไทยอีกด้วย” คิมกล่าวเสริม</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/04/108657