[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 มิถุนายน 2568 23:29:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้าหญิงลาวพระองค์สุดท้าย  (อ่าน 339 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 13
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2637


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 31 มกราคม 2568 17:08:05 »


ภาพปริศนาหาดูได้ยาก สตรีสูงศักดิ์ผู้เลอโฉมเจ้าหญิงลาวพระองค์สุดท้าย

เจ้าหญิงลาวพระองค์สุดท้าย


นี่คือภาพที่ผู้รู้บอกกับโลกออนไลน์นครเวียงจันทน์ว่า เป็นพระฉายาลักษณ์เจ้าฟ้าหญิงฉวีวรรณสว่างมณีวงศ์ พระราชธิดาในสมเด็จเจ้ามหาชีวิตสว่างวัฒนา กษัตริย์ลาวพระองค์สุดท้ายกับพระภัทรมหาราชินีคำผุย "เจ้าหญิงใหญ่" สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นเจ้าฟ้าพระบรมราชาวงศ์พระองค์สุดท้ายของลาว

มีผู้นำภาพเก่าๆ ภาพหนึ่งขึ้นเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย นครเวียงจันทน์ และกลายเป็นที่ถกเถียงกันในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อผู้รู้ท่านหนึ่งระบุว่า นี่คือพระฉายาลักษณ์เจ้าฟ้าหญิงสะหวีวันสว่าง (Javivani Savangsa Manivong) พระราชธิดาพระองค์แรกในสมเด็จเจ้ามหาชีวิตสะหว่างวัดทะนา กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์ล้านช้างหลวงพระบาง ที่ทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติเมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ปะเทดลาวเข้ายึดอำนาจ และเปลี่ยนพระราชอาณาจักรลาวเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว 40 ปีที่แล้ว ก่อนเสด็จสวรรคตในค่ายกักกันเมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน

นับเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่งจากหน้าประวัติศาสตร์ที่ดำมืด ซึ่งเยาวชนคนรุ่นใหม่แทบจะไม่ได้เห็นและไม่รู้จัก เนื่องจากเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชวงศ์ถูกตัดออกจากตำราไปทั้งหมด ในขณะที่พระบรมวงศานุวงศ์กว่า 100 พระองค์ ได้แตกกระสานซ่านเซ็นออกลี้ภัยในต่างแดน และเมื่อ 4 ทศวรรษผ่านไป ก็เหลือเพียงไม่กี่พระองค์ที่ยังทรงเคลื่อนไหวทวงคืนราชบัลลังก์แห่งหลวงพระบางอย่างสิ้นหวัง

อย่างไรก็ตาม เจ้าฟ้าหญิงสะหวีวัน (ฉวีวรรณ) สิ้นพระชนม์ในเดือน ม.ค.2550 ที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส รวมพระชนมายุ 74 พรรษา หลังจากที่ทรงประชวรเรื้อรัง และหลังจากพระเจ้าน้องเธอเจ้าฟ้าหญิงดาลาสว่าง (Thala Savangsa) “เจ้าหญิงเล็ก” ทรงจากไปราว 1 ปีก่อนหน้านั้น

ตามบันทึกอันกระท่อนกระแท่น เจ้าฟ้าหญิงทรงมีพระประสูติกาลในปี ค.ศ.1933 (พ.ศ.2476) ในพระที่นั่งฮอยลาด (รอยราช) พระบรมมหาราชวังหลวงพระบาง ในสมเด็จเจ้ามหาชีวิต (พระเจ้าอยู่หัว) ภัทรมหาศรีสว่างวัฒนา กับพระภัทรมหาราชินีคำผุย เป็นเจ้าหญิงพระองค์แรกแห่งรัชกาลและต่อมาได้กลายเป็นเจ้าฟ้าหญิงองค์รัชทายาทสายตรงพระองค์สุดท้ายของลาว ก่อนจะสิ้นพระชนม์ในต่างแดน เช่นเดียวกับพระบรมวงศานุวงศ์ส่วนใหญ่

“เจ้าฟ้าหญิงใหญ่” ทรงมีพระเจ้าพี่ยาเธอพระองค์หนึ่ง คือ เจ้าฟ้าชายวงสะหว่างมหามกุฎราชกุมาร กับพระเจ้าน้องยาเธออีก 3 พระองค์ ที่ทรงเป็นพระบรมราชาวงศ์ซึ่งได้แก่เจ้าฟ้าชายสีสะหว่าง เจ้าฟ้าชายสุลิยะวงสะหว่าง กับเจ้าฟ้าชายเคือสะหว่าง มีเพียงพระองค์ที่สองที่ทรงว่ายน้ำข้ามโขงหลบหนีเข้าฝั่งไทยได้สำเร็จในเดือนพฤศจิกายน 2518 อีก 3 พระองค์ทรงหายสาบสูญไปตั้งแต่ช่วงปีนั้น โดยเชื่อกันว่า ทุกพระองค์สิ้นพระชนม์ในค่ายกักกันแขวงหัวพัน เช่นเดียวกันกับสมเด็จเจ้ามหาชีวิตสะหว่างวัดทะนา

เจ้าฟ้าหญิงสะหวีวัน ทรงศึกษาในพระราชวังหลวงพระบาง ก่อนเสด็จไปศึกษาต่อทั้งในฝรั่งเศสและอังกฤษ และเสด็จกลับคืนพระราชอาณาจักรรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ในเดือน พ.ย.2500 เจ้าหญิงทรงเข้าพระราชพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายสีมังคะลามะนี (สีสุมัง มะนีวง) นายพันเอกแห่งกองทัพพระราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพระประยูรญาติสายหนึ่ง ทรงมีพระราชบุตร 7 พระองค์ พระราชธิดาอีก 3 พระองค์ และยังไม่เคยมีข่าวคราวเกี่ยวกับบรรดา “เจ้าฟ้าน้อย” เหล่านั้นอีก

เจ้าฟ้าหญิงทรงหลบหนีเข้าไทยได้สำเร็จในคืนหนึ่งของเดือน พ.ย.2518 ก่อนจะเสด็จต่อไปยังประเทศฝรั่งเศส และเข้าร่วมกระบวนการทางการเมืองกดดันระบอบใหม่ในเวียงจันทน์ จนกระทั่งวันสิ้นพระชนม์ชีพ

“ในขณะนี้พวกเราเหล่าสตรีลาวได้ตั้งถิ่นฐานอย่างมั่นคงปลอดภัยในประเทศที่สาม อย่างไรก็ตามข้าพเจ้ายังคงคิดถึงพวกเราอีกจำนวนมากที่อยู่ข้างหลังในดินแดนบ้านเกิดที่ยังดำรงชีพอยู่ยากลำบากอย่างแสนสาหัส จะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองและครอบครัวอยู่ได้ นอกจากนั้น สตรีลาวก็ยังต้องเผชิญกับภัยข่มขู่คุกคามใหม่ๆ เช่นเอชไอวี เอดส์ และยาเสพติดที่แผ่ขยายอย่างกว้างขางในลาวปัจจุบัน”

เท่าที่มีการบันทึกเอาไว้ เชื่อว่าข้อความข้างบนนั้นเป็นพระราชสาสน์ชิ้นสุดท้ายของเจ้าฟ้าหญิงสะหวีวัน ที่รายงานจากเมืองนีซ โดยวิทยุเอเชียเสรีเมื่อปี พ.ศ.2546

ตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา ทางการคอมมิวนิสต์ลาวยังไม่เคยเปิดเผยข้อมูลข้อเท็จจริงใด ๆ เกี่ยวกับชะตากรรมของกษัตริย์พระองค์สุดท้ายอย่างเป็นทางการ ตลอดจนข่าวคราวเกี่ยวกับพระบรมวงศานุวงศ์อีกหลายพระองค์ที่ทรงดำรงชีวิตอยู่ในลาวซึ่งรวมทั้งพระองค์เจ้าหญิงมะนีไลสะหว่าง พระวรชายาในสมเด็จเจ้าฟ้าชายวงสะหว่าง องค์มกุฎราชกุมาร

ปัจจุบัน “เจ้าป้า” อายุ 73 ปี เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ได้รับความนิยมแห่งหนึ่งในหลวงพระบาง ดำเนินชีวิตเยี่ยงสามัญชนอยู่ในเมืองมรดกโลกสืบต่อมา.....✎

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.616 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มิถุนายน 2568 04:40:17