[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 13:59:23 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ขนมหวานกับความเป็นสิริมงคลในวิถีชีวิตไทย  (อ่าน 264 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6096


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 07 มีนาคม 2568 18:15:32 »


ขนมโพรงแสม ภาพจาก ดิเซิร์ท เมท ดอท คอม

ขนมโพรงแสมเป็นขนมโบราณอีกชนิดหนึ่งที่จัดอยู่ในขนมมงคล โดยเฉพาะในพิธีแต่งงาน
ด้วยลักษณะของขนมที่เป็นแท่งกลมคล้ายกับเสาบ้านเสาเรือน  จึงเชื่อว่าชีวิตคู่จะมั่นคง
ดุจดั่งมีเสาค้ำจุนไว้ แต่เพราะต้องพิถีพิถันในการทำ ขนมนี้จึงพบเห็นได้ยากแล้วในปัจจุบัน

ขนมหวานกับความเป็นสิริมงคลในวิถีชีวิตไทย

ขนมหวานมีความผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทย มีประวัติความเป็นมายาวนาน และมีโอกาสพิเศษโดยเฉพาะของขนมแต่ละชนิด จึงอาจไม่ได้พบเห็นหรือรับประทานกันได้โดยทั่วไป นอกจากนี้ชื่อของขนมหลายชนิดยังสื่อความหมายที่เป็นมงคล ส่งผลต่อใจให้อิ่มเอมทั้งผู้ให้และเกิดความสุขใจกับผู้รับ

คำว่า ขนม จากหลักฐานที่พบเป็นลายลักษณ์อักษรโดยพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นจรัสพรปฏิภาณ ทรงสันนิษฐานไว้ว่า “ขนม คำเดิมเห็นจะมาจาก เข้าหนม เป็นแน่ เพราะหนมแปลว่าหวาน เข้าหนม แปลว่า เข้าหวาน คือเข้าที่ผสมกับน้ำอ้อย น้ำตาล ให้รสหวานขึ้นแล้วจึงเรียกว่า เข้าหนม ที่เรียกขนมนั้นเป็นคำเพี้ยนไป คำตรงต้องเรียกเข้าหนม” โดยคำว่าขนมน่าจะมาจากภาษามอญในคำว่า “คนุม” หรือ “คนอม” ส่วนภาษาถิ่นแถวอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และบ้านเซบั้งไฟ ประเทศลาว มีคำว่า “หนม” เป็นคำกริยา แปลว่า นวด เช่น นวดแป้ง นวดดิน ใช้คำว่า หนมแป้ง หนมดิน ในพงศาวดารเมืองน่าน (ประชุมพงศาวดาร ภาค ๑๐) เรียกขนมว่า “เข้าหนม” ตรงกับชาวไทยลื้อที่เรียกว่า “เข้าหนม” เหมือนกัน คำว่า ขนม จึงน่าจะกร่อนเสียงมาจากคำว่า เข้าหนม

ขนมในสมัยโบราณเป็นของกินที่เกิดจากข้าว ที่นำมาตำหรือโม่บดจนป่นละเอียดซึ่งเรียกว่าแป้ง แล้วนำไปผสมกับน้ำตาลรวมกันเพียงสองสิ่ง ต่อมามีมะพร้าวเข้าไปผสมเพิ่มด้วย วัตถุดิบหลักของขนมไทยรุ่นแรก ๆ ในสมัยโบราณจึงมีแป้ง น้ำตาล และมะพร้าว โดยเป็นเคล็ดลับที่ช่วยให้ขนมมีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้น และมีรูปลักษณ์สวยงามยิ่งขึ้น คือการมีส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่ ดอกกระดังงา นำไปลนไฟ แล้วจึงนำมาใส่ภาชนะบรรจุขนม ดอกกุหลาบ นำมาแกะเป็นกลีบ แล้วจัดวางลงบนขนมที่บรรจุอยู่ในภาชนะแล้วปิดฝาไว้ ทองคำเปลว ตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ปะที่หน้าขนม เช่น ทองเอก จ่ามงกุฎ เป็นต้น ดอกมะลิ นำมาลอยน้ำหรืออบในภาชนะที่บรรจุขนม โดยเอกลักษณ์ขนมไทยคือ รสชาติหวานมัน มีความประณีตบรรจง สวยงาม

ขนมเป็นของหวานที่ผูกพันกับคนไทย เคียงคู่กับของคาวมาอย่างช้านาน ในสมัยก่อนผู้คนโดยทั่วไปไม่ได้กินขนมกันทุกวัน แต่จะได้กินขนมก็ต่อเมื่อมีงานเทศกาลหรือโอกาสสำคัญต่าง ๆ งานประเพณีที่เราต่างเตรียมอาหารไปทำบุญที่วัดก็ย่อมมีขนมหวานด้วย เช่น เทศกาลสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ส่วนใหญ่นิยมทำขนมเปียกปูน ข้าวเหนียวแดง สำหรับทำบุญตักบาตรเพราะเก็บไว้ได้นานหลายวัน การทำบุญสารทไทยเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปแล้ว มักนิยมตักบาตรด้วยกระยาสารทตัดเป็นชิ้น ห่อด้วยใบตองควบคู่ไปกับกล้วยไข่ เพราะช่วงเดือนสิบเป็นช่วงที่กล้วยไข่ชุก รสชาติหวานจัดของกระยาสารท เมื่อมีกล้วยไข่มากินคู่กันจึงเสริมรสชาติกันเป็นอย่างดี ส่วนภาคใต้ของไทยก็มีขนมในเทศกาลนี้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ คือ ขนมลา ขนมพอง ข้าวต้มห่อด้วยใบกระพ้อ เป็นต้น

งานมงคลต่าง ๆ ของคนไทย มีขนมที่นิยมทำเลี้ยงพระเลี้ยงคน ได้แก่ ขนมจ่ามงกุฎ นิยมนำมาใช้ในพิธีรับการโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ของเจ้านายในสมัยก่อน ขนมจ่ามงกุฎมีปรากฏในบทหนึ่งของกาพย์เห่ชมเครื่องหวาน พระราชนิพนธ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ความว่า “งามจริงจ่ามงกุฎ ใส่ชื่อดุจมงกุฎทอง เรียมร่ำคำนึงปอง สะอิ้งน้องนั้นเคยยล” แสดงถึงความสวยงาม ประณีตบรรจงของขนมที่มีลักษณะเปรียบดั่งมงกุฎที่เป็นเครื่องประดับสูงค่า ส่วนขนมชั้นนิยมทำในงานฉลองยศ เพราะสื่อความหมายถึงชั้นลำดับยศฐาบรรดาศักดิ์ ในสมัยโบราณนิยมทำถึงเก้าชั้น เพราะถือเคล็ดของเลขเก้าว่าก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขนมสี่ถ้วย ประกอบด้วยขนมสี่อย่างกินกับน้ำกะทิคือ ไข่กบ นกปล่อย มะลิลอย (บางแห่งเรียกว่าบัวลอย บางแห่งก็เรียกว่านางลอย) และอ้ายตื้อ ไข่กบหมายถึงเม็ดแมงลัก นกปล่อยคือลอดช่อง มะลิลอยคือข้าวตอกหรือข้าวเม่า อ้ายตื้อคือข้าวเหนียวหรือข้าวต้มน้ำวุ้น งานบุญในสมัยก่อนที่ต้องมีคนมาช่วยงานจำนวนมาก มักจะนิยมทำขนมชนิดนี้จัดเลี้ยงกัน

ในพิธีแต่งงาน มีขนมเก่าแก่ชนิดหนึ่งเรียกว่า ขนมโพรงแสม นำแป้งมาพันไว้รอบกระบอกแล้วนำไปทอดพอสุกแล้วจะได้ขนมเป็นโพรง โบราณท่านเปรียบขนมโพรงแสมเสมือนเสาบ้านที่คู่บ่าวสาวจะอยู่ด้วยกันยั่งยืนไปตลอด ขนมกง ทำจากถั่วเขียวคั่วแล้วป่นละเอียดปนกับน้ำตาล น้ำกะทิ แล้วนำมาปั้นเป็นรูปกงล้อเกวียน จากนั้นชุบแป้งทอด คนโบราณถือกันว่าคู่บ่าวสาวจะได้ใจคอหนักแน่นเหมือนกงล้อเกวียน และมีความรักต่อกันไม่รู้จักจบสิ้นเหมือนการหมุนของล้อที่เคลื่อนไปตลอด

ปัจจุบันมีขนมหลากหลายชนิดเป็นตัวเลือกสำหรับแต่ละโอกาส และขนมยังช่วยทำให้จิตใจผ่อนคลาย  นอกจากนี้ท่ามกลางรูปแบบการใช้ชีวิตที่มีความเร่งรีบ ขนมยังเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ทดแทนข้าวหรืออาหารมื้อหลักให้ช่วยอิ่มท้อง ขนมจึงมิใช่เพียงของกินเล่น หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทั้งในวันธรรมดาและวันพิเศษ




...หอสมุดแห่งชาติ โดย นางสาวปวีณา ทองเป๊ะ บรรณารักษ์ปฏิบัติการ กลุ่มบริการทรัพยากรสารสนเทศ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.538 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 16 มีนาคม 2568 21:36:24