กัณวีร์ เปิดคลิปเสียงอุยกูร์ไม่อยากกลับจีน ภูมิธรรมไม่เชื่อ-ชี้โกหกหลายเรื่อง
<span>กัณวีร์ เปิดคลิปเสียงอุยกูร์ไม่อยากกลับจีน ภูมิธรรมไม่เชื่อ-ชี้โกหกหลายเรื่อง</span>
<span><span>See Think</span></span>
<span><time datetime="2025-03-24T23:56:49+07:00" title="Monday, March 24, 2025 - 23:56">Mon, 2025-03-24 - 23:56</time>
</span>
<div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>24 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 26 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) เป็นการประชุมในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี</p><p>ประชาไทประมวลประเด็นนโยบายการต่างประเทศ ที่ฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีกรณีการส่งกลับชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปให้ทางการจีน รวมถึงคำตอบที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม</p><p>ล่าสุด วันนี้ (25 มี.ค.) ในช่วงท้ายๆ ของการอภิปรายวันที่สอง นายกรัฐมนตรีชี้แจงในหลายประเด็นรวมถึงเรื่องอุยกูร์ด้วย โดยนายกฯ แพทองธารกล่าวไปในทำนองเดียวกับที่ รมว.ภูมิธรรม ชี้แจงเมื่อวานนี้</p><p>นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ไทยยังไม่มีกฎหมายในเรื่องผู้ลี้ภัย การลักลอบเข้าเมืองจึงมีความผิด ทำให้ถูกกักขังไว้ เมื่อประเทศจีนมาทวงถามเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ และไม่มีประเทศที่สามมามีหนังสือมาอย่างจริงจังว่าจะรับพวกเขาไป ตนมองเรื่องนี้ในมุมที่ว่าคนไทยต้องการอะไร อะไรดีที่สุดของประเทศไทย การที่กลับไปแล้วปลอดภัยเป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือไม่ ถ้าเทียบกับสิ่งที่เขาต้องถูกขังอยู่</p><p>นายกฯ กล่าวต่อไปว่า อย่างที่ทราบกันว่า คณะของท่านรองนายกฯ ภูมิธรรมไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ถึงบ้าน เห็นว่าปลอดภัย ในกรณีนี้จีนมีหนังสือรับรองมาแล้วว่าพวกเขาจะปลอดภัย และถ้าจีนไม่ทำตามนั้น จีนก็จะถูกมองไม่ดีในสายตาในนานาชาติ ซึ่งในการที่ไทยตัดสินใจส่งพวกเขากลับไปแล้วทำให้หลายๆ ประเทศคิดกังวลไปต่างๆ นาๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และไม่ผิดที่หลายประเทศจะคิดแบบนั้น ตนมองว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาในการอธิบาย </p><h2>กัณวีร์ เปิดคลิปเสียงอุยกูร์ยืนยันไม่อยากกลับจีน สับนโยบายการต่างประเทศรัฐบาลอิ๊ง</h2><p>กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม อภิปรายถึงนโยบายการต่างประเทศของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร โดยกล่าวว่า รัฐบาลนี้เคยบอกไว้ว่าจะดำเนินนโยบายรักษาจุดยืนของการไม่เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งระหว่างประเทศ, ดำเนินการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก และการสร้าง Soft Power แต่สิ่งที่รัฐบาลนี้ทำคือ “ฟรีวีซ่านำเข้าจีนเทา ส่งออกผู้ลี้ภัย เป็นกลางกี่โมง”</p><p>“มาตรฐานสากลที่ท่านพยายามจะยึดมั่น กฎหมายระหว่างประเทศ-กฎหมายภายในที่ท่านพยายามจะยึดมั่น ท่านจะทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาผู้ลี้ภัยมีทั้งหมด 3 ข้อ คือ การเดินทางกลับโดยสมัครใจ, อยู่ที่ประเทศลี้ภัย, ตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่สาม แต่ท่านตัดสินใจให้ผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับประเทศ แต่สมัครใจหรือไม่ อย่างไร”</p><p>“วันที่ 27 ก.พ. 2568 มันมีเป็นเส้นบางๆ ระหว่างสิ่งที่ท่านทำอยู่ครับ หมายถึงรัฐบาลชุดนี้ การเดินทางกลับประเทศมาตุภูมิโดยสมัครใจ หรือการบังคับผลักดันกลับประเทศต้นทาง ที่เรียกว่า Forced Deportation”</p><h2>เผยชาวอุยกูร์มีสัญชาติตุรกีแล้ว แต่ทำไมส่งกลับจีน</h2><p>กัณวีร์กล่าวว่า ชาวอุยกูร์ 40 ชีวิตที่ถูกส่งกลับจีนนั้นมีสัญชาติตุรกี แต่ทำไมสถานเอกอัครราชทูตจีนจึงเข้ามาเกี่ยวข้อง มีการพูดคุยกับสถานเอกอัครราชทูตตุรกีบ้างหรือไม่</p><p>“ในการที่จะตัดสินใจผลักดันคน 40 ชีวิต หลักฐานที่เป็นทางการบอกว่า (พวกเขา) เป็นคนสัญชาติตุรกีกลับไป ทำไมท่านจึงตัดสินใจคุยแต่รัฐบาลจีน ”</p><p>กัณวีร์ไล่เรียงไทม์ไลน์ที่เขาระบุว่าเป็น “73 วันแห่งการโกหก” นับตั้งแต่ เดือน ม.ค. ที่มีกระแสข่าวลือว่าจะมีการส่งกลับชาวอุยกูร์ไปยังประเทศจีน จนกระทั่งมีการส่งพวกเขากลับไปจีนในกลางดึกของคืนวันที่ 26 ก.พ. เรื่อยมาจนรัฐบาลมีการจัดทริปพาสื่อไปเยือนมณฑลซินเจียง และเยี่ยมชาวอุยกูร์</p><p>เริ่มต้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีหนังสือทางการทูต (Diplomatic Note) ส่งมาให้รัฐบาลไทยผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ว่าพร้อมที่จะรับคน “สัญชาติจีน” กลับประเทศจีน ทั้งๆ ที่ไทยมีหลักฐานว่าพวกเขาเป็นคนสัญชาติตุรกี</p><h2>เปิดแชทอุยกูร์ เผยความผิดปกติช่วงก่อนส่งกลับ</h2><p>ในระหว่างการอภิปราย กัณวีร์มีการนำรูปแชทในวอทซ์แอปมาเปิดเผย โดยระบุว่าเป็นแชทที่ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ส่งข้อความออกมา แชทดังกล่าวมีเนื้อความว่า สตม.มีการถ่ายรูปชาวอุยกูร์ในห้องกัก</p><p>“ซึ่งผมจะรับผิดชอบนะครับ ถ้าทุกคนถามว่าผมไปเอา (แชท) จากไหนมา ผมมีตัวตนคนที่ได้รับแชทนี้จริงๆ เราคุยกันได้ยังไงกับผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ที่อยู่ในห้องกักของ สตม. แต่นี่คือความเป็นจริงครับท่านประธาน” กัณวีร์กล่าวถึงภาพแชทดังกล่าว</p><p>กัณวีร์กล่าวต่อไปว่า ต่อมาในวันที่ 10 ม.ค. เจ้าหน้าที่ของ ตม. ก็ถ่ายรูปผู้ต้องกักเพิ่ม และมีการเอาเอกสารบางอย่างมาให้ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์เซ็นต์ แต่ไม่มีใครยอมเซนต์ ทำให้ชาวอุยกูร์ ประท้วงอดอาหาร โดยแชทในวอทซ์แอป ระบุว่า ชาวอุยกูร์หวั่นถูกส่งกลับจีนจึงอดอาหารประท้วง จากนั้นก็มีจดหมาย SOS ของชาวอุยกูร์ที่ส่งไปถึงนักข่าวต่างประเทศเพื่อขอความช่วยเหลือ</p><p>12 ม.ค. ผู้ต้องกักอุยกูร์ส่งคลิปเสียงออกมาว่า ทาง สตม. แจ้งว่าจะไม่ส่งกลับ ทุกอย่างเป็นข่าวลือ และคลิปเสียงที่ยืนยันว่าพวกเขาไม่อยากกลับจีน</p><p> </p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54409580954_124f757865_b.jpg" width="1009" height="712" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">กัณวีร์เปิดคลิปเสียที่ผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ส่งออกมา</p><p class="picture-with-caption">ถอดเทปคลิปที่ 1 "ถ้าคุณทำได้ ช่วยบอกชาวไทยมุสลิมว่า ช่วยบอกรัฐบาลไม่ให้ส่งเรากลับไปยังจีน ปล่อยเราไปประเทศอื่น ช่วยบอกหน่อย ให้ชาวไทยมุสลิม ไปบอกรัฐบาลไทย"</p><p class="picture-with-caption">ถอดเทปคลิปที่ 2 "เจ้าหน้าที่ห้องกักบอกว่าตอนนี้คุณกลับจีนไม่ได้แล้วการบอกว่าจะส่งกลับจีนเป็นเรื่องโกหกคุณจะไม่ถูกส่งไปจีน</p><p>15 ม.ค. มาร์โค รูบิโอ กล่าวในคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาก่อนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ว่าไม่เห็นด้วยกับการผลักดันกลับ</p><p>17 ม.ค. กัณวีร์ออกมาโพสต์ทางเฟซบุ๊กว่า จะมีการพูดคุยเรื่องการส่งกลับ ต่อมา สมช. ก็มีคำสั่งส่งชาวอุยกูร์ให้จีน แต่ภูมิธรรมออกมาปฏิเสธว่าจะไม่มีการส่งกลับ</p><p>21 ม.ค. ทางยูเอ็นประกาศว่า มีความเป็นไปได้ว่าทางการไทยจะส่งชาวอุยกูร์กลับไปให้รัฐบาลจีน</p><p>22 ม.ค. โฆษก สตม. ยืนยันว่าไม่ได้รับคำสั่งเรื่องการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน</p><p>28 ม.ค. ชาวอุยกูร์หยุดอดอาหารประท้วง (รวม 19 วัน)</p><p>29 ม.ค. คณะกรรมาธิการกฏหมายฯ เรียกหน่วยงานราชการมาให้ข้อมูลเรื่องการส่งกลับชาวอุยกูร์ แต่ทางสมช. แจ้งในที่ประชุม กมธ.ว่าไม่มีมาตรการส่งกลับชาวอุยกูร์</p><p>30 ม.ค. รองนายกฯ ภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลเกี่ยวกับการผลักดันกลับว่า "สิ่งสำคัญต้องทำตามกฏหมายระหว่างประเทศอย่างเข้มงวด และต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน แล้วข้อตกลงที่ว่าเราต้องไม่ส่งใครไปในพื้นที่อันตราย ตรงนี้ยังเป็นหลักของรัฐบาลไทยอยู่ขออย่ากังวล และยังพูดด้วยว่า "ส่งอุยกูร์กลับจีน กดดันไทยไม่ได้ ยึดปลอดภัย-สิทธิมนุษยชน</p><p>ต้นเดือน ก.พ. สตม. อนุญาตให้สถานทูตจีนเข้าพบ เพื่อทำหนังสือสมัครใจกลับประเทศ และ CI (Certificate of Identity)</p><p>6 ก.พ. นายกฯ แพทองธาร นำคณะเข้าพบ ปธน.สีจิ้นผิง โดยผู้ช่วย รมว.กต. แจ้งในที่ประชุม กมธ. ว่า “ท่านสีจิ้นผิงก็ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดกับนายกฯ ด้วย”</p><p>20 ก.พ. มีการตรวจสุขภาพชาวอุยกูร์ในห้องกัก ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะว่าพวกเขาก็อยู่มาตั้งนานแล้ว ทำให้มีแชทออกมาตลอดเวลาถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น</p><p>26 ก.พ. เที่ยวบิน CSN5245 มาถึงสนามบินดอนเมือง โดยเครื่องบินมาลงตอน 5 ทุ่ม</p><p>27 ก.พ. เวลา 02.14 น. มีขบวนรถยนต์ขนผู้ต้องกักติดฟิล์มดำหลายคัน พร้อมรถนำขบวนเคลื่อนออกจากสถานที่กักตัวของ สตม. ด้วยความรีบเร่งก่อนขึ้นทางด่วนไป</p><p>28 ก.พ. นายกรัฐมนตรียืนยันว่าไม่มีประเทศที่สามเสนอตัวมารับชาวอุยกูร์เลย ทางการจึนยืนยันว่าเป็นคนจีน ประเทศไทยต้องส่งกลับจีน นี่คือหลักการปฏิบัติปกติ ขณะที่ ภูมิธรรม แจ้งว่า แม้จะมีการเสนอให้ประเทศตะวันตกรับตัวไป แต่กลับถูกปฏิเสธ เนื่องจากคำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเอง</p><p>2 มี.ค. รัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันอีกว่าไม่มีประเทศที่ 3 แจ้งขอรับชาวอุยกูร์ ส่วนนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหายไปเลย ไม่ออกมาพูดอะไรทั้งสิ้น</p><p>4 มี.ค. กัณวีร์เปิดจดหมายข้อเรียกร้องถึงนายกฯของชาวอุยกูร์ ท่านมาบอกจดหมายผมปลอม เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ทั้งๆที่ถามว่าสมัครใจหรือไม่ แต่ไม่ตอบ จะเอาไปได้ว่าจดหมายผมปลอมไม่ปลอม ท่านผิดประเด็นไปมากมาย</p><p>6 มี.ค. ผช.รมช.กต.มาบอกว่า ขอบคุณประเทศที่มีคำขอมา แต่ไทยต้องชั่งน้ำหนักว่าจะทำคำมั่นของจีนในแง่ความสัมพันธ์ และผลกระทบชาวอุยกูร์ ยอมรับว่ามีประเทศแสดงความจำนงแต่เป็นหน้าที่เหล่านั้นไปเจรจากับจีนว่าจะช่วยเหลือไทย</p><p>16 มี.ค. ผช.รมต.กต. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า “ทูตนอกแถว” โดยย้ำถึงการที่ไทยตัดสินใจส่งตัวชาวจีนอุยกูร์ 40 คนกลับจีนว่า เป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานของมนุษยธรรม และความถูกต้อง บนทางเลือกที่มีไม่มาก</p><p>18-20 มี.ค. รัฐบาลพาสื่อไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ 5 คนที่จีน</p><h2>ถามหาหลักฐานความสมัครใจ</h2><p>“ชีวิตพี่น้องชาวอุยกูร์กว่า 40 ชีวิตอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับพวกท่าน แต่ครอบครัวพวกเขาที่ถูกแยกออกไปปี 2558 ยังรอคอยอยู่”</p><p>“ดีนะวันนี้ผมไม่มีคลิปของครอบครัวที่เขาบอกขอโทษรัฐบาลไทย ขอโทษคนไทยด้วยใจบริสุทธ์ เขาต้องหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย ต้องลี้ภัยเข้ามาผ่านไทย เขาไม่ได้อยากมาหรอก แต่เขาอยู่ไม่ได้ เขาหนีการประหัตประหาร ทำไมไม่ฟังเขา หลักฐานสำคัญที่ท่านต้องเอามาแสดงให้ได้ คือหลักฐานของความสมัครใจของคน 40 ชีวิต ต้องเอาเสียงเขามาพูด อย่าทำละครคุณธรรมที่เอาเขากลับไปแล้ว แล้วไม่ให้เขาพูด”</p><p>กัณวีร์กล่าวถึงหลักฐานอีกหนึ่งอย่าง คือใบมรณบัตรของผู้ต้องกักชาวอุยกูร์ 2 ชีวิต ที่เป็นหลักฐานชั้นดีว่าพวกเขาไม่อยากกลับประเทศต้นทาง โดยร่างของพวกเขาถูกฝังอยู่ในกุโบรในกรุงเทพฯ</p><p>“หลักฐานที่ผมจะโชว์มี 2 แผ่น ที่เรียกว่า ใบมรณบัตรของชาวอุยกูร์ 2 ชีวิต คือ ชาย 38 สัญชาติตุรกี สถานภาพสมรส เสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2566 เวลา 18.00 น. กับ ชาย 40 ปี สัญชาติตุรกี สถานภาพไม่ระบุ ตายเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2566 สันนิษฐานว่าระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวและปอดอักเสบติดเชื้อ”</p><p>“การที่ท่านไปทำละครคุณธรรมต่างๆ นาๆ ว่าเขาอยากจะกลับบ้านของเขา มันไม่ได้ตอบคำถามใดๆ ทั้งสิ้นในเวทีระหว่างประเทศ ท่านต้องโชว์หลักฐานว่าเขาสมัครใจกลัประเทศของเขา”</p><p>“นายกรัฐมนตรีและคณะที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันอุยกูร์ทำผิดมหันต์ พาประเทศชาติไปอยุ่หน้าผาของเวทีระหว่างประเทศ ที่พร้อมจะถูกลมพัดตกเหวตลอดเวลา ท่านเย้ยหยันกฏหมายระหว่างประเทศ ขนาดประเทศที่ท่านดีลไว้ เขายังลดความน่าเชื่อถือของไทย 40 คนเป็นเรื่องเล็กจริงๆ นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลชุดนี้เขียนด้วยมือลดด้วยเท่าสกปรกของพวกท่าน ท่านไม่รักษาจุดยืนไม่รักษาจุดยืนเรื่องไม่เป็นส่วนหนึ่งในความขัดแย้ง”</p><p>“การกระทำที่ท่านเตรียมการไว้อย่างเลือดเย็น เปรียบเสมือนที่เราเรียกว่า อาชญากรรมข้ามชาติ อาชญากรรมที่เราเรียกว่า Organized Crime อาชญากรรมที่เราเตรียมความพร้อมไว้ก่อน เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือ Crime Against Humanity”</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>
10 ปีที่ถูกขัง ชะตากรรมชาวอุยกูร์ยังไร้จุดหมาย เมื่อ 'การเมืองระหว่างประเทศ' มาก่อน 'มนุษยธรรม'</li></ul></div><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54409629008_1dc8343d9d_b.jpg" width="819" height="1024" loading="lazy"><p> </p><h2>ภูมิธรรมโต้ อุยกูร์มีสัญชาติจีน อัดกัณวีร์โกหกหลายเรื่อง</h2><p>ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงว่า จากที่ฟังสิ่งที่กัณวีร์พูดก็เข้าใจได้ว่ากัณวีร์คงไร้ประสบการณ์ ไม่เข้าใจเรื่องผลประโยชน์ของประเทศและความมั่นคงของชาติ จึงทำให้ใช้แต่จินตนาการไปเรื่อย</p><p>“ผมอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ ปัญหาเรื่องชาวอุยกูร์เป็นปัญหาที่ตกค้างมานานมาก ซึ่งชาวอุยกูร์ที่เข้ามาติดเรื่องการเข้าประเทศผิดกฎหมาย โทษอย่างสูงก็ 2 ปี แต่รัฐบาลไทยที่ผ่านมายังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จึงได้ขังมากว่า 11 ปี ซึ่งการขังกว่า 11 ปีนั้น เป็นเรื่องที่ผิดหลักมนุษยธรรม แต่ปัญหาของประเทศไทย คือเราอยู่บนทาง 2 แพร่ง ล้วนแต่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสิ้น</p><p>รัฐบาลที่ผ่านมาจึงไม่กล้าตัดสินใจโดยแท้ แต่รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหา เพราะฉะนั้น หลายเรื่องที่นายกฯ สั่งการให้ผมไปดำเนินการ ก็บอกเลยว่า ถ้าแก้ได้ ให้รีบแก้ หาทางออกให้ได้ อย่าปล่อยให้รัฐบาลนี้ต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามา แล้วไม่ได้ทำอะไร อุยกูร์เป็นอีกหนึ่งเรื่อง อุยกูร์เป็นเรื่องที่เราต้องจัดการ เพราะเรามีกฎหมายทรมานอุ้มหาย เพราะฉะนั้น การที่เราขังเขาเกินกว่าโทษที่เขาควรจะได้รับ เพราะจริง ๆแล้วแค่ 2 ปีเท่านั้น สารภาพ และอาจจะเหลือ 1 ปี หรือครึ่งปี แต่เราขังเขามากกว่า 11 ปี ผมเศร้าใจว่า มีการพูดว่าทำไมไม่เก็บเขาไว้ในคุกแล้วไปต่อรองกับสหรัฐอเมริกา นี่เป็นคำพูดที่ไม่เห็นความเป็นมนุษย์ของคนเลย แต่เป็นคำพูดจากคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่อยู่ในพรรคของพวกท่านนี่แหละ ท่านอย่ามองคนอื่นเป็นสินค้า ท่านต้องมองให้เห็นความเป็นมนุษย์ของเขาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ปากพูดว่าเป็นมนุษย์ แต่วิธีการปฏิบัติ ไม่เคยคำนึงถึงอะไรเรื่องชาวอุยกูร์”</p><p>ภูมิธรรมกล่าวต่อไปว่า เรามีทางเลือกอยู่ 3 ทาง คือ</p><ol><li aria-level="1">ขังเขาต่อไปในห้องกัก ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ แม้ว่าต่อให้เราดูแลเขาอย่างดี แต่มันก็คือการกักขังที่ทรมาน</li><li aria-level="1">ส่งไปประเทศที่สาม ซึ่งถ้าชาวอุยกูร์สำคัญจริงในแง่สิทธิมนุษยชน ทำไมไม่มีใครขอเขากลับไป แม้กระทั่งองค์กรระหว่างประเทศ ก็ยังไม่ให้สถานะผู้ลี้ภัยกับเขา เห็นว่ามีแต่คนพูดว่ายินดีจะรับ แต่ไม่มีใครมีหนังสือมาจริงจัง ฉะนั้นการไปประเทศที่สามคือเรื่องเพ้อฝัน</li><li aria-level="1">ส่งเขากลับไปที่ต้นทาง ซึ่งตนเองมีหลักฐานว่าทั้งหมด 40 คนเป็นคนจีน ที่กัณวีร์บอกว่าพวกเขาถือสัญชาติตุรกีคือเรื่องโกหก</li></ol><p>ภูมิธรรมกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องจดหมายชาวอุยกูร์ที่กัณวีร์เอามาเปิด เป็นจดหมายปลอม ตนเองมีหลักฐานแน่นอนว่าพวกเขาสมัครใจกลับ ถ้ากัณวีร์อยากทราบ สามารถเอามาเปิดให้ดูได้ต่อหน้าสื่อมวลชน</p><p>“เราไม่อยากพูดเยอะว่าเรารู้ว่าการส่งกลับเมืองจีน ในแง่สิทธิมนุษยชน มีคนเป็นห่วง เราบอกไปว่าถ้าส่งเขาไปแล้วเขาจะทุกข์ทรมาน เราไม่สมควรส่ง จึงเป็นที่มาของการดำเนินการหลายเรื่อง การที่เราขอจีนออกจดหมายรับรองอย่างเป็นทางการของรัฐบาล ท่านคงไม่ได้จบการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศท่านไม่รู้หรอกว่าในวงการ จดหมายรับรองอย่างเป็นทางการ คือจดหมายสำคัญ ซึ่งจีนที่เป็นส่วนหนึ่งในสหประชาชาติ เขายืนยันและส่งหลักฐานนี้มาให้ หากท่านไม่รับ ก็อย่ามีความสัมพันธ์กับเขาเลย หากคิดว่าประเทศที่ท่านมีความสัมพันธ์ด้วย เป็นมหาอำนาจ พูดโดยเอาหนังสือยืนยันว่าตัวเองยืนยันว่าจะไม่ทำร้ายเขา และไม่ยอมรับท่านจะมีความสัมพันธ์กับเขาไปทำไม”</p><p>“นายกรัฐมนตรีไปคุยกับผู้นำจีน ผู้นำระดับสูงของเขาหลายคนได้พูดกับนายกรัฐมนตรีว่าเขาอยากแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ และเขารับประกัน ไม่ต้องกังวล เขาจะทำดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภัยอันตราย ไม่จับเข้าคุก เข้าตาราง ท่านฟังอย่างนี้ ท่านคิดว่าในฐานะ ถ้าท่านเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ไปคุยกับผู้นำระดับสูงของประเทศที่เป็นมหาอำนาจหนึ่ง ยืนยันแบบนี้ ท่านจะเชื่อฟังได้หรือไม่ แต่ผมเชื่อว่าท่านไม่รู้หรอก เพราะท่านไม่เคยเป็นรัฐบาล เคยเป็นแต่ฝ่ายค้าน”</p><p>ภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า ตนเองและคณะก็เอาสื่อมวลชนไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ด้วย ใครก็ตามที่กล่าวหาว่าสื่อที่ควบคุมโดยรัฐบาล ก็ควรจะรู้ว่ามีสื่อทั้ง เนชั่น, ช่อง 3, มติชน, ไทยรัฐ ซึ่งบางเจ้าคนก็คงทราบกันดีว่ามีทัศนคติอย่างไรต่อรัฐบาล เราไม่ได้ปิดกั้นเลือกแต่สื่อที่เชียร์รัฐบาลไปอย่างเดียวแน่นอน</p><h2>กัณวีร์โต้ เรื่องสัญชาติตุรกีเป็นข้อมูลจาก สตม.</h2><p>ทางด้านกัณวีร์ ลุกขึ้นชี้แจงโดยใช้สิทธิพาดพิงว่า จากที่ภูมิธรรมบอกว่าตนโกหกว่าตนไปอ้างว่าผู้ลี้ภัยเป็นคนสัญชาติตุรกี ส่วนนี้ตนนำข้อมูลมาจาก สตม. ถ้าภูมิธรรมจะบอกว่าไม่จริง ต้องไปบอกกับ สตม.</p><p>ส่วนประเด็นที่ว่ามีประเทศที่สามจะรับอุยกูร์ กัณวีร์บอกว่า ข้อมูลส่วนนี้ตนก็เอามาจากข้าราชการในกระทรวงการต่างประเทศ</p><h2>รมว.กต.แจงส่งกลับชาวอุยกูร์ เพื่อประเทศชาติ</h2><p>มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า การตัดสินใจส่งกลับชาวอุยกูร์ เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และยืนยันอีกครั้งว่าคณะรัฐมนตรีตั้งใจแก้ไขปัญหาที่ประเทศไทยแบกรับภาระชาวอุยกูร์มา 11 ปี</p><p>มาริษ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกฎหมายภายในประเทศ และไม่ขัดกับกฎหมายระหว่างประเทศเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะว่าจีนรับประกันความปลอดภัยโดยใช้เอกสารหนังสือทางการทูต และเชื่อว่าไทยสามารถใช้หลักฐานนี้แสดงต่อประชาคมโลกว่าการตัดสินใจของไทยรอบคอบ และเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่อง ‘Non-refoulement’ (หลักการไม่ผลักดันบุคคลใดก็ตาม หากมีเหตุให้เชื่อว่าจะเผชิญอันตรายที่ประเทศต้นทาง)</p><p>“ในเรื่องของการที่รัฐบาลหลายประเทศได้มีปฏิกิริยาที่ไม่เห็นด้วยกับประเทศไทยในเรื่องนี้ เราตัดสินใจบนพื้นฐานของการแก้ไขปัญหาของประเทศซึ่งเป็นผลประโยชน์ และอย่างที่กราบเรียนว่าผมเองก็ฟังเสียงของประชาชน ก็ได้รับคำตอบรับว่าเขาเห็นด้วยที่เราพยายามแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ คำนึงไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญ และเคารพต่อหลักการด้านสิทธิมนุษยชน” มาริษ กล่าว</p><h2>รมว.ยธ.ยืนยันชาวอุยกูร์สมัครใจ แต่ต้องขอเอกสาร สมช.</h2><p>ด้านทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย ระบุว่าการส่งกลับชาวอุยกูร์ครั้งนี้ สืบเนื่องจากปัญหาที่ไทยควบคุมตัวชาวอุยกูร์ทั้ง 40 คนในห้องกักมาเป็นเวลานานถึง 11 ปี และเคยโดนร้องเรียนเรื่องสภาพความเป็นอยู่ในห้องกักของ สตม. ทำให้มีการตั้งกรรมการซึ่งมีบุคคลภายนอก เช่น รณกรณ์ บุญมี และสมชาย หอมลออ เข้าไปตรวจสอบห้องกัก ตม. โดยได้ข้อสรุปว่าสภาพห้องกักย่ำแย่ และแออัด และก่อนหน้านี้มีชาวอุยกูร์เสียชีวิตในห้องกักถึง 3 ราย และเรื่องนี้ทำให้ไทยเข้าข่ายละเมิดมาตรา 6 พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ ซึ่งเป็นกฎหมายในประเทศอีกด้วย</p><p>ดังนั้น กรรมการฯ ต้องหาทางออกโดยแบ่งเป็น 4 แนวทาง คือ 1. ส่งกลับจีนโดยความสมัครใจ 2. ส่งไปประเทศที่ 3 เช่นประเทศใหญ่ๆ 3. ส่งไปในประเทศคนกลาง และ 4. ขยายพื้นที่ห้องกักแห่งใหม่ </p><p>ทวี กล่าวว่า สุดท้ายได้มีการนำเรื่องเข้าที่ประชุม สมช. ซึ่งในที่ประชุมมีอัยการสูงสุดเข้าร่วมประชุมด้วย และที่ประชุมมีมติตัดสินใจส่งกลับจีน และประเด็นสำคัญในการส่งกลับคือ ต้องสมัครใจ และได้รับการยินยอม โดยวิธีการคือเราให้คนที่เคยถูกส่งกลับไปแล้วก่อนหน้านี้ (แต่ไม่ได้ระบุว่าปีใด) ประมาณ 10 คน วิดีโอคอลมาคุยกับคนในห้องกัก และทราบภายหลังว่าทุกคนได้มีบันทึกสมัครใจและยินยอมกลับ ตามที่กัณวีร์ ต้องการทราบ</p><p>ทวี กล่าวต่อว่า เขาเคยขอทาง สมช.ว่าขอดูเอกสารได้หรือไม่ แต่ถูกปฏิเสธเนื่องจากเป็นเอกสารชั้นความลับของ สมช. และคนที่ถูกส่งกลับมีความหวาดกลัวที่จะเปิดเผยเอกสาร จึงแนะนำให้กัณวีร์ ทำเรื่องขอที่ สมช. โดยใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ก็จะได้ข้อมูลดังกล่าว</p><p>รมว.กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่าการส่งกลับครั้งนี้เราคำนึงถึงมาตรา 13 ของพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ โดยยกความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุดว่า การดำเนินการส่งกลับ เป็นการทำตามคำยืนยันจากบันทึกทางการทูตของจีน ซึ่งระบุว่าเมื่อชาวอุยกูร์กลับไปที่จีนแล้วจะไม่ถูกดำเนินคดีอื่นๆ จึงสามารถส่งกลับคืนครอบครัวได้ทันที นอกจากนี้ ไทยในฐานะผู้รับผิดชอบบริหารจัดการผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ตลอดระยะเวลา 10 ปีสามารถเดินทางไปจีน เพื่อตรวจสอบการดำเนินการติดตามบุคคลดังกล่าว จึงถือว่าคำมั่นสัญญาเป็นทางการที่ไม่ปรากฏบ่อยนักของประเทศมหาอำนาจ</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>
จากแม่ครัวสู่คนรักของชาวอุยกูร์ เล่าชีวิตใน ตม.- เรือนจำ</li><li>
'ผอ.ข่าวไทยรัฐ' โพสต์ ทริปเยี่ยม 'อุยกูร์' ไร้อิสระ จนท.จีนประกบนักข่าว</li></ul></div><div class="note-box"><p>ในช่วงสายของการประชุมสภา ที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเป็นวันที่สอง (25 มี.ค.) ประชาไทสังเกตเห็นว่า ภราดร ปริศนานันทกุล ซึ่งทำหน้าที่ประธานสภา ได้มีการกล่าวต้อนรับคณะจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย</p><p>ย้อนไปคืนก่อนหน้านั้น (24 มี.ค.) กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในพรรคฝ่ายค้าน อภิปรายกรณีรัฐบาลไทยส่งกลับชาวอุยกูร์ 40 คนกลับไปให้ทางการจีน</p><p>โดยในคืนนั้น ฝ่ายรัฐบาลมีการลุกขึ้นชี้แจงจำนวน 3 คน ได้แก่ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม, มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54410204782_4cefbaa79c_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"><p> </p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/54411323083_73ea2b5622_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาพจาก: โทรทัศน์รัฐสภา </p></div><p> </p></div>
<div class="node-taxonomy-container">
<ul class="taxonomy-terms">
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่า
http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยช
http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเท
http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87" hreflang="th">ความมั่นค
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B9%8C" hreflang="th">อุยกูร
http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%87" hreflang="th">กัณวีร์ สืบแส
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2" hreflang="th">ภูมิธรรม เวชยชั
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C" hreflang="th">มาริษ เสงี่ยมพงษ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5-%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">พ.ต.อ.ทวี สอดส่อ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%A0%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%88" hreflang="th">อภิปรายไม่ไว้วางใ
https://prachataistore.net</div>
http://prachatai.com/journal/2025/03/112443 







