[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
12 มิถุนายน 2568 21:20:49 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พิธีสงกรานต์  (อ่าน 320 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6076


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 11 เมษายน 2568 17:45:29 »



พิธีสงกรานต์

พิธีสงกรานต์ คือการกำหนดปีใหม่ของไทยเป็นสองขยัก คือเดือนห้าขึ้นค่ำหนึ่งนับว่าเป็นปีใหม่ เพราะเปลี่ยนชื่อปีตามสิบสองนักษัตร คือ ชวด ฉลู ขาล เถาะ แต่ยังไม่เปลี่ยนศก คือ ท้ายศักราชเพราะศักราชนั้นยังไม่ได้ขึ้นปีด้วยตามวิธีโหร  ให้นับตามการโคจรของพระอาทิตย์ ถ้าพระอาทิตย์ยกขึ้นราศีเมษเมื่อใด จึงจะขึ้นศักราชในวันเถลิงศก ในระหว่างที่ยังไม่ได้ขึ้นศักราชใหม่จึงต้องใช้ปีใหม่แต่ต้องจดหมายว่ายังเป็นศกเก่าอยู่ วิธีนับปีมีชื่อสิบสองปีนี้เป็นของคนโบราณ

การกำหนดเรื่องเปลี่ยนปี ตามพระราชาธิบายของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไว้ในคำประกาศใจความว่า “ด้วยแรกที่จะกำหนดปีนี้โบราณคิดเห็นว่าฤดูหนาวเป็นเวลาพ้นจากมืดฝนสว่างขึ้นเปรียบเหมือนเวลาเช้า คนโบราณจึงคิดเห็นว่าฤดูเหมันต์คือฤดูหนาวเป็นต้นปี ฤดูร้อนเป็นเวลาสว่างร้อนเหมือนกลางวันจึงได้คิดว่าเป็นกลางปี ฤดูฝนเป็นเวลามืดคลุ้มโดยมาก และฝนพร่ำเที่ยวไปไหนไม่ใคร่ได้จึงดีคิดเห็นเป็นเหมือนกลางคืน คนทั้งปวงเป็นอันมากถือว่าเวลาเช้าเป็นต้นวัน กลางคืนเป็นปลายวันฉันใดนับเวลาเริ่มปีได้ คนโบราณก็คิดเห็นว่าฤดูเหมันต์คือฤดูหนาวเป็นต้นปี ฤดูคิมหันต์คือฤดูร้อนนับเป็นกลางปี ฤดูวัสสานคือฤดูฝนเป็นปลายปี เพราะเหตุนี้จึงได้นับชื่อเดือนหนึ่งมาแต่เดือนอ้าย ต่อเมื่อมีผู้ตั้งศักราชขึ้นใช้ จึงเป็นเหตุที่จะเริ่มตั้งศักราช เช่นพระพุทธศักราช นับตั้งแต่วันปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ก็ต้องไปตั้งสงกรานต์เอาในวันวิศาขบุรณมี ซึ่งเป็นเหมือนอย่างกับนับเป็นเดือนหนึ่งขึ้นใหม่
การพระราชกุศลก่อพระทรายแลตีเข้าบิณฑ์ 

เรื่องสงกรานต์นี้ในหนังสือนพมาศกล่าวไว้ว่า เมื่อถึงกำหนดพระสุริยเทพบุตรเสด็จโคจรจากราศีมิน ประเวศขึ้นสู่ราษีเมศ สมมติว่าเป็นวันสงกรานต์ พระบรมวงษานุวงษ์ และข้าราชการถวายบังคมถือน้ำพระพิพัฒน์สัจจา แล้วก็พระราชทานเบี้ยหวัดผ้าปี แด่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายน่าฝ่ายในทั้งปวง ไม่เห็นพูดถึงการพระราชกุศลอันใด จึงยกเอาการถือน้ำแจกเบี้ยหวัดเป็นส่วนของราชการมาใช้ในการกำหนดวันเปลี่ยนปีใหม่ ส่วนในกฎมณเฑียรบาลมิได้กล่าวถึง มาถึงในสมัยกรุงทวารวดี ในจดหมายขุนหลวงหาวัดได้กล่าวว่า มีการทรงสนานแล้วสรงน้ำพระไชยและพระไสยสาตร มีการนิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะสรงน้ำพุ ฉันถวายไทยธรรมสามวัน ก่อพระวาลุกาเจดีย์พระศรีสรรเพชญองค์หนึ่ง พระทรายเตียงองค์หนึ่ง วัดกุฎีดาวองค์หนึ่ง พระทรายน้ำไหลเพนียดองค์หนึ่ง พระสงฆ์ฉันถวายไทยธรรม ตั้งศาลาฉทาน ๖ ตำบล ๆ ละสามวัน ตลาดยอดแห่งหนึ่ง วัดสุมงคลบพิตรแห่งหนึ่ง แตลงแกงแห่งหนึ่ง สะพานช้างแห่งหนึ่ง ศาลาดินแห่งหนึ่ง สะพานสกูลแห่งหนึ่ง เลี้ยงพระสงฆ์คฤหัสถ์ มีข้าวและกับข้าวของกิน หมากพลู มีทั้งน้ำอบ น้ำกิน แป้งน้ำมันหวีกระจก มีช่างตัดผม หมอนวด หมอยา ทั้ง ๖ ตำบลว่ากลม ๆ  แปลกกับที่กรุงเทพฯ ก็ที่พระเจดีย์ทรายก่อแต่เฉพาะสี่องค์ ในสี่องค์นั้นพระทรายวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ พระทรายเตียงยก พระทรายน้ำไหล คงเป็นของเก่า แต่พระทรายวัดกุฏีดาวเป็นของเกิดขึ้นใหม่ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ

การก่อพระทรายกรุงเก่ากับที่กรุงเทพฯ นี้ ความประสงค์เห็นจะไม่ตรงกัน เรื่องต้นเหตุที่ก่อเกิดพระทรายในเวลาสงกรานต์นี้ เล่ากันว่า เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จลงเรือขนาน ชนทั้งปวงพากันก่อพระทรายที่ข้างลำน้ำ แลก่อในแพลอยเป็นเครื่องบูชา เมื่อให้ไปค้นเอาความจริงกับไม่มีข้อความเรื่องพระทราย แต่เป็นนิทานที่เล่าต่อกันมา แต่พระทรายสี่อย่างซึ่งมีปรากฏในจดหมายขุนหลวงหาวัด พระทราย ๒ อย่าง คือ พระทรายวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ ซึ่งเป็นวัดในพระราชวัง เมื่อมีการก่อสร้างอันใดก็จะโปรดให้ก่อพระทรายทุกคราว และอีกอย่างคือพระทรายวัดกฎีดาว

เข้าบิณฑ์หรือข้าวบิณฑ์ คือ การบาตรพระพุทธเจ้า ถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระพุทธเจ้า จึงมีการถวายข้าวพระต่าง ๆ เหมือนการเซ่นไหว้พระพุทธเจ้า จะได้รับเครื่องบูชาคล้ายการทำบายศรีสมโภช การสมโภชนี้ตามกฎมณเฑียรบาลนี้เรียกว่า “สมโภชเลี้ยงลูกขุน” เครื่องที่ใช้ในการสมโภช ล้วนเป็นของบริโภค เช่น บายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน การเรื่องข้าวบิณฑ์ก็จะเป็นเรื่องสมโภชพระพุทธรูปและพระทรายเหมือนอย่างบายศรี

การสรงมุรธาภิเษก เป็นธรรมเนียมมีมาแต่โบราณสำหรับพระเจ้าแผ่นดินสรงในวันเถลิงศกปฏิบัติสืบมามิได้ขาด ตั้งการสวดมนต์พระปริตรในการสรงมุรธาภิเษกวันเถลิงศกบนพระที่นั่งดุสิตาภิรมย์ มีเครื่องตั้งคือตั้งโต๊ะหมู่สูงวางพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรและพระชัยเนาวโลห พร้อมเครื่องนมัสการตระบะถมฉันเวรสำหรับหนึ่ง พระสงฆ์ที่สวดมนต์มีพระครูปริตรไทย ๔ รูป พระรามัญ ๔ รูป ไม่มีพระราชาคณะนำ เพราะไม่มีการเสด็จออก จึงทำการสวดสามวัน คือวันสงกรานต์วันหนึ่ง วันเนาวันหนึ่ง ถ้าปีใดสงกรานต์ ๔ วัน ก็เลื่อนไปตั้งสวดต่อในวันมหาสงกรานต์และยามค่ำสวดมนต์พร้อมสรงน้ำพระ ในพระบรมมหาราชวัง การสรงมุรธาภิเษกสงกรานต์นี้ เป็นของพระเจ้าแผ่นดินที่จะสรงสำหรับบ้านเมือง มิใช่สรงอย่างพระหรืออย่างคนแก่รดน้ำ

การพระราชทานรดน้ำสงกรานต์ สมัยก่อนพระเจ้าแผ่นดินสรงน้ำเฉพาะพระพุทธรูปและพระสงฆ์ ครั้นในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออกสรงน้ำพระมหามณีรัตนปฏิมากรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมโภชเวียนเทียนแล้วเสร็จ ทรงสดับปกรณ์พระอัฐิเจ้านายที่หอพระนาคเป็นการพิเศษ ในกาลต่อมาพระเจ้าแผ่นดินพระราชทานรดน้ำพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการผู้ใหญ่ที่สูงอายุ สืบมาจนถึงปัจจุบัน



ที่มา : สำนักหอสมุดแห่งชาติ  “พิธีสงกรานต์” โดย นางสาวศุภาวิตา พรมสุขทวี เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน 

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.174 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้