[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 กรกฎาคม 2568 21:02:56 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - จาก #saveขบวนเสด็จ สู่ #ต่างด้าวเหิมเกริม : 1 ปี สำรวจการขยายบทบาทของ ‘กลุ่มปกป้องสถา  (อ่าน 104 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 23 เมษายน 2568 18:13:49 »

จาก #saveขบวนเสด็จ สู่ #ต่างด้าวเหิมเกริม : 1 ปี สำรวจการขยายบทบาทของ ‘กลุ่มปกป้องสถาบันฯ’
 


<span>จาก #saveขบวนเสด็จ สู่ #ต่างด้าวเหิมเกริม : 1 ปี สำรวจการขยายบทบาทของ ‘กลุ่มปกป้องสถาบันฯ’</span>
<span><span>hungary budapest</span></span>
<span><time datetime="2025-04-10T20:37:14+07:00" title="Thursday, April 10, 2025 - 20:37">Thu, 2025-04-10 - 20:37</time>
</span>

            <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>ทีมข่าวการเมือง</p></div>
     
            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54444550410_633d09dc24_z.jpg" width="640" height="335" loading="lazy"><p>ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)
ประชาภักดิ์พิทักษณ์สถาบัน (ปภส.)
อาชีวะราชภักดี
ฯลฯ</p><p>ชาวเน็ตอาจรู้จักชื่อเหล่านี้ในฐานะกลุ่มเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันกษัตริย์ ที่มีบทบาทสำคัญในการแจ้งความดำเนินคดี ม.112 ต่อบุคคลที่พวกเขามองว่ามีพฤติกรรม ‘หมิ่นเบื้องสูง’ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง&nbsp;นักกิจกรรม หรือบุคคลทั่วไป แม้พวกเขามักให้ความเห็นว่าคดี ม.112 ไม่เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มเคลื่อนไหวที่กำเนิดขึ้นมาตอบโต้ ‘ม็อบราษฎร-ม็อบสามนิ้ว’ ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา</p><p>กลุ่มปกป้องสถาบันฯ บางกลุ่มยังเคยปรากฏบนหน้าข่าวจากการทำร้ายร่างกายนักกิจกรรมและสื่ออิสระ ไปจนถึงขู่เอาชีวิตเยาวชน ปฏิบัติการ ‘เดินหน้าชน’ ของพวกเขาจึงมีทั้งระดับกระบวนการทางกฎหมาย และระดับถึงเนื้อถึงตัวในช่วงที่มีความขัดแย้งสูง</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ข้าฯรักเจ้า: ขวาสุดขั้วในยุคผีสามนิ้ว</li></ul></div><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443436158_8c152030de_o.jpg" width="536" height="300" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">โพสต์ประกาศพร้อมแจ้งความ ม.112 ทั่วประเทศ เมื่อปลายปี 2563 และ&nbsp;โพสต์แสดงความร่วมมือระหว่างกลุ่มปกป้องสถาบันฯ
โดย ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.)</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443582230_5daaff9f90_o.jpg" width="600" height="300" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ข่าว&nbsp;สมาชิกกลุ่มอาชีวะปกป้องสถาบันยอมรับทำร้ายร่างกายสื่ออิสระ และ&nbsp;ประธาน ศปปส. ขู่เอาชีวิตเยาวชน</p><h2>สถานการณ์เปลี่ยนไป กลุ่มเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง</h2><p>แม้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบต่อ ‘วิธีจัดการ’ คนเห็นต่าง แต่กลุ่มปกป้องสถาบันฯ ค่อนข้างประสบความสำเร็จในแง่ผลลัพธ์ เห็นได้จากคดีที่พวกเขาเป็นผู้กล่าวหา หลายคดีผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับสิทธิประกันตัว หลายคดีเป็นการฟ้องทางไกลทำให้ประสบความยากลำบากในการดำเนินการ หลายคดีน่ากังขาต่อการตีความตัวบทกฎหมายและความไม่ได้สัดส่วนของบทลงโทษ (อันเป็นประเด็นสำคัญที่มีการเรียกร้อง #ยกเลิก112 ก่อนหน้านี้) ทุกครั้งที่มีคำพิพากษาออกมาในแต่ละคดี ก็ดูจะทำให้บทสนทนาเกี่ยวกับบทบาทของสถาบันกษัตริย์ต่อการเมืองไทยหดหายลงไปเรื่อยๆ จนเหลือเพียงข้อเรียกร้องคืนสิทธิประกันตัวและผลักดันนิรโทษกรรม (แน่นอนว่ากลุ่มปกป้องสถาบันฯ ค้านสุดตัว) อย่างมากคงไปได้ไกลที่สุดแค่ #ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม</p><p>เรียกได้ว่า ‘ขบวนการสามนิ้ว’ ในสายตาของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ กำลังอยู่ในช่วงขาลงสุดๆ</p><p>ในวันที่เสียงเรียกร้อง #ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เบาลง ความเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในกลุ่มปกป้องสถาบันฯ เช่นกัน เช่น ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) ที่เคยไล่ฟ้องคดี ม.112 ประกาศปิดตัวไปแล้วเมื่อปี 2566 โดยให้เหตุผลว่า&nbsp;"...บัดนี้บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ศชอ.จึงขอยุติบทบาทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป…”</p><p>กลุ่มอาชีวะราชภักดี ปัจจุบันพวกเขาเป็นที่รู้จักในนามกลุ่ม ‘ไทยไม่ทน’ (คนละกลุ่มกับ ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนฯ) พุ่งเป้าชนแรงงานข้ามชาติผ่านคำขวัญ ‘Thai First’ ขณะที่ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน และกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ยังคงใช้ชื่อกลุ่มเดิม และขยับมาเคลื่อนไหวในประเด็นอื่นๆ อย่างแข็งขัน</p><p>นอกจากการไล่ฟ้องคดีที่เป็นงานประจำ อะไรคือภารกิจของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ในปัจจุบัน?</p><p>หากเราดูประเด็นของพวกเขาในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา จะสามารถเห็นความเคลื่อนตัวได้ตามไทม์ไลน์ ดังนี้&nbsp;</p><h2 class="text-align-center">1.
ร่วมม็อบ คปท. เรียกร้อง ‘ทักษิณ’ เข้าคุก - ต่อต้าน ‘รัฐบาลเพื่อไทย’</h2><p>เรียกได้ว่าเป็นคู่ปรับมานานกว่ายี่สิบปี ตั้งแต่ม็อบ ‘เสื้อเหลือง’ ลากยาวมาจนถึง ‘ม็อบนกหวีด’ ชื่อของ ‘ทักษิณ’ และ ‘ระบอบชินวัตร’ เป็นที่คุ้นหูบนเวทีปราศรัย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราจะได้เห็นภาพเหล่านี้อีกครั้งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมด้วยนายกฯ คนที่ 3 จาก ‘ชินวัตร’ ซึ่งมักถูกจดจำผ่านเรื่องเล่าของขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้ามในฐานะ ‘ตระกูลการเมืองผู้ฉ้อฉล’ อันเป็นความบกพร่องของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทน ช่วงหนึ่งเคยถูกโจมตีว่าเป็น ‘นักการเมืองล้มเจ้า’ ‘รัฐบาลโกงชาติ’ แม้เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ประสบความสำเร็จในการบริหารและได้รับความนิยมมากที่สุดพรรคหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยรัฐประหาร 2 ครั้งในปี 2549 และ 2557</p><p>ปัจจุบัน&nbsp;<strong>ม็อบตัวตั้งตัวตีต่อสู้ทักษิณบนท้องถนน เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อ 10 ม.ค. 2567</strong> เมื่อเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินปกป้องราชบัลลังก์ แถลงข่าวร่วมกัน ประกาศชุมนุม #ต้านระบอบทักษิณ</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54440601781_77f5667683_w.jpg" width="399" height="335" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><p>การชุมนุมครั้งแรกของ คปท.-กลุ่มปกป้องสถาบันฯ กินเวลา 3 วัน (12-14 ม.ค. 2567) บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการรักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วันของทักษิณ และเรียกร้องให้นำทักษิณเข้าคุก ก่อนที่จะกลับมาปักหลักชุมนุมยาวอีกครั้งตั้งแต่ 2 ก.พ. 2567 ด้วยเหตุผลเดียวกัน ต่อมาพักการชุมนุมไปในช่วงเดือนกรกฎาคมหลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งให้เลิกการชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมให้เหตุผลว่าพวกเขาพักการชุมนุมเพื่อคืนพื้นที่สำหรับงานมหามงคลครบรอบ 72 พรรษาของในหลวงรัชกาลที่ 10</p><p>ระหว่างนั้น คปท.-กองทัพธรรม-กลุ่มปกป้องสถาบันฯ มีการยื่นหนังสือและจัดชุมนุมชั่วคราวอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งกลับมาปักหลักชุมนุมที่เดิมอีกครั้งช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568</p><p>ตลอดกว่า 1 ปีที่เคลื่อนไหว ประเด็นของม็อบขยับขยายเพิ่มขึ้นจากเรื่อง ‘นักโทษเทวดา’ ไปเป็นการต่อต้านทั้งองคาพยพที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย เช่น</p><ul><li aria-level="1">โจมตี ‘ครม.สืบสันดาน’ ของ ‘นายกฯ ลูกเทวดาชั้น 14’ ที่มีทักษิณครอบงำการทำงาน</li><li aria-level="1">#saveเกาะกูด #หยุดMOU44</li><li aria-level="1">คัดค้านคาสิโนจากการผลักดันเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล</li><li aria-level="1">ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวน เศรษฐา ทวีสิน กรณีแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน นั่ง รมต.สำนักนายกฯ</li><li aria-level="1">คัดค้านกระบวนการสรรหาประธานบอร์ดแบงก์ชาติ&nbsp;ในช่วงที่มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองของ ‘กิตติรัตน์ ณ ระนอง’</li><li aria-level="1">จับตาการกลับประเทศไทยของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และยังคงประณาม ‘จำนำข้าว’</li><li aria-level="1">ฯลฯ</li></ul><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443610970_cff33cbaa1_c.jpg" width="800" height="342" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">โพสต์นัดหมายชุมนุมของ คปท.-กองทัพธรรม-ศปปส. ช่วงระหว่างก่อนกลับมาปักหลักชุมนุมต้นมีนาคมที่ผ่านมา</p><p>ทรงชัย เนียมหอม (โอม) ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) หนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวที คปท. ถูกทักษิณฟ้องหมิ่นประมาทจากการโพสต์รูปภาพลงบนแพลตฟอร์ม X (Twitter) ด้วยเหตุว่ารูปดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนไม่เชื่อว่าทักษิณป่วยจริง ทรงชัยเดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามนัดหมายของพนักงานสอบสวนแล้วเมื่อ 22 ม.ค. 68 โดยมี นิพิฏฐ์ อิทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นทนายความ</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443239406_35a6618b49_c.jpg" width="800" height="400" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">‘ทรงชัย เนียมหอม’ กลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (ปภส.) ขึ้นเวที คปท. ปราศรัยเรื่องทักษิณ
และ&nbsp;วิดีโอไลฟ์ขณะทรงชัยเดินทางเข้ารับทราบคำฟ้อง กรณีหมิ่นประมาททักษิณ</p><p>ปัจจุบันประเด็นที่มีศักยภาพในการระดมมวลชนมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องการต่อต้านเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีเสียงตอบรับจากประชาชนหลายกลุ่ม และมีการตั้งขบวนเดินเท้ามายังอาคารรัฐสภาในวันที่&nbsp;9 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา แม้นายกฯ แถลงก่อนหน้าแล้วว่าถอนร่างกฎหมายนี้ไปแล้ว</p><p>การผสานความร่วมมือระหว่างอดีตพันธมิตรเสื้อเหลืองจะประสบความสำเร็จแค่ไหนในการยุติอำนาจของศัตรูเก่า พวกเขายังมีพลังแค่ไหนในสังคม และท้ายที่สุดการเคลื่อนไหวเหล่านี้จะนำไปสู่อะไร คงต้องติดตามกันต่อไป</p><h2 class="text-align-center">2.
#saveขบวนเสด็จ - ‘เก็บตะวัน’ - ทำร้ายสื่ออิสระ</h2><p>4 กุมภาพันธ์ 2567 ‘ตะวัน-แฟรงค์’ นักกิจกรรมอิสระ บีบแตรรถยนต์และมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบนทางด่วนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะถูกสกัดรถขณะขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ แล่นผ่าน</p><p>เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจมหาศาลต่อสังคมที่เข้าใจว่าเป็นการป่วนขบวนเสด็จ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ 'รวมพลังหัวใจสีม่วง' แสดงความจงรักภักดีแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ จากทั้งหน่วยงานรัฐ&nbsp;คนดัง และประชาชนทั่วไป ตลอดช่วงเดือนกุมภาพันธ์</p><p>กลุ่มปกป้องสถาบันฯ นำโดย ศปปส.-กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินฯ ยื่นถอนประกันตะวันโดยอ้างว่าอาจเข้าข่ายผิดเงื่อนไข และยื่นหนังสือติติง&nbsp;พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ในขณะนั้น ว่าบกพร่องในการถวายอารักขาขบวนเสด็จฯ และเรียกร้องให้รับผิดชอบ</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443444309_b5c37b44ab_c.jpg" width="799" height="381" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ศปปส. ยื่นถอนประกันตะวันที่ศาลอาญา รัชดา 7 ก.พ. 2567</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54440601756_68d00d1eeb_z.jpg" width="640" height="288" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ศปปส.-กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินฯ ยื่นหนังสือติติง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล 9 ก.พ. 2567 | ที่มา: ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><p>10 ก.พ. 67 ตะวันและเพื่อนนัดหมายทำโพลสำรวจความเห็นต่อขบวนเสด็จฯ ที่ BTS สยาม ระหว่างตะวันแถลงขอโทษพฤติกรรมขับรถเร็วในวันเกิดเหตุอยู่นั้น มีคนตะโกนด่าและพยายามเข้าถึงตัว จากนั้น วสัน ทองมณโฑ กลุ่มนักรบเลือดสีน้ำเงินฯ ตบหัวหนึ่งในผู้ร่วมกิจกรรม แต่ถูกฟาดกลับด้วยดิ้วที่อีกฝ่ายพกมา จึงวิวาทชุลมุน บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ตะวันถูกหนึ่งในกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ชกที่ใกล้หูซ้าย และถูกวสันกระชากหัว</p><p>แม้ตำรวจระงับเหตุแล้ว แต่หลังจากนั้น อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. และพวก กระโดดข้ามแผงกั้นเข้าไปทำร้าย ‘ขุนแผน-ลุงดร’ สองสื่อพลเมืองที่ไลฟ์สดในที่เกิดเหตุ จนได้รับบาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย</p><p>อ่านและรับชมคลิปประมวลเหตุการณ์ #BTSสยาม10กุมภา67 ได้ที่:&nbsp;https://prachatai.com/journal/2024/02/108012</p><p>&nbsp;</p><p class="text-align-center">“เขาคุกคามขบวนเสด็จ มันไม่ควร
มันก็ต้องเจอสังคมแบบนี้เหมือนกัน
ปะทะก็คือปะทะ บอกแล้ววันนี้ปะทะ”</p><p class="text-align-center">— อัครพล ไกรศรีสมบัติ (เต้ อาชีวะ) กลุ่มอาชีวะราชภักดี ให้สัมภาษณ์สื่อหลังเหตุชุลมุน</p><p class="text-align-center">&nbsp;</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443531184_dbc6af9e55_b.jpg" width="1023" height="312" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มาภาพ: ไข่แมวชีส</p><p>ช่วงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งของวันเดียวกันนั้น สมาชิกกลุ่ม ศปปส. โพสต์รูปภาพ เกี่ยวกับชุดปฏิบัติการพิเศษ “ดับแสงตะวัน” วันต่อมา เฟซบุ๊ก&nbsp;ศปปส. โพสต์แถลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ต่อมาในวันที่ 12 ก.พ. 67 บนเวทีปราศรัยของ คปท. ‘กฤษณ์พงศ์ เกียรติศักดิ์ (อาจารย์กบ บลูสกาย)’ ยังได้ให้กำลังใจ ศปปส.-เต้ อาชีวะ-กลุ่มนักรบฯ ด้วยการร้องเพลง ‘เก็บตะวัน’ ในเวอร์ชันเรียบเรียงเนื้อร้องใหม่ของ ‘P.khondee ( พี่คนดี กวีสมัครเล่น)’&nbsp; เนื้อร้องมีว่า</p><p>&nbsp;</p><p class="text-align-center">“เก็บตะวัน ที่คอย ป่วนฟ้า
จับมันมา ติดคุก ทันใด
ถอดประกัน จับมันเข้าคุก เสียใหม่
อย่าปล่อยไว้ ให้เกิน เจ็ดวัน
เก็บตัวนาย ประกัน ด้วยเลย
บวกพวกเคย ผลักหลัง ช่างดัน
<strong>ก่อนเจอดี และมีชีวิต แสนสั้น</strong>
<strong>โดนไทยนั้น รุมกระทืบตาย</strong>
แซงขบวน ป่วนอารักขา บ้าบิ่น
หนักแผ่นดิน และหมิ่นฟากฟ้า
ยามตะแบง ตะวันนั้นแฝงแรงบ้า
สั่งให้ฟ้า ทำตาม
หากตะวัน ยังฟัง “พ่อฟ้า”
โชคชะตา คงคุดเร็วไว
ใครอยากมีพรุ่งนี้ ให้เดินเริ่มใหม่
หยุดโดนใช้ ดังเช่นตะวัน”</p><p class="text-align-center">&nbsp;</p><p>บทเพลงนี้ถูกทำเป็นคลิปสั้นเผยแพร่โดยผู้สนับสุนน คปท.-กลุ่มปกป้องสถาบันฯ หลายคอมเมนต์สนับสนุนให้มีการทำร้ายร่างกาย-ไล่ออกจากแผ่นดินไทย เช่น</p><p>“คนประเภทนี้อย่าเก็บไว้ให้หนักแผ่นดินไทยเลย”
“ฝากตบอีเด็กเวรเผื่อด้วยครับ”
“เก็บอีตะวัน เลยคะ..อีเด็กเวร”
ฯลฯ</p><p>ในที่สุด&nbsp;‘ตะวัน-แฟรงค์’ ถูกควบคุมตัวที่ศาลอาญา รัชดา เมื่อ 13 ก.พ. 67 ด้วยคดี ม.116 ยุยงปลุกปั่นฯ - พ.ร.บ.คอมฯ และอัยการส่งฟ้องในวันที่ 1 เม.ย. 67 ทั้งสองอดอาหารประท้วงกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ถูกจับกุม กว่าจะได้ประกันตัวก็ล่วงเข้าไปถึงวันที่ 28 พ.ค. 67 เป็นเวลานานกว่าสองเดือน</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443318451_7c6656cf39_z.jpg" width="640" height="317" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ปฏิบัติการ “ดับแสงตะวัน” และ&nbsp;บทเพลง ‘เก็บตะวัน’ บนเวที คปท.</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54442467392_e1c6a1ef23_c.jpg" width="799" height="295" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">คอมเมนต์จากโพสต์วิดีโอสั้น เพลง ‘เก็บตะวัน’ บนเวที คปท.</p><h2 class="text-align-center">3.
คัดค้านนิรโทษกรรม 112 - ต่างประเทศและองค์สิทธิฯ หยุดแทรกแซง</h2><p>ในเรื่องนิรโทษกรรม ไม่ต้องสงสัยว่าทุกกลุ่มในขบวนนี้มีจุดยืนคัดค้านสุดตัว ทว่าสิ่งที่น่าบันทึกไว้คือคำอธิบายซึ่งพอจะจำแนกได้หลักๆ 2 แนวทาง&nbsp;</p><p>แนวทางแรก คือ คำอธิบายคลาสสิก ว่า ม.112 ไม่ใช่คดีการเมืองอันเกิดจากการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่เป็นปัญหาความมั่นคงที่บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์</p><p>แนวทางที่สอง คือ คำอธิบายเพิ่มเติมในเชิงศีลธรรม หลายครั้งจะเห็นการพูดถึงการคัดค้านนิรโทษกรรม 112 รวมอยู่กับคดีทุจริตคอร์รัปชั่นและคดีอาญาร้ายแรง</p><p class="text-align-center">#ไม่นิรโทษม112
#ไม่นิรโทษคนโกงคนทุจริต
#ไม่นิรโทษฆ่าคนตาย</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443326461_3dfa2d9844_z.jpg" width="640" height="269" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน และ&nbsp;ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><p>รูปแบบของการรณรงค์มีทั้งการยื่นหนังสือ&nbsp;การติดสติ๊กเกอร์ และกิจกรรมออนไลน์ เช่น หลังจากกลุ่มทะลุฟ้ายื่นหนังสือถึง กมธ.นิรโทษกรรม&nbsp; เมื่อ 16 พ.ค. 67 ให้รวมคดี 112 เป็นคดีการเมืองเพื่อนิรโทษกรรม มีการยื่นหนังสือตอบโต้โดยกลุ่มปกป้องสถาบันฯ อย่างน้อย 2 ครั้ง</p><ul><li aria-level="1">ครั้งแรก 17 พ.ค. 67&nbsp;ศปปส. ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร คัดค้านนิรโทษฯ และขอให้ตรวจสอบจริยธรรมของ ‘รังสิมันต์ โรม’ ในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ (และเป็น สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลในขณะนั้น) ว่ามีพฤติกรรมหวังล้างผิดให้คดี 112</li><li aria-level="1">ครั้งที่สอง 23 พ.ค. 67 ศปปส.-ปภส.-อาชีวะราชภักดี ในนาม&nbsp;‘ภาคีราชภักดี’ ร่วมกันยื่นหนังสือถึง กมธ.นิรโทษกรรม โดย อัครวุธ (เต้ อาชีวะ) ให้สัมภาษณ์สื่อว่าตนเห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีการเมือง ‘เสื้อเหลือง-เสื้อแดง’ แต่ไม่เห็นด้วยกับการรวมคดี 112</li></ul><p>ทางฝั่งออนไลน์ เพจเฟซบุ๊กประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน เชิญชวนให้ประชาชนโหวตไม่เห็นด้วยต่อร่าง&nbsp;พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เวอร์ชั่นรวมคดี ม.112 ที่เสนอโดยภาคประชาชน ในเว็บไซต์สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเปิดให้ประชาชนโหวตระหว่าง 13 พ.ค. - 12 มิ.ย. 67 ผลปรากฏไม่เห็นด้วยถึง 64.66% จากผู้ร่วมโหวต 90,503 คน</p><p>โดยในช่วง 00.27 น. ของวันที่ 13 มิ.ย. 67 เพจเฟซบุ๊ก ปภส. โพสต์รายละเอียดดังกล่าวพร้อมภาพประกอบบรรยาย ‘Vote for change kill three hoofs&nbsp; โหวตเพื่อเปลี่ยน “ฆ่า” สามกีบ’</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54440974175_6ae357dc50_w.jpg" width="400" height="400" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน</p><p>นอกจากที่เกี่ยวกับการค้านนิรโทษกรรม 112 โดยตรง กลุ่มปกป้องสถาบันฯ ยังได้ยื่นหนังสือคัดค้านข้อเสนอขององค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ เช่น&nbsp;แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และ&nbsp;ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิฯ ของ UN ที่ขอให้ยุติการดำเนินคดีของ ‘ทนายอานนท์’ และคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์อีกด้วย</p><p>รวมถึง ‘ภาคีกลุ่มราชภักดี’ ซึ่งประกอบไปด้วย ศปปส.-ปภส.-อาชีวะราชภักดี และเครือข่าย ที่เข้าพบข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ&nbsp;(OHCHR) เมื่อ 29 ม.ค. 2567 เพื่อชี้แจงและตอบโต้การเข้าพบ OHCHR ของเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนที่ยื่นหนังสือถึง UN ไปก่อนหน้านั้น ให้หนุนรัฐบาลเศรษฐาไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมรวมคดี ม.112 ภายในปี 2567&nbsp; โดยข้อเรียกร้องของภาคีราชภักดีคือ ขอให้สหประชาชาติเป็นกลาง ไม่แทรกแซง และเคารพกฎหมายไทย</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443705560_bcd8bb6066_z.jpg" width="640" height="386" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา: ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54442480217_dec6984302_c.jpg" width="800" height="389" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา: ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน</p><p>อีกหนึ่งการเรียกร้องต่างชาติหยุดแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย คือการยื่นหนังสือถึงสถานทูตสหรัฐฯ ของ ศปปส. เมื่อ 9 ส.ค. 67 หลังจากสถานทูตฯ ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรค 11 คน เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 67 โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญระบุถึงพฤติการณ์ของผู้ถูกร้องว่าการเสนอแก้ ม.112 เป็นการลดทอนคุณค่าของสถาบันฯ มีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลาย&nbsp;นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง สอดคล้องกับคำอธิบายของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ที่มักอธิบายว่า ม.112 เป็นคดีความมั่นคง</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54439746022_1edcb6473b_w.jpg" width="375" height="400" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><h2 class="text-align-center">4.
เสนอร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์</h2><p>แม้ไม่มีพื้นที่บนหน้าข่าวมากนัก แต่นับว่าเป็นมูฟเมนต์ที่สะท้อนเจตจำนงของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ที่ตรงไปตรงมาที่สุด โดยเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 67 ภาคีราชภักดี นำโดย</p><ol><li aria-level="1">ทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน (โอม ปภส.)</li><li aria-level="1">อัครวุธ ไกรศรีสมบัตร ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี (เต้ อาชีวะ)</li><li aria-level="1">อร่ามศักดิ์ บุตรจู ผู้ก่อตั้งและแอดมินเพจรู้ทันโลกออนไลน์</li><li aria-level="1">อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (สิงห์ดำ ศปปส.)</li></ol><p>ยื่นเสนอร่าง&nbsp;“พระราชบัญญัติคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ พ.ศ. ……. ” ต่อ ‘วัน นอร์’ ประธานสภาฯ ใจความสำคัญเพื่อเพิ่มความคุ้มครองสถาบันฯ เท้าความว่าปวงชนชาวไทยมีความรักความผูกพันต่อพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีตลอดมาทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 จนกระทั่งมีการประท้วงช่วงปี 2563 ที่ผู้เสนอร่างเห็นว่ากลุ่มผู้ประท้วงทั่วประเทศเหิมเกริมก้าวล่วง ดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อราชวงศ์ จึงต้องตรา พ.ร.บ. ฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อไม่ให้สังคมแตกแยก</p><p>สรุปใจความสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ได้ว่า</p><ul><li aria-level="1">ให้นิยาม ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ ว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-10 และลำดับถัดไป รวมถึงพระราชินีในราชวงศ์จักรีและพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นยศเจ้าฟ้าไล่ลงไปจนถึงพระองค์เจ้า</li><li aria-level="1">ผู้กระทำการดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายสถาบันฯ (ตามนิยามด้านบน) หรือใครก็ตามที่กระทำการเพื่อจุดประสงค์ลดโทษ-ยกเลิกมาตรา 112 ถือว่าเป็น “กบฏ” มีโทษจำคุก 10 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี ถ้าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองต้องได้รับโทษหนักขึ้น 2 และ 4 เท่า ตามลำดับ</li><li aria-level="1">หากถูกแจ้งความและพบว่าเข้าข่ายเป็นกบฏ จะไม่มีสิทธิ์ได้รับการประกันตัวทุกกรณี จนกว่าจะมีคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้วว่าไม่มีความผิด และศาลมีคำสั่งปล่อยตัวแล้วจึงถือว่าสิ้นสุด</li><li aria-level="1">ห้าม NGO ต่างประเทศ หรือที่รับเงินจากต่างประเทศ แทรกแซงกิจการภายในไทยทุกกรณี โดยเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสถาบันฯ หากฝ่าฝืน อนุญาตให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐทำลายสำนักงานและขับไล่ออกจากประเทศได้ ไม่ผิดกฎหมาย</li></ul><p>อย่างไรก็ตาม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มีหนังสือปัดตกร่างแจ้งมายังประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ลงวันที่ 1 ส.ค. 67 โดยระบุว่าเป็นการตรากฎหมายที่มีผลกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นการเลือกปฏิบัติ ละเมิดสิทธิผู้อื่น</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54440601636_7db4f1372b_w.jpg" width="400" height="400" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน</p><h2 class="text-align-center">5.
#ไทยไม่ทน ชน #ต่างด้าวเหิมเกริม</h2><p>เรื่องราวของแรงงานข้ามชาติอยู่ในสังคมไทยมาช้านาน ท่ามกลางความคิดเห็นหลากหลายของชาวไทยที่มีทั้งเข้าใจความจำเป็นและเห็นความสำคัญของแรงงานข้ามชาติต่อระบบเศรษฐกิจ และที่เห็นว่าเป็นปัญหาในการแบกรับภาระต่างๆ หลายครั้งหลายครายังหยิบความคับแค้นใจทางประวัติศาสตร์ของเรื่องเล่า ‘พม่าเผากรุงศรี’ ขึ้นมาใช้ด้วย</p><p>การแบ่งขั้วทางความคิดรุนแรงมากขึ้นภายหลังรัฐประหารพม่าเมื่อปี 2564 สถานการณ์สงครามในบ้านเกิดทำให้ผู้อพยพจากประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาในไทย พรรคการเมืองที่มีข้อเสนอช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและสิทธิประโยชน์ทางสังคมจึงมักถูกโจมตีจากกลุ่มคนที่หวาดระแวงแรงงานข้ามชาติ โดยเริ่มเกิดกระแสแฮชแท็ก #พรรคประชาชนพม่า เพื่อใช้โจมตีพรรคประชาชน ที่อภิปรายถึงแรงงานข้ามชาติว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ หรือแม้แต่รัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งผลักดันการให้สัญชาติประชาชนเกือบ 5 แสนรายที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานและส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ก็มิวายถูกประณามว่า ‘ขายชาติ’ และถูกต่อต้านจากกลุ่มปกป้องสถาบันฯ ว่าเป็นการ ‘ยกสัญชาติไทยให้ต่างด้าวเหมาเข่ง’</p><p>เมื่อเป็นประเด็นร้อนกระตุกต่อมชาตินิยม มีหรือที่กลุ่มปกป้องสถาบันฯ จะไม่ออกมาเคลื่อนไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้ชื่อกลุ่ม ‘ไทยไม่ทน’ ที่นำโดย อัครพล หรือ เต้ อาชีวะ ประธานกลุ่มอาชีวะราชภักดี ที่เริ่มต้นเคลื่อนไหวอย่างเป็นทางการร่วมกับแนวร่วมปกป้องสถาบันฯ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 67 หน้ากระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือไม่เห็นด้วยต่อการให้สัญชาติประชาชนข้างต้น</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54443537794_d58e262b60_z.jpg" width="640" height="358" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;secretnewsagency และ&nbsp;ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน</p><p>หลังจากนั้น ปฏิบัติการเดินหน้าชนของแนวร่วมไทยไม่ทนขยายออกไปสู่การรวมกลุ่มไปตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ และแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองหากพบความผิด ไม่ว่าจะเป็นกรณีจ้างแรงงานผิดกฎหมาย&nbsp;ทำอาชีพสงวน ไปจนถึงช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติถูกกฎหมายที่ถูกโกงเงิน หรือบางครั้งลงพื้นที่จับกุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฯลฯ มีผู้สนับสนุนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมองว่าเป็นการรักษาผลประโยชน์ของชาติ</p><p>แนวร่วมไทยไม่ทนมักกล่าวว่า พุ่งเป้าจัดการเฉพาะคนที่ ‘ทำผิดกฎหมาย’ ใครไม่ผิดก็ไม่ต้องกลัว ทว่า หากแกะรอยการเคลื่อนไหวและคำอธิบายที่ใช้รณรงค์มาตั้งแต่ต้น จะพบว่ากลุ่มปกป้องสถาบันฯ ยังคงมีท่าทีเลือกปฏิบัติและใช้วาทกรรมเหมารวมสร้างความเกลียดชังแรงงานข้ามชาติบ่อยครั้ง</p><p>ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2567 หลังจาก สส.ธิษะณา พรรคประชาชน อภิปรายเรื่องสิทธิแรงงานข้ามชาติไปไม่นาน เต้ อาชีวะ ซึ่งขณะนั้นเคลื่อนไหวในนามอาชีวะราชภักดี ร่วมกับ ปภส. เข้ายื่นหนังสือกระทรวงต่างประเทศเมื่อ 17 ก.ย. 67 เรียกร้องให้ออก พ.ร.บ.คุมกำเนิดต่างด้าว 3 สัญชาติ ห้ามตั้งท้องหรือคลอดบุตรในไทย หากรู้ว่าตั้งท้องให้ส่งกลับประเทศต้นทางจนกว่าจะคลอดบุตรแล้วจึงกลับมาทำงานได้ การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นข่าวบนช่องยูทูป&nbsp;TOP NEWS LIVE มียอดรับชมกว่า 1.24 แสนครั้ง และปรากฏความคิดเห็นจำนวนมากสนับสนุน</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54439745982_bab4945397_w.jpg" width="400" height="400" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ที่มา:&nbsp;Secretnewsagency</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54440974290_e11178013c.jpg" width="499" height="375" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">คอมเมนต์ในคลิปข่าวของ TOP NEWS LIFE</p><p>นอกจากนี้ แนวร่วมไทยไม่ทนนัดหมายชุมนุมหน้าสำนักงานสหประชาชาติ ในวันที่ 1 ก.พ. 68 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 4 ปีรัฐประหารพม่า พร้อมแฮชแท็ก #ต่างด้าวเหิมเกริม บรรยายว่า “ต่างด้าวไม่มีสิทธิ์มาชุมนุม” โดยระบุว่ากลุ่มแรงงานข้ามชาติที่จะมาจัดชุมนุมเป็นพวกที่เคยจัดชุมนุมถือป้ายเรียกร้องยกเลิก ม.112 และ ม.116</p><p>แต่ก่อนถึงวันนัดหมาย ปรากฏว่า กลุ่มแรงงานข้ามชาติ Bright Future นำโดย วีระ แสงทอง ได้ชิงเข้ายื่นหนังสือถึง OHCHR ก่อน 1 วัน (30 ม.ค. 68) เรียกร้องให้ UN คว่ำบาตรการเลือกตั้งทั่วไปในพม่าที่อาจมีขึ้นในปีนี้ และแบนบริษัทที่ขายอาวุธให้กองทัพพม่า</p><p>เมื่อถึงวันนัดหมายจึงมีเพียงไทยไม่ทนเท่านั้นที่ไปชุมนุมหน้า UN โดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. ให้สัมภาษณ์สื่อโดยกล่าวว่า วีระ(แกนนำกลุ่ม Bight Future) เป็น ‘พม่ารามัญ’ ไม่มีสิทธิ์จัดชุมนุมทางการเมืองในไทย ซึ่งเป็นการกีดกันเสรีภาพด้วยเหตุผลเรื่องชาติพันธุ์ ทั้งที่การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองโดยสงบเป็นสิทธิพื้นฐานตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ไทยเป็นภาคี</p><p class="text-align-center">&nbsp;</p><p class="text-align-center">“พวกเราก็จะมารอไอ้วีระ แสงทอง ถ้ามันไม่มาก็ไม่เป็นไรนะครับ
เราจะประกาศให้มันรู้ไปเลยว่า ไอ้พวกพม่ารามัญเนี่ย
มึงจะมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทางการเมืองไม่ได้
อันนี้ประเทศไทย ไม่ใช่ประเทศพม่า”</p><p class="text-align-center">-&nbsp;อานนท์ กลิ่นแก้ว, ประธาน ศปป

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.058 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มิถุนายน 2568 12:01:44