[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 00:52:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไขปริศนา 2012 วันสิ้นโลกจากปฏิทินมายา  (อ่าน 2677 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 05 มิถุนายน 2553 23:21:38 »


 
ขึ้นชื่อว่าอารยธรรมโบราณ ย่อมต้องมี "ปริศนา" ควบคู่มาด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในปริศนาจากอารยธรรมโบราณแห่งหนึ่งจากดินแดนโลกใหม่ (New World) ที่ดูจะเป็นที่สนใจของนักวิชาการและคนทั่วไปเป็นอย่างมาก นั่นคือปริศนาคำทำนายเกี่ยวกับวันสิ้นโลกในปี ค.ศ.2012 ของอารยธรรมมายา อารยธรรมท่ามกลางป่าฝนของทวีปอเมริกากลาง ซึ่งเราจะมาเปิดเผยกันในครั้งนี้นั่นเองครับ

 
หลายๆท่านอาจจะเคย ได้ยินมาว่า ในปี ค.ศ. 2012 มนุษยชาติอาจจะสูญสลายไปจากโลก โลกจะเข้าสู่กลียุค ในที่สุดก็จะถูกทำลายล้างจากเพลิง อุทกภัยครั้งใหญ่ และภัยพิบัติซึ่งจะมาเยือนในรูปแบบที่น่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดาได้ แล้วทำไมต้องเป็น ค.ศ.2012? ตรงนี้คงต้องอธิบายแนวคิดพื้นฐานของปฏิทินมายาโบราณคร่าวๆให้เข้าใจก่อนครับ
 

God L (นั่งสูบซิการ์ทางขวามือ) ทรงเป็นประธานในพิธีกรรมช่วง 3114 ปีก่อนคริสตกาล ฉากหลังที่เป็นสีดำ น่าจะหมายความถึงโลกในยุคแรกเริ่ม ที่ยังไม่มีแสงและเสียงใดๆ
 
ปฏิทินของชาวมายา ไม่ได้ทำจากกระดาษ และแขวนบนผนังเพื่อหาดูวันหยุดนักขัตฤกษ์แบบเราๆท่านๆหรอกครับ แต่ปฏิทินของชาวมายาบันทึกไว้บนแผ่นหินครับ ดังนั้น ใครที่กำลังคิดว่าสาเหตุที่ปฏิทินของชาวมายาหมดลงในปี ค.ศ. 2012 เป็นเพราะกระดาษหมด เลยไม่อยากเขียนต่อ ก็เปลี่ยนความคิดได้เลยครับ

 
ปฏิทิน ของชาวมายาที่เราจะพูดถึงกันในครั้งนี้ เรียกว่าปฏิทินแบบนับยาว (Long Count Calendar) ซึ่ง 1 ปีของปฏิทินชนิดนี้จะมี 360 วัน แบ่งออกเป็น 18 เดือน และเดือนละ 20 วัน ทุกๆ 20 ปี จะมีคำเฉพาะที่เรียกว่า k’atun และทุกๆ 20 k’atun (400 ปี) ก็จะเรียกว่า bak’tun ตอนนี้หลักๆที่ควรทำความรู้จักคือคำว่า bak’tun ครับ เพราะว่าจะเกี่ยวข้องกับคำทำนายปี ค.ศ.2012 ด้วย

 
ด้วยความที่ชาวมายา โบราณมีความเชื่อว่าวันและเวลาของพวกเขาเป็นวงรอบที่จะครบวงรอบเล็กทุกๆ 52 ปี และพวกเขาก็จะปรับปรุงบ้านเรือน และต่อเติมวิหาร รวมทั้งพีระมิดทุกๆการครบรอบ 52 ปีเช่นกัน สำหรับปฏิทินแบบนับยาวนี้ ชาวมายาโบราณมีความเชื่อว่า 1 วงรอบใหญ่ (Great Cycle) ประกอบไปด้วย 13 bak’ tun นั่นก็คือจะกินเวลาประมาณ 5,200 ปีนั่นเอง (นั่นคือ 13 เท่าของ 400 ปี เท่ากับ 5,200 ปี)

 


 
ตำนาน เกี่ยวกับอุทกภัยจากเดรสเดน โคเด็กซ์ แสดงภาพเทพี อิช เชล และสัตว์คล้ายจระเข้กำลังเทน้ำลงมาใส่ God L ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งโลกข้างใต้
 
เมื่อ การถอดความภาษามายาโบราณมีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้นักวิชาการสามารถเทียบวันที่ในปฏิทินมายาโบราณเข้ากับปฏิทินของพวกเรา ได้ นักวิชาการทราบว่า bak’tun ที่ 13 หรือวงรอบใหญ่ที่ผ่านมาครั้งล่าสุดนั้น เกิดขึ้นในวันที่ 8 กันยายน 3114 ปีก่อนคริสตกาล และจะดำเนินไปสู่ bak’tun ที่ 13 หรือวงรอบใหญ่อีกครั้งหนึ่งในวันที่ 23 ธันวาคม ปี ค.ศ.2012 ที่จะถึงนี้ ทำให้ หลายๆท่านอาจจะเชื่อว่าปฏิทินมายา "หมดลง" ในปี ค.ศ.2012 นั่นหมายถึงชาวมายาโบราณทำนายว่าโลกจะถึงจุดจบในปี ค.ศ.2012 นี้ด้วย
 
สิ่ง ที่จะให้คำตอบเกี่ยวกับวันสิ้นโลกกับพวกเราได้ก็คือหลักฐานทางโบราณคดี ที่ขุดพบจากดินแดนของชนเผามายานั่นเองครับ หลักฐานชิ้นแรกที่จะนำมาเสนอคือตำนานจากคัมภีร์โพโพล วูห์ (Popol Vuh) ของชาวมายาโบราณที่เล่าถึงตำนานการสร้างโลก การสร้างมนุษย์และการ "ทำลายล้าง" มนุษย์ครับ
 
ตำนานนี้เริ่มต้นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างโลก เอาไว้ว่า ณ จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง ที่ซึ่งยังไม่มีสัตว์และต้นไม้ใดๆทั้งสิ้น มีเพียงแค่ผืนฟ้า ท้องทะเลไกลสุดลูกหูลูกตา และเทพเจ้านามหทัยสวรรค์ (Heart of Sky) เท่านั้น ปัญหาคือ พระองค์ต้องการสร้างผู้ที่สามารถเอ่ยนามของพระองค์และยกย่องเกียรติพระองค์ ได้ นั่นทำให้พระองค์เริ่มกระบวนการ "สร้างโลก" และ "สร้างมนุษย์" ขึ้นมา

ศิลาที่เมืองควิริกัว จารึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 3114 ปีก่อนคริสตกาลเอาไว้
 
ตามตำนานกล่าวว่า เพียงพระองค์เอื้อนเอ่ยวาจา สรรพสิ่งตามคำเอ่ยของพระองค์ก็ปรากฏ พระองค์ทรงสร้างผืนดิน ภูเขา และสรรพสัตว์ต่างๆและพระ องค์ได้มอบแหล่งที่อยู่ให้แก่สรรพสัตว์เหล่านั้นแต่ด้วยความที่จุดประสงค์ ที่แท้จริงของพระองค์คือต้องการสร้างผู้ที่สามารถเอ่ยนามของพระองค์และ สรรเสริญพระองค์ได้ แต่ว่าเหล่าสัตว์ที่พระองค์ สร้างขึ้นนั้นได้แต่กู่ร้องไม่เป็นภาษา พระองค์จึงเริ่มเปลี่ยนแนวคิดไปสร้างสิ่งที่เรียกว่า "มนุษย์" แทน ครั้งแรก พระองค์สร้างมนุษย์ขึ้นจากโคลน แต่มนุษย์ โคลนนั้นปวกเปียก ไม่มั่นคง พระองค์จึง "ทำลาย" ทิ้ง หลังจากนั้นทรงเปลี่ยนมาใช้ไม้ในการสร้างมนุษย์ มนุษย์ไม้พวกนี้ สามารถเอ่ยพระนามของพระองค์ได้ แต่มนุษย์พวกนี้เอาแต่ทำลายธรรมชาติ ฆ่าสัตว์ และไม่ให้ความเคารพพระองค์เลย พระองค์ จึงตัดสินใจ "ทำลาย" มนุษย์ไม้เหล่านี้ด้วยการให้ ฝนตกทั้งวันทั้งคืน สุดท้ายพระองค์สร้างมนุษย์ขึ้นจาก "แป้งข้าวโพด" และมนุษย์ที่เกิดจากแป้งข้าวโพดก็คือเราๆท่านๆทุกวันนี้แหละครับ
แต่ ถ้าชาวมายาโบราณมีความเชื่อว่า bak’tun ที่ 13 ที่กำลังจะมาถึงในปี 2012 นี้คือการทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์จริงๆแล้วล่ะก็ วงรอบใหญ่รอบที่แล้วเมื่อ 3114 ปีก่อนคริสตกาล ก็ควรจะต้องเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นเช่นกัน แต่ศิลา ซี จากเมืองควิริกัว (Quirigua Stela C) ที่จารึกเหตุการณ์ในครั้งนั้น กลับชี้ให้เห็นมุมมองที่ต่างออกไป เพราะว่าจารึกชิ้นนี้บอกเล่าเรื่องราวของการสร้าง ไม่ใช่การทำลายล้าง โดยกล่าวถึงการวางหินเพื่อสร้างเป็นพื้นเตา สำหรับการก่อไฟทำอาหารเท่านั้นเองครับ อ้าว!! แล้วคำทำนายที่ว่า มนุษยชาติจะล่มสลายในปี ค.ศ.2012 นี้เขาอ้างอิงมาจากไหนล่ะมันมีอนุสาวรีย์แห่งหนึ่ง และแห่งเดียวเสียด้วยครับ ที่จารึกเกี่ยวกับ "คำทำนายในปี ค.ศ.2012" เอาไว้ มันคืออนุสาวรีย์หมายเลข 6 แห่งเมืองทอร์ทูกัวโร

(Tortuguero Monument 6) ครับ จารึกหินแผ่นนี้มีลักษณะเหมือนรูปตัวที (T) ซึ่งปีกด้านซ้ายหายไปจึงเหลือเพียงตัวแอล (L) กลับหัว สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับคำทำนายปี ค.ศ.2012 นั้นได้รับการจารึกเอาไว้ที่ปีกด้านขวาของศิลาแผ่นนี้ครับ
 

แบบจำลองอักขระบนอนุสาวรีย์หมายเลข 6 ที่เชื่อกันว่าหมายถึงวันสิ้นโลก
 
ข้อความที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดคือข้อความที่ถอดความได้ว่า "...เป็นเวลานาน 2 วัน 9 เดือน 3 ปี 8 k’atun 3 bak’tun ก่อนที่จะครบ 13 bak’tun (ซึ่งเทียบได้กับวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2012) มันจะเกิดความมืด?? และจะเป็นการลงมาประทับของเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างที่...??"

 
ถึง แม้ว่าอนุสาวรีย์ ชิ้นนี้จะจารึกถึงวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ.2012 เอาไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็แตกหัก จารึกไม่สมบูรณ์ ถอดความได้ยังไม่ชัดเจน เช่นคำว่าความมืดหรือสีดำ หรือที่ภาษามายาโบราณอ่านว่า "เอค" (Ek) นั้นก็ขาดหายไปครึ่งหนึ่ง ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันนั้นคือ ความมืด หรือย่างอื่นกันแน่ ที่สำคัญ ตัวอักษรในศิลาแผ่นนี้ที่เป็นตัวบอกว่าเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างทรงลงมา ประทับที่ไหน หรือลงมาทำอะไร ก็เลือนไปเสียด้วยครับ
 
สรุปอนุสาวรีย์ แห่ง นี้คือหลักฐานชิ้นเดียวที่บ่งบอกว่า "จะเกิดอะไรขึ้นในปี 2012" ซึ่งมันก็ยังไม่สามารถถอดความได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าข้อความที่จารึกไว้จะเป็นความจริง แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นมีเพียงแค่ความมืด และการลงมาประทับของเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างเท่านั้นเองครับ ไม่ใช่วันอวสานของโลกแต่อย่างใด เพราะเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างองค์นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำลายล้างเพียง อย่างเดียว แต่พระองค์ยังปรากฏกายในโอกาสอื่นๆด้วย เช่นเมื่อปฏิทินของชาวมายาดำเนินไปครบ 1 ปี หรือ ka’tun (20 ปี) เป็นต้น
 
ที่ สำคัญ ปฏิทินมายาก็ไม่ได้หมดลงที่ bak’ tun ที่ 13 ด้วยครับ เนื่องจากนักวิชาการได้พบหลักฐานเป็นศิลาจากเมืองโคบา (Coba) ที่จารึกชื่อของปีที่วงรอบใหญ่ว่า bak’tun ขึ้นไปอีก 19 ลำดับ โดยที่วงรอบใหญ่ที่สุดจริงๆของปฏิทินมายาโบราณ จะสามารถเทียบเป็นเวลาถึง 13 เท่าของ 20 ยกกำลัง 21 ปี นั่นคือหลายล้านล้านปีก่อนที่จักรวาลจะถือกำเนิดเสียอีกครับ ดังนั้น ไม่มีความจำเป็นเลยที่ปฏิทินจะหมดลงแค่ปี ค.ศ.2012

 

 
ถึง แม้ว่าอนุสาวรีย์หมายเลข 6 แห่งเมืองทอร์ทูกัวโรจะไม่ได้บันทึกอย่างชัดเจนถึงอวสานของมนุษยชาติ แต่ถ้ามนุษย์ที่เทพหทัยสวรรค์สร้างขึ้นจากแป้งข้าวโพดอย่างเราๆท่านๆยัง ทำตัวไม่ ต่างจากมนุษย์ไม้ ที่เอาแต่ทำลายธรรมชาติกันอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้นเหมือนทุกวันนี้ ความมืดและเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างจากอนุสาวรีย์ หมายเลข 6 อาจจะหมายถึงการลงมือสร้างมนุษย์ครั้งใหม่ของเทพหทัยสวรรค์ก็เป็นได้ครับ
 
แต่ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเรื่องวันอวสานโลกในปี 2012 นั้น เป็นประเด็นที่มีคนสนอกสนใจกล่าวขวัญกันทั่วโลก จนถูกหยิบยกมาเป็นไอเดียในการสร้างภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง "2012...วันสิ้นโลก" ซึ่งเหตุการณ์จริงของโลกเราในปี 2012 นั้น จะรุนแรงระทึกขวัญเหมือนในภาพยนตร์หรือไม่...จะเป็นวันอวสานโลกหรือเปล่า เราคงต้องนับถอยหลังรอลุ้นกันต่อไปอีกเพียงแค่ 3 ปี!
 
ทีมงาน ต่วย'ตู

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: ไขปริศนา 2012 วันสิ้นโลก วันโลกาวินาศ ปฏิทินมายา 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สารคดีท่องโลกกว้าง : ไขปริศนา มนุษย์ต่างดาว และ จานบิน UFO
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 0 1732 กระทู้ล่าสุด 02 กรกฎาคม 2559 22:47:55
โดย มดเอ๊ก
ไขปริศนา โจโฉ
สุขใจ ห้องสมุด
มดเอ๊ก 0 1327 กระทู้ล่าสุด 12 กรกฎาคม 2559 08:36:13
โดย มดเอ๊ก
ไขปริศนา อพอลโล 20 ภารกิจลับกู้ซากยานอวกาศโบราณ กับ หญิงสาวบนดวงจันทร์
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 0 2585 กระทู้ล่าสุด 03 ธันวาคม 2559 23:01:25
โดย มดเอ๊ก
ไขปริศนา น้ำยาทำมัมมี่
ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
ใบบุญ 0 164 กระทู้ล่าสุด 20 กุมภาพันธ์ 2566 19:16:17
โดย ใบบุญ
[ข่าวเด่น] - อ.เจษฎ์ ไขปริศนา แสงประหลาดที่โคราช ซูมแล้วเห็นวงแหวน ทำคนฮือฮาเป็นจานบิน
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 72 กระทู้ล่าสุด 06 ธันวาคม 2566 23:34:08
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.478 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 20 กุมภาพันธ์ 2567 03:15:54