[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 21:08:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปาราชิกเสพเมถุน ครั้งที่ 1 ในพุทธศาสนา เกิดขึ้นเพราะผู้ใด มีผลต่อคณะสงฆ์อย่างไร  (อ่าน 293 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 13
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2637


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2568 14:38:52 »


(ภาพประกอบเนื้อหา) จิตรกรรมภาพพระภิกษุ วัดบวรนิเวศวิหาร

ปาราชิกเสพเมถุน ครั้งที่ 1 ในพุทธศาสนา เกิดขึ้นเพราะผู้ใด มีผลต่อคณะสงฆ์อย่างไร

ผู้เขียน - วิภา จิรภาไพศาล
เผยแพร่ - ศิลปวัฒนกรรม วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2568


เมื่อกล่าวถึง “ปาราชิก” โดยทั่วไปมักนึกถึง “ปาราชิกเสพเมถุน” อันเนื่องจากการที่สงฆ์มีเพศสัมพันธ์กับสตรี หากแท้จริงแล้ว “ปาราชิก” อันเป็นอาบัติหนักที่สุดในพระวินัยมีอยู่ 4 ข้อด้วยกัน

“ปาราชิก” แปลว่า “ผู้พ่ายแพ้” มีอยู่ 4 ข้อ คือ 1. เสพเมถุน 2. ลักทรัพย์ 3. ฆ่ามนุษย์ 4. อวดอุตตริมนุสสธรรม พระสงฆ์รูปใดล่วงละเมิดแม้เพียงข้อใดข้อหนึ่งต้องขาดจากความเป็นพระสงฆ์ทันที ที่สำคัญจะกลับมาบวชอีกไม่ได้


ก่อนหน้ามีพระวินัย
พระสารีบุตร อัครสาวกเบื้องขวาของพุทธเจ้าเคยกราบทูลพระพุทธเจ้าให้ทรงกำหนด “พระวินัย” ด้วยเกรงพระสงฆ์สาวกทั้งหลายละเมิดคำสอน และเพื่อความมั่นคงของพุทธศาสนา แต่พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ โดยทรงให้รอจนกว่าจะเกิด “เหตุ” จำเป็นให้ต้องบัญญัติพระวินัย คือ

หนึ่ง เมื่อสงฆ์ที่บวชนานแล้วจะเกิดปัญหาขึ้นได้ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป

หนึ่ง เมื่อสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่และแพร่หลาย จนอาจเกิดความแตกแยกทางความคิดและการปฏิบัติ

หนึ่ง เมื่อสงฆ์ส่วนใหญ่มีลาภสักการะมาก แลติดสิ่งนั้น

หนึ่ง เมื่อสงฆ์ส่วนใหญ่เป็นพหูสูต จนตีความพระพุทธพจน์แตกต่างกัน มีความเห็นไม่ตรงกัน ต่างอ้างว่าตนเป็นพหูสูตและไม่ยอมรับซึ่งกันและกัน

แล้วก็เกิดเหตุให้พระองค์ต้องทรงบัญญัติพระวินัย


ปาราชิกเสพเมถุน ครั้งที่ 1
เมื่อครั้งพุทธกาล “พระสุทินกลันทกบุตร” หรือ บุตรชายคนเดียวของเศรษฐีกรุงเวสาลี ออกบวชด้วยศรัทธา ถือธุดงควัตรอย่างเคร่งครัด ได้เสพเมถุนกับภรรยาเก่าที่ป่ามหาวัน ตามที่บิดามารดาอ้อนวอน เพื่อให้ครอบครัวมีผู้สืบสกุล และจะได้บวชต่อโดยไม่ต้องลาสิกขาออกไป

หลังการเสพเมถุนธรรมแล้วพระสุทินกลันทกบุตร มีผิวพรรณหมองคล้ำ ภิกษุทั้งหลายจึงสอบถาม เมื่อทราบเรื่องก็ตำหนิแล้วพาพระสุทินกลันทกบุตรเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ขณะนั้นยังไม่มีการบัญญัติสิกขาบทใดๆ พระองค์จึงทรงรับสั่งให้ประชุมสงฆ์และทรงสอบสวน

พระสุทินกลันทกบุตรรับสารภาพ พระพุทธเจ้าก็ทรงตำหนิ และตรัสถึงประโยชน์สงฆ์ทั้งหลาย จึงทรงบัญญัติพระวินัยขึ้น ... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_153098

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.163 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 05 มิถุนายน 2568 07:46:06