[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 พฤศจิกายน 2568 02:30:51 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๘ พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช ฯลฯ ครั้งรัชกาลที่ ๑  (อ่าน 235 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6231


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 18 กันยายน 2568 18:44:48 »




ลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๘

พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช
แล
พระราชพิธีอาพาธพินาศ
ครั้งรัชกาลที่ ๑


----------------------------

พิมพ์แจกในงานศพ
เสวกเอก พระยาสมบัตยาธิบาล (สาย สายะเสวี)
ปีวอก พระพุทธศักราช ๒๔๖๓
----------------------------

พิมพ์ที่โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร




คำนำ


มหาเสวกโท พระยาเสถียรสุรประเพณี เปนเจ้าภาพงานศพเสวกเอก พระยาสมบัติยาธิขาล (สาย สายะเสวี) เจ้ากรมปลัดบาญชีกระทรวงวัง ประสงค์จะพิมพ์หนังสือแจกในงานศพสักเรื่อง ๑ มาแจ้งความณหอพระสมุดวชิรญาณสำหรับพระนคร ขอให้กรรมการช่วยเลือกเรื่องหนังสือให้ ข้าพเจ้าจึงเลือกตำราพระราชพิธี ๒ เรื่อง คือ พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราชเรื่อง ๑ พระราชพิธีอาพาธพินาศเรื่อง ๑ รวมจัดเปนหนังสือในแพนกลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ นับเปนภาคที่ ๘ ให้พระยาเสถียรสุรประเพณีพิมพ์ตามประสงค์

พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราชนั้น เปนพิธีจรสำหรับเสดาะพระเคราะห์ ได้เคยทำในกรุุงรัตนโกสินทรนี้ครั้ง ๑ ในรัชกาลที่ ๑ เมื่อปีเถาะ พ.ศ. ๒๓๕๐ กล่าวในบานแพนกว่าไม่ทรงสบายพระราชหฤไทย จงให้ทำพิธีเสดาะพระเคราะห์ สอบดูเหตุการณ์ในหนังสือพระราชพงษาวดารได้ความว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงศรีสุนทรเทพ ซึ่งเปนพระราชธิดาที่ทรงพระเมตตามากสิ้นพระชนม์ ภายหลังวันที่ทำพิธีไม่ถึงเดือน จึงสันนิษฐานว่า ความที่ไม่ทรงสบายพระราชหฤไทยครั้งนั้น เห็นจะเนื่องแต่เหตุที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอประชวรหนักด้วยอย่าง ๑ นอกจากนั้นบางทีจะยังมีเหตุอื่นอิกก็เปนได้

พระราชพิธีอาพาธพินาศนั้น เปนพิธีจรสำหรับทำในคราวเกิดไข้ระบาทว์) เช่นอหิวาตกะโรคเปนต้น ปรากฏในหนังสือพระราชพงษาวดารว่าเคยทำในกรุงรัตนโกสินทรนี้ ๒ ครั้ง ครั้งแรกทำเมื่อปีวอก พ.ศ. ๒๓๔๓ ในรัชกาลที่ ๑ จะเปนเพราะเกิดความไข้อย่างใด ตรวจในหนังสือพระราชพงษาวดารแลหนังสือพระราชวิจารณ์ก็หาปรากฏไม่ มีอยู่แต่ตัวตำรา คือที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ ครั้งที่ ๒ ทำเมื่อปีมะโรง พ.ศ. ๒๓๖๓ ในรัชกาลที่ ๒ คราวเกิดอหิวาตกะโรคยุคใหญ่ครั้งแรกในกรุงรัตนโกสินทร ลักษณการพิธีอาพาธพินาศที่ทำครั้งหลังนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงไว้ในหนังสือพระราชวิจารณ์โดยพิศดาร ในรัชกาลที่ ๓ เกิดอหิวาตกะโรคยุคใหญ่เมื่อปีระกา พ.ศ. ๒๓๙๒ อิกครั้ง ๑ แต่หาได้ทำพระราชพิธีอาพาธพินาศไม่

พระราชพิธีทั้ง ๒ อย่างที่กล่าวมา นับว่าเปนพระราชพิธีที่เลิกขาดแล้ว คงมีอยู่แต่ตัวตำรา ยังไม่ได้โดยพิมพ์ จึงเห็นว่าควรจะพิมพ์รักษาตำราไว้ แลเห็นว่าจะเปนประโยชน์ในทางความรู้แก่ผู้อ่านด้วย


ประวัติพระยาสมบัติยาธิบาล
เสวกเอก พระยาสมบัตยาธิบาล (สาย สายะเสวี) เกิดในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๒๗ ตุลาคม ปีมะเมีย พ.ศ. ๒๔๑๓ เดิมถวายตัวเปนมหาดเล็ก ในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธ์ ทรงฝึกสอนวิชาความรู้มาจนอายุได้ ๒๒ ปี จึงเข้ารับราชการในกระทรวงวังเมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ ได้เปนตำแหน่งเสมียนในพนักงานปลัดบาญชี ตั้งแต่ชั้นแสมียนสามัญเลื่อนขึ้นโดยลำดับจนถึงชั้นเสมียนเอก

ถึง พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรหลวงพิพิธมณเฑียร ตำแหน่งเจ้ากรมรักษาพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แต่คงรับราชการอยู่ในพนักงานปลัดบาญชีกระทรวงวังด้วยอิกแพนก ๑

ถึง พ.ศ. ๒๔๕๐ ย้ายจากน่าที่รักษาพระมหาปราสาท มาเปนตำแหน่งปลัดกรมปลัดบาญชีกระทรวงวัง

ถึงรัชกาลปัจจุบันนี้ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเปนพระราไชสวริยาธิบดี เมื่อ พ ศ. ๒๔๕๔ แล้วเลื่อนเปนพระยศเสสวราช เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๖ ต่อมาได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเปนพระยาสมบัตยาธิบาล รับราชการในกรมปลัดบาญชีกระทรวงวังตลอดมาจนได้เปนตำแหน่งเจ้ากรม

พระยาสมบัติยาธิบาลได้รับพระราชทานเครื่องราชอิศริยาภรณ์นับแต่ชั้นสูง คือ เครื่องราชอิศริยาภรณ์ตริตาภรณ์ช้างเผือก ชั้นที่ ๓ ตริตาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๓ เหรียญรัตนาภรณ์ในรัชกาลปัจจุบันนี้ ชั้นที่ ๔ เหรียญราชรุจิทองทั้งในรัชกาลที่ ๕ แลในรัชกาลปัจจุบันนี้ เหรียญจักรพรรดิมาลา แลเหรียญที่ระฦกในงานพระราชพิธีต่าง ๆ ตามบันดาศักดิ์

พระยาสมบัติยาธิบาล (สาย สายะเสวี) ป่วยเปนวรรณโรคมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๑ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๒ คำนวณอายุได้ ๕๐ ปี สิ้นเนื้อความตามประวัติเพียงนี้.

ช้าพเข้าขออนุโมทนากุศลบุญราษีทักษิณานุปทาน ซึ่งมหาเสวกโทพระยาเสถียรสุรประเพณี ได้ทำการปลงศพเสวกเอก พระยาสมบัติยาธิบาล แลได้พิมพ์ตำราพระราชพิธี ๒ เรื่องนี้ให้แพร่หลาย เชื่อว่าท่านทั้งหลายที่ได้รับไปอ่านคงจะอนุโมทนาทั่วกัน.



 สภานายก
หอพระสมุดวชิรญาณ
วันที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๖๓



ขอขอบคุณที่มา : ห้องสมุด ดิจิทัล วัชรญาณ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6231


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 กันยายน 2568 18:49:56 »



เรื่องลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๘

พระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราช
ครั้งรัชกาลที่ ๑


---------------------------

๏ ณวันอังคาร เดือน ๘ แรม ๙ ค่ำ จุลศักราช ๑๑๖๙ ปีเถาะนพศก พ.ศ. (๒๓๕๐) เพลาบ่าย ๒ โมงเศษ เสด็จออกขุนนางเฝ้าณะพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งหลวงโลกทีปโหรว่าไม่สบายพระราชหฤไทย ให้จดพระตำราตั้งพระราชพิธีเสดาะพระเคราะห์แต่ในวันพุฒ เดือน ๘ แรม ๑๐ ค่ำ ไปจงถ้วนคำรบ ๓ วัน แลการพระราชพิธีนี้ให้เผดียงสมเด็จพระพนรัตนวัดพระเชตุพนด้วย

ข้าพระพุทธเจ้าหลวงโลกทีปรับใส่เกล้า ฯ จัดพระตำราในพระคัมภีร์โหรได้ฉบับหนึ่งจึงเอาไปเผดียงสมเด็จพระพนรัตน ๆ จึงจัดพระตำหรับอิกฉบับหนึ่ง ในพระตำหรับนั้นว่า อาตมาภาพสมเด็จพระพนรัตนขอถวายพระพรให้ทราบ ด้วยอาตมาภาพได้พบตำราจำได้ว่า ครั้งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชมีเหตุไม่สบายพระไทย พระราชบุตรพระราเมศวร พระมหินทร์ แจ้งเหตุแล้วเสด็จออกไปนิมนต์พระมหาพรมอินณะเมืองสุพรรณมากระทำการพระราชพิธีชำระเหตุนั้นหาย จึงตั้งพระตำหรับสืบต่อมา ได้ชื่อว่าพระตำราจักรพรรดิราชาธิราชพิธี

ครั้งนี้อาตมาภาพขอพระราชทานให้ทำพระราชพิธีตามพระตำรานี้ ให้อาราธนาพระพุทธรูปทรงเครื่อง ๑ ห้ามสมุท ๑ ห้ามพระญาติ ๑ ห้ามแก่นจันทน์ ๑ พระไชย ๑ รวม ๕ พระองค์ ให้ตั้งเตียงรองมีเครื่องบูชา ๕ ​สำรับ เทียนแห่งละคู่ครบพระหัดถ์พระเจ้าเปนเทียน ๑๐ เล่ม ลงชื่อทุกเล่ม หนักเล่มละ ๑ บาท ๒ สลึง ยาวเล่มละ ๑๒ นิ้ว เปน (เทียน) ฝ่ายวัฒนะ เทียนเล็ก ๒๐ เล่มหนักเล่มละสลึงเฟื้อง ยาว ๖ องคุลี เปนเทียนฝ่ายหายนะดับไภยอันตราย แล้วตั้งบาตร ๕ ใบใส่น้ำบริสุทธิ ดอกบัวหลวงจะใกล้บานใส่ในบาตร ๆ ละ ๕ ดอกตั้งตรงพระเจ้าทั้ง ๕ พระองค์ แล้วให้เอาใบไชยพฤกษ์ ๗ ก้าน ใบระงับ ๗ ก้าน ใบชุมแสง ๗ ก้าน ใบคันทรง ๗ ก้าน ใบกระทืบบวบ ๗ ต้น ใบครอบจักรวาฬ ๗ ก้าน ใบบัวหลวงที่บริสุทธิ ๕ ใบ จึงปูผ้าขาวบนเตียงที่สรง จึงเอาใบไม้ ๖ สิ่งวางลงบนผ้าขาว แล้วเอาผ้าขาวปูบนใบบัวหลวงอิกชั้นหนึ่ง ให้ทำฉัตรผ้าขาว ๙ คัน ๆ ละ ๓ ชั้น ๆ ต้นกว้าง ๑๖ นิ้ว ชั้นบนสูงต่ำโดยสมควร ผ้าขาวดาดเพดานทั้ง ๒ แห่ง วงสายสิญจน์ที่สรง ๓ รอบโยงมาถึงที่พระเจ้า มียันต์ทั้ง ๘ ทิศ ๙ ทั้งเพดาน ยันต์หนึ่งเขียนรูปท้าวจาตุมหาราชิกาทั้งสี่ใส่ที่สรงทั้ง ๔ ทิศ ให้เอาดินปากน้ำปากสระ ปากผาลไถ น้ำสามสระที่มีชื่อเปนมงคล ขอพระราชทานให้เอาที่วัดสระเกษ วัดราชสิทธ วัดคงคาสวรรค์ แล้วให้ห้อยพวงดอกไม้ขาว ๗ สิ่ง เมื่อเสด็จลงสรงนั้นทรงขาว ทรงพระแสงตระบองเพ็ชร บ่ายพระภักตร์สู่ทิศอิสาณ พระสงฆ์จะสวดพระราชพิธีนั้น ๕ อาราม วัดพระมหาธาตุ วัดพระเชตุพน วัดราชสิทธ วัดระฆัง วัดสระเกษ เมื่อจะสรงนั้นให้เจ้าพนักงานตั้งเครื่องพระมหามุรธาภิเศก

​หลวงโลกทีปจึงเอาพระตำหรับสมเด็จพระพนรัตน กับพระตำราของหลวงโลกทีปกราบทูลพระกรุณาฉลองทั้ง ๒ ฉบับ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ดำรัสแก่พระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนพิทักษมนตรีว่า ให้จัดแจงเจ้าพนักงานตั้งการพระราชพิธีตามพระตำหรับของสมเด็จพระพนรัตนนั้นเถิด

สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนพิทักษมนตรี เสด็จมาอยู่ณะทิมดาบตำรวจใน ให้หาเจ้าพนักงานมาสั่งจัดแจงการตั้งพระราชพิธีณะพระตำหนัก ๙ ห้อง ๓ วัน จะได้ตั้งบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงินบูชาเทวดารวมกับพระราชพิธี แลจะได้นิมนต์พระสงฆ์พระราชาคณะวัดพระมหาธาตุสมเด็จพระสังฆราช ๑ วัดพระเชตุพนสมเด็จพระพนรัตน ๑ วัดระฆังพระพิมลธรรม ๑ วัดราชสิทธพระญาณสังวร ๑ วัดสระเกษพระพรหมมุนี ๑ รวม ๕ รูป เช้ามาสวดจำเริญพระพุทธมนต์พระมหาศาล ตั้งการพระราชพิธีจักรพรรดิราชาธิราชพิธี แลเมื่อพระสงฆ์จะเข้ามาจำเริญพระพุทธมนต์นั้น ให้นิมนต์สรงน้ำแล้วฉันเพน ครั้นเพลาบ่าย ๒ โมง ๗ บาท พระสงฆ์เข้าไปสวดพระพุทธมนต์ทุกวัน

ครั้นเถิงณวันเสาร์ เดือน ๘ แรม ๑๓ ค่ำ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันเช้าแล้ว ทรงตักบาตรน้ำตาลกรวดแล้วถวายผ้าไตร ๕ ไตร กระจาด ๕ กระจาด ธูปเทียน นำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดิบแก่พระสงฆ์ เสร็จการพระราชพิธี

แลจัดแจงเจ้าพนักงานในการพระราชพิธีเปนพนักงาน ๔ ตำรวจ เอาเตียงเข้าไปตั้งเตียงใหญ่มณฑลสำหรับตั้งเครื่อง ๑ เตียง เตียง​ใหญ่แว่นฟ้าสำหรับพระสงฆ์สวดจักรพรรดิพระราชพิธี ๑ เตียง มีเสาขื่อโครงดาดเพดานขาวระบายรอบ รวม ๒ เตียง ตั้งเตียงบนเตียงพระมณฑลสำหรับตั้งพระพุทธรูปผ้าขาวปูมีโครงดาดเพดาน ๕ เตียง ตั้งเตียงบนเตียงเครื่องบูชาผ้าขาวปู ๕ เตียง รวม ๑๐ เตียง ตั้งเตียงบนเตียงแว่นฟ้าสำหรับตั้งรองพระธรรมพระสงฆ์สวด ๑ เตียง เตียงน้อยตั้งเครื่องบูชาพระธรรม ๑ เตียง ผ้าขาวปูพื้น รวม ๒ เตียง ตั้งเตียงรองบายศรีแก้ว บายศรีทอง บายศรีเงิน ๓ สำหรับเตียง ๑ ตั้งเตียงรองบัตรมีเสาดาดเพดานเขียวระบายรอบ ๑ เตียง รวม ๒ เตียง รวมทั้งสิ้น ๑๖ เตียง ปลูกเกยตั้งบัตรริมเกย เกย ๑ เอาฐานฉัตรเข้าไปตั้งสำหรับบักฉัตรผ้าขาว ๓ ชั้นกั้นพระพุทธรูป ๕ ฐาน ทำที่พระสงฆ์สรงน้ำริมหอพระปริตข้างใต้ เอาม้ายาว ๘ ศอก ๒ ตัว ตั้งระยะห่างกันสมควร เจาะตั้งเสาตัวละ ๒ ห้องมีโครงดาดเพดานผ้าขาวระบายรอบแล้วเอามาตั้งวางขันสรงให้พอ ๕ ใบ แล้วเอาเชือกผูกกับเสาม้าสำหรับห้อยผ้าชุบสรง แลผ้าขาวดาดเพดานนั้นเบิกต่อชาวพระคลังวิเสศ พนักงานหนึ่ง

๘ ตำรวจ ทำไม้ค้ำพระศรีมหาโพธิ์ใหญ่ ไม้แก่นยาว ๑๐ ศอก ๘ ต้น ทำไม้ค้ำพระศรีมหาโพธิ์น้อย ไม้ไผ่ฤๅษียาว ๗ ศอก ๑๐๐ ต้น รวม ๑๐๘ ต้นทาดินสีพอง เบิกผ้าขาวหุ้มปลายเสาทุกต้น ใส่เบี้ยต้นละ ๑๐๐ เบี้ย เสร็จการพระราชพิธีแล้วเอาไปค้ำพระศรีมหาโพธิ์ในพระอาราม เอาปลา หมู เป็ด ไก่ ที่กรมพระนครบาลจัดซื้อเข้ามาส่ง ทรงพระเต้าหลั่งหล่อน้ำทักขิโณทกแล้วเอาไปปล่อยณะพระอารามทั้ง ๓ วัน พนักงานหนึ่ง

​จัตุสดมภ์อาราธนาพระพุทธรูปมาตั้งประดิษฐานณะเตียงพระมณฑล กรมวังพระทรงเครื่อง ๑ กรมเมืองพระห้ามพระญาติ ๑ กรมท่าพระห้ามแก่นจันทน์ ๑ กรมนาพระไชย ๑ รวม ๔ พระองค์

สังฆการี อาราธนาพระพุทธรุปห้ามสมุทตั้งณะเตียงพระมณฑลพระองค์ ๑ นิมนต์พระสงฆ์ราชาคณะสวดพระพุทธมนต์ตั้งการพระราชพิธี ๕ รูป ตั้งบาตรเบิกผ้าขาวหุ้ม ชาวน้ำสรงใส่น้ำ ๓ สระเปนน้ำพระพุทธมนต์ ๕ ใบ เบิกด้ายดิบต่อชาวพระคลังในซ้ายจับสายสิญจน์วงเตียงสรง ๓ รอบโยงมาเตียงพระมณฑล เตียงแว่นฟ้า พระสงฆ์ถือสวด นิมนต์พระสงฆ์จับมงคล ๑๐๐ สาย รับใบตาลอ่อนต่อกรมพระนครบาลมาทำตะบองเพ็ชร แล้วนิมนต์พระสงฆ์ลงอักษรด้วยปิสาเจวจนจบสำหรับทรงเมื่อสรงน้ำพระพุทธมนต์ แล้วรับเภสัชอังคาสต่อวิเสศ หมากพลูถวายพระสงฆ์ทั้ง ๓ วัน พนักงานหนึ่ง

ชาวพระคลังศุภรัต เอาอาศนะไปแต่งที่พระสงฆ์ แล้วเอาผ้าชุบสรงไปห้อยที่เชือก ๔ ตำรวจขึงกับเสาสำหรับพระสงฆ์สรงน้ำแล้วจัดผ้าไตรธูปเทียนทูลเกล้า ฯ ถวาย พนักงานหนึ่ง

ชาวพระคลังมหาสมบัติ เอากระโถนขันน้ำใส่น้ำไปตั้งถวายพระสงฆ์ พนักงานหนึ่ง

ราชบัณฑิต เอาขี้ผึ้ง เบิกด้ายต่อชาวพระคลังในซ้ายควั่นเทียนฝ่ายวัฒนะหนักเล่มละ ๑ บาท ๒ สลึง ยาวเล่มละ ๑๒ นิ้ว ๑๐ เล่ม ลงชื่อทุกเล่มครบพระหัดถ์พระเจ้าแห่งละคู่ ฝ่ายหายนะหนักเล่มละสลึงเฟื้อง ยาว ๖ องคุลี ๒๐ เล่ม แล้วให้ไปนิมนต์สมเด็จพระพนรัตน​ลงยันต์ ๘ ทิศ ยันต์เพดาน ยันต์เขียนรูปท้าวจาตุมหาราชิกาทั้ง ๔ ใส่ที่สรง ๔ ทิศ ลงเทียนฝ่ายวัฒนะ ๑๐ เล่ม แล้วนุ่งห่มผ้าขาวเอาพานแว่นฟ้าไปให้ ๔ ตำรวจกั้นพระกลดรับยันต์มาตั้งณะเตียงพระมณฑลพนักงานหนึ่ง

กรมพระนครบาล เอาดินปากน้ำวัดบางหลวง เอาดินปากสระวัดสระเกษ เอาดินปากผาลไถ กับใบไชยพฤกษ์ ๗ ก้าน ใบระงับ ๗ ก้าน ใบชุมแสง ๗ ก้าน ใบคันทรง ๗ ก้าน ใบครอบจักรวาฬ ๗ ก้าน ใบกระทืบยวบ ๗ ต้น เข้าไปส่งเพลาเช้าทุกวัน แล้วจัดซื้อปลา หมู เป็ด ไก่ เข้าไปทูลเกล้า ฯ ถวาย ทรงพระเต้าหลั่งหล่อน้ำทักขิโณทก แล้ว ๘ ตำรวจเอาไปปล่อย ๓ วัน พนักงานหนึ่ง

สนมพลเรือน รับเครื่องต่อข้างในเครื่องทองใหญ่ทรงจุดสำรับ ๑ เครื่องตะบะมุกเชิงบูชาพระธรรม ๑ เครื่องพานเงินบูชาพระเจ้า ๕ เชิญมาตั้งที่ตั้งการพระราชพิธีวันละ ๗ สำรับ แล้วรับภู่กลิ่นต่อข้างในมาแขวนเตียงพระมณฑล เตียงพระสงฆ์ แล้วแทงหยวกทำบัตร ๔ มุมกว้าง ๑ ศอก ๑๘ นิ้วบัตรหนึ่งมีเพดานส่งให้ โหร ๆ จะได้ตั้งบนเกยที่ ๔ ตำรวจปลูกบูชาเทวดา ๓ วัน แล้วรับน้ำชาต่อหัวป่าพ่อครัวถวายพระสงฆ์พนักงานหนึ่ง

ชาวภูษาพระมาลา ปูผ้าขาวเตียงสรงชั้นหนึ่ง แล้วรับใบไม้ ๖ สิ่งต่อกรมพระนครบาลวางลงขนผ้าขาว แล้วเอาใบบัวหลวงบริสุทธิ ๕ ใบวางลง แล้วเอาผ้าขาวปูบนอิกชั้นหนึ่งสำหรับรองสรงแล้วแต่งเครื่อง​พระมุรธาภิเศกทูลเกล้า ฯ ถวาย แล้วจัดพระภูษาขาวทรงนุ่งทรงห่มทั้ง ๓ วัน แล้วรับพวงดอกไม้ขาว ๗ สิ่งต่อข้างในมาแขวนเพดานเตียงสรง แล้วรับแป้งสดถวายพระสงฆ์สรงน้ำ พนักงานหนึ่ง

พระแก้วพระคลังสวนนายระวาง ส่งดอกบัวบริสุทธิใกล้แย้มสำหรับใส่ในบาตรตั้งน้ำพระพุทธมนต์ใบละ ๕ ดอก บาตร ๕ ใบ ดอกบัววันละ ๒๕ ดอก แล้วส่งดอกไม้ขาว ๗ สิ่ง ดอกไม้ร้อยภู่กลิ่นต่อกรมวัง ๆ ส่งข้างในทั้ง ๓ วัน พนักงานหนึ่ง

ล้อมพระราชวัง สานกระจาดใส่เครื่องไชยทานถวายพระสงฆ์ ๕ ใบ เหลาไม้กลัดส่งข้างในสำหรับเย็บกระทงใส่กระจาด แล้วตักน้ำกับฝีพายใส่แม่ขันเชิงที่ชาวน้ำสรงตั้งถวายพระสงฆ์สรงน้ำ พนักงานหนึ่ง

หลวงโลกทีปโหรมีชื่อ รับบัตรต่อสนมพลเรือน แล้วรับเครื่องบัตรตัอวิเสศนอกเข้าไปตั้งเกยที่ ๔ ตำรวจปลูก แล้วเอาฉากรูปเทวดา ๙ พระองค์เข้าไปตั้งที่บัตร แล้วขุนเทพากรอาราธนาเทวดาพนักงานหนึ่ง

ชาวประโคม ๆ ฆ้องไชย มโหรี ปี่พาทย์ กลองแขกแตรสังข์ เมื่อพระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์เพลาบ่าย ๓ วัน เมื่อพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเช้าเพลาหนึ่ง พนักงานหนึ่ง

ชาวพระอภิรมย์ ทำฉัตรผ้าขาว ๙ คัน ๆ ละ ๓ ชั้น ๆ ต้นกว้าง ๑๖ นิ้ว ชั้นบนสูงต่ำพอสมควรไปปักที่ฐาน ๔ ตำรวจตั้งกั้นพระพุทธรูป ๕ คัน ปักบนเพดาน ๔ มุมเตียงสรง ๔ คัน พนักงานหนึ่ง

​ชาวคลังพิมานอากาศ เอาพรมใหญ่เข้าไปปู แล้วเอาฉากรูปเทวดาเข้าไปตั้ง

ชาวน้ำสรง เอาน้ำสระวัดสระเกษ สระวัดราชสิทธ สระวัดคงคาสวรรค์ ๓ สระ กวนสารส้มอบแล้วใส่ในบาตรที่สังฆการีหุ้มผ้าขาวตั้งน้ำพระพุทธมนต์สรง ๓ วัน แล้วเอาแม่ขันเชิงไปตั้งที่ม้า ๔ ตำรวจ ตั้ง ๕ ใบ เอาฝักบัวดีบุกใส่ในแม่ขันที่ล้อมวัง ฝีพายตักน้ำใส่แม่ขันสำหรับพระสงฆ์สรงน้ำ พนักงานหนึ่ง

กรมวังกรมนาฬิกา เอาถาดเงินไปตั้งสำหรับชำระพระบาทที่เตียงสรง สรงแล้วรับพระภูษาขาวทรงผลัดนุ่งห่มกับผ้าปูเตียงใส่ในถาดกับตำรวจในกำกับกันไป ลอยน่าพระตำหนักแพทั้ง ๓ วัน พนักงานหนึ่ง

หมื่นจิตรพัฒน หมื่นยศไสยาศน์ เชิญที่เข้าไปแต่งที่ในฉากใหญ่ปูเสื่ออ่อน ๒ ชั้น แล้ววางพระกะดานพิง พรมปูบนพระกะดานพิง พระยี่ภู่กำมะหยี่แดงปูบนพรม พระสุจหนี่ปูบนพระยี่ภู่ทอดพระเขนยดอกพุดทอง ๑ ที่ในฉากน้อยปูเสื่ออ่อน ๒ ชั้น ปูพรมลาดผ้าขาวทอดพระเขนยขาว ๑ รวม ๒ ปูเสื่ออ่อน ๒ ชั้น พระสุจหนี่ลาดบนเสื่ออ่อน จึงเอาราชอาศน์กรองปูบน ๑ รวมทั้งสิ้น ๓ แล้วผูกม่านขาวเปนม่านไขในเฉลียงด้านตวันตกจนเถิงเสาในประธานต่อกันกับฉากเทวดาที่คลังพิมานอากาศไปตั้ง.

-------------------------------
วัดคงคาสวรรค์ จะเปนวัดไหนสงไสยอยู่ มีแต่ชื่อวัดประทุมคงคาที่คล้ายกัน

ปากน้ำวัดหลวง เข้าใจว่าที่วัดปากน้ำปากคลองบางหลวง


ขอขอบคุณที่มา : ห้องสมุด ดิจิทัล วัชรญาณ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 กันยายน 2568 18:52:08 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6231


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 กันยายน 2568 18:51:44 »



เรื่องลัทธิธรรมเนียมต่างๆ ภาคที่ ๘

พระราชพิธีอาพาธพินาศ
ครั้งรัชกาลที่ ๑


---------------------------

​๏ ณวันเดือน ๘ ขึ้น ๗ ค่ำจุลศักราช ๑๑๖๒ ปีวอกโทศก (พ.ศ. ๒๓๔๓) ได้ตั้งการพระราชพิธีพระสงฆ์อาพาธพินาศในเมืองอภัยสาลี เมื่อพระเจ้าเสด็จอยู่เมืองราชคฤห์ เสด็จมาเมืองอภัยสาลีครั้งนั้น

ณวันเดือน ๘ ขึ้น ๗ ค่ำ ตั้งน้ำวงด้าย พระสงฆ์จะได้เข้ามาสวดตั้งน้ำวงด้ายบนพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ๒๐ รูป ครั้นรุ่งขึ้นณวันเดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ เพลาบ่ายพระสงฆ์เข้ามาสวดมนต์ ให้เอาบาตรเข้ามาด้วย ๖๔ เอาบาตรส่งเข้าไปข้างใน ให้วิเสศแต่งของปากบาตร ของคาว ๕ สิ่งของหวาน ๕ สิ่ง ครั้นรุ่งขึ้นณวันเดือน ๘ ขึ้น ๙ ค่ำเพลาเช้าพระสงฆ์กลับเข้ามาถวายพรพระ ๖๔ รูป แล้วกลับออกไปณวัด ๕๙ รูป ฉันอยู่ในพระที่นั่ง ๕ รูป ให้ วิเสศแต่งสำรับเช้า ๕ รูป เพน ๕ รูป ครั้นณวันเดือน ๘ ขึ้น ๙ ค่ำเพลาบ่ายพระสงฆ์เข้ามาสวด ๖๔ รูป ให้ส่งบาตรเข้าไป ๖๔ ใบ ให้วิเสศแต่งเครื่องบวดเปนสำรับคาว ๖๔ สำรับ หวาน ๖๔ สำรับ ฉันบวดแล้วประกาศเทวดา ครั้นเพลาบ่ายเข้ามา ณวันเดือน ๘ ขึ้น ๑๐ ค่ำเพนเปนของบวดของคาว ๕ สำรับ หวาน ๕ สำรับ พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้วออกไปวัด ยังคงสวดอยู่แต่ฉันเพน ๕ รูป ผลัดเปลี่ยนกันสวดทีละ ๒ รูป นั่งปรกติอยู่องค์ ๑ ครั้นเพลาบ่ายณวันเดือน ๘ ขึ้น ๑๐ ค่ำพระสงฆ์กลับเข้ามาพร้อมแล้ว ให้ราชบัณฑิตอ่านคำประกาศเทวดาแล้วสวดพระพุทธมนต์ (พระ) เข้ามาสวดพระพุทธมนต์ ​จบแล้วประกาศเทวดา สังฆการีสมมุติเปนเทวดาขานรับพระสงฆ์ประกาศ แล้วพระสวดมหาสมัย สวดธรรมจักร อยู่ผลัดเปลี่ยนกันสวดแต่ ๔๐ รูปวันยิงอาฎานาไปกว่าจะรุ่งพอถ้วน ๓๐ นัด ครั้นรุ่งขึ้นณวันเดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำเพลาเช้า พระสงฆ์กลับเข้ามาถวายพรพระแล้วฉันเปนสำรับตามธรรมเนียม ให้วิเสศแต่งสำรับของคาว ๖๔ สำรับ ของหวาน ๖๔ สำรับเพลาเช้าเพลาเดียว ให้เจ้าพนักงานปืน แต่งเอาปืนเข้ามาเตรียมยิงเปนปืนสัญญาน่าพระลาน ๓๐ บอก ให้เจ้าพนักงานเครื่องเข้าไปตั้ง

พนักงานตำรวจใน ธงไชยกระบี่ธุช ๑ ธงไชยกระบี่นารายน์ขี่ครุธ ๑ รวม ๒ พระแท่นแว่นฟ้ามีเพดาน ๑ เตียงเทียนไชย ๑ เตียงสรงมีระบายรอบ ๑ ม้ารองจุดเทียนไชย ๑ ม้ารองพระห้ามสมุท ๑ ราวเทียนเหล็ก ๑ รวมทั้งสิ้น ๘ สิ่ง ให้เอาไปตั้งตามพนักงาน แล้วให้ปลูกโรงพิธีพราหมณ์ ขื่อกว้าง ๔ ศอก ๑ คืบ ยาว ๓ ห้องพาไล

พนักงานมหาดเล็ก เอาเทียนทองเข้าถวายทรงจุด แล้วเอาไปถวายพระสังฆราชจุดเทียนไชย ๑ ทรงจุดถวายพระธรรมจักรเล่ม ๑ ทรงจุดถวายพระมหาสมัยเล่ม ๑ รวม ๓ เล่ม

ให้สังฆการีเบิกสีผึ้งฟั่นเทียนไชย สีผึ้งหนัก ๕ ชั่ง ด้ายไส้ ๑๐๘ เส้น แลด้ายดิบจับสายสิญจน์ให้พอ แลนิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ เอาเภสัชถวายพระ

พนักงานชาวพระภูษามาลา พระชัณษา พระนพ เครื่องต้น เครื่องทรง พานทองทรงพระสนาน มะกรูดส้มป่อย ใบมะตูมหญ้าแพรก ​ลวดเงินลวดทองลวดนากยาว ๙ นิ้ว พายเงิน ๑ เฟื้อง พายทอง ๑ เฟื้อง พายนาก ๑ เฟื้อง เข้าไปตั้งในเตียงพระมณฑล แล้วให้จับพระมงคล ๘ พระองค์ สำหรับถวายพระเจ้าลูกเธอเมื่อเสด็จออกทรงฟังสวดพระพุทธมนต์

พนักงานน้ำสรง หม้อน้ำทอง ๒ คู่ เงิน ๒ คู่ รับเอาหม้อนางเลิ้งต่อกรมพระนครบาล ๒ คู่ ถาดรองหม้อน้ำให้ครบหม้อ เอาเข้ามาตั้งบเตียงแว่นฟ้า

พนักงานพระคลังมหาสมบัติ ทำส่งชาวพระภูษามาลา พายเงิน ๑ เฟื้อง พายทอง ๑ เฟื้อง พายนาก ๑ เฟื้อง รวม ๓ เล่ม ลวดเงินลวดทองลวดนากยาว ๙ นิ้ว ให้ทำส่งให้ชาวพระภูษามาลาเอาไปตั้ง ให้เอากระโถนขันน้ำไปตั้งให้พอพระสงฆ์สวด

ให้ขุนวิสูตรสาตรา ขุนแสง เชิญพระแสงขอ พระแสงชนักมาเข้ามณฑลให้พร้อม

พนักงานเทพาวุธ รุดรักษา เชิญพระแสงหอก พระแสงทวน พระแสงง้าว พระแสงดาบไทย ดาบยี่ปุ่น พระแสงกระบี่ พระแสงกั้นหยั่น โล่ห์ ดั้ง เขน เข้าไปตั้ง

พนักงานชาวพระแสงปืนต้น เชิญพระแสงปืนเข้ามาตั้ง ๒ องค์

คลังศุภรัต เบิกผ้าขาวต่อพระคลังวิเสศ ๕ พับเอามาถวายพระสงฆ์อาราธนาเทวดา ๑ สวดพระมหาสมัย ๒ สวดพระธรรมจักร ๒ รวม ๕ พับ ถวายวันยิงฮาฏานา แต่งพระสงฆ์ให้พอ

​ให้ชาววังเบิกผ้าขาวนุ่ง ๒ ห่ม ๒ รวม ๔ ผืน ให้สังฆการีสมมุติเปนเทวดา

อนึ่งให้ชาววังบอกให้วิเสศแต่งสำรับแต่งของปากบาตร วันเดือน ๘ ขึ้น ๘ ค่ำ สวดมนต์เย็นแล้วส่งบาตร ๖๔ ใบ วันเดือน ๘ ขึ้น ๙ ค่ำ ปากบาตร ๖๔ สำรับ เช้า ๕ สำรับ เพน ๕ สำรับ วันเดือน ๘ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เช้า ๖๔ สำรับ เพน ๕ สำรับ

ให้ชาววังบอกขอเทียนทองหนัก ๓ บาท ๓ เล่ม เทียนสวดหนัก ๓ บาท ๒๒ เล่ม เทียนบูชาหนัก ๑ บาท ๒ สลึง ๑๖๘ เล่ม แลเภสัชอังคาส น้ำชุบาลแลยาเลี้ยงให้พอพระสงฆ์ณวันเดือน ๘ ขึ้น ๙ ค่ำ แลเพลากลางคืนวันยิงอาฏานา พระสงฆ์อยู่สวดยิงอาฏานาผลัดเปลี่ยนกันสวด ๔๐ รูป ครั้นรุ่งขึ้นณวันเดือน ๘ ขึ้น ๑๑ ค่ำ พระสงฆ์จะได้รับพระราชทานฉัน ๔ สำรับ เพลาเช้าพร้อมกันทั้ง ๖๔ รูป เปนสำรับเหมือนอัตรา

ให้ล้อมวังตักน้ำใส่แม่ขันล้างเท้าพระสงฆ์ให้พอ

ให้พระคลังวิเสศจ่ายผ้าขาว ๕ พับ ผ้าขาว ๔ ผืน ให้ศุภรัต ๕ พับ ให้สังฆการีนุ่ง ๒ ผืน ห่ม ๒ ผืน รวม ๔ ผืน เปนของหลวงฟาดพระเคราะห์ส่งไป

ให้สนมเอาเครื่องนมัสการเข้ามาตั้งให้พร้อม ให้ทำบัตรด้วย

ให้กรมพระนครบาลส่งหม้อน้ำ ๕ คู่ ใบมะตูม ใบขนุน ใบบัวหลวง หญ้าแพรก ผักส้มป่อย มะกรูด กำคาประน้ำ ๑๐ อัน เสวียน​หม้อน้ำ ๑๐ อัน เสวียนเช็ดเท้าพระสงฆ์ ๒ อัน ให้ตัดใบตาลส่งให้ราชบัณฑิตลงยันต์ตะบองเพ็ชร ลงด้วยสัพเพเทวาปีสาเจวจนจบ ๕๐๐ อัน จะได้ทูลเกล้า ฯ ถวายพระเจ้าอยู่หัว แลเจ้าต่างกรมแลพระเจ้าลูกเธอ

ให้ราชบัณฑิตนุ่งขาวห่มขาวอ่านคำอาราธนาเทวดาเพลาบ่าย ๓ วัน นิมนต์พระสงฆ์วันฉันบวดเพลาเช้าเพลาเพน ประกาศเทวดาเพลาเย็น ปูผ้าขาวพับ ๑ สวดสมัย ๒ พับ สวดธรรมจักร ๒ พับ รวมกัน ๕ พับ วันยิงอาฏานาถวายแต่เพลาเดียว

ให้เจ้าพนักงานทั้งนี้อยู่เฝ้ารักษาของ ๆ หลวงจงทุกพนักงานอย่าให้ขาดแต่สิ่งหนึ่งสิ่งใดได้เปนอันขาดทีเดียว

นิมนต์สวด พระพนรัตน ๑ พระธรรมกิติ ๑ พระธรรมเจดีย์ ๑ พระสุเมธใหญ่ ๑ พระโพธิวงศ์ ๑ พระสุเมธน้อย ๑ พระวรญาณ ๑ พระเทพมุนี ๑ พระอริยมุนี ๑ พระรัตนมุนี ๑ รวม ๑๐ คู่สวด ถานานุกรม ๕๔ รวมทั้งสิ้น ๖๔ รูป สวดพิธีอาพาธพินาศบนพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ณวันเดือนอ้าย ขึ้น ๗ ค่ำ ปีระกาตรีนิศก ครั้นณวันเดือนอ้ายขึ้น ๑๐ ค่ำ ฉันเช้าฉันเพน แล้วเชิญพระสิหิงค์ ๒ พระห้ามสมุท ๑ รวม ๓ พระองค์

พระยานุมาศ องค์หนึ่ง ๒๘ องค์หนึ่ง ๒๘ องค์หนึ่ง ๒๘ รวม ๓ องค์ ๘๔ หามพระเขี้ยวแก้ว ๑๖ รวม ๑๐๐ เครื่องสูง ๒ สำรับ ทั้งบังพระสูริย์ ๔๔ รวม ๑๔๔ หามพระสงฆ์ประน้ำรอบนอก ๑๐ องค์ ๘๐ ​หามพระสงฆ์ประน้ำในพระราชวัง ๕ องค์ ๔๐ รวม ๑๒๐ หามปี่พาทย์ ๔ สำรับ ๆ ละ ๕ คน ๒๐ หามกลอง ๒ สำรับ ๆ ละ ๓ คน ๖ รวม ๒๖ เกณฑ์หามปี่พาทย์ ๓๒ เกณฑ์หามกลองแขก ๑๖ รวม ๔๘ แตรงอน ๑๐ แตรฝรั่ง ๑๐ รวม ๒๐ เกณฑ์ถือปืนขับปิศาจกองกลาง ๒๐๐ เกณฑ์หามวอพระสงฆ์ตามพระเจ้าประน้ำ ๑๐ วอ ๘๐ รวมทั้งสิ้น ๖๓๘ คน

----------------------------

ขอขอบคุณที่มา : ห้องสมุด ดิจิทัล วัชรญาณ
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.32 วินาที กับ 27 คำสั่ง

Google visited last this page 05 ตุลาคม 2568 10:40:41