ชาวดีดิงกา (Didinga people) กลุ่มชาติพันธุ์ในแอฟริกา

ชาวดีดิงกา (Didinga people)
กลุ่มชาติพันธุ์ในแอฟริกา

ชาวดีดิงกา (Didinga people) ชาวดีดิงกาอาศัยอยู่ในภูมิภาคเทือกเขาดีดิงกาในเขตบูดี (Budi) รัฐอีสเทิร์นอิเควทอเรีย (Eastern Equatoria State) ประเทศซูดานใต้ (South Sudan) พวกเขาอาศัยอยู่ในหุบเขา บนที่ราบสูงและเนินเขา และบนที่ราบใกล้เคียงของภูมิภาค มีประชากรประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน ชุมชนหลักของพวกเขา ได้แก่ ชูกูดัม นากิช็อต นิวคุช-เฮย์แมน ลอรา และนาติงกา

ภูมิประเทศของดีดิงกาเป็นเนินเขา สูงประมาณ ๒,๐๐๐ ฟุต สิ้นสุดที่ราบสูง มีปริมาณน้ำฝนเพียงพอที่จะค้ำจุนพืชพรรณหนาทึบ มีศักยภาพสูงสำหรับการเพาะปลูกพืชเชิงพาณิชย์ ได้แก่ ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ถั่ว ข้าวสาลี ฟักทอง และยาสูบเป็นหลัก และพวกเขายังเลี้ยงสัตว์ อาชีพหัตถกรรม เครื่องปั้นดินเผา มีทองคำจากตะกอนและแม่น้ำที่ไหลมาจากลำน้ำ แร่ธาตุอื่นๆ ที่มีค่าทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ หินอ่อน หินปูนสำหรับทำปูนซีเมนต์ ทองคำ และอัญมณี

ชาวดีดิงกา โบยา เทนเน็ต เมอร์เล และเมอร์ซี ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเอธิโอเปีย มีภาษาเดียวกันที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากกลุ่มอื่นๆ ในซูดาน ภาษาของพวกเขาซึ่งมักเรียกว่าภาษาเมอร์เล-ดีดิงกา (Murle-Didinga) ก็เป็นภาษาพูดของกลุ่มที่อาศัยอยู่ในเอธิโอเปียตะวันตกเฉียงใต้เช่นกัน

ชาวดีดิงกาใช้ชีวิตชนบทที่เงียบสงบมาหลายปี พวกเขามีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการเลี้ยงวัวควายและเป็นเจ้าของฝูงสัตว์ขนาดใหญ่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของชายหนุ่มโสดชาวดีดิงกา อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ความวุ่นวายทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาจนถึงปี พ.ศ.๒๕๑๖ ทำให้ชาวดีดิงกาจำนวนมากละทิ้งวัวควายและอพยพไปยังยูกันดา ขณะที่อยู่ในยูกันดา ดิดิงกาได้สัมผัสกับการทำฟาร์มขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต นอกจากนี้ ลูกๆ ของพวกเขายังได้รับการศึกษาอีกด้วย ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้ผู้คนมีความปรารถนาที่จะหาเงินและแสวงหาความรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยสำคัญในแถบเทือกเขาหิมาลัยมาก่อน

การแต่งงาน ชาวดีดิงกาไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมการแต่งงานแบบคลุมถุงชนหรือแบบที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า คู่รักที่คาดหวังจะถูกชี้นำโดยความรู้สึกและอารมณ์ของตนเอง และหลังจากที่ตกลงที่จะแต่งงานกันแล้ว ฝ่ายชายจะเข้าหาพ่อแม่ของเจ้าสาว เมื่อไปประกาศเรื่อง เขาจะพาเพื่อนสามคนไปด้วย และนำแพะ ๖ ตัว หอก ๑ อัน และจอบ ๑ อันไปด้วยเป็นสินสอดทองหมั้นเมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว และการหย่าร้างในหมู่ชาวดีดิงกาเกิดขึ้นได้ยาก

การคลอด หลังคลอด หญิงจะอยู่ในที่ส่วนตัวในบ้านเป็นเวลา ๓-๔ วัน ขึ้นอยู่กับว่าเด็กเป็นเด็กผู้ชายหรือเด็กผู้หญิง ยกเว้นญาติสนิทและเพื่อนสนิท ถือว่าหญิงหลังคลอดอยู่ในภาวะ “มลพิษทางพิธีกรรม” และไม่อนุญาตให้ปรุงอาหาร

การคลอดลูกแฝดและแฝดสามถือเป็นโชคลาภ อย่างไรก็ตาม จนกว่าลูกแฝดสามจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ บิดาของพวกเธอจะถูกห้ามไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หรือไม่สามารถร่วมเดินทางไปกับกลุ่มใด ๆ ที่กำลังทำสงครามหรือล่าสัตว์ได้

การตั้งชื่อ โดยทั่วไปแล้ว เด็กๆ จะได้รับการตั้งชื่อตามปู่ย่าตายาย เด็กที่เสียชีวิตแล้วมักจะถูกตั้งชื่อว่า โลกิดัก หรือ อิกิดัก (เพศหญิง) เด็กที่เกิดหลังจากการเสียชีวิตของทารกหลายครั้งจะถูกตั้งชื่อว่า โลกุเระ หรือ อิกุเระ (เพศหญิง)

ความตายและการฝังศพ ศพจะถูกฝังโดยให้ศีรษะหันไปทางทิศตะวันออกในหลุมลึกนอกหมู่บ้าน

ความเชื่อและธรรมเนียมปฏิบัติทางศาสนาดั้งเดิมชาวดีดิงกามีชาวเผ่าผู้ทำฝนซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำพิธีกรรมบางอย่างเพื่อนำฝนมาให้ ดิดิงกายังบูชาและบูชายัญต่อวิญญาณและเทพเจ้า และให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบูชาบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว

source :
- humansworld.org - Photo Gallery: © Jordi Zaragozà Anglès / South Sudan 2019
- 101lasttribes.com - Photo Gallery: © Jordi Zaragozà Anglès - South Sudan 2019
- en.wikipedia.org