[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 มีนาคม 2567 11:32:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โลกมนุษย์เป็นสถานที่สร้างกรรม หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ  (อ่าน 2214 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 17.0.963.56 Chrome 17.0.963.56


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2555 15:30:16 »

โลกมนุษย์เป็นสถานที่สร้างกรรม
หลวงพ่อทูล ขิปฺปปญฺโญ


โลกมนุษย์นี้เป็นสถานที่สร้างกรรมโดยเฉพาะ คนที่เกิดมาในโลกนี้ มีการสร้างกรรมกันหมดทุกคน พระพุทธเจ้าสร้างบารมีก็มาสร้างในโลกมนุษย์ บารมีที่เต็มเปี่ยมสมบูรณ์ก็เต็มอยู่ในโลกมนุษย์นี้ มีดวงตาเห็นธรรมมีสติปัญญา ละอาสวกิเลสตัณหาก็ละกันในโลกมนุษย์นี้ หรือ พระอรหันต์อริยสาวกก็เช่น เดียวกันก็ได้มาบำเพ็ญบารมีอยู่ในโลกมนุษย์นี้ จนได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ก็ ได้บรรลุธรรมในโลกมนุษย์นี้ หรือผู้จะไปตกนรกอเวจี ไปเกิดเป็นเปรต เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน เป็นอสุรกาย ก็ทำกรรมชั่วอยู่ในโลกมนุษย์นี้เช่นกัน

ฉะนั้น โลกมนุษย์จึงเป็นศูนย์กลางเป็นต้นทางของจิตวิญญาณ ที่จะไปท่องเที่ยวในวัฏจักรอื่นต่อไป หรือเหมือนกับท่าอากาศยาน ใครต้องการไปเที่ยวที่ไหนประเทศ ใดก็ตีตั๋วไปสายการบินนั้น ๆ นี้ฉันใด ใครอยากจะไปสู่ภพไหนชาติใดก็สร้าง กรรมประเภทนั้น ๆ ผลของกรรมจะเป็นเครื่องบินพาท่านไปเอง ตามปกติแล้ว จิตวิญญาณไปเกิดในที่ไหนจะติดใจพอใจอยู่ในที่แห่งนั้น ถ้าได้เกิดในโลกมนุษย์ ก็จะมีความห่วงความอาลัยไม่อยากไปในภพไหนเลย ความห่วงความยินดีนี้เองจึง เป็นตัวถ่วงใจผูกใจเอาไว้ จะเข้าใจว่าโลกมนุษย์นี้มีความสุขดีแล้ว มีสิ่งให้เสพ สุขได้ตามใจชอบ ต้องการในสิ่งใดก็พอหาได้ อยากชมวิวทิวทัศน์ความสวยงาม ของโลกก็มีดู อยากสัมผัสในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะที่ถูกใจก็หาสัมผัส ได้

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า โลกมนุษย์นี้มีความงามงอนเหมือนราชรถ มีคำต่อ ไปว่า มีผู้โง่เขลาเท่านั้นข้องอยู่ ผู้มีสติปัญญาที่ฉลาดรอบรู้หาข้องอยู่ไม่ ถ้าเรา ใช้วิจารณญาณพิจารณาในคำสอนของพระพุทธเจ้าในบทนี้จะเป็นอุบายสอนใจตัว เองได้เป็นอย่างดี ผู้ที่มีความทุกข์เดือดร้อนใจ มีสาเหตุเนื่องจากไม่ยอมรับความจริง สิ่งใด ไม่ถูกใจไม่ชอบใจก็จะเกิดความรู้สึกรับในสิ่งนั้นไม่ได้ เป็นในลักษณะเข้าข้างตัว เอง ไม่ยอมรับในสิ่งที่ไม่ถูกใจ ไม่ว่าสิ่งใดจะต้องให้เป็นไปตามใจชอบทั้งหมด ไม่ยืดหยุ่น มีความเห็นอย่างไร มีความเข้าใจเป็นอย่างไร ก็อยากให้สิ่งทั้งหมด เป็นไปตามความเข้าใจอย่างนั้น

นี้คือศึกษาสภาพความเป็นอยู่ของโลกไม่ทั่วถึง ไม่เข้าใจในกระแสโลกที่มีอยู่เป็นอยู่ตามความเป็นจริง การศึกษาธรรมก็คือศึกษา หลักของธรรมชาติคือความเป็นจริง ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมีการตั้งอยู่ชั่วขณะ แล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปหรือดับไป ความเข้าใจและความเห็นของคนเราย่อมแตกต่างกัน จะให้ทุกคนมีความเห็นเป็นอย่างเดียวกันนั้นเป็นไปไม่ได้ ความเห็นของนักปราชญ์บัณฑิตก็มีความเห็นเป็นอีกอย่างหนึ่ง ความเห็นของคนพาลสันดานชั่วก็ เป็นอีกอย่างหนึ่ง ในโลกนี้มีทั้งนักปราชญ์และคนพาลอยู่ร่วมกัน ความคิดความ เห็นย่อมมีความแตกต่างกันไปเป็นธรรมดา

ถ้าหากคบกับนักปราชญ์ก็จะไม่มี ปัญหา เกิดขึ้น เมื่อจำเป็นจะต้องได้อยู่ในกลุ่มคนพาลก็ต้องหาทางออกที่ยืดหยุ่น อ่านนิสัยของคนพาลสันดานชั่วให้เข้าใจ ในธาตุแท้ของคนพาล มีความ ประพฤติเป็นอย่างไร คนพาลก็คือคนพาล จะเอาอะไรให้สมบูรณ์แบบไม่ได้ คน ที่ใจต่ำทรามการทำการพูดเขาไม่ได้คิดถึงเหตุและผล เขาก็จะทำจะพูดให้ถูกกับใจ เขาเท่านั้นเอง จะเอาความประพฤติในการทำการพูดของคนพาลให้ถูกกับความ ต้องการของเราทั้งหมดไม่ได้ ต้องรู้จักให้อภัยกับคนประเภทนี้ เพราะเขายังไม่มี สติปัญญารับผิดชอบในการทำการพูดของเขาได้ บัณฑิตกับคนพาลก็มีความอยากอยู่ในตัว แต่ใช้ความอยากที่แตกต่างกัน การทำกรรมก็ทำไปคนละอย่างกัน

คำว่ากรรม ก็คือการกระทำทางกาย และ วาจามโนกรรมเป็นใหญ่เป็นประธานในความอยากทั้งปวง การทำทางกายและ วาจาจะออกมาจากความอยากของใจนี้ทั้งหมด การทำผิดทำถูก พูดผิดพูดถูกจะ เป็นผลสะท้อนเข้าหาใจ ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาของความอยากต้องแก้กันที่ใจนั้น คือ ความเห็น ความเห็นนี้เองจึงเป็นเข็มทิศให้ใจได้เป็นไป ถ้าใจมีความเห็น ชอบก็จะเป็นความอยากไปในทางที่ถูก ถ้าใจมีความเห็นผิดก็จะเกิดความอยากไป ในทางที่ผิด จึงเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้มีการกระทำกรรมชั่วต่อไปยาวนาน และ เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดการพูดผิดทำผิดเกิดขึ้น

ฉะนั้นความเห็นที่ประกอบด้วย ความอยาก จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการปฏิบัติธรรม เพราะความอยากยังเป็นดาบ สองคม ความอยากของคนพาลจะเป็นผลนำไปสู่ทุคติโดยถ่ายเดียว ความอยาก ของนักปราชญ์บัณฑิตจะเป็นผลนำไปสู่สุคติและส่งผลให้ถึงพระนิพพานได้ ดัง บาลีว่า ตณฺหาย ตรติ โอฆํ ตัณหาคือความอยากจะเป็นพลังส่งให้ผู้ปฏิบัติได้ข้ามพ้นไปจากโอฆสงสาร ผู้จะนำเอาตัณหาคือความอยากมาปฏิบัติให้เกิดผลดีได้ ผู้นั้นจะต้องมีสติปัญญาที่ดี มีความฉลาดรอบรู้ตามหลักความเป็นจริง ให้เป็นไป ตามไตรลักษณ์อยู่เสมอ

หรืออย่างน้อยให้มีสติปัญญาฉลาดรอบรู้ในการบำเพ็ญ ความดีคือบุญกุศล ผู้จะบำเพ็ญบุญกุศลได้ผู้นั้นก็ต้องรู้จักบาปอกุศล ว่าการทำ บาปทำอย่างไร ผลของบาปเป็นอย่างไร ถ้าเข้าใจในบาปอกุศลดี มีหิริความ ละอายในการทำบาป โอตตัปปะ มคี วามกลัวต่อผลของบาปที่จะตามสนองแก่ตัว เอง ผู้นั้นก็จะเลือกทำแต่กรรมดี คือบุญกุศลตลอดไป จนกว่าจะได้เข้าสู่มรรค ผลนิพพาน

ที่มา: บ้านจอมยุทธ์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
สุภากาโร
มือใหม่หัดโพสท์กระทู้
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 1


ระบบปฏิบัติการ:
Mac OS X 10.6.8 Mac OS X 10.6.8
เวบเบราเซอร์:
Safari 5.1.2 Safari 5.1.2


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2555 15:39:45 »

สาธุ สาธุ สาธุ



บันทึกการเข้า
คำค้น: โลก มนุษย์ โลกมนุษย์ กรรม สร้างกรรม หลุดพ้น หนีกรรม แก้กรรม หลวงพ่อทูล 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.442 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 25 มกราคม 2567 19:18:37