[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 02:26:59 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัทธรรมปุณฑริกสูตร ภาค การเนรมิตกายของพระอวโลกิเตศวร  (อ่าน 4526 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 มิถุนายน 2553 20:34:00 »


 

สัทธรรมปุณฑริกสูตร ภาค การเนรมิตกายของพระอวโลกิเตศวร

ขณะนั้น พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ได้ลุกขึ้นจากที่นั่งครองผ้าไว้บนใหล่ขวา ประนมมือขึ้นทูลถามพระศาสดาเจ้าว่า

"โอ! พระศาสดาเจ้าด้วยเหตุใดพระโพธิสัตต์มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงมีนามว่า อวโลกิเตศวรพระเจ้าข้า"

เมื่อทรงถามดังนี้ พระศาสดาจึงตอบพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติว่า

"กุลบุตร เวไนยสัตว์ทั้งหลาย จำนวนร้อยพันหมื่นโกฏิ ผู้ต้องทนทุกข์ยากในโลกนี้ เมื่อได้ยินพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวรเจ้า ก็จะหลุดพ้นจากความทุกขฺ์ยากทั้งปวง ผู้ท่องบ่นพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม้จะตกอยู่ในวงล้อมอัคคีภัยก็จะปลอดภัยได้ด้วยพระรัศมีของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ ผู้นี้ กุลบุตร ในกรณีที่เวไนยสัตต์ถูกกระแสน้ำพัดพาไป แล้วระลึกถึงพระนามของ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม่น้ำทั้งหลายก็จะหาที่พักพิงให้กุลบุตร

ในกรณีที่สรรพสัตว์ ทั้งหลายร้อยพันหมื่นโกฏิ ลงเรือออกทะเลใหญ่ ถูกพายุพัดเข้าไปติดเกาะยักษีทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์สมบัติ เช่น ทองคำแท่ง ทอง แก้วมณี มุก ไพฑูรย์ หอยสังข์ หินประการัง มุสารคัลวะมุกแดง และ สินค้าอื่นๆ และ หากในเรือนั้นมีใครซักคนเอ่ยนาม พระอวโลกิเตศวร ทุกคนก็จะพ้นพัยจากเกาะยักษีด้วยเหตุนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงมีชื่อว่า อวโลกิเตศวร "


หากมีผู้ต้องโทษประหาร ระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ดาบของเพชรฆาตจะหักสะบั้นทีเดียว นอกจากนั้น กุลบุตร หากโลกทั้งสามเต็มไปด้วยปิศาจและยักษ์ เมื่อกล่าวนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แล้วจะทำให้พวกเขามองอะไรไม่เห็น ทำความชั่วไม่ได้ กุลบุตรหากมีผู้ตกอยู่ในเครื่องพันธนาการไม่ว่าจะเป็นไม้หรือเหล็ก โซ่หรือเครื่องจองจำ ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ผิดหรือบริสุทธิ์ เครื่องพันธนาการ โซ่หรือเครื่องจองจำเหล่านั้นจะหลุดทันที ที่เอ่ยพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร นี่แหละเป็นอำนาจ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร กุลบุตร

หากทั้งสามโลกนี้ เต็มไปด้วยศัตรูโจรผู้ร้าย พร้อมดาบเป็นอาวุธ และ หากพ่อค้าวานิชซึ่งเป็นหัวหน้าคุมกองเกวียนบรรทุกเครื่องเพชรนิลจินดา ได้พบปะกับโจรผู้ร้ายและศัตรูมีดาบเป็นอาวุธ ด้วยความตระหนกตกใจนั้นก็นึกว่าตนทำอะไรไม่ได้ แล้ว หากพ่อค้าวานิชผู้นั้นกล่าวว่า"อย่ากลัวไปเลย พี่น้องทั้งหลาย อย่าตกใจเลยทุกๆคน พร้อมกันท่องพระนาม พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร พระผู้รอด เจ้าจะพ้นอันตรายแห่งเงื้อมมือของโจรผู้ร้าย และ ศัตรูทั้งปวง " และ เมื่อผู้คุมกองเกวียนทั้งหลาย กล่าวขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า "ขอจงทรงพระเจริญ ขอจงทรงพระเจริญ พระผู้ช่วยให้รอด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร "

เพียงแต่การเอ่ยพระนามดังนี้ กองเกวียนนั้น จะรอดพ้นจากอันตราย กุลบุตร นี่แหละเป็นอำนาจแห่ง พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ที่ยังหมกมุ่นในตัณหา กุลบุตรเมื่อได้สรรเสริญพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากตัณหา ผู้ยังมีความเกลียดโกรธ เมื่อได้สรรเสริญพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากความเกลียดนั้น

ผู้ที่ยังติดในความหลง เมื่อได้สรรเสริญพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ก็จะเป็นอิสระจากความหลงนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร มีอำนาจมากดังนี้ หากหญิงใดมีความปราถนาอยากได้บุตรชาย เมื่อสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แล้วก็จะได้บุตรชาย สง่าและงดงาม มึคุณสมบัติของเด็กชายโดยสมบูรณ์ เป็นคนน่ารัก สามารถเอาชนะใจคนทั้งหลาย เป็นผู้มีพีชกุศล หากหญิงใดปราถนาอยากจะได้บุตรหญิง บุตรหญิงที่ดี และงดงามก็จะเกิดแก่เธอ มีคุณสมบัติที่ดีของเด็กหญิงโดยสมบูรณ์ และ เป็นเด็กน่ารักสามารถเอาชนะใจคนทั้งหลาย เป็นผู้มีพีชกุศล กุลบุตร อำนาจของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เป็นดังนี้


ผู้ที่สรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ย่อมได้รับผลประโยชน์โดยแน่แท้ กุลบุตร หากสมมติว่า บุคคลผู้หนึ่งสรรเสริญและท่องบ่นพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ส่วนอีกผู้หนึ่งสรรเสริญพระศาสดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นจำนวนเท่าเม็ดทรายใน 52 คงคานที กับ ทั้งถวายสักการะแก่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตลอดชั่วชีวิต ได้ ถวายจีวร บาตร อาสนะ ยารักษาโรคสำหรับคนเจ็บ กุลบุตรเจ้าคิดว่า "กุลบุตร หรือ กุลธิดาได้สร้างสมบุญกุศลมากหรือไม่"

พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงทูลพระศาสดาว่า "ยิ่งใหญ่ โอ!พระสุคต กุลบุตรและกุลธิดาย่อมได้รับกุศลมหาศาลจากการกระทำของเขา" พระศาสดาจึงตรัสต่อไปว่า "กุลบุตร บุญกุศลที่ชายหนุ่มได้รับจากการถวายต่อพระศาสดาพระพุทธเจ้าทั้งหลาย และ บุญกุศลที่ได้จากการสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร และ ท่องบ่นพระนามแม้แต่ครั้งเดียวนั้นเท่ากัน ผู้ที่ได้ถวายสักการะพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีจำนวนเท่าเม็ดทรายใน 62 คงคานที และได้ท่องบ่นพระนามของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แม้เพียงครั้งเดียว ย่อมได้บุณกุศลเท่ากับบุญกุศลทั้งสองแบบ ยากแก่การทำลายลงได้ แม้ในเวลานานถึงร้อยพันหมื่นโกฎิกัลป์ กุลบุตร บุญกุศลที่ได้จากการสรรเสริญ และ ท่องบ่นพระนามพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร นั้นมากมายมหาศาลยิ่งนัก"


พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ได้กราบทูลถามพระศาสดาอีกว่า " โอ! พระศาสดาเจ้า เหตุใด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงต้องมาดูแลสหโลกธาตุนี้อยู่เสมอ พระเจ้าข้า พระองค์ประกาศธรรมอย่างไรพระเจ้าข้าและพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร มีความสามารถเพียงใดพระเจ้าข้า" เมื่อทูลถามดังนั้น

พระศาสดาจึงตัดตอบ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติว่า

"ในโลกธาตุบางแห่งนั้น กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร แสดงธรรมแก่สรรพสัตว์ในรูปของพระพุทธเจ้า ส่วนที่อื่นนั้นนั้นในรูปของพระโพธิสัตว์ สำหรับบางคนก็แสดงธรรมในรูปของพระปัจเจกพุทธ สำหรับคนอื่นแสดงธรรมในรูปพระสาวก สำหรับคนอื่นๆ ก็อาจแสดงในรูปของพระพรหม พระอินทร์หรือคนธรรพ์ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมด้วยปิศาจ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของปีศาจ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระอิศวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระอิศวร

สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระมเหศวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระมเหศวร สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระจักรพรรดิ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระจักรพรรดิ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยท้าวกุเวร พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของท้าวกุเวร สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยเสนาบดี พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของเสนาบดี สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพราหมณ์ พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพราหมณ์ สำหรับผู้ที่จะหันเข้าหาธรรมได้โดยพระวัชรปาณี พระองค์ก็จะแสดงธรรมในรูปของพระวัชรปาณี

ด้วยคุณสมบัติอันมหาศาลยากที่จะหยั่งถึงได้นี้กุลบุตร เป็นความสามารถเฉพาะของพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ดังนั้น กุลบุตร พึงสรรเสริญพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เถิด พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร กุลบุตร สามารถช่วยให้ผู้มีความทุกข์ ความกังวลใจ มีความปลอดภัยได้ และ ด้วยเหตุนี้ จึงถวายพระนามพระองค์ว่า อภัยนทัต(ผู้ประทานความปลอดภัย)"



จากนั้น พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ กราบทูลพระศาสดาเจ้าว่า"โอ! พระศาสดาเจ้า เราควรมอบรางวัลแห่งความศรัทธา เครื่องยศแห่ง ความศรัทธาให้แก่พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร หรือไม่ พระเจ้าข้า" พระศาสดาจึงตรัสตอบว่า " ย่อมได้ หากเจ้าเห็นว่าสมควร " พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงปลดสร้อยไข่มุกจากคอของตนเอง ซึ่งมีค่าถึงแสนเหรียญทองแลัวถวายแก่ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เป็นรางวัลแห่งความศรัทธา พร้อมกับกล่าวว่า "ท่านผู้ประเสริฐ ขอจงรับความศรัทธานี้เถิด"

แต่ท่านไม่ยอมรับ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ จึงกล่าวแก่ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ว่า "ด้วยความเมตตาที่ท่านมีแก่พวกเรา กุลบุตร ขอให้ท่านจงรับสร้อยไข่มุกนี้ไว้เถิด" พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร จึงยอมรับสร้อยคอไข่มุกจากพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ ด้วยความเมตตาใน พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อักษยมติ และพุทธบริษัททั้งสี่ และ ด้วยความเมตตาในเทวดาทั้งหลาย นาค เปรต คนธรรพ์ ปีศาจ ครุฑ กินนร มโหรค มนุษย์ และ อมนุษย์ ดังนั้น พระองค์จึงแบ่ง สร้อยไข่มุกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งถวายแก่พระศาสดา ศากยมุนี ตถาคตเจ้า อีกส่วนหนึ่งถวายแก่มหารัตนสถูปแห่ง พระศาสดาประภูตรัตน ตถาคตเจ้า ผู้เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว

ด้วยความสามารถในการแปลงร่างเช่นนี้แหละ กุลบุตร พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร เสด็จไปในสหโลกธาตุนี้

และในวาระนี้ พระศาสดาเจ้าทรงตรัสเป็นพระคาถา มีความว่า

1.จิตรธวัช ได้ถามพระอักษยมติว่า ด้วยเหตุใดเล่าพระชินบุตร พระอวโลกิเตศวร จึงได้พระนามเช่นนี้

2.พระอักษยมติ ผู้มีพระญาณอันไพศาลดุจมหาสมุทร เมื่อได้พิจารณาแล้ว จึงตอยแก่พระจิตรธวัช ว่า จงฟังถึงการกระทำของพระอวโลกิเตศวรเถิด

3.จงฟังเถิดว่า พระองค์ได้ปฏิบัติสร้างสมภายใต้พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จำนวนหลายพันโกฎิพระองค์เป็นเวลานานหลายกัลป์จนมิอาจนับได้ถ้วน

4.ได้ยิน ได้ห็น ได้ระลึกถึงพระองค์อยู่โดย สม่ำเสมอ ย่อมสามารถทำลายทุกขเวทนาทั้งหลายในโลกนี้ลงได้

5.แม้ถูกศัตรูโยนลงในกองไฟ เพื่อหวังจาฆ่าให้ตาย หากเพียงระลึกถึง พระอวโลกิเตศวร ไฟนั้นก็จะมอดลงราวถูกดับด้วยน้ำ

6.หากมีคนตกลงไปในทะเลอัน่ากลัว เป็นที่อยู่ของบรรดานาคทั้งหลาย รวมทั้งสัตว์น้ำและปีศาจ เมื่อระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะไม่จมน้ำ

7.หากถูกโยนลงมาจากยอดเขาพระสุเมรุโดยหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะยืนอยู่ในกาศอย่างมั่นคงดุจพระอาทิตย์

8.หากถูกขว้างด้วยก้อนหินใหญ่ เพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร จะไม่เป็นอันตรายแม้เส้นผม

9.หากถูกรุมล้อมด้วยศัตรูพร้อมด้วยอาวุธในมือเพื่อหวังจะฆ่าให้ตาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรพวกศัตรูก็จะเกิดมีจิตเมตตาขึ้นทันที

10.หากถูกจองจำอยู่ในหลักประหาร ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ดาบของเพชฌฆาตก็จะพินาศเป็นเสี่ยงๆ

11.หากถูกจองจำด้วยเครื่องพันธนาการที่เป็นไม้ก็ดี เหล็กก็ดี ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร เครื่องพันธนาการเหล่านั้นก็จะหลุดออกไปทันที

12.เวทมนตร์คาถา อำนาจแห่งแม่มด ยาพิษ ภูตผีปีศาจที่จะป็นอันตรายถึงชีวิต ย่อมแปรเปลี่ยนไปเมื่อ ระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร

13.หากถูกรุมล้อมด้วยเปรต นาค ผีปีศาจ หรือ ยักษ์ที่มีนิสัยชอบทำลายพลังในร่างกาย ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ก็จะไม่เป็นอันตรายแม้เพียงเส้นผม

14.หากถูกห้อมล้อมด้วยสัตว์ป่าดุร้าย มีเขี้ยวเล็บแหลมคม ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร สัตว์ป่าเหล่านั้นก็จะวิ่งกระเจิดกระเจิงไปคนละทิศละทาง

15.หากถูกห้อมล้อมโดยงูพิษที่ดุร้ายต่างๆ ทำให้ตกใจกลัวโดยพ่นพิษและไฟถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร งูพิษเหล่านั้นจะสิ้นพิษลงทันที

16.หากมีฟ้าแลบฟ้าผ่าและฟ้าร้อง ถ้าระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ไฟจากสวรรคืก็จะสงบเงียบลง

17.พระองค์ทรงวิชา ทรงเห็นสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ในความทุกข์ยากหลายร้อยประการ และต้องทนทุกข์อยู่ในเวทนาทั้งหลาย ทรงเป็นพระผู้มาโปรดโลกมนุษย์ และ เทวดา

18.ทรงเป็นผู้ชำนาญในมนตร์คาถา ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและกุศโลบาย ทรงปรากฎพระวรกายให้เห็นได้ในทุกทิศและทุกสถานที่ในโลกธาตุนี้

19.ความเกิด ความแก่ และ ความเจ็บไข้ ย่อมถึงกาลอวสาน สำหรับผู้อยู่ในสภาพอันเลวร้าย ในนรก เป็นสัตว์ร้ายในอาณาจักรของพระยายมราช สำหรับสรรพสัตว์ทั้งมวล
(ด้วยความปลาบปลื้มในดวงจิต พระอักษยมติ จึงเปล่งคาถามีความว่า)

20.โอ! ท่านผู้มีสายตาอันสว่างไสว มีเมตตา ธรรม ทรงมีปัญญา และวิชชาเป็นเลิศ มีสายตาอันเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณา มีพระพักตร์และดวงเนตรอันงดงามเป็นที่เจริญตายิ่งนัก

21.ทรงเป็นผู้ประเสริฐบริสุทธิ์ มีแสงโอภาศอันปราศจากมลทิน มีวิชชาอันปราศจากความมืดมัว ส่องแสงดุจดวงอาทิตย์มิอาจบดบังได้ สว่างจ้าดุจเปลวไฟเมื่อเคลื่อนไปฉายแสงส่องสว่างไปทั่วโลก

22.พระองค์ผู้เจริญในเมตตาคุณและกรุณาธิคุณ ทรงเป็นเมฆแห่งคุณธรรม และจิตอันเปี่ยมในเมตตาคุณ ทรงดับไฟอันเผาลนเวไนยสัตว์ให้มอดไหม้ไป ประน้ำทิพย์อันเป็นหยาดฝนแห่งพระธรรม

23.หากทะเลาะ วิวาท มีสงคราม มีการสู้รบ อยู่ในอันตรายใหญ่หลวง จงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร พระองค์จะทำให้กองทัพศัตรูพ้ายแพ้ไป

24.พึงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ผู้มีพระสุรเสียงดุจเมฆและกลอง สะเทือนเลื่อนลั่นดุจเมฆฝน มีพระสุรเสียงไพเราะดุจพระพรหม มีพระสุรเสียงสูงต่ำทั่วทุกระดับเสียง

25.พึงระลึกถึงพระอวโลกิเตศวร ด้วยอารมณ์ อันตั้งมั่นพระองค์ ผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้รักษา เป็นสรณะ ทรงเป็นผู้ให้รอดจากความตาย ภัยภิบัติและความหายนะ

26.ทรงถึงพร้อมไปด้วยบารมีทั้งปวง ทรงมองสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยความมีเมตตากรุณา ทรงเป็นดุจมหาสาครแห่งบารมี ทรงเป็นบารมี พระอวโลกิเตศวรผู้ควรแก่การสรรเสริญ

27.พระองค์ผู้ทรงเมตตาต่อโลก จะได้ตรัสรู้เป็นพุทธเจ้า ทรงทำลายอันตราย และความทุกข์โศกทั้งปวง ข้า ขอนอบน้อมต่อพระอวโลกิเตศวรเจ้าด้วยความเคารพ

28.พระศาสดาแห่งจักรวาล พระราชาธิราชผู้ทรงเป็นเนื้อนาแห่งศีลบารมี เป็นที่เคารพในจักรวาลโดยทั่วถึง ได้บรรลุถึงซึ่งพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ หลังจากที่ได้บำเพ็ญบารมีเป็นเวลาหลายร้อยกัลป์

29.ครั้งหนึ่งประทับอยู่เบื้องขวา ครั้งหนึ่งประทับอยู่เบื้องซ้ายของพระอมิตภพุทธเจ้า ถวายการพัดวี โดยอาศัยการบำเพ็ญสมาธิประดุจเงา ในทั่วทุกทิศ ถวายพระเกียรติแด่พระชินเจ้า

30.ในทิศตะวันตก อันเป็นที่ตั้งแห่ง สุขากร โลกธาตุ อันบริสุทธิ์ พระอมิตภพุทธเจ้าผู้ทรงฝึก อบรมมนุษย์ ทรงมีที่ประทับอันถาวร

31.ไม่มีอิสตรีเพศ ไม่มีกามรมณ์ ณ ที่นั้น บรรดาพระชินบุตรทั้งหลายอุบัติขึ้นโดยนั่งบนใจกลางดอกบัวอันปราศจากมลทิน

32.และพระอมิตาภพุทธเจ้าประทับนั่งบนบัลลังก์ในใจกลางดอกบัวอันบริสุทธิ์ส่องแสงโอภาสประดุจศาลราช

33.พระโลกนาถเจ้าผู้ทรงบุญญาธิการดังได้แสดงมาแล้ว ไร้ผู้เปรียบในตรีโลก โอ! พระองค์ผู้ประเสริฐ ขอพวกเราจงได้สำเร็จ อย่างท่านในกาลอันไกล้นี้

และแล้ว ระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ ธรณินธร ลุกขึ้นจากที่นั่ง ครองผ้าเฉวียงบ่า คุกเข่าขวาลงกับพื้น ถวายนมัสการแด่พระศาสดาเจ้าแล้วทูลว่า "โอ! พระศาสดาเจ้า ผู้ที่ได้ฟังพระธรรมบรรยาย บทนี้เกี่ยวกับพระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร และอภินิหารในการแปลงพระวรกายของ พระโพธิสัตต์ มหาสัตต์ อวโลกิเตศวร ย่อมมิใช่ผู้มีพีชกุศลเพียงเล็กน้อย "

และขณะที่พระศาสดาเจ้ากำลังทรงแสดงพระธรรมเกี่ยวกับพระคุณพระอวโลกิเตศวรอยู่นั้น สรรพสัตว์ทั้งหลายในธรรมสภา จำนวน 84000 พากันน้อมจิตเข้าสู่สัมมาสัมโพธิญาณ อันไม่สิ่งอื่นใดจะเปรียบปาน


 
คัดบางส่วน จาก สัทธรรมปุณฑริกสูตร(ปทุมสูตร หรือ พระสูตรบัวขาว)
ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ แปล สิงหาคม 2538

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2553 20:34:31 »

สัทธรรมปุณฑรีกสูตร เป็นพระสูตรที่สำคัญในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน (หนึ่งในสามพระสูตรที่สำคัญที่สุดของมหายาน)

คำว่า "สัทธรรมปุณฑรีกสูตร" นั้นเป็นภาษาสันสกฤต 妙法蓮華経 เมี่ยวฝ่า เหลียนฮฺวา ในภาษาจีนเรียกสั้น ๆ ว่า "โผวมึงพิ้ง" หมายถึง ประตูสู่ดอกบัวขาว หรือเรียกพระสูตรนี้ว่า "พระสูตรบัวขาว" ในส่วนของปริวรรตที่นิยมสวดกันมากในปัจจุบันคือ สมันตมุขปริวรรต ในตอนนี้ก็เลยเอามาลงเฉพาะหัวใจของพระสูตรก่อน




妙法蓮華經 觀世音菩薩普門品
สัทธรรมปุณฑริกสูตร สมันตมุขปริวรรต
แปลสู่ภาคจีน โดย พระตรีปิฏกาจารย์กุมารชีวะ
แปลไทย โดย เลียง เสถียรสุต
เรียบเรียงโดย กิตติ ตันทนะเทวินทร์ (เย็นหงวน)
ลิขสิทธิ์ของวัดโพธิ์แมนคุณาราม

ผมขอข้ามมาตอนที่พระพระอักษยมติโพธิสัตว์ ได้กราบทูลถามพระศาสดาด้วยคาถา.......

Download--> ดังอมฤตบรรยาย (ใจความของพระสูตรนี้) http://club.buda.idv.tw/music/GLP.mp3



世尊妙相具, 我今重問彼, 佛子何因緣, 名為觀世音。
“ข้าแต่พระโลกนาถเจ้า ผู้เป็นที่พึ่งแห่งโลก ถึงพร้อมด้วยพระวรลักษณ์ข้าพระองค์ขอทูลถามเรื่องของท่านผู้นั้นอีกว่า ก็พระศากยบุตรท่านนี้ อาศัยเหตุปัจจัยใด จึงได้ชื่อว่า อวโลกิเตศวร”

具足妙相尊, 偈答無盡意。 汝聽觀音行, 善應諸方所,
พระโลกนาถเจ้า ผู้เพียบพร้อมด้วยพระวรลักษณ์ ได้ตรัสตอบพระอักษยมติโพธิสัตว์ว่า
“ขอเธอจงฟัง ก็จริยาของอวโลกิเตศวรนั้น สามารถตอบสนองในที่ทุกแห่ง”

宏誓深如海, 歷劫不思議, 侍多千億佛, 發大清淨願。
มีคำปณิธานลึกยิ่งกว่าทะเล ได้ผ่านกาลนับเป็นกัลป์ไม่ถ้วน
เฝ้าพระพุทธเจ้ามานับพันแสนพระองค์ ตั้งมหาปณิธานอันบริสุทธิ์

我為汝略說, 聞名及見身, 心念不空過, 能滅諸有苦。
เราจะกล่าวแก่เธอโดยย่อ ได้ยินชื่อและเห็นกายของท่าน
ตั้งใจระลึกถึงโดยไม่ว่างเว้น สามารถดับทุกข์ทั้งหลายได้

假使興害意, 推落大火坑, 念彼觀音力, 火坑變成池。
หากผู้มีจิตคิดมุ่งร้าย หวังผลักให้ตกไปในกองเพลิงใหญ่
ด้วยอำนาจสวดพระนามอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ กองเพลิงย่อมกลับกลายเป็นบ่อน้ำ

或漂流巨海, 龍魚諸鬼難, 念彼觀音力, 波浪不能沒。
หรือหากพลัดเพนจรไปในทะเลใหญ่ มีภัยจากนาค ปลา ผี เป็นต้น
ด้วยอำนาจแห่งการระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ คลื่นไม่สามารถซัดสาดให้จมได้

或在須彌峰、 為人所推墮, 念彼觀音力, 如日虛空住。
หรืออยู่บนยอดเขาพระสุเมรุ มีคนผลักให้ตกลง
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ จะลอยอยู่ในอากาศเหมือนดวงอาทิตย์

或被惡人逐, 墮落金剛山, 念彼觀音力, 不能損一毛。
หรือถูกคนร้ายไล่ ตกจากเขาวชิระ
ด้วยอำนวจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ไม่ต้องบาดเจ็บแม้แต่นห้อยแม้เพียงขนเส้นเดียว

或值怨賊繞, 各執刀加害, 念彼觀音力, 咸即起慈心。
หรือถูกโจรมีเวรล้อมอยู่ ต่างถือศาสตรวุธเข้ามาทำร้าย
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ต่างเกิดเมตตาจิตทันที

或遭王難苦, 臨刑欲壽終, 念彼觀音力, 刀尋段段壞。
หรือต้องรับทุกข์เพราะอาญาราชย์ จวนถูกประหาร ชีวิตจะจบสิ้น
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ มีดก็จะหักชำรุดไปเป็นท่อน ๆ

或囚禁枷鎖, 手足被杻械, 念彼觀音力, 釋然得解脫。
หรือถูกขัง ต้องขื่อคอ เท้าและมือถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เครื่องพันธนาการทั้งหลายจะหลุดไปทันที

咒詛諸毒藥、 所欲害身者, 念彼觀音力, 還著於本人。
คำสาปแช่งและยาพิษ ที่จะเป็นผลร้ายแก่ร่างกาย
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ กลับไปถูกตัวผู้สาปแช่ง

或遇惡羅剎、 毒龍諸鬼等, 念彼觀音力, 時悉不敢害。
หรือไปพบพานรากษสบาป นาคมีพิษและเหล่าผีเป็นต้น
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ก็ไม่กล้าทำร้ายได้เลย

若惡獸圍繞, 利牙爪可怖, 念彼觀音力, 疾走無邊方。
หากสัตว์ร้ายรายล้อมตัวอยู่ มีเขี้ยวเล็บคมเป็นที่น่ากลัว
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ต่างรีบหนีไปไกลแสนไกล

蚖蛇及蝮蠍, 氣毒煙火燃, 念彼觀音力, 尋聲自回去。
งูพิษและแมลงมีพิษร้าย มีไอพิษเหมือนควันไฟ
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ต่างหนีกลับไปหมด

雲雷鼓掣電, 降雹澍大雨, 念彼觀音力, 應時得消散。
เมฆทะมึน ฟ้าร้อง ฟ้าฝ่า ลูกเห็บตก ลมฝนพายุใหญ่
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เมฆกระจาย ฝนหยุก ฟ้าสงบทันที

眾生被困厄, 無量苦逼身, 觀音妙智力, 能救世間苦。
สัตว์โลกต้องทุกข์ทรมาน ทุกข์เบียดเบียนชั่วอสงไขย
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ สามารถบำบัดทุกข์ในโลกธาตุนี้ได้

具足神通力, 廣修智方便, 十方諸國土, 無剎不現身。
มีอำนาจอิทธิฤทธิ์พร้อมสรรพ โปรดด้วยสติ อุบายอันกว้างขวาง
โลกธาตุต่าง ๆ ทุกสิบทิศ ไม่มีเกษตรใดที่ไม่ปรากฏกาย

種種諸惡趣, 地獄鬼畜生, 生老病死苦, 以漸悉令滅。
ในทุคติวิสัยต่าง ๆ นรก เปรต สัตว์ (อสูรกาย)
ความทุกข์จากเกิด แก่ ตาย เจ็บ จะค่อย ๆ ดับไป

真觀清淨觀, 廣大智慧觀, 悲觀及慈觀, 常願常瞻仰。
การเพ่งด้วยสัจจะ การเพ่งด้วยบริสุทธิ์ การเพ่งด้วยสติปัญญาอันไพศาล
การเพ่งด้วยความเมตตา การเพ่งด้วยความกรุณา ย่อมเป็นที่ตั้งใจจะบูชาเป็นนิตย์

垢清淨光、 慧日破諸闇, 能伏災風火, 普明照世間。
แสงอันปราศจากมลทิน และบริสุทธิ์สดใส ปัญญาเปรียบเสมือนดวงอาทิตย์
ทำลายความมืดทั้งหลายสามารถปราบอันตราย ลม ไฟ ส่องแสงสว่างไปทั่วโลกธาตุ

悲體戒雷震, 慈意妙大雲, 澍甘露法雨, 滅除煩惱焰。
การประกอบด้วยศีลและความกรุณา เสมือนฟ้าร้องสะเทือน เมตตา สติ เหมือนเมฆใหญ่
โปรยฝนคืออมฤตธรรม กำจัดไฟแห่งกิเลส

諍訟經官處, 怖畏軍陣中, 念彼觀音力, 眾怨悉退散。
ในขณะเป็นความต่อหน้าราชการ ในกองทัพอันน่าเกรงขาม
ด้วยอำนาจระลึกถึงพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ศัตรูต่าง ๆ จะแตกพ่ายไป

妙音觀世音、 梵音海潮音, 勝彼世間音, 是故須常念,
เสียงอันเป็นสัทธ์ เสียงอันเพ่งต่อโลก เสียงอันเป็นพรหม เสียงอันเป็นกระแสนน้ำทะเล
ย่อมเหนือกว่าเสียงในโลก ฉะนั้น จึงต้องระลึกถึงเสมอ

念念勿生疑。 觀世音淨聖, 於苦惱死厄、 能為作依怙。
ระลึกไปทุกขณะจิต โดยไม่ต้องสงสัย พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ พระอริยะผู้บริสุทธิ์
ต้องเป็นที่พึ่งได้ในเมื่อต้องทุกข์ยากเข็ญ เป็นผู้ประกอบด้วยบุญญาธิการทั้งมวล

具一切功德, 慈眼視眾生, 福聚海無量, 是故應頂禮。
มองดูสัตว์โลกด้วยนัยน์ตาอันเมตตา เป็นกองบุญเสมอด้วยทะเลไม่มีที่สิ้นสุด
ฉะนั้นจึงควรเคารพบูชา
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2553 20:35:02 »




แบบ บุคลาธิษฐาน อิง ความแปลกพิศวง อิงปาฏิหาริย์เหนือมนุษย์ ยังศรัทธามหาชน ให้เกิด
แบบ ธรรมมาธิษฐาน มีความนัยซ่อนสาระธรรมอยู่ ยัง ปัญญามหาชน ให้เกิด
 
ท่านอาจารย์เสถียรโพธินันทะ ฉายาตู้พระไตรปิฎกเคลื่อน ที่ได้ขยายความไว้แบบ ธรรมาธิษฐาน
ดังนี้
 
อนึ่งในลัทธิมหายาน มักจะมีอรรถข้อความเรียกว่า กลบท
หรือ เป็นธรรมปริศนา แบบต้นตออินเดียของเดิมแท้นั้น
ไว้ให้ขบคิดกันเอง ถ้าขบคิดไม่ตก ก็แปลว่ายังหาช่องทางไม่ถูก
เข้ายังไม่ถึงหรือว่ามองไม่ทะลุ ธรรมบทนั้น ๆ ถ่าขบคิดตก
ก็หมายถึงซึ่งความสว่างแล้ว
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สัทธรรมปุณฑริกสูตร สมันตมุขปริวรรต
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 5 7300 กระทู้ล่าสุด 28 กุมภาพันธ์ 2553 13:41:22
โดย sometime
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 11 สตูปสันทรรศนปริวรรต ว่าด้วยการสันทัศนาพระสถูป
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 2 7046 กระทู้ล่าสุด 07 มิถุนายน 2554 11:10:26
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 12 อุตสหปริวรรต ว่าด้วยความเพียรพยายาม
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 0 2395 กระทู้ล่าสุด 19 มิถุนายน 2554 20:20:52
โดย เงาฝัน
สัทธรรมปุณฑริกสูตร บทที่ 13 สุขวิหารปริวรรต ว่าด้วยธรรมเครื่องอยู่เป็นสุข
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
เงาฝัน 2 5766 กระทู้ล่าสุด 20 มิถุนายน 2554 08:14:08
โดย เงาฝัน
ธรรมเทศนา สัทธรรมปุณฑริกสูตร (พระธรรมาจารย์ เจิ้งเหยียน แห่ง ฉือจี้)
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1659 กระทู้ล่าสุด 03 ตุลาคม 2559 23:43:09
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.841 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 11 เมษายน 2567 22:06:43