[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 18:32:54 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มองปัญหาด้วยปัญญา :การรู้สึกตัวทั่วพร้อมกับการกำหนดรู้  (อ่าน 1757 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 มิถุนายน 2553 20:19:50 »




ปุจฉา

วิธีปฏิบัติตามหลักไม่ใช่ของกู

ตามหลักธรรมที่ว่าตัวกูไม่ใช่ของกู ให้ถือว่าเป็นธรรมชาตินั้นจะมีหลักคิดหรือปฏิบัติอย่างไรเจ้าคะ

วิสัชนา

มันคิดไม่ได้ ตราบใดที่เรายังไม่มีปัญญารู้ชัดตามความเป็นจริงในการที่จะมีปัญญาตามความเป็นจริงนั้น แม้มันยังไม่มีคำว่า กู หรือไม่ใช่กู แต่มันยังมีคำอื่นๆ เข้าแทน ที่ก่อน แล้วคำอื่นนั้นคืออะไร ก็มีศีล สมาธิ ภาวนา มีสติ มีปัญญา ส่วนคำว่าตัวกูของกูนั้นอยู่สุดท้ายเลย พอถึงคำนี้รู้ชัดตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่กูแล้ว นั่นมันเป็นขั้นสุดท้ายแล้ว มันเป็นวิปัสสนาญาณแล้ว

แต่อยู่ดีๆ แล้วจะบอกว่าไม่ใช่ตัวกู ไม่ใช่ของกู อย่างนั้นก็เดินไปกลางถนนให้รถชนดูสิว่าจะเจ็บรึเปล่า ถ้ารู้สึกเจ็บ แสดงว่ายังมีตัวกูของกู เพราะเรามองเห็นมันเป็นอะไร สมมติ สัจจะ เรามองเห็นว่ามันเป็นสัจจะ มัน ไม่ใช่สมมติ มันเป็นสัจจะ แต่ถ้าเมื่อ ใดที่เราเห็นมันว่าไม่ใช่ตัวกูของกู
สภาพที่ปรากฏขึ้นมันเกิดขึ้นด้วนเหตุ ปัจจัย ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างแท้แน่นอนเพราะความเจ็บไม่คงที่ ความตายไม่คงที่ ความตั้งอยู่ไม่คงที่ ความเปลี่ยนแปลงก็ไม่คงที่ ความเกิดขึ้นก็ไม่คงที่ เห็นอย่างนี้ได้

นั่นคือต้องมีฐานที่ตั้ง คือต้องมีทาน มีศีล มีสมาธิ มีภาวนา มีปัญญาก่อนถึงจะไปเห็น ไม่ใช่อยู่ดีๆ แล้วเห็น มันไม่ใช่เห็นกันง่ายๆ แต่ถ้าพัฒนาทุกวัน ทำให้ตัวเองมีทานทุกวัน มีศีลทุกวัน มีภาวนาทุกวัน มี สมาธิ มีสติ มีปัญญาทุกวัน เล็กๆ น้อยๆ นิดๆ หน่อยๆ สั่งสมไปเรื่อยๆ แม้ที่สุดการเห็นอันสูงสุดก็คือ เห็นชัดตามความเป็นจริงที่ปรากฏ นั่นแหละเรียกว่า ผู้เข้าถึงวิปัสสนาญาณ ญาณผู้หยั่งรู้ตามความเป็นจริง




ปุจฉา

เรื่องของบารมี


กราบเรียนถามหลวงปู่ครับ

1. บารมีหมายความว่าอะไร ปฏิบัติอย่างไรครับ

2. บารมีจะเต็มเร็วๆ ต้องทำอย่างไร

3. การจัดระเบียบของกายให้เป็นระบบของความคิด ทำอย่างไรครับ ขอให้อธิบายให้ละเอียดด้วยครับ

4. การทำงานภายนอกอย่างไรให้ การงานภายในเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

5. การรู้สึกตัวทั่วพร้อมกับการกำหนด รู้ คือตัวเดียวกันไหมครับ

ขอบพระคุณหลวงปู่ที่เมตตาต่อกระผมด้วยครับ ด้วยความเคารพ รักอย่างสูง

วิสัชนา

1. บารมี หมายถึง ผู้มีบุญอันเต็มเปี่ยม ก็ได้ หรือจะหมายถึง คุณความดีอันยอดเยี่ยม ได้แก่ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี อุเบกขาบารมี

2. ทำบ่อยๆทุกลมหายใจ

3. ยอมรับปฏิบัติตาม ระเบียบวินัย กฎเกณฑ์กติกา ของสังคมและบ้านเมือง ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความระวังสำรวมในการรักษาศีล อย่างตรงไปตรงมา จนบังเกิดสติ สติก็จะทำหน้าที่ประคับประคองจิตและสมองให้สั่งงานไปยังอวัยวะทั้งกาย อย่างมีระบบ

4. ทำทุกอย่าง ด้วยสติรู้สึกตัวทั่วพร้อม

5. การกำหนดรู้ ยังเป็นลักษณะของผู้ที่เริ่มใช้สติ การรู้สึกตัวทั่วพร้อม เป็น ลักษณะของผู้มีสติทุกลมหายใจ




ปุจฉา

อานิสงส์ของการบวชพระ


อยากทราบว่าอานิสงส์ของการบวชพระ ถ้ามารดาตกนรกอยู่แล้ว ลูกชายบวชพระ อานิสงส์นี้จะช่วยมารดาไม่ให้ตกนรกได้หรือไม่ ขอหลวงปู่โปรดเมตตาด้วยครับ

วิสัชนา

มารดาตกนรกอยู่ ลูกชายบวชพระ เออ! มันต้องถามลูกชายว่า ตั้งใจหรือเปล่า ตั้งใจจะอุทิศบุญนั้นให้สำเร็จประโยชน์ต่อมารดานั้นหรือไม่ แม้ในประเทศจีนก็มีนิทานสอน พวกคุณเคยได้ฟังหรือเปล่า ฉันเคยฟังอากง อาม่า เล่าให้ฟังว่ามีพ่อมีแม่ ตกนรกแล้วลูกชายก็ออกบวช บวชแล้วก็บำเพ็ญธรรม แล้วก็ลุยเข้าไปใน นรก ไปช่วยแม่ออกมาจากนรก สุดท้ายลูกชายก็กลายเป็นพระ โพธิสัตว์ ที่ทำหน้าที่ดูแลช่วยเหลือสัตว์นรก ดังนั้น
คุณธรรมแห่งความกตัญญูนี้ทำให้สวรรค์สะเทือน ไฟนรกดับได้เหมือนกัน ถ้ามีความกตัญญูอย่างสูงสุดจริงจัง ตั้งใจทุกขณะทุกนาที ทุกลมหายใจก็อาจจะช่วยได้เหมือนกัน


http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9490000097447



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.282 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 31 ตุลาคม 2566 04:06:49