[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 พฤษภาคม 2567 04:23:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: น ก ฝู ง ที่ บิ น ผ่ า น บ้ า น ฉั น  (อ่าน 1503 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขม..ค่ะึึ
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 1014


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.0.10 Firefox 3.0.10


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 มิถุนายน 2553 11:29:15 »



น ก ฝู ง ที่ บิ น ผ่ า น บ้ า น ฉั น
พิบูลศักดิ์ ละครพล

อดีตคือซากชำรุด สุดแก้ไข  อนาคตรึก็ไกล มาไม่ถึง
ปัจจุบันขณะนี้ ควรคำนึง   ทำให้ดี ทำให้ซึ้ง ตรึงใจคน

วันปลายฤดูฝนหดสั้นเข้ามาเรื่อย ๆ
หกโมงเย็นที่บ้านทุ่งความมืดก็เริ่มตะคุ่มดุ่ม-ดุ่มมาโอบหุบเขา   
สนธยาเปล่าเปลี่ยวเกินไป ที่จะนั่งกอดเข่าเฝ้าดูฝูงนกเป็ดน้ำแปรกระบวน
เริงบินไปสู่เส้นขอบฟ้าและปล่อยให้พระอาทิตย์ตกใส่หลังคากระท่อม
                             
ผมจะไม่รอให้ถึงเวลานั้น ยังไม่สี่โมง
ผมก็จะคว้าจักรยานปั่นไปตามถนนที่ทอดไปทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน
ผ่านบ้านหัวดง  ขัวตาด วัดศรีบุญเรือง วัดศรีถ้อย ตัดเข้าหมู่บ้านสันขวาง และบ้านดุ
ก่อนหักเข้าสู่ริมบึงกว้าง-หนองน้ำใหญ่ ที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า หนองเลงทราย
                             
ผมจะเห็นเทือกสันผีปันน้ำตอนกลางอย่างเต็มตาในระยะไกล
เมื่อถนนผ่านสู่บ้านสันขวาง หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนที่ดอนกลางทุ่งนาลุ่มริมน้ำ
ขวางระหว่างน้ำตะวันออกกับขุนเขา ตะวันตกจึงได้ชื่อว่าสันขวาง....
                               
ถนนหักขวาลาดไปสู่หมู่บ้านดุ-ที่ขึ้นชื่อลือชาว่าคนดุ
                               
สมัยที่ก่อน  หมู่บ้านนี้มีไม่ถึงยี่สิบหลังคาเรือน ทำอาชีพประมงทั้งหมู่บ้าน   
ภาพผ่านที่ชินตาคือชายหญิงร่างเตี้ย ผิวสีทองแดงคล้ำ   
ผู้ชายเปลือยท่อนบน มีมัดกล้ามกำยำล่ำสัน มีมีดซุย มีดเหน็บ ติดตัวตลอด
                               
ผมดีดกระดิ่งรถจัรยานดังกริ้ง ๆเมื่อปั่นเข้ามากลางหมู่บ้าน
ผมปั่นรถถีบไม่เร็วนัก เพาะเกรงรถมอเตอร์ไซค์และกระบะที่แล่นกันถี่กระชั้น
ต่างจากถนน บ้านนอกสมัยก่อนที่ยังเป็นสนามเด็กเล่นของเด็ก
และทางเดินของคนและวัวควาย มากกว่าเป็นของรถหมู่บ้านผม
มีรถจักรยานนับคันได้  ครูใหญ่ กำนัน พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง คหบดีมีอันจะกินเท่านั้น
ถึงจะมีรถขี่ไปไหนมาไหนที ก็ต้องดีดกระดิ่งนำทางเสียงดังระวังตัวกันแจ
                                     
รถต้องหลีกคนมากกว่าคนจะหลีกรถ
                                   
“หลบรถลิ้ง หลบรถลิ้ง..” คนแก่บอกเด็ก ๆ ที่เล่นกันอยู่ริมทาง
                   
“เด็กเดี๋ยวนี้ไม่กลัวรถกลัวรา..” แกว่า  ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม
ผมยิ้มตอบและโบกมือให้เด็ก ๆที่ไม่ได้สนใจผมมากไปกว่าเครื่องบินบังคับในมือเด็กคนหนึ่ง...
                                     
รถลิ้ง ..ผมไม่ได้ยินคำนี้มานานเท่าใดแล้วหนอ...
                                     
คำเก่าของคนแก่ แผ่ภาพความหลัง คลี่วางลงตรงหน้า
คนบ้านผมเรียกรถจักรยานว่ารถลิ้ง  ตามเสียงกระดิ่งที่ติดบนแฮนด์จักรยานด้านขวา
                                     
เสียงกระดิ่งรถลิ้งของคนขายตังเมและบุรุษไปรษณีย์เป็นเสียงที่ผมจดจำได้
และ รอคอย...รถส่งจดหมาย รถขายตังเม....สองคันที่พันกันในห้วงรู้สึกของผมเสมอ
                                     
ตังเม.. ตังเม..   คุณยังพอจำขนมนี้ได้ไหม คนขายตังเมบ้านผมเป็นคนจีน
เอ๊ะหรือคนแขก ผมชักไม่แน่ใจ  เขาปั่นรถลิ้งมาจากไหนน้อ
เด็ก ๆ ผมไม่เคยคิดตั้งคำถาม  เพราะรสชาติอร่อยล้ำของตั้งเมชัดเจนในใจ
จนไม่คิดสงสัยว่ามันคืออะไร ทำจากอะไร...


                               
รถลิ้งของคนขายตังเมคันใหญ่   เป็นรถแบบที่คนบ้านผมเรียกว่า รถปู้ (รถผู้)
มีราวคั่นระหว่างล้อหลังล้อหน้า เป็นรถสำหรับผู้ชาย  ผู้หญิงขี่ไม่ได้หรอก
แต่ผมก็เคยเห็นพี่สาวลูกผู้พี่ ขี่รถลิ้งพ่อปร๋อไปตลาดได้
คิดดูเถอะเธอเป็นหญิงเก่งขนาดไหน ขนาดนุ่งผ้าซิ่นผ้าถุง
                                 
เธอเอียงข้างวางก้นบนอาน สอดเท้าขวาลอดคานเข้าไปปั่นช่วยเท้าซ้าย
แต๊ก แต๊กไปไหนมาไหนได้คล่องปรื๋อ เอากะเธอสิ..
                                 
ส่วนรถลิ้งของผู้หญิงบ้านผมเรียกว่ารถแม่  คันจะเล็ก บอบบางกว่ารถปู้ของผู้ชาย   
ไม่มีราวกลาง ขึ้นนั่งขี่สะดวก สมัยนั้นจักรยานมีมาขายไม่กี่ยี่ห้อ
ที่นิยมกันก็คือยี่ห้อ  ฮัมเบอร์ และ ราเล่ย์   ถือว่าเป็นของดี ราคาแพง
                                 
กลับมาพูดถึงรถลิ้งคนขายตังเมก่อน
ความคิดผมจะเตลิดไปเรื่องอื่น เช่น น้ำแข็งกด ไอติมนมสดตัดเป็นแท่ง น้ำแข็งไส...
น้ำมะเน็ด ซ่าซ่านใจในขวดโหล... อ้อยควั่นที่โปรยกลีบดอกไม้
และที่เสียบบนก้านไม้ไผ่แตกเป็นพุ่ม...มันแกว ถั่วลิสงต้ม- คั่ว..
ปลาหมึกย่างบด จิ้มน้ำจิ้มรสเข้มในกระทงใบตองกล้วยแห้งกลัดไม้กลัด...ลูกโป่งงานวัด
และหนังสะติ๊กดอกขนไก่ ยิงใส่กันกลางสนามหน้ากิ่งอำเภอคืนที่มีหนังขายยาฆ่าพยาธิมาฉาย.....             
                   
เออ.....ผมกลายเป็นคนโลภเรื่องเล่าแต่เมื่อไหร่นี่
เอาทีละเรื่อง  เอาทีละเรื่องถึงๆ ไหนแล้ว
อ๋อ ข้าง ๆ รถผู้คันเบ้อเริ่มของคนขายตังเม
จะมีถังอลูมิเนียมกลม ๆห้อยอยู่ข้างๆ หรือตั้งบนแตะเหล็กข้างหลัง...
ผมไม่แน่ใจว่าผมจะบรรยายได้ถูกต้อง ถังนั้นทำด้วยอลูมิเนียมรึว่าสังกะสี

ในสมองผมตอนนี้นึกเห็นแต่ภาพแท่งตังเมกลมขนาดหัวแม่โป้ง
มีลายทางสีบลูเนวีหรือสีช็อคโกแล็ต...
เอาล่ะสิ มีเหรอ หรือไม่มี ที่แน่ ๆ เนื้อตังเมสีนมข้น
ใช่ ๆ   ผมเข้าใจเอาเองว่ามันต้องทำจากนมแหง
(ผสมน้ำตาลรึเปล่าก็ไม่รู้) น้องสาวผมเรียกสีนี้ว่าสีดอกจำปา
ดูเหมือนว่าในแท่งตังเมจะมีถั่วลิสงโปรยด้วยรึเปล่า...น้า
                               
พอนึกหนักเข้า ภาพที่เข้าใจว่าใช่ก็คลาดเคลื่อนไปเรื่อย ๆ
คุณมีความหลังกับตังเมไหมครับ   
คุณยังจำได้รึเปล่า...  ช่วยผมนึกหน่อยสิ
คนขายทำอย่างไร หมุน ๆ ให้มันไหลออกมาจากท่อ ถัง
หรืออะไรสักอย่าง  หรือว่ามันม้วนขดรออยู่แล้ว
ผมจำภาพคนขาย ถือกรรไกรรออยู่  ตัดฉับเข้าให้หนึ่งท่อน
ก่อนเอากระดาษปรูฟสีขาวขุ่นห่อ  เปลือยแท่งตังเมส่วนบนไว้ให้เรากัด
เราก็ดึงกระดาษลงมา แทะเล็ม กัดกินไป   ผมเข้าใจไม่ผิดนะครับ..
                                 
ตังเมที่อร่อยต้องไม่หวานจัด ต้องหวานแต่พอดี
มีกลิ่นนมหอม เหนียวนุ่ม หยุ่น ๆพอเหมาะ
ไม่ใช่แข็งโป๊กเป็นแท่งหินบิ่นฟัน
ตังเมแท่งกลมสีนมนวล หอมอวลอยู่ในอากาศ
ภูเขาเบื้องหน้าเหมือนภาพวาดที่เฟื่องฝัน ม่วงของเขา เหลืองทองของแดด เริงไล้ในเย็นย่ำ
และเสียงกระดิ่งลิ้งๆ ของจักรยานบุรุษไปรษณีย์ดังขึ้น แทนที่เสียงกระดิ่งรถลิ้งของคนขายตังเม
                                 
กระดิ่งรถจักรยานแต่ละคันดังไม่เหมือนกันนะครับ ขึ้นอยู่กับการดีดด้วย
บางคันดังเก๊งๆ เสียงแข็ง  บางคันดังระรัวกริ๊งกริ๊งกริ๊ง เสียงนุ่มนวลอ่อนโยน
โดยเฉพาะกระดิ่งรถบุรุษไปรษณีย์ วันที่เขานำจดหมายซองสีชมพูมาส่ง....
                                 
คุณยังพอจำกันได้ไหม....
จดหมายลายมือที่เขียนด้วยปากกาหมึกซึมบนกระดาษสมุด
เขียนจดหมาย  กลิ่นอายของความสุข
ความหอมหวานของการรอคอยและรอยอาลัยในตัวหนังสือ....
                                 
คุณยังพอจำกันได้ไหม....ลายมือที่บ่งบุ.นิสัย อ่อนไหว...มั่นคง...ตัวตั้งตรง..
โย้หน้าโย้หลัง  เอน-เอน เล่นหัวสะบัดหาง ตัวห่าง ๆ  ตัวขยุกขยุย
หรือตัวหวัดแกมบรรจง... บรรจงทั้งจิต บรรจุทั้งใจ ใส่มาในซองจดหมาย
บ้างกดหนักจนเป็นรอยลึกผนึกหลัง บ่งพลังอารมณ์ระทมหมอง   
บางตัวหนังสือก็ร้องร่ำน้ำตานอง..
                               
วันที่เขียน เดือนที่ขอ พ.ศ.ที่รอรัก...                                   
น้ำตาหยด รดตัวหนังสือเลอะเลือน                                   
คนรับก็พากเพียรเวียนอ่านครั้งแล้วเล่า
                                   
ก่อนประจงพับเรียบร้อยตามรอยเดิม คืนกลับเข้าซองสีชมพู
เก็บเข้ากล่องไม้ ซ่อนไว้ในตู้ ตู้ที่ลั่นกุญแจแน่นหนา
ราวกับว่านี่คือสิ่งของมีค่ายิ่งกว่าสิ่งไหน...
บางคนเก็บไว้ใต้หมอน เพื่อจะนอนยิ้มและฝันดีตลอดคืน
บางคนซ่อนไว้ในหนังสือ บางคนถือติดตัวไปด้วยทุกหนทุกแห่ง
และเปิดอ่านเพื่อเป็นแรงใจ....ทะนุถนอมแหนหวงไว้ ไม่ยอมให้ห่างหาย
                                 
ใช่ จดหมายรักคือสมบัติล้ำค่าของหัวใจ                                 
คือประวัติศาสตร์แห่งความอ่อนโยนอันยิ่งใหญ่                                   
คือรอยอาลัยของดอกไม้ กลิ่นหอมหวาน
คือฤดูกาลของความฝัน
คือคืนวันของความโง่เขลา
คือเงาของความเดียงสา
คือวีรกรรมแห่งความหาญกล้าบ้าบิ่น.....


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

"มิตรภาพที่แสนดี..ทำให้ทุกวินาทีมีความหมายเสมอ"
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.41 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 15 มีนาคม 2567 02:05:25