[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 มีนาคม 2567 09:16:48 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิญญาณ กับ มนุษย์ต่างดาว ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน  (อ่าน 6580 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5060


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553 20:16:41 »



 
 
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 1
Item Code : tep001



เรื่องผี กับเรื่องมนุษย์ต่างดาว ยังเป็นเรื่องเร้นลับ คนส่วนใหญ่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเหลวไหล แต่ในความจริงก็คือมีปรากฏการณ์มากมายที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ดังนั้น พอคุณกำพล แห่งไทก้า โทรมาชวนผมไปสนทนากับคนที่คุยกับผีกับมนุษย์ต่างดาวได้ ผมก็เลยเกิดความสนใจ ยิ่งได้ยินชื่อว่าเป็น ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน คนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล HARVARD ALUMNI AWARD OF MERIT ด้านสาธารณสุข จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดด้วยแล้ว ถือเป็นโปรแกรมที่ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง


เวลา 16.30 น. ของวันที่ 30 สิงหาคม คุณกำพล รัตนจางวาง พร้อมทีมถ่ายทำสารคดี เพื่อประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง White Noise (จับเสียงผี) ก็มาถึงบ้านอาจารย์ที่ วิภาวดีซอย 8 ส่วนผม ชวนคุณพันธุ์ทิตต์ ไปร่วมฟังสนทนาด้วย เพราะรู้ว่าเขาก็สนใจเรื่องพวกนี้อยู่เหมือนกัน ภายในบ้านอาจารย์ถูกตกแต่งแบบเรียบง่าย ที่สะดุดตาก็น่าจะเป็นอัลบั้มภาพที่บันทึกเรื่องราวของจานผี, มนุษย์ต่างดาว และภาพวิญญาณต่างๆ ผมขออนุญาติถ่ายภาพเหล่านี้มาเผยแพร่ ซึ่งอาจารย์ก็อนุญาติโดยดี พร้อมบอกว่า คนจะได้เชื่อเรื่องกรรมดีกรรมชั่ว
หลังจากทีมพร้อมก็เริ่มบันทึกภาพและเสียงกัน คำถามหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ผีมีจริงหรือไม่ ? อาจารย์อธิบายว่า ท่านเคยพิสูจน์เมื่อคราวไปอียิปต์ ตอนไปดูสุสานฟาโรห์ บริเวณที่ฝังพระศพ โดยขอนำเทปไปบันทึกเสียง และห้ามผู้คนผ่านบริเวณนั้นเป็นเวลาสิบนาที ท่านอยู่ในความเงียบ และวังเวง แต่เมื่อสิบนาทีผ่านไป เมื่อกรอเทปเสียงที่บันทึก กลับปรากฏเสียงคล้ายคนกำลังสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา ให้คนอียิปต์ฟัง เขาก็บอกว่าเป็นภาษาอียิปต์โบราณ เรื่องการบันทึกเสียงนี้ ท่านบอกว่า หากไปในสถานที่ ที่เชื่อว่ามีวิญญาณ แล้วลองอัดเสียงไว้ก็สามารถจะบันทึกเสียงของผู้ตายได้ ทั้งที่เวลาบันทึกเสียงนั้น หูเราอาจจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็ตาม เรื่องเหล่านี้ อาจารย์อธิบายว่า เป็นเรื่องของคลื่นความถี่ของเสียง ซึ่งหากได้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ดีๆ ก็สามารถจะจับคลื่นเสียงที่มีความละเอียดเกินกว่าหูของมนุษย์จะรับรู้ได้ โดยเชื่อว่าอีกสิบปี ประเทศอเมริกา จะสามารถจะผลิตเครื่องที่ติดต่อกับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วได้

คุณกำพลถามว่า เวลาที่วิญญาณมา ทำไมอากาศรอบข้างมักจะเย็น อาจารย์อธิบายว่า วิญญาณต้องดึงพลังงานความร้อนในบริเวณนั้นมาช่วยเพื่อการปรากฏร่าง ทำให้บริเวณนั้นมีอากาศเย็นลงกว่าปกติประมาณ 5 องศาเซลเซียส จากนั้นเราก็สนทนากันถึงเรื่องชีวิตหลังความตาย โดยยกกรณีของ ดร.คลุ้ม วัชโรบล ซึ่งท่านพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ โดยหลังจากเสียชีวิตได้มาเข้าร่างของบุตรชาย และอธิบายถึงชีวิตอีกมิติหนึ่งว่า ดินแดนที่ไปอยู่ไม่มี ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ แต่มีความสว่าง และอากาศเย็นสบาย เวลาหิวก็นึกถึงอาหาร อาหารก็จะปรากฏ แต่จะเป็นอาหารเฉพาะตน ก็จะมีข้าว ไข่เจียว (ไม่มีน้ำ) ก็สามารถรับประทานได้แค่นั้น มีผู้อื่นอยู่ร่วมด้วย แต่อาหารจะแตกต่างกันไป บางคนก็จะมีอาหารมากมาย แม้ตนไปขอแบ่ง เจ้าของอาหารอนุญาติ แต่เวลาจะหยิบเข้าปาก อาหารเหล่านั้นก็จะอันตธานไป ท่านจึงเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้คงเป็นเรื่องของกรรม ใครทำกรรมดีก็จะได้สิ่งดีในภพต่อไป สมบัติพัศสถานไม่สามารถนำติดตัวไปได้เลย (ญาติผู้ตาย สามารถทำบุญ ใส่บาตร ทำสังฆทานไปให้กับผู้ตายได้ โดยญาติต้องกล่าวคำอุทิศ) การพิสูจน์เรื่องวิญญาณของ ดร.คลุ้มในคราวนั้น เป็นข่าวใหญ่โต เพราะเพื่อนสนิทสามคนของท่าน ไม่เชื่อเรื่องนี้ ต่างพากันมาพิสูจน์ซักถามลูกชายของท่านเป็นเวลาสามชั่วโมงเต็ม รวมทั้งความลับต่างๆ ที่มีแต่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่ทราบจึงจะตอบได้ แต่ลูกชายของท่านก็ตอบได้หมด ในเวลานั้น ศ.ดร.เทพนม ขอบันทึกภาพร่างของ ดร.คลุ้ม ท่านก็บอกว่าไม่มีร่างแล้ว (ภาพที่ปรากฏจากการถ่ายภาพโพลาลอยด์ในสมัยนั้น จึงได้เพียงแถบแสงสีฟ้าที่เชื่อว่าเป็นวิญญาณของ ดร.คลุ้ม) และจากการวัดคลื่นสมองของบุตรชายท่าน ในวันนั้น ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากปกติ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5060


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553 20:17:16 »


 

 
 
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 2
Item Code : tep002



เรื่องตายแล้วไปไหน หรือระลึกชาติได้ เป็นอีกหัวข้อหนึ่งซึ่งเราถือโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องนี้กับ ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน อาจารย์เล่าว่า เคยมีนักศึกษาแพทย์ฝรั่งทำการทดลอง ชีวิตหลังความตายโดยทำให้หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ แล้วค่อยใช้ไฟฟ้ากระตุกให้คืนสติอีกครั้ง ช่วงเวลาที่หัวใจหยุดเต้นนั้น นักศึกษาแพทย์ที่ทดลองได้เล่าว่า เหมือนลอดอุโมงค์และไปโผล่ที่ปลายทาง โดยสามารถพบกับญาติพี่น้องของตนที่เสียชีวิตไปแล้ว

ส่วนของคนไทยนั้น อาจารย์เล่าว่า ผู้ที่เคยฟื้นจากความตาย (ชั่วคราว) เล่าว่าเหมือนมีคนชวนให้ไปอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่งด้วยกัน โดยเมื่อไปถึงสถานที่แห่งนั้นแล้วพบว่าตนยังไม่ถึงฆาตก็สามารถที่จะกลับมามีชีวิตเหมือนเช่นเดิม

ผมสอบถามว่า ทำไมผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วบางคนยังเป็นวิญญาณล่องลอยอยู่ แต่บางคนก็สามารถไปผุดไปเกิดใหม่ อาจารย์อธิบายว่า ความจริงชีวิตของมนุษย์ไม่ได้สิ้นสุด เพียงแต่หมุนเวียนเป็นวัฏจักร เกิดแล้วก็ตายเพียงแต่เปลี่ยนไปในสถานะต่างๆ เช่นทำไมคนบางคนต้องเกิดมาในตระกูลสูงส่ง ทำไมบางคนเกิดมาพิการ แผลเป็นที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เรื่องเหล่านี้ล้วนเกิดจากกรรม หรือการกระทำดี-ชั่ว ของแต่ละคนทั้งสิ้น ผู้ที่ไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ก็เป็นเพราะต้องอยู่ใช้กรรม จนกระทั่งมีผู้อุทิศส่วนกุศลหรือแผ่เมตตาไปให้

ผมถามต่อว่า ผีหรือวิญญาณที่อาจารย์เล่าส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายมาขอความช่วยเหลือมนุษย์มากกว่า ที่จะมาทำร้ายคนเหมือนในหนังใช่หรือไม่ อาจารย์เล่าว่าเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งไปพักที่โรงแรมในเวียดนาม ตอนดึกๆ จะมีความรู้สึกว่ามีมือเย็นๆ มากระตุกที่ขาตลอดคืน จนนอนไม่ได้ เลยนั่งทำสมาธิพบว่ามีวิญญาณคล้ายทหารญวนจำนวนมากมาอยู่รายล้อมรอบเตียง จึงอธิษฐานว่าขอให้อย่ามารบกวนกัน เมื่อกลับเมืองไทยจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ แล้วก็เข้านอนต่อ ก็ปรากฏว่าไม่มีความรู้สึกเหมือนคนมากระตุกขาอีกเลย รุ่งเช้า ทีมงานก็เล่าว่าตกอยู่ในสภาพเดียวกัน บ่ายวันนั้นจึงตัดสินใจย้ายที่พักกันทั้งทีม

สำหรับเรื่องระลึกชาติได้นั้น อาจารย์เล่าว่า บิดาของตนก็เป็นผู้หนึ่งซึ่งระลึกชาติได้ ท่านเล่าว่า ก่อนจะมาเกิดใหม่นั้น มีคนยื่นน้ำให้ดื่ม แต่ท่านดื่มเพียงครึ่งแก้ว แล้วก็แอบถ่มทิ้ง เรื่องเหล่านี้ตรงกับชาวต่างประเทศหลายคนที่ระลึกชาติได้ แต่เปลี่ยนจากน้ำเป็นผลไม้ โดยแต่ละคนที่ระลึกชาติได้ บอกว่ามิได้รับประทานผลไม้เหล่านั้นหมดเสียทีเดียว จึงสันนิษฐานว่าน้ำหรือผลไม้เหล่านั้น จะเป็นเสมือนเครื่องลบความทรงจำระหว่างเปลี่ยนภพ
ในประเทศไทยเอง ก็มีเด็กหลายคนที่ระลึกชาติได้ อายุไม่กี่ขวบ ก็สามารถอ้างอิงถึงบุคคลที่รู้จักแม้ว่าจะอยู่คนละสถานที่ แต่ก็สามารถระบุชื่อและความเป็นมาของบุคคลนั้นๆ ที่อดีตชาติตนเคยเข้าไปเกี่ยวข้องได้ถูก หรือเด็กบางคน ก็สามารถท่องคาถาชินบัญชร ได้ไม่ผิดสักคำ ทั้งที่เกิดมาชาตินี้ไม่มีคนเคยสอน เรื่องเหล่านี้ น่าเสียดายที่ไม่ได้ถูกค้นคว้า หรือพิสูจน์อย่างจริงจัง ทั้งที่ปัจจุบัน มนุษย์พัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถเดินทางออกไปนอกโลกได้ โคลนนิ่งแกะเพื่อสร้างชีวิตใหม่ได้ แต่เรื่องอดีตภพหรือความเป็นมาของภูติ ผี วิญญาณ กลับถูกละเลย ผู้ที่อยากทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็เลยดูเหมือน “เพี้ยน” ไปในสายตาคนส่วนใหญ่ ทั้งที่การค้นพบครั้งนี้ อาจจะทำให้มนุษย์ละอาย หรือเกรงกลัวต่อบาป มากขึ้น การเอารัดเอาเปรียบหรือเข่นฆ่ากันก็จะน้อยลง บางที ถ้าความรู้สึกสำนึกดีเกิดในมนุษย์ทุกคน เราก็สามารถเห็น “สวรรค์” ได้ในขณะที่มีชีวิต !


บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5060


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 26 มิถุนายน 2553 20:17:36 »


 
ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ตอนที่ 3
Item Code : tep003



ความแตกต่างระหว่าง วิญญาณกับมนุษย์ต่างดาวนั้น ศาสตราจารย์ ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน อธิบายว่า มนุษย์ต่างดาว มักมีจานบินเป็นพาหนะมาด้วย แต่วิญญาณนั้น ช่วงสมัยที่ ดร.คลุ้ม (ที่เสียชีวิตไปแล้ว)มาเล่าผ่านร่างบุตรชายของตนว่าไม่จำเป็นต้องมีรถ หรือพาหนะ เพียงแค่นึกอยากจะไปที่ไหน ก็สามารถหายตัวและไปโผล่ยังสถานที่ต้องการได้ ดังนั้น การเผารถกระดาษไปให้กับผู้ที่ล่วงลับแล้ว อาจจะไม่มีความจำเป็น หรือถึงได้รับ ก็คงไม่กล้าใช้ เพราะอายผู้อื่นที่เขาใช้วิธีนึกเอา ก็เดินทางไปถึงแล้ว

ส่วนวิธีที่อาจารย์จะพบกับมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจารย์เล่าว่าต้องใช้วิธีทำสมาธิ ผมถามถึงรูปร่างหน้าตา อาจารย์อธิบายว่ามีหลายเผ่าพันธุ์ หัวกลมตาโต ปากเล็ก หรือคล้ายมนุษย์ก็มี บางพวกก็มาดี แต่ก็มีกลุ่มประสงค์ร้ายที่จะยึดครองโลกปะปนมาด้วย เพียงแต่ยังไม่สามารถทำสำเร็จ เนื่องจากปรับตัวไม่ได้กับแบคทีเรียบางอย่างบนโลกมนุษย์ (แม้จะพยายามลักตัวมนุษย์ไปแยกยีนส์ หรือผสมพันธุ์เพื่อสร้างเหล่ากอใหม่)

ผมสอบถามต่อไปว่า เนื้อหาที่สนทนากับมนุษย์ต่างดาว ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอะไรบ้าง อาจารย์เล่าว่าเป็นเรื่องทั่วไป เช่น การเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ซึ่งจะเกิดจากการต่อสู้เพราะทนถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ไหว โดยจะมีการสร้างฐานจรวดบนดวงจันทร์เพื่อเตรียมถล่มกัน (ความจริงอาจารย์บอกชื่อผู้ที่จะจุดชนวนสงครามโลกด้วย แต่ผมขอปกปิดไว้ เพราะเกรงว่าอาจถูกฟ้องร้อง โดยขอให้ผู้สนใจกลับไปดูคำทำนายของนอสตราดามุสกันอีกครั้ง เนื่องจากชื่อที่อาจารย์บอกกับชื่อในคำทำนายช่างพ้องกันเหลือเกิน)

ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบางที อาจารย์ก็ไหว้วานให้มนุษย์ต่างดาวช่วยเหลืองานบางอย่าง ซึ่งบางงานมนุษย์ต่างดาวก็รับจัดให้ แต่บางงานก็ปฏิเสธ โดยบอกว่าเป็นเรื่องของมนุษย์ที่ต้องจัดการกันเอง ผมขอให้อาจารย์ยกตัวอย่าง ท่านเล่าว่า ก็เรื่องปัญหาภาคใต้บ้านเราไง ที่มนุษย์ต่างดาวบ่ายเบี่ยงไม่ยอมช่วย ส่วนเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวยอมออกแรงช่วย อาจารย์ก็ไม่ยอมบอก ปกปิดเป็นความลับ ให้กลับไปคิดเป็นปริศนา

ก่อนล่ำรากันวันนั้น พวกเราได้ไถ่ถามถึงงาน ที่อาจารย์กำลังทำอยู่ในปัจจุบัน ท่านได้กล่าวถึงเรื่องการสร้างเสื้อเกราะกันกระสุน ที่จะส่งไปให้ทหารตำรวจภาคใต้เพื่อป้องกันอันตราย โดยเป็นผ้าที่ทอหนาพิเศษ 16 ชั้น ป้องกันกระสุนปืนได้ ที่สำคัญต้นทุนผลิตเพียงแค่ สี่พันบาท ในขณะที่ท้องตลาดทั่วไปจำหน่ายถึงหกมื่นบาท โดยขณะนี้ประเทศจีนมีความสนใจจะสั่งนำเข้าถึงแสนตัว

ใครบางคน อดนึกไม่ได้ว่า มนุษย์ต่างดาวอาจช่วยอาจารย์คิดค้นเสื้อเกราะชนิดนี้ แต่ผมกลับคิดถึงสาเหตุของการเกิดสงครามโลกครั้งที่สามที่มนุษย์ต่างดาวทำนายว่า จะเกิดจากความโลภของมนุษย์ ผมว่า ถ้ามนุษย์รู้จักแบ่งปันกัน รักและสามัคคีกัน การเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น....
วันนี้ มีคำเตือนมาจากต่างดาวแล้ว ถ้ายังไม่เลิกเห็นแก่ตัวกัน ก็นับวันโลกาวินาศได้เลย


http://bananaclick.velocall.com/index.htm
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
Tonight Show : ไตรภพ สัมภาษณ์ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เรื่องมนุษย์ต่างดาว
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 0 19683 กระทู้ล่าสุด 26 มิถุนายน 2553 20:30:19
โดย มดเอ๊ก
มนุษย์ต่างดาว กับ ดร เทพนม ในรายการ บอกเก้าเล่าสิบ
เรื่องราว จากนอกโลก
มดเอ๊ก 3 4587 กระทู้ล่าสุด 10 ธันวาคม 2553 08:09:53
โดย ▄︻┻┳═一
'เขื่อนแตก ผู้นำตาย สงครามโลก!!' คำเตือนเพื่อนนอกโลก 'เทพนม เมืองแมน'
คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
มดเอ๊ก 2 11530 กระทู้ล่าสุด 20 กุมภาพันธ์ 2555 15:17:38
โดย ปู่ซ่า....นะเออ
ดร.เทพพนม เมืองแมน กับภัยพิบัติ และ มนุษย์ต่างดาว
คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
▄︻┻┳═一 0 4053 กระทู้ล่าสุด 11 กันยายน 2555 22:05:23
โดย ▄︻┻┳═一
พระพุทธเจ้า มีตัวตนจริงหรือ? - ศาสตราจารย์ (พิเศษ) เสฐียรพงษ์ วรรณปก
เกร็ดศาสนา
Kimleng 0 2898 กระทู้ล่าสุด 10 มีนาคม 2557 12:47:46
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.429 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 25 กุมภาพันธ์ 2567 18:13:40