[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 04:24:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สัมผัสหนาวที่ดอยอินทนนท์ จุดสูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย  (อ่าน 7301 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5444


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 22 สิงหาคม 2555 13:26:35 »

.

ถนนขึ้นดอยอินทนนท์ โดยบริการ  Mckaforce ทัวร์
ดอยอินทนนท์  จังหวัดเชียงใหม่
ดอยที่สูงที่สุดและหนาวที่สุดในประเทศไทย
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ เวลาบ่ายสองโมงครึ่ง

ดอยอินทนนท์ เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาถนนธงชัย ที่ทอดตัวมาจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศเนปาล พาดผ่านจากประเทศภูฏาน พม่า เดิมเรียกว่า “ดอยอ่างกาหลวง” เนื่องจากมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำขังตลอดปีและมีหินก้อนใหญ่เหมือนรูปกาตั้งอยู่   สภาพภูมิประเทศประกอบด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน

จุดสูงสุดอยู่ที่ยอดดอยอินทนนท์ สูงจากระดับน้ำทะเล ๒,๕๖๕  เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศไทย
 
อากาศหนาวเย็นที่สุดบนยอดดอยอินทนนท์ อยู่ในราวเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ของทุกปี โดยในตอนกลางคืนอากาศจะหนาวเย็นมาก อุณหภูมิจะลดต่ำอยู่ที่ ๐ ถึง -๔  องศาเซลเซียส และอาจจะมีน้ำค้างแข็งหรือเกล็ดหิมะปกคลุมไปทั่วบริเวณ จึงเป็นบรรยากาศที่ตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่อาศัยในภูมิประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น ทำให้นักท่องเที่ยวอยากมาสัมผัสความหนาวเย็น ชมท้องฟ้าสวยแจ่มใส ชมทะเลเมฆที่ลอยตัวฟูฟ่องอยู่เบื้องล่างของยอดดอย  



ก่อนถึงยอดดอยอินทนนท์  มีสถานที่สำคัญคือพระมหาธาตุนภเมทนีดล  
และพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ จึงควรแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต


พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์
ประดิษฐานภายในพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุนภเมทนีดล  มีความหมายว่า พระสถูปเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่ยิ่งใหญ่เพียงฟ้าจดดิน  

กองทัพอากาศประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้าง เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๙  ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น ๔๕ ล้านบาท   ภายในห้องโถงพระมหาธาตุ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินแกรนิต ขนาดหน้าตัก ๖๐ นิ้ว สูง ๗.๓ ฟุต  ซึ่งกองทัพอากาศสั่งจำหลักจากประเทศอินโดนีเซีย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า “พระพุทธบรมศาสดา นวมินทรมหาจักรีราชานุสรณ์ สัฐิพรรษาสถาพรพิพัฒน์”    ภายในยอดปลีพระมหาธาตุฯ องค์นี้ เป็นที่บประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่กองทัพอากาศได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวส่วนหนึ่ง รับจากพระสังฆมหานายะกะ สิริมัลวัตตะ อนันดา วัดมัลวัตตะ เมืองแคนดี ประเทศศรีลังกา ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งได้รับประทานจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร




พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล  ประดิษฐานภายในพระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ

พระมหาธาตุเจดีย์ นภพลภูมิสิริ มีความหมายว่าเป็นกำลังแห่งฟ้า เป็นสิริแห่งดิน  ภายในห้องโถงพระบรมธาตุเจดีย์ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางรำพึง แกะสลักจากหินหยกสีขาวบริสุทธิ์ จากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน  มีความสูง ๓ เมตร ๒๐ เซนติเมตร สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานนามว่า “พระพุทธสิริกิติฑีฆายุมงคล”  

พระมหาธาตุเจดีย์องค์นี้ กองทัพอากาศเป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง โดยประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๑ มกราคม พุธศักราช ๒๕๓๔  ใช้งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น ๑๓๕ ล้านบาท




สองข้างทางหมอกลงจัด มองไม่เห็นทัศนียภาพ




ณ ยอดดอยอินทนนท์







สภาพภูมิประเทศและบรรยากาศ ณ ยอดดอยอินทนนท์

 

พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๔๑–๒๔๔๐) มีพระนามเดิมว่า เจ้าอินทนนท์ เป็นพระบิดาของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พระมเหสีลำดับที่ ๘  ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  พระองค์ได้ขึ้นมาที่ยอดดอยอ่างกาหลวง หรือดอยอินทนนท์  พร้อมกับเจ้าดารารัศมี และได้บอกจุดที่สูงที่สุดของยอดดอยแห่งนี้  และรับสั่งว่า เมื่อพระองค์ถึงแก่พิราลัยแล้ว ให้เจ้าดารารัศมีนำพระอังคารของพระองค์ขึ้นมาบรรจุไว้บนยอดดอยอ่างกาหลวง (ชื่อเรียกเดิมของดอยอินทนนท์) เพื่อประชาชนและชาวเขาเผ่าต่างๆ จะได้เกรงกลัว และไม่กล้าแตะต้องผืนป่าแห่งนี้ เพราะพระองค์ทรงประจักษ์ว่า ถ้าป่าแห่งนี้ถูกทำลาย ต้นน้ำลำธารอันเป็นธารชีวิตของผู้คนก็จะเหือดแห้งไป ความแห้งแล้งก็จะมาสู่แผ่นดิน

ครั้นเมื่อพระเจ้าอินทรวิชยานนท์ ถึงแก่พิราลัยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ แล้ว พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ราชบุตรี จึงได้ทูลลาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ มาประชุมเพลิง ณ เมืองเชียงใหม่ และแบ่งพระอังคารส่วนหนึ่งขึ้นมาบรรจุไว้ ณ ยอดดอยอ่างกาหลวง ตรงจุดที่พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ได้บอกไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ดอยอ่างกาหลวง ก็ได้เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า ดอยอินทนนท์ มาจนถึงทุกวันนี้



ศูนย์ควบคุมและรายงานดอยอินทนนท์  และสถานีตรวจวัดนิวตรอนสิรินธร
อยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ด้านหน้าเป็นลานจอดรถกว้างขวาง
แต่คนน้อยเนื่องจากภาวะอากาศหนาวเย็นและมีความชื้นสูงมาก 


จากบริเวณลานจอดรถ ต้องเดินด้วยเท้า (ไม่ไกล)
ไปชมจุดปักหมุด "จุดสูงที่สุดในประเทศไทย" (มีบันไดให้ขึ้นได้สะดวก)


กู่บรรจุพระอังคารพระเจ้าอินทรวิชยานนท์
พระบิดาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
อยู่ใกล้กับปักหมุดของกรมแผนที่ทหาร




จุดปักหมุด จุดสูงที่สุด ของกรมแผนที่ทหาร


แอดมิน Mckaforce


น้องชายแอดมิน Mckaforce  - อายุห่างกัน 6 ขวบ เลยคุยกันคนละเรื่อง



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 กันยายน 2558 20:30:27 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 21.0.1180.83 Chrome 21.0.1180.83


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 สิงหาคม 2555 02:40:44 »

เพิ่มเติมภาพ

ชุดที่ 1

เดินขึ้นดอย
สาเหตุที่ต้องเดินขึ้นดอยเนื่องจากว่า
ช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่
คนแห่กันขึ้นดอยเยอะมาก จนมีรถเสียตลอดทาง
และมีรถติดเป็นระยะทางยาว
รถไม่สามารถขยับได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
ทำให้เราตัดสินใจลงรถและเดินต่อไปเองเป็นระยะทางเกือบห้ากิโลเมตร



จุดกางเต๊นท์







สามภาพด้านบนเป็นภาพบรรยากาศบริเวณจุดกางเต๊นท์
ซึ่งอยู่ช่วงกลาง ๆ ดอย (ค่อนไปทางตีนดอย)
มีรถเยอะ แต่ไม่เยอะมากเพราะเป็นช่วงปลายของวันหยุด คนเริ่มเดินทางกลับ
แต่จากที่สอบถามเจ้าหน้าที่พบว่าจุดกางเต๊นท์ไม่พอ มีกระทั่งคนกางเต๊นนอนเองบนกระบะรถ




ไปไม่ไหว



ภาพบน รถไปต่อไม่ไหว เพราะมีแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่ามีรถติดแหง็กด้านบน
แถมที่จอดรถไม่มี ถึงกับทยอยกันกลับลำกันเลยทีเดียว เหลืออีกแค่ไม่กี่กิโลฯแล้วแท้ ๆ




ออกเดินเท้า





ออกเดิน หลังจากคนขับรถบอกว่าไม่ไหวแล้ว ไม่สามารถไปต่อได้
ก็เลยต้องออกเดินเท้ากัน
สาเหตุที่ไปต่อไม่ได้ เพราะรถติด ขาขึ้นก็ติดขาลง ขาลงก็ติดขาขึ้น
มีรถน๊อคหลายสิบคันจอดเรียงรายตามข้างทางนับตั้งแต่ด้านล่างดอย
ส่วนมากจะเป็นปัญหาหม้อน้ำ คลัช เบรค ตามด้วยปัญหาเครื่อง
งานนี้เลยเดินกันเหนื่อยเอาเรื่อง




หยุดพักเหนื่อยเป็นระยะ















พักเหนื่อยกันเป็นระยะ ๆ เพราะทางค่อนข้างชันและยาวไกล (จากจุดที่ลงเดิน)
แถมการเดินบนเขาจะเหนื่อยง่ายมาก เพราะออกซิเจนน้อย และความกดอากาศต่ำ
จึงควรหยุดเป็นระยะ ๆ กลืนน้ำลายบ่อย ๆ หรือเคี้ยวหมากฟรั่งไปด้วย




คนอื่นเค้าก็เดินกัน



คนอื่น ๆ ก็เดินเหมือนกลุ่มเรา บางคนเดินมาไกลกว่ากลุ่มเราก็เยอะ
ขึ้นดอยมาทั้งที มาไม่สุดก็เอาไปคุยโม้ให้ใครฟังไม่ได้
เหนื่อยแค่ไหนก็ยอมกันหมดละงานนี้




ระวังทางขาด



ช่วงใกล้ถึงพระธาตุมีถนนพังครึ่งเลนส์ โปรดใช้ความระมัดระวัง ไปเจอมาตั้งแต่ปีใหม่
ล่าสุดขึ้นไปอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ก็ยังแก้ไขไม่เสร็จ
จุดนี้คนไปถ่ายรูปเยอะมาก โดยเฉพาะพวกที่เดินขึ้น
เป็นจุดที่สวยเห็นเมฆหมอกรอบ ๆ ค่อนข้างชัดในวันฟ้าเปิด
มีคนพิเรนทร์หลาย ๆ คนปีนไอ้ช่องที่ถนนขาดเพื่อลงไปถ่ายภาพด้านล่าง




แวะถ่ายรูประหว่างทาง







รีแล็กซ์ระหว่างทาง เดินกันไปแวะถ่ายรูปกันไป เพลิน ๆ ให้ความเหนื่อยทุเลาลง
เป็นกิจกรรมที่ดีมาก เพราะการเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาเดินโดยเห็นจุดหมายลิบ ๆ มันเหนื่อยบรรลัย
ซึ่งส่วนมากคนที่เดินขึ้นเหมือนกันก็จะแวะถ่ายรูปเป็นช่วง ๆ อยู่แล้ว
จะว่าไปนี่เป็นข้อได้เปรียบของการเดินเหมือนกัน เพราะถ้าขับรถไปได้เลย
เราก็จะพลาดโอกาสการเก็บภาพบรรยากาศตามข้างทางแบบนี้ได้




บรรยากาศงามๆ













บรรยากาศระหว่างทาง เก็บภาพกันไปเรื่อย ๆ สวยงามดี




ถึงจุดหมาย







และแล้วก็มาถึงทางเข้าพระมหาธาตุ ตรงจุดนี้ถ้าใครจะเข้าชม
ต้องเสียค่าบำรุงสถานที่ด้วยนะจ๊ะ จำราคาไม่ได้ แต่ไม่แพง
มาถึงที่อย่ามัวงกเงินไม่กี่สิบบาท
เข้าไปเถอะรับรองคุ้มค่า

 หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น หัวเราะลั่น



เดี๋ยวมีภาพมาลงต่ออีกนะจ๊ะ พักก่อน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 สิงหาคม 2555 02:47:06 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5444


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 04 ธันวาคม 2556 12:46:29 »


ยอดดอยอินทนนท์ยะเยือก 4.3 องศาฯ
ยอดหญ้าเกิดปรากฏการณ์"เหมยขาบ" รับวันพ่อ







เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า หรือเหมยขาบ บริเวณยอดดอยอินทนนท์ ตรงที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ยอดดอย กม.ที่ 47 หลังอุณภูมิหนาวเย็นต่อเนื่องมา 7-8 องศาฯ มา 3 วัน และเช้านี้ลดลงไปต่ำสุดที่ 4.3 องศาเซลเซียส   อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวที่เดินทางขึ้นมายังมีจำนวนไม่มากนัก เนื่องจากตรงกับวันทำงาน  คาดหวังว่าในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2556 จะเกิดเหมยขาบต่อเนื่องอีก  ซึ่งหากเกิดจะทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์ที่สวยงามนี้ร่วมกัน  แต่แนวโน้มนั้นทางอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าสภาพความกดอากาศจากจีนได้ค่อยๆ ลดลงไป  อาจจะส่งผลให้อุณหภูมิยอดหญ้าที่ต่ำลง 4-5 องศาแบบนี้หายไป  โดยอุณหภูมิน่าจะปรับอุ่นขึ้นมาอยู่ที่ 8-10 องศาฯ ในช่วงวันหยุดยาว
 
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่รายงานว่า  ที่ยอดดอยอื่นๆ ก็มีสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นกันแต่ยังไม่มีรายงานการเกิดเหมยขาบ คือที่ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง 12.1 องศาเซลเซียส   อุณหภูมิพื้นราบเชียงใหม่เฉลี่ย 18.5  เชียงราย 15.4 และ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก 13.5 องศาเซลเซียส


ข้อมูล-ภาพ : เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (สุขใจร้านน้ำชา www.sookjai.com)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ธันวาคม 2556 12:50:58 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.349 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2567 15:42:47