[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 21:50:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดฟ้าฮ่าม จ.เชียงใหม่ กับตำนานพระพุทธสิหิงค์ (พระสิงห์)  (อ่าน 6175 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5389


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 28 กันยายน 2555 12:29:09 »






วัดฟ้าฮ่าม  
ถนนเจริญราษฎร์  ตำบลฟ้าฮ่าม  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่

ประวัติวัดฟ้าฮ่าม (The History of Wat Faham)
วัดฟ้าฮ่าม เป็นวัดราษฎร์ มหานิกาย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๑๙๓๔  ตามประวัติกล่าวว่าพระเจ้าแสนเมืองมา พระเจ้าลักขบุราคม พระองค์เป็นกษัตริย์ราชวงศ์มังราย (เม็งราย) องค์ที่ ๙  ทรงเป็นพระราชโอรสของพระเจ้ากือนาธรรมิกราช กษัตริย์องค์ที่ ๘ เมื่อพระชนมายุได้ ๑๕ พรรษา ในเวลานั้นพระเจ้าพรหม พระมาตุลาของพระองค์ ครองเมืองเชียงราย ได้ยกทัพมาตีนพบุรีศรีนครพิงค์ (เชียงใหม่) เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ แต่ถูกทัพหลวงตีพ่าย จึงขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอินทราชา กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา  แต่ก็ถูกตีพ่ายไปอีก  ต่อมาอีกไม่นานพระเจ้าพรหมก็เสด็จมาถึงนพบุรีศรีนครพิงค์อีก เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยนำพระพุทธสิงหิงค์ (พระสิงห์) องค์สำคัญคู่บ้านคู่เมือง (สร้างเมื่อ พ.ศ. ๗๐๐  ตามตำนาน “สิงหลปฏิมา” และ ชินกาลมาลีปกรณ์  สร้างขึ้นที่ประเทศศรีลังกา นัยหนึ่งว่า “อนุราชสิงหล” ประเทศเดียวกัน  ครั้งเมื่อพ่อขุนรามคำแหงได้แต่งราชทูตไปขอมาจากประเทศศรีลังกา)  มาจากเมืองกำแพงเพชรประมาณ พ.ศ. ๑๙๓๓ (พงศาวดารโยนก)  อัญเชิญไปไว้ที่เชียงรายใน พ.ศ.๑๙๓๔   แล้วต่อมาได้นำมาถวายพระเจ้าแสนเมืองมา เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ โดยอัญเชิญจากเชียงรายทางลำน้ำกก  แล้วมาขึ้นที่สบฝางกุสะนคร (เมืองฝาง) จากนั้นอัญเชิญขึ้นหลังช้างไปเชียงดาว เพื่อลงเรือตามลำน้ำแม่ระมิงค์ (แม่ปิง)  ครั้นมาถึงนพบุรีศรีนครพิงค์แล้ว อัญเชิญขึ้นที่ท่าวังสิงคำ เหนือท่าเจดีย์งาม  ประมาณ ๕๐ วา  แต่เกิดปาฏิหาริย์ขององค์พระพุทธสิงหิงค์  ปรากฏว่าท้องฟ้าที่สว่างก็มืดลง  และมีพระรัศมีจากองค์พระพุทธสิงหิงค์พุ่งไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  เป็นลำแสงสีทองดั่งรุ้งกินน้ำ ยาวประมาณ ๒,๐๐๐ วา และสิ้นสุดที่แห่งหนึ่ง ท้องฟ้าที่นั้นก็สว่าง  ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก  พระเจ้าแสนเมืองมาจึงโปรดให้สร้างอารามขึ้น ณ ที่ลำแสงสิ้นสุดนั้น เรียกว่า “อารามฟ้าฮ่าม” (วัดฟ้าฮ่าม) หมายถึงฟ้าสว่าง อร่ามเรืองรอง สร้างเมื่อ พ.ศ. ๑๙๓๔  จากนั้นนำพระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐาน ณ วัดลีเชียงพระ (วัดพระสิงห์)...ข้อมูล จากแผ่นจารึก  ภายในบริเวณวัดฟ้าฮ่าม


พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์

พระพุทธสิหิงค์ หรือพระสิงห์ ของขวัญจากลังกาทวีป พระพุทธรูปองค์สำคัญของแผ่นดินล้านนา เป็นพระพุทธรูปโบราณ  ศิลปะแบบลังกา  หล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางมารวิชัย สูงทั้งฐาน ๖๖ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๓๗ เซนติเมตร

เมื่อพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งราชวงศ์พระร่วง (ครองราชย์ระหว่างปี พ.ศ. ๑๘๒๒–๑๘๔๑)  เสวยราชย์ต่อจากพ่อขุนบานเมือง พระเชษฐา  ยุคนี้ เป็นยุคที่กรุงสุโขทัยเฟื่องฟูและเจริญขึ้นกว่าเดิมเป็นอันมาก  มีการติดต่อสัมพันธ์กับต่างประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการศาสนา  ซึ่งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์  ทรงพระนิพนธ์ถึงพระราชกรณียกิจสำคัญเกี่ยวกับการศาสนาของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช กับพระมหากษัตริย์แห่งลังกาทวีปไว้ในหนังสือ “เจ้าชีวิต” ดังนี้ “..พระเจ้ารามคำแหงทรงทำสัญญาพระราชไมตรีกับประเทศศรีลังกา ซึ่งบัดนั้นเป็นแหล่งสำคัญของพระพุทธศาสนานิกายหินยาน  ลังกาส่งพระภิกษุมาจำวัดในเมืองไทยมากหลายรูป  มาเทศนาและสอนศาสนาในเมืองไทย  ทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีกมาก  พระเจ้าลังกาทรงส่งพระพุทธรูปสำคัญคือ พระพุทธสิหิงค์ มาเป็นของขวัญที่กรุงสุโขทัย...”  
 
เมื่อสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา ได้กรุงสุโขทัยเป็นเมืองขึ้น จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่กรุงศรีอยุธยา  

ต่อมาได้มีผู้นำไปไว้ที่เมืองกำแพงเพชรและเชียงราย เมื่อพระเจ้าแสนเมืองมา เจ้านครเชียงใหม่ยกทัพไปตีเมืองเชียงรายได้  จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานที่เชียงใหม่พร้อมกับพระแก้วมรกต  



พระพุทธรูปศิลปะพม่า ประดิษฐานภายในวิหารเก่า


วิหารเก่าที่ประดิษฐานพระพุทธรูป (ด้านบน) อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม


ไม้สักกลายเป็นหิน (อายุมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี)








ติดรั้ววัดมีร้านข้าวซอย" เสมอใจ" ร้านชื่อดัง รสชาติดี ของจังหวัดเชียงใหม่
คนส่วนมากมาบริเวณนี้ด้วยจุดประสงค์ "กินข้าวซอย"
มากกว่ามาศึกษาร่องรอยประวัติความเป็นมาของวัดฟ้าฮ่าม


หมูสะเต๊ะ ร้านเสมอใจ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มข้นๆ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 กันยายน 2558 15:05:45 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.288 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้