เรื่องการตายเพราะรักใคร่

แต่ละวันจะมีคนไทยเสียชีวิตด้วยสาเหตุต่างๆนานา และหนึ่งในเหตุแห่งการตายก็คือความหึงหวง แม้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่ก็เกิดบ่อยๆ หากใครชอบอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ จะพบข่าวทำนองนี้เป็นประจำ ผัวฆ่าเมีย เมียฆ่าผัว เมียฆ่าชู้ฯลฯ

การฆ่าและความตายคือปลายเหตุ ส่วนต้นเหตุนั้นอย่างที่รู้ๆกัน และถ้ายับยั้งใจไว้ได้ เรื่องราวก็จะไม่บานปลายออกไปไกล…มันไกลจริงๆนะครับสำหรับการนอกใจคู่ครองของตน แม้ไม่ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย ก็ทำให้ชีวิตขาดความปกติสุขยาวนาน

ในใจคนเราอัดแน่นไปด้วยสิ่งที่เรียกว่ารัก โลภ โกรธ หลง ถ้าควบคุมสิ่งข้างต้นไว้ดีๆก็ดีไป เพราะการควบคุมไม่ได้ จะทำให้เดือดร้อนไม่มากก็น้อย ข่าวหนึ่งจากไทยรัฐช่วงต้นเดือนกันยายน โปรยถ้อยคำไว้ว่า…จับเมียโหดจ้างฆ่าผัวอ้างแค้นเจ้าชู้นัก

ส่วนอีกข่าวของวันเดียวกัน เริ่มต้นเนื้อข่าวว่า…รวบแล้วจอมบงการผู้วางแผนสังหาร เจ๊อ้วน แม่ม่ายเศรษฐีนีที่ดิน และเจ้าของร้านอาหารบนเกาะล้าน พัทยา ที่แท้เป็นพี่สะใภ้ตัวแสบ อ้างหึงหวงและแค้นที่เหยื่อแอบมาเป็นกิ๊กกับผัว

ทั้ง2ข่าว ทำให้มีคนตาย มีคนหมดอนาคต มีผู้เกี่ยวข้องที่ได้รับความเดือดร้อนฯลฯ สาเหตุเพราะการออกนอกลู่นอกทางในเรื่องรักใคร่ของคน2คน ถ้ามีใครสักคนถอยห่างและไม่เล่นด้วย ก็จะไม่เกิดเหตุสลดใจ หรือถ้าผู้ที่ถูกนอกใจไม่ยึดมั่นถือมั่นในการเป็นเจ้าของ ก็จะไม่มีการว่าจ้างให้ไปฆ่าคู่กรณี

แต่การนอกใจหรือการมีชู้เกือบ100 เปอร์เซ็นต์มักจบลงไม่สวย และส่วนใหญ่จบห่วย วิธีป้องกันนั้นมีอยู่ แต่ผู้คนที่ริไปเดินบนเส้นทางสายนี้ส่วนใหญ่จะเตลิดจนกู่ไม่กลับ…จะไปต่อก็ยากจะกลับก็กลับไม่เป็น

ศีล 5 ข้อ นั้นไม่เคยล้าสมัย หากใครเหนียวแน่นและเคร่งครัดกับทั้ง5ข้อได้ ก็จะดำเนินชีวิตอย่างปลอดโปร่งและปลอดภัย แต่เราชอบผิดศีล5ครับ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม เริ่มต้น-การผิดศีลอาจจะยังไม่ค่อยส่งผลอะไรมากนัก

แต่หลังจากนั้นผลลัพธ์จะทยอยตามมา และผลจากการผิดศีลข้อ3ก็มีลักษณะเฉพาะตัวอย่างใน2ข่าวข้างต้น อาจแค่ครอบครัวไม่เป็นสุขหรือถึงขั้นตายเพราะความคับแค้นของฝ่ายที่ถูกกระทำ

อำนาจของรักใคร่นั้นมีมาก และอำนาจของความคับแค้นก็มีไม่น้อย ประการหลังนั้นสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนโหดร้ายได้ไม่ยาก ส่วนประการแรกก็ทำให้คนที่รักครอบครัวเปลี่ยนไปได้ง่ายๆเช่นกัน ดังนั้นคนที่แต่งงานแล้ว(ไม่ว่าฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย)ต้องระมัดระวัง

อย่าให้อารมณ์ปรารถนาอยู่เหนือเหตุผล เพราะถ้าเลยเถิดไปแล้ว อาจเกิดโศกนาฏกรรมในลักษณะเดียวกับ2ข่าวข้างต้น และจะเป็นเรื่องเศร้าสำหรับทุกฝ่าย

รักใคร่แบบถูกที่ถูกทางแตกต่างจากรักใคร่แบบผิดที่ผิดทาง ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่รู้นะครับว่าการผิดที่ผิดทางเป็นเช่นไร แต่การรู้ไม่มีประโยชน์ใดๆเลย หากรู้แล้วไม่รู้จักป้องกันไม่ให้ผิดที่ผิดทาง อารมณ์รักใคร่นั้นควบคุมยาก มันไม่ค่อยสนใจถูกผิด สนแต่จะทะยานไปข้างหน้าเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์

ทว่าบนเส้นทางรักใคร่ยังรวมเรื่องอื่นๆที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์อีก และมันจะยุ่งยากมากหากเป็นความรักความใคร่ในลักษณะลักลอบ เสียผู้เสียคนมานับไม่ถ้วนแล้ว-เพราะเรื่องทำนองนี้ และที่ต้องจบชีวิตก็มีมาก…เมียจ้างมือปืนยิงผัวจอมเจ้าชู้ เมียหลวงส่งมือปืนไปยิงเมียน้อย ผัวบันดาลโทสะฆ่าทั้งเมียและกิ๊ก ฯลฯ

คนยุคนี้ไม่ค่อยเชื่อว่าศีลธรรมนั้นจำเป็น เด็กสาวยินดีเป็นเมียน้อยหรือกิ๊กของผู้ชายฐานะดี ผู้ชายพร้อมจะทิ้งครอบครัวไปอยู่กับหญิงอื่น นอกจากไม่เชื่อในศีลธรรม ผู้คนจำนวนมากยังเพลิดเพลินกับการนำเรื่องรักใคร่ไปอยู่ผิดที่ผิดทางอีกด้วย โดยไม่ตระหนักว่าเรื่องสนุกดังกล่าวจะนำเรื่องไม่สนุก เรื่องแย่ๆ เรื่องที่เป็นทุกข์ มาให้-ไม่มากก็น้อย…และส่วนใหญ่จะมากนะครับ

ความผิดพลาดที่เกิดเพราะรักใคร่ผิดที่ผิดทางนั้นแก้ไขยาก แต่ป้องกัน(ไม่ให้เกิด)ได้ง่ายกว่า เรา(ส่วนใหญ่)รู้วิธีป้องกัน แต่เลือกที่จะเพิกเฉยและอ่อนข้อ ปล่อยให้ติดเชื้อและยอมให้ลุกลาม สุดท้ายก็หยุดไม่อยู่ และสำหรับบางกรณี-ความตายจะช่วยหยุด ซึ่งก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว พังด้วยกันทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

2 ข่าวข้างต้นคือข่าวบ้านๆ เป็นเรื่องของการนอกใจ การคบชู้ แล้วก็ลงเอยด้วยความตาย ทั้งคู่อาจไม่ระแคะระคายว่าตนเองต้องตาย แต่ผมคิดว่าทั้ง2คนรู้ว่าได้ทำความผิดกับคู่ครองของตน เป็นการรู้ในลักษณะที่ไม่ใช่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่รู้อยู่แก่ใจก็ยังทำและไม่ยอมหยุด ถ้าพวกเขากล้าหยุดในช่วงแรกก็ไม่ต้องกลายเป็นข่าวหน้า1และคงไม่เสียชีวิต

รักใคร่ที่ลงเอยด้วยความตาย มองในมุมใดก็ไม่คุ้มที่ลงทุน แต่ทุกวันนี้มีผู้คนยินดีลงทุนไม่ขาดสาย เพราะนึกถึงผลตรงหน้าไม่ได้นึกถึงผลระยะยาวจึงกล้าแลกกับสิ่งที่จะตามมา บางกรณีในหลายพันหลายหมื่นกรณี อาจได้ขึ้นหน้า1ไทยรัฐก็ได้

PENTHOUSE
SENSES AND SOUL
วิรัตน์ โตอารีย์มิตร

ที่มาอีกที : โซนไอที ดอทคอม