

ผมได้เล่าสามัญผลสูตรมายาว แต่ส่วนที่ต้องการยกมาอธิบายคือส่วนตรงนี้ครับว่า
ภายหลังจากที่พระเจ้าอชาตศัตรูได้กราบทูลแสดงตนเป็นอุบาสกแล้ว
พระเจ้าอชาตศัตรูได้กราบทูลต่อไปว่า “โทษได้ครอบงำหม่อมฉัน ซึ่งเป็นคนเขลา คนหลง ไม่ฉลาด
หม่อมฉันได้ปลงพระชนม์ชีพ พระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เพราะเหตุแห่งความเป็นใหญ่
ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงรับทราบความผิดของหม่อมฉัน โดยเป็นความผิดจริง เพื่อสำรวมต่อไป”
(หมายถึงว่าจะสำรวมระวังและจะไม่ทำผิดต่อไป)
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสตอบว่า “จริง จริง ความผิดได้ครอบงำมหาบพิตรซึ่งเป็นคนเขลา
คนหลง ไม่ฉลาด มหาบพิตรได้ปลงพระชนม์ชีพพระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม
เพราะเหตุแห่งความเป็นใหญ่ แต่เพราะมหาบพิตรทรงเห็นความผิด โดยเป็นความผิดจริงแล้ว
ทรงสารภาพตามเป็นจริง ฉะนั้น.......อาตมภาพ ขอรับทราบความผิดของมหาบพิตร
ก็การที่บุคคลเห็นความผิดโดยเป็นความผิดจริง แล้วสารภาพตามเป็นจริง รับสังวรต่อไป
นี้เป็นความชอบในวินัยของพระอริยเจ้า”
เช่นนี้แล้ว หากเราพลาดเจแตกไปแล้ว ก็พึงสำนึกผิดตามจริง และตั้งใจว่าจะสำรวมระวังต่อไป
หากเราพลาดศีลขาดหรือศีลด่างพร้อยไปแล้ว ก็พึงสำนึกผิดตามจริง และตั้งใจว่าจะสำรวมระวังต่อไป
หากเราพลาดกระทำสิ่งใด ๆ ไม่ดีลงไปแล้ว ก็พึงสำนึกผิด และตั้งใจจะสำรวมระวังต่อไป
ไม่ใช่จะไปคิดว่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็ปล่อยเลยตามเลย
หากเราไหลไปในทางไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะยิ่งทำให้เราผิดมากขึ้นไปอีก
เสมือนกับพลาดทำสกปรกไปแล้ว แต่กลับทำสกปรกมากขึ้นอีก ก็ยิ่งล้างทำความสะอาดยากขึ้น........ครับ
บทความจาก.........................{เพื่อนธรรมจารี}
POSTED BY SOMETIME
@ Sunday 4 November 2012
1.00 P.M