[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 02:16:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ภาพปริศนาธรรม - ภาพของเสียงตบมือข้างเดียว :พุทธทาสภิกขุ  (อ่าน 2605 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 22.0.1229.94 Chrome 22.0.1229.94


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2555 11:21:59 »



             
               ภาพของเสียงตบมือข้างเดียว

ภาพปริศนาธรรม - ภาพของเสียงตบมือข้างเดียว
รวมบทความ    - พุทธทาส อินทปัญโญ

            ภาพที่ปรากฎอยู่นี้เรียกว่า  “ภาพของเสียงตบมือข้างเดียว”  เสียงของมือที่ตบข้างเดียว.  ฟังดูก็ชวนให้งงเต็มที  ตบมือข้างเดียวจะตบได้อย่างไร  จะดังได้อย่างไร  ก็คอยดูต่อไป  มือโง่ไม่มัวตบอยู่ข้างเดียว  หรือจะเป็นมือฉลาดที่รู้จักตบได้โดยไม่ต้องมีมืออีกข้างหนึ่ง.  ขอให้ดูรายละเอียดในภาพนี้ด้วยว่า  มือข้างหนึ่งมีลักษณะตบ  มืออีกข้างหนึ่งไปกำเอาธูปไว้  พระพุทธรูปอยู่ตรงกลาง  มีเครื่องบูชาพระพุทธรูปครบถ้วน.  ทำไมเรียกว่ามือตบข้างเดียว ?  เพราะว่ามืออีกข้างหนึ่งมันไม่ยอมตบด้วย.

            ภาพนี้เป็นภาพของความที่จิตไม่รับเอาอารมณ์มาปรุงแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว  อย่างนั้นอย่างนี้  ผู้ที่เรียนรู้เรื่องปฏิจจสมุปบาทมาแล้ว  ก็จะรู้ได้เองว่า  ใจความสำคัญมันมีอยู่ที่ว่า  เมื่ออายตนะภายใน  กับอายตนะภายนอกซึ่งเป็นของคู่กัน  มาถึงกันเข้า  จนเกิดวิญญาณรู้แจ้งขึ้นที่นั่นอยู่อย่างนั้น  เรียกว่าเป็นการสัมผัส  คือการกระทบกันระหว่างอายตนะภายในและอายตนะภายนอก  แล้วรู้สึกอยู่  รู้สึกอยู่  อย่างนี้เรียกว่ากระทบกันของทั้งสองข้าง  เป็นผัสสะแล้ว  ก็ปรุงเป็นเวทนา  ยินดียินร้าย  แล้วก็ปรุงเป็นตัณหาไปตามยินดียินร้าย  แล้วก็ยึดมั่น ถือมั่นความหมายนั้นไปตามความยินดียินร้าย.  ไอ้ความยึดมั่นนั่นเองปรุงให้เกิดความรู้สึกว่ามีตัวกูผู้ยึดมั่น  และยึดมั่นเอามาเป็นของกู  ความยึดมั่นจึงมีทั้งตัวกูและของกู   ผลก็คือมีความทุกข์เพราะความยึดมั่น  นี้เรียกว่ามือมันตบสองข้าง  ตามธรรมดาสามัญ  ไปจบลงที่ผลคือความทุกข์อันเป็นผลของการปรุงแต่งไปตามลำดับ.  เหมือนกรณีธรรมดาสามัญทั่ว ๆ ไป  หูได้ยินเสียงก็ไม่เอาเสียงมาปรุงแต่ง  ให้เกิดเป็นเรื่องเป็นราวไปตามธรรมชาติฝ่ายกิเลส  จมูกได้กลิ่นก็ไม่เอามาปรุงแต่ง  ลิ้นได้รสก็ไม่เอามาปรุงแต่ง  ร่างกายได้สัมผัสสิ่งมากระทบกายก็ไม่เอามาปรุงแต่ง   จิตได้ความรู้สึกคิดนึกอารมณ์อะไร ๆ ก็ไม่เอามาปรุงแต่ง  มันกลายเป็นมีอยู่ข้างเดียวอย่างนี้  ก็เลยไม่มีเรื่อง  ไม่มีการปรุงแต่งไปตามลำดับ  จนเกิดความทุกข์.   มือข้างหนึ่งไปถือธูปเสีย  คือไปถือธรรมะเสีย  ไปเป็นธรรมะเสีย  มีความรู้ความฉลาดอย่างพอตัว  ในอีกฝ่ายข้างหนึ่ง  มีพระพุทธรูปหรือพระพุทธเจ้าอยู่ตรงกลางเป็นเครื่องทำให้เกิดความรู้   สำหรับการที่จะไม่กระทบกัน  หรือจะไม่ปรุงแต่งกัน.

            คำสอนในพระพุทธศาสนา  มีใจความหัวใจสั้น ๆ ว่า  “สิ่งทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวตน  ว่าเป็นของตน”  . ถ้าธรรมะนี้เข้ามา  ธรรมะข้อนี้เข้ามา  การปรุงแต่งก็จะไม่มี  เพราะจะรู้สึกเกลียดหรือกลัวการปรุงแต่งที่จะทำให้เกิดความทุกข์   ในที่สุดก็ไม่มีความทุกข์  ไม่ทำการปรุงแต่งให้เกิดความทุกข์.

            ทีนี้ที่เอามาอุปมาให้น่าตกใจ  คืออุปมาเป็นเสียงของมือที่ตบข้างเดียว   ว่าสำหรับผู้ที่มีปัญญาลึกซึ้งเพียงพอ  จะคิดได้จะมองเห็นได้ว่า  เสียงที่ตบด้วยมือข้างเดียวนั้น  มันเป็นเสียงของการไม่ปรุงแต่ง  เป็นเสียงของพระนิพพาน  ดังก้องอยู่ทั่วจักรวาล  ตลอดอนันตกาลทั้งปวง  ไม่จำกัดสถานที่และเวลา.  นี่เอากะเสียงของมือที่ตบข้างเดียวซี่.  ถ้าเสียงของตบมือสองข้างของคนโง่ ๆ  อะไรมาก็รับ  อะไรมาก็รับ  อะไรมาก็รับ  มันตบมือสองข้างก็ดับเปาะแปะ ๆ อยู่ตรงนี้ไม่อาจจะดังไปทั่วจักรวาลได้...

            ข้อความทั้งหมดนี้  สรุปได้เป็นคำกลอนดังต่อไปนี้ :-
                                               มือฉันตบ  ข้างเดียว  ส่งเสียงลั่น
                                    มือท่านตบ  สองข้าง  จึงดังได้
                                    เสียงมือฉัน  ดังก้อง  ทั้งโลกัย
                                    เสียงมือท่าน  ดังไกล  ไม่กี่วา
                                                เสียงความว่าง  ดังกลบ  เสียงความวุ่น
                                    ทั้งมีคุณ  กว่ากัน  ทางหรรษา
                                    เสียงสงบ  กลบเสียง  ทั้งโลกา
                                    หูของข้า  ได้ยิน  แต่เสียงนั้น

                                                เสียงของโลก  ดังเท่าไร  ไม่ได้ยิน
                                    เพราะเหตุวิญ-   ญาณรับ  แต่เสียงนั่น
                                    เป็นเสียงซึ่ง  ผิดเสียง  อย่างสามัญ
                                    เป็นเสียงอัน  ดังสุด  จะพรรณนา
                                                มือข้างเดียว  ตบดัง  ฟังดูเถิด
                                    แสนประเสริฐ  คือจิต  ไม่ใฝ่หา
                                    ไม่ยึดมั่น  อารมณ์ใด  ไม่นำพา
                                    มันร้องท้า  เย้ยทุกข์  ทุกเมื่อเอย ฯ

            คำสำคัญบางคำที่ควรทำความเข้าใจเป็นพิเศษว่า  มือตบสองข้างดังเปาะแปะ  ได้ยินไม่กี่วา.  มือที่ตบข้างเดียวของจิตใจที่ประกอบไปด้วยธรรมะอันสูงสุดนั้น  ได้ยินทั่วโลกและได้ยินตลอดอนันตกาล  คือทุกหนทุกแห่ง  และทุกเวลา.

            เสียงความว่างดังกลบเสียงความวุ่น  หมายความว่าการปรุงแต่งของสังขารเป็นความวุ่น  มีเสียงอย่างความวุ่น.  เสียงความว่างเป็นเสียงของนิพพาน  ของการไม่ปรุงแต่ง  เสียงความว่างที่ไม่มีเสียง  สามารถจะกลบดับเสียงแห่งความวุ่น  ซึ่งหนวกหูเอะอะ ๆ เต็มไปหมด  มีคุณมากกว่ากัน.  เสียงความว่างนั้นให้เกิดหรรษา  คือความเป็นสุขชนิดแท้จริง  ชนิดเยือกเย็นแท้จริง.  เสียงความวุ่นนั้นน่ะล้วนแต่เป็นเสียงที่ออกมาจากความวุ่นวาย  ความเร่าร้อน  ความโกลาหล วุ่นวายแห่งการปรุงแต่ง. 
            คน ๆ หนึ่งได้ยินแต่เสียงสงบ  เสียงที่ไม่มีเสียง  เพราะว่าหูของเขามีสำหรับเสียงนั้น  วิญญาณของเขาไม่รับเสียงซึ่งปรุงแต่งของอวิชชา  ของกิเลสตัณหา  หรือของอายตนะที่อยู่ใต้อำนาจของอวิชชา  วิญญาณของเขาไม่รับเสียงนั่น  แต่เสียงแห่งความไม่มีเสียงน่ะ  วิญญาณของเขารับได้ดีที่สุด.  เสียงที่ไม่มีเสียงหรือเสียงแห่งพระนิพพานนั้น   เป็นสิ่งที่อาจจะรู้สึกได้หรือสัมผัสได้   ดังนั้นท่านจึงเรียกว่าเป็นอายตนะอันหนึ่งเหมือนกัน   คือเรียกว่าพระนิพพานนั้นก็เป็นอายตนะอันหนึ่ง  จะจัดไว้ในอายตนะทั้ง ๖ ก็ได้  เป็นธรรมารมณ์ที่จะรู้สึกได้ด้วยใจ  ในเมื่อมีการปฏิบัติถึงที่สุด   ดับกิเลสสิ้นทุกข์โดยสิ้นเชิงแล้ว  มีธรรมารมณ์ปรากฎแก่จิต  คือรสแห่งพระนิพพาน,  นี้จะเรียกว่าอายตนะก็ได้.  ในที่บางแห่งเรียกว่าวิญญาณด้วยซ้ำไป  เรียกพระนิพพานว่าวิญญาณ  ในความหมายว่าเป็นสิ่งที่อาจจะรู้แจ้งได้  หรือเป็นสิ่งที่ควรจะรู้แจ้งอย่างยิ่ง...



รวมบทความ    - พุทธทาส อินทปัญโญ
http://www.dhamma4u.com/index.php?
option=com_content&view=article&id=227%3A2009-05-12-11-32-55&
catid=38%3A2008-11-18-07-36-42&limitstart=17


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
That's way
นักโพสท์ระดับ 9
****

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

United States United States

กระทู้: 601


สัตว์เลี้ยงลูกด้วยเงิน

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 22.0.1229.94 Chrome 22.0.1229.94


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 06 พฤศจิกายน 2555 11:28:08 »

สาธุ ขอบคุณครับ
ผมคิดว่าภาพนี้น่าจะอยู่ที่โรงมหรสพทางวิญญาณที่สวนโมกขพลารามนะครับ
บันทึกการเข้า

อยากสูงต้องเขย่ง
  อยากเก่งต้องขยัน
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
จิตวัว ภาพปริศนาธรรม อุปมาเหมือนฝึกการจิต
ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
มดเอ๊ก 15 10462 กระทู้ล่าสุด 21 มิถุนายน 2553 20:08:30
โดย มดเอ๊ก
จิตวัว ภาพปริศนาธรรม อุปมาเหมือนการฝึกจิต ( เซน )
ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
หมีงงในพงหญ้า 14 15815 กระทู้ล่าสุด 26 กรกฎาคม 2553 14:38:34
โดย หมีงงในพงหญ้า
ธรรมะสำหรับผู้สูงอายุ : พุทธทาสภิกขุ
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 5 5212 กระทู้ล่าสุด 18 กรกฎาคม 2554 17:47:41
โดย เงาฝัน
วิเวกที่ท่านยังไม่รู้จัก : พุทธทาสภิกขุ
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 4 5281 กระทู้ล่าสุด 01 สิงหาคม 2554 19:20:01
โดย เงาฝัน
โกอาน จับวัว ภาพปริศนาธรรม อุปมาเหมือนฝึกการจิต
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 3 3571 กระทู้ล่าสุด 30 กรกฎาคม 2559 14:24:33
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.361 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้