[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 15:15:32 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การกระทำ  (อ่าน 2480 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553 11:29:04 »


<a href="http://audio.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=18072" target="_blank">http://audio.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=18072</a>


ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น




พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๑๐๒



พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าเราเมื่อครั้งเป็น(สุเมธดาบส)ได้คิดว่า{เป็นข้อความที่

ท่านสุเมธดาบสสอนตนเอง}

ธรรมดาว่า{น้ำ}ย่อมแผ่ความเย็นไปให้คนดีและคนเลวโดยเสมอกันชะล้างมลทิน

คือธุลี(สิ่งสกปรก)ออกได้แม้ฉันใดแม้ท่านก็ฉันนั้นเหมือนกันพึงเจริญเมตตาบารมี

เจริญเมตตาไปสม่ำเสมอในชนผู้ทำประโยชน์และผู้ไม่ทำประโยชน์แล้วท่านจัก

บรรลุสัมโพธิญาณ




ข้อความบางตอนจาก......พระอภิธรรมปิฎก  ธัมมสังคณีปกรณ์



พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ ๕๓๐



อุเบกขามีการเป็นไปโดยอาการเป็นกลางในสัตว์ทั้งหลายเป็นลักษณะมีความเห็น

สัตว์ทั้งหลายโดยความเสมอกันเป็นรสะ(เป็นกิจ)มีการเข้าไปสงบความโกรธและ

ความรักเป็นปัจจุปัฏฐาน(อาการปรากฏ)มีความเห็นสัตว์มีกรรมเป็นของตน อย่างนี้ว่า

สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของ ๆ ตนสัตว์เหล่านั้นจักมีความสุขหรือจักพ้นจากทุกข์

หรือจักไม่เสื่อมจากสมบัติตามความพอใจของใครดังนี้..........เป็นปทัฏฐาน{เหตุใกล้ให้เกิด}




ข้อความบางตอนจาก พระอภิธรรมปิฎก ธัมมสังคณีปกรณ์




ธรรมดาของบุคคลผู้ที่ยังมีกิเลสนั้นอกุศลย่อมเกิดขึ้นมากมักจะไหลไปเป็นไป

ด้วยอำนาจของอกุศลเป็นส่วนใหญ่ และบางครั้ง - บางคราวก็ล่วงออกมาเป็นทุจริตกรรม

ทางกายบ้าง ทางวาจาบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นให้เดือดร้อนซึ่ง(อาจจะ)มีได้ทั้งหมด

ทั้งปวงก็เป็นธรรมเป็นความเป็นไปของ{จิตเจตสิก}เท่านั้นไม่ใช่สัตว์ไม่ใช่บุคคล

ไม่ใช่ตัวตน

สิ่งที่ควรพิจารณา คือ ไม่มีใครที่ไม่เคยทำผิดย่อมมีแน่นอนสำหรับบุคคลผู้ที่

กระทำความผิดจะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งตัวเราเองก็เช่นเดียวกันเวลาที่

ตนเองทำความผิดได้ผิดพลาดพลั้งไปก็อยากจะให้คนอื่นเขาเข้าใจและเห็นใจ  

คนอื่น ๆ ที่เป็นแบบเราก็มีความต้องการอย่างนี้เช่นเดียวกันแต่เวลาคนอื่นทำความ

ผิดได้ผิดพลาดพลั้งไปนั้นเรามักจะลืมให้อภัยเขาลืมเข้าใจเขา        

พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเป็นเครื่องเตือนที่ดีอยู่เสมอเพราะพระองค์

ไม่เคยสอนให้เกิดอกุศลเลยแม้แต่น้อยแม้ในบุคคลผู้กระทำความผิดก็ไม่ควรโกรธ

เพราะเหตุว่า.............................บุคคลผู้ควรแก่การโกรธไม่มี

และอีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณา คือ ในขณะที่คนอื่นได้กระทำความผิดไปก็

อย่าพึ่งโทษหรือโจทก์เขาควรที่จะสอบสวนพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อนถ้าเขา

ผิดจริงควรที่จะมีเมตตาคอยอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เขาสละคืน คือ ละซึ่งการปฏิบัติอัน

ไม่ถูกต้องไม่เหมาะสมนั้นเสียถ้าเขารับฟัง นั่นเป็นการดีแต่ถ้าเขาเป็นผู้ว่ายาก

ไม่ยอมรับฟังในคำแนะนำอันถูกต้องนั้นก็ควรจะเป็นผู้มี{อุเบกขา}คือ ความเป็นกลาง

ไม่หวั่นไหวไปด้วยอำนาจของอกุศล คือ โทสะพร้อมกับพิจารณาเห็นว่าสัตว์โลกมี

กรรมเป็นของของตน ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องได้รับผลของกรรมนั้น ๆ แต่การจะมี

อุเบกขา{อุเบกขาพรหมวิหาร ได้แก่ ตัตรมัชฌัตตตาเจตสิก}ได้นั้น พื้นฐานของจิตใจ

ต้องเป็นผู้มีเมตตา

เพราะฉะนั้นแล้ว ควรมองข้ามความผิดของผู้อื่นไปเสียและอย่ากระทำให้เขาหมด

กำลังใจด้วยการพิพากษาโทษของเขาอย่างรุนแรงและประการที่สำคัญอย่างยิ่งที่

ขาดไม่ได้เลย คือ อย่าได้มองข้ามความผิดของตนเองเพราะปุถุชนก็คือปุถุชนไม่ใช่ -

พระอริยบุคคลย่อมมีอกุศลเกิดมากเป็นธรรมดามีกุศลเกิดแทรกสลับกับอกุศลเท่า

นั้นเองดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอจนกว่าจะได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ซึ่งก็จะต้องอาศัยกาล

เวลาอันยาวนานในการอบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป
 
ความเข้าใจพระธรรม{ปัญญา}เท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งที่แท้จริงสำหรับทุกคนความ

เข้าใจพระธรรมนอกจากจะเป็นประโยชน์สำหรับตนเองโดยตรงแล้วยังสามารถ

เกื้อกูลให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลอื่นได้ด้วยด้วยการแนะนำให้เจริญในหนทางข้อ

ปฏิบัติที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมคำสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงตามกำลัง

ปัญญาของตนเอง.......................................




แนวทางเจริญวิปัสนา ณ.มูลนิธิบ้านธรรมมะ บุคโล ธนบุรี คณะวิทยากร อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์



Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29 กรกฎาคม 2553 11:40:49 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553 12:03:03 »

สาธุ ๆ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 29 กรกฎาคม 2553 22:14:01 »




ยิ้ม  รัก  ยิ้ม

อนุโมทนาสาธุค่ะ น้อง"บางครั้ง"
บันทึกการเข้า
คำค้น: การกระทำ แนวทาง เจริญ วิปัสนา บางครั้ง ธรรมมะ ก่อเกิด สติ dhamma 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.292 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 03 มกราคม 2567 09:40:21