[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
04 ธันวาคม 2567 07:59:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์ ของ ทาน ( ผลจากการให้ทาน ประเภทต่าง ๆ )  (อ่าน 5814 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:21:47 »

เรื่อง อานิสงส์ของทาน
ในการถวายสิ่งของต่าง ๆ เล่มนี้เป็นภาษิตของท่านพระปิลินทวัจฉมหาเถระผู้เป็นพระอรหันต์ที่ได้รับยกย่องจากพระบรมศาสดาว่าเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในด้านผู้เป็นที่รักที่ชอบใจของเหล่าเทวดาภิกษุ ภิกษุณี และคฤหัสถ์ทั้งปวง ซึ่งเป็นหนึ่งในพระมหาเถระ ๘๐ องค์

บุญที่ท่านพระเถระเคยกระทำไว้ท่านพระปิลินทวัจฉเถระได้กล่าวถึงบุญที่ตนเองได้กระทำไว้ในด้านต่าง ๆ มาในชาตินี้จึงได้รับผลบุญวิบาก บุญหรือที่เรียกว่าอานิสงส์ของการทำบุญที่ได้กระทำไว้ในอดีตเมื่อผู้เรียบ เรียงอ่านภาษิตของท่านแล้วเห็นว่ามีประโยชน์มากเพราะทำให้คนทั้งหลายได้รู้ ว่าเมื่อได้ทำบุญแล้วจะได้รับผลบุญจะได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไรมีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไรในเรื่องนี้ จะบอกเรื่องอานิสงส์ในการถวายสิ่งของถึง๔๖ ประการไว้อย่างชัดเจน

บุญที่ท่านพระมหาเถระเคยทำไว้ กล่าวคือเมื่อสมัยเกิดเป็นคนเฝ้าประตูเมือง กรุงหงสวดีได้ ทำหน้าที่อย่างสุจริตและเป็นเวลาช้านานภายหลังก็มีทรัพย์สมบัติมากมายต่อมา คิดอยากจะถวายทานสิ่งของอะไรก็ตามที่คนทั้งหลายยังไม่เคยได้ถวายสิ่งนั้นนั่นแหละตนเองจะถวายเป็นคนแรก ต่อมาท่านก็ได้ถวายบริขารเป็นอันมากดังมีเรื่องเล่าอดีตชาติของ พระปิลินทวัจฉมหาเถระ พอสรุปได้ว่า
เมื่อแสนกัปที่ผ่านมา ท่านพระปิลินทวัจฉมหาเถระนี้ เกิดเป็นคนเฝ้าประตูคิดอยากจะทำถวายทาน ต่อมาได้ถวายทานแด่พระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมะ ตามที่ได้คิดด้วยทานวัตถุเป็นอันมาก เพราะผลแห่งทานนั้น ในชาติต่อ ๆ มา ท่านไม่รู้จักทุคคติเลยคือ ท่านได้เกิดเป็นท้าวสักกะ ๑,๐๐๐ ชาติ เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๑,๐๐๐ ชาติเกิดเป็นพระเจ้าประเทศราชนับชาติไม่ถ้วน ทุกชาติที่เกิดมาได้สมบูรณ์ด้วยสมบัติทุกประการ ในชาติสุดท้ายนี้ ท่านได้บรรลุพระอรหัตตผลพร้อมด้วยคุณวิเศษ นอกจากนี้ เวลาท่านเไปอยู่ที่ไหน จะมีพวกเทวดา อสูรและคนธรรพ์สักการะ และเป็นผู้เป็นที่รักของภิกษุ ภิกษุณี และคฤหัสถ์ทั้งปวงต่อจากนี้ไป ผู้เรียบเรียงจะได้นำเสนอการถวายสิ่งของ มีร่มเป็นต้นแล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญแต่ละอย่าง ดังต่อไปนี้


เรื่อง อานิสงส์ของทาน
กรรมที่ข้าพเจ้า(นามว่าปิลินทวัจฉะ)กระทำแล้วใน ๑๐๐,๐๐๐ กัปได้แสดงผลแก่ข้าพเจ้าแล้วในอัตภาพสุดท้ายนี้ ข้าพเจ้าหลุดพ้นดีแล้วดุจความเร็วของลูกศรที่หลุดพ้นไปจากแล่ง เผากิเลสทั้งหลายได้แล้ว น่าปลื้มใจกรรมข้าพเจ้าได้ทำไว้ดีแล้ว ในเนื้อนาบุญอย่างยอดเยี่ยมซึ่งเป็นฐานะที่ข้าพเจ้าทำสักการะแล้ว ได้บรรลุบทที่ไม่หวั่นไหวมาณพใดได้ให้ทานอย่างประเสริฐไม่บกพร่อง มาณพนั้นได้เป็นหัวหน้าคนแรกนี้เป็นผลแห่งทาน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:22:23 »

๑. อานิสงส์ของการถวายร่ม
...ข้าพเจ้าได้ถวายร่มในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. ไม่รู้สึกหนาว ๒.ไม่รู้สึกร้อน๓. ละอองและธุลี ไม่แปดเปื้อน ๔. เป็นผู้ไม่มีอันตราย
๕.ไม่มีเสนียดจัญไร ๖. ชนทั้งหลายยำเกรงทุกเมื่อ๗. เป็นผู้มีผิวพรรณละเอียด ๘.เป็นผู้มีใจใสสะอาด
...เมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ ฉัตร ๑๐๐,๐๐๐ คันซึ่งประกอบด้วยเครื่องประดับทุกอย่าง กั้นอยู่เหนือศีรษะของข้าพเจ้า ยกเว้นชาตินี้เพราะอานุภาพแห่งกรรมนั้น เพราะฉะนั้น ในชาตินี้ การกั้นฉัตร จึงไม่มีแก่ข้าพเจ้าข้าพเจ้ากระทำกรรมทุกอย่าง ก็เพื่อบรรลุฉัตรคือวิมุตติ


๒.อานิสงส์ของการถวายผ้า
ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีผิวพรรณดังทอง๒. ปราศจากไฝฝ้า๓. มีรัศมีผ่องใส๔. มีตบะ๕.มีร่างกายมีผิวเกลี้ยงเกลา๖. มีผ้าสีขาว ๑๐๐,๐๐๐ ผืน๗. มีผ้าสีเหลือง๑๐๐,๐๐๐ ผืน๘. มีผ้าสีแดง ๑๐๐,๐๐๐ ผืน
.....เมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ และมีผ้ากั้นอยู่เหนือศีรษะของข้าพเจ้านี้เป็นผลแห่งการถวายผ้า>>

๓. อานิสงส์ของการถวายบาตร
ข้าพเจ้าได้ถวายบาตรในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๑๐ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.บริโภคโภชนาหารในภาชนะทองคำ ภาชนะแก้วมณี ภาชนะเงินและภาชนะที่ทำด้วยทับทิมทุกครั้ง๒. เป็นผู้ไม่มีอันตราย๓.ไม่มีเสนียดจัญไร๔. ชนทั้งหลายยำเกรงทุกเมื่อ
๕. ได้ข้าว น้ำ ผ้าและที่นอนเป็นปกติ๖. มีโภคสมบัติไม่พินาศ๗. เป็นผู้มีจิตมั่นคง
๘.เป็นผู้ใคร่ธรรมทุกเมื่อ๙. เป็นผู้มีกิเลสน้อย๑๐. ไม่มีอาสวะ
....คุณเหล่านี้ ติดตามข้าพเจ้าไปทั้งในเทวโลกและมนุษย์โลกไม่ละข้าพเจ้าในที่ทุกแห่ง เปรียบเหมือนเงาต้นไม้>>

๔. อานิสงส์ของการถวายมีด
....ข้าพเจ้าได้ถวายมีดเล็กที่ทำอย่างสวยงามเนื่องด้วยเครื่องผูกอย่างวิจิตรจำนวนมากแก่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐที่สุดและแก่สงฆ์ ได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้กล้า๒.เป็นผู้ไม่มีความเดือดร้อน๓. ถึงความสำเร็จในเวสารัชชธรรม
๔.เป็นผู้มีปัญญาเครื่องทรงจำ ๕. มีความเพียร๖. ประคองใจไว้ได้ทุกเมื่อ
๗. ได้ญาณอันสุขุมเป็นเครื่องตัดกิเลส ๘.ได้ความบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเทียมเท่าในที่ทั้งปวง
เพราะผลกรรมของข้าพเจ้านั้น


๕. อานิสงส์ของการถวายมีดเล็ก
....ข้าพเจ้ามีจิตเลื่อมใสได้ถวายมีดเล็กอันราบเรียบ ไม่หยาบขัดถูกดีแล้วจำนวนมากในพระพุทธเจ้าและในพระสงฆ์แล้ว ได้รับอานิสงส์ ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ได้กัลยาณมิตร ๒. มีความเพียร๓.มีขันติ ๔. ได้ศัสตราคือไมตรี
๕. เพราะตัดลูกศรคือตัณหาจึงได้ศัสตราคือปัญญาอันยอดเยี่ยม และญาณที่เสมอด้วยเพชร เพราะผลแห่งกรรมเหล่านั้น

๖. อานิสงส์ของการถวายเข็ม
.......ข้าพเจ้าได้ถวายเข็มในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เมื่อเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยและใหญ่ เป็นผู้ที่มหาชนนอบน้อม
๒.เป็นผู้ตัดความสงสัยได้๓. มีรูปร่างงดงาม๔. มีโภคสมบัติ
๕.มีปัญญาฉลาด หลักแหลม ทุกเมื่อ
....ข้าพเจ้าพิจารณาเห็นอรรถ ซึ่งเป็นฐานะละเอียดลึกซึ้งด้วยญาณของข้าพเจ้า ญาณของข้าพเจ้า เสมอด้วยยอดเพชรเป็นเครื่องกัดความมืด


๗. อานิสงส์ของการถวายมีดตัดเล็บ
......ข้าพเจ้าได้ถวายมีดตัดเล็บในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ได้ทาสชายหญิง๒. เป็นผู้ได้โคและม้า๓. เป็นผู้ได้ลูกจ้างที่เป็นนางฟ้อนรำ
๔.เป็นได้ช่างตัดผม๕. เป็นผู้ได้พ่อครัวผู้ทำอาหารจำนวนมากในที่ทั้งปวง


๘.อานิสงส์ของการถวายพัดใบตาล
.....ข้าพเจ้าได้ถวายพัดใบตาลในพระสุคตแล้วได้รับอานิสงส์ ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.ไม่รู้สึกหนาวร้อน๒. ไม่มีความเร่าร้อน๓. ไม่มีจิตรู้สึกกระวนกระวาย
๔. เป็นผู้ดับไฟคือราคะได้๕. เป็นผู้ดับไฟคือโทสะได้๖.เป็นผู้ดับไฟคือโมหะได้
๗. เป็นผู้ดับไฟคือมานะได้๘.เป็นผู้ดับไฟคือทิฏฐิได้ ….เพราะผลกรรมของข้าพเจ้านั้น


๙.อานิสงส์ของการถวายพัดขนปีกนกยูงและแส้จามร
....ข้าพเจ้าได้ถวายพัดขนปีกนกยูงและแส้จามรในหมู่สงฆ์และพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุด เป็นผู้มีกิเลสสงบระงับแล้วอยู่อย่างผู้ไม่มีกิเลสเพียงดังเนิน


๑๐.อานิสงส์ของการถวายผ้ากรองน้ำคือธมกรก
....ข้าพเจ้าได้ถวายกรองน้ำคือธมกรกในพระสุคต แล้วได้รับอานิสงส์ ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ล่วงพ้นอันตรายทั้งปวงได้๒. เป็นผู้ได้อายุทิพย์๓. โจรหรือข้าศึกข่มไม่ได้ทุกเมื่อ
๔. ศัสตราหรือยาพิษไม่เบียดเบียนข้าพเจ้า๕. ไม่มีความตายในระหว่าง คือไม่ตายก่อนอายุขัย
เพราะผลแห่งกรรมเหล่านั้นของข้าพเจ้า


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:22:43 »

๑๑. อานิสงส์ของการถวายภาชนะน้ำมัน
....ข้าพเจ้าได้ถวายภาชนะน้ำมันในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีรูปร่างงดงาม๒. เป็นผู้มีความเจริญดี๓. เป็นผู้มีเบิกบานดี ๔. เป็นผู้มีใจไม่ฟุ้งซ่าน
๕. เป็นผู้ได้รับการคุ้มครองโดยการอารักขาทั้งปวง


๑๒.อานิสงส์ของการถวายกล่องเข็ม
....ข้าพเจ้าได้ถวายกล่องเข็มในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ได้ความสุขใจ ๒.เป็นผู้ได้ความสุขกาย๓. เป็นผู้ได้ความสุขเกิดแต่อิริยาบถ
เพราะผลกรรมของข้าพเจ้านั้น


๑๓. อานิสงส์ของการถวายผ้าอังสะ
....ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าอังสะในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ
๑.ข้าพเจ้าเป็นผู้ได้ความมั่นคงในพระสัทธรรม๒. ข้าพเจ้าเป็นผู้ระลึกชาติได้
๓. ข้าพเจ้าเป็นผู้มีผิวพรรณงดงามในที่ทั้งปวง ….เพราะผลกรรมของข้าพเจ้านั้น>>

๑๔. อานิสงส์ของการถวายประคตเอว
....ข้าพเจ้าได้ถวายประคตเอวในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๖ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ไม่หวั่นไหวในสมาธิ คือมีสมาธิแน่วแน่๒. เป็นผู้ชำนาญในสมาธิ
๓.เป็นผู้มีบริวารไม่แตกแยกกัน๔. มีถ้อยคำที่เชื่อถือได้ทุกเมื่อ
๕.มีสติตั้งมั่น๖. ไม่มีความสะดุ้งกลัว
คุณเหล่านี้ติดตามข้าพเจ้าไปทั้งในเทวโลก และมนุษย์โลก


๑๕.อานิสงส์ของการถวายเชิงรองบาตร
....ข้าพเจ้าได้ถวายเชิงรองบาตรในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุด เป็นผู้ไม่มีภัยในเพราะวรรณะ ๕และไม่หวั่นไหวด้วยอะไร ๆ ธรรมเหล่าใดเหล่าหนึ่ง มีสติและญาณเป็นเครื่องตรัสรู้ข้าพเจ้าฟังแล้ว ธรรมที่ข้าพเจ้าทรงจำไว้ ย่อมไม่คลาดเคลื่อนเป็นอันวินิจฉัยดีแล้ว


๑๖. อานิสงส์ของการถวายภาชนะ
....ข้าพเจ้าได้ถวายภาชนะสำหรับใส่ของบริโภคในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ได้ทองคำภาชนะแก้วมณี ภาชนะแก้วผลึก และภาชนะแก้วทับทิม
๒. เป็นผู้ได้ภริยาได้ทาสชายหญิง พลช้าง พลม้า พลรถ พลเดินเท้า และหญิงผู้เคารพนาย
๓.เป็นผู้ได้เครื่องบริโภคทุกเวลา
วิชาในบทมนตร์ ในอาคมต่าง ๆ จำนวนมากและศิลปะทั้งปวง ข้าพเจ้าย่อมใคร่ครวญให้เป็นที่ใช้สอยได้ทุกเวลา


๑๗.อานิสงส์ของการถวายขัน
....ข้าพเจ้าได้ถวายขันในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ได้ขันทองคำขันแก้วมณี ขันแก้วผลึก และขันแก้วทับทิม
๒. เป็นผู้ได้ขันรูปต้นโพธิ์ รูปผลไม้รูปใบบัว และสังข์สำหรับดื่มน้ำผึ้ง
๓. เป็นผู้ได้ข้อปฏิบัติในวัตรอันงามในอาจาระและกิริยา
ข้าพเจ้าได้คุณเหล่านี้ เพราะผลแห่งกรรมนั้น

>>
๑๘.อานิสงส์ของการถวายเภสัช
...ข้าพเจ้าได้ถวายเภสัชในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๑๐ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีอายุยืน ๒.เป็นผู้มีกำลัง๓. เป็นนักปราชญ์ ๔. เป็นผู้มีวรรณะ
๕. เป็นผู้มียศ ๖.เป็นผู้มีสุข๗. เป็นผู้ไม่มีอันตราย ๘. เป็นผู้ไม่มีเสนียดจัญไร
๙.ชนทั้งหลายยำเกรงทุกเมื่อ๑๐. เป็นผู้ไม่มีความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รัก
เพราะผลแห่งกรรมของข้าพเจ้านั้น


๑๙. อานิสงส์ของการถวายรองเท้า
....ข้าพเจ้าได้ถวายรองเท้าในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ
๑. ยานคือช้าง ยานคือม้า ยานคือวอและคานหามแวดล้อมข้าพเจ้าทุกเมื่อ
๒. เมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพรองเท้าแก้วมณี รองเท้าทองแดง รองเท้าทองคำ รองเท้าเงิน ผุดขึ้นรองรับทุกย่างเท้า
๓. บุญกรรมทั้งหลาย ย่อมช่วยชำระอาจารคุณให้สะอาดแน่นอน ข้าพเจ้าได้คุณเหล่านี้เพราะผลแห่งกรรมนั้น


๒๐. อานิสงส์ของการถวายเขียงเท้า
...ข้าพเจ้าได้ถวายเขียงเท้าในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้สวมเขียงเท้าซึ่งสำเร็จด้วยฤทธิ์แล้วอยู่ได้ตามความปรารถนา


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:23:15 »

๒๑.อานิสงส์ของการถวายผ้าเช็ดน้ำ
...ข้าพเจ้าได้ถวายผ้าเช็ดน้ำในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้มีผิวพรรณดุจทองคำปราศจากธุลี๒. เป็นผู้มีรัศมีผ่องใส๓.เป็นผู้มีตบะ
๔. มีร่างกายมีผิวเกลี้ยงเกลา๕.ฝุ่นละอองไม่ติดร่างกายข้าพเจ้า....ข้าพเจ้าได้คุณเหล่านี้ เพราะผลแห่งกรรมนั้น

๒๒. อานิสงส์ของการถวายไม้เท้าคนแก่
....ข้าพเจ้าได้ถวายไม้เท้าคนแก่ในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีบุตรมาก๒.เป็นผู้ไม่มีความสะดุ้งกลัว
๓. เป็นผู้ได้รับการคุ้มครองโดยการอารักขาทั้งปวงใคร ๆ ข่มไม่ได้ทุกเมื่อ
๔. ไม่รู้จักความพลั้งพลาด๕.เป็นผู้มีใจไม่ฟุ้งซ่าน


๒๓. อานิสงส์ของการถวายยารักษาไข้และยาหยอดตา
....ข้าพเจ้าได้ถวายยารักษาไข้ และยาหยอดตาในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีนัยน์ตาโต ๒.เป็นผู้มีนัยน์ตาสีขาว๓. เป็นผู้มีนัยน์ตาสีเหลือง ๔. เป็นผู้มีนัยน์ตาสีแดง
๕. เป็นผู้มีนัยน์ตาแจ่มใส ไม่มัว ๖. ปราศจากโรคตาทุกอย่าง
๗. มีตาทิพย์ ๘.มีดวงตา คือปัญญาอย่างสูงสุด ….ข้าพเจ้าได้คุณเหล่านี้ เพราะผลแห่งกรรมนั้น


๒๔. อานิสงส์ของการถวายลูกกุญแจ
....ข้าพเจ้าได้ถวายลูกกุญแจในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้ลูกกุญแจคือญาณสำหรับเปิดประตูแห่งธรรม


๒๕. อานิสงส์ของการถวายแม่กุญแจ
....ข้าพเจ้าได้ถวายแม่กุญแจในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๒ ประการ คือ
๑.เมื่อข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ เป็นคนมีความโกรธน้อย
๒.ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่มีความคับแค้นใจ


๒๖. อานิสงส์ของการถวายสายโยก
....ข้าพเจ้าได้ถวายสายโยกในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ไม่หวั่นไหวในสมาธิ๒. เป็นผู้ชำนาญในสมาธิ๓.เป็นผู้มีบริวารไม่แตกแยกกัน
๔. เป็นผู้มีถ้อยคำที่เชื่อถือได้ทุกเมื่อ๕.เป็นผู้มีโภคสมบัติเกิดขึ้น เมื่อยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ


๒๗.อานิสงส์ของการถวายกระบอกเป่าควันไฟ
....ข้าพเจ้าได้ถวายกระบอกเป่าควันไฟในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีสติตั้งมั่น๒. เป็นผู้มีเส้นเอ็นต่อเนื่องกันดี
๓. เป็นผู้ได้ที่นอนทิพย์ ….เพราะผลแห่งกรรมของข้าพเจ้านั้น


๒๘. อานิสงส์ของการถวายตะเกียง
....ข้าพเจ้าได้ถวายตะเกียงในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๓ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีตระกูล๒.เป็นผู้มีอวัยวะสมบูรณ์
๓. เป็นผู้มีปัญญาที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ…ข้าพเจ้าได้คุณเหล่านี้ เพราะผลแห่งกรรมของข้าพเจ้านั้น


๒๙.อานิสงส์ของการถวายคนโทน้ำและผอบ
...ข้าพเจ้าได้ถวายคนโทน้ำและผอบในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๑๐ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ๒. มีความพรั่งพร้อมด้วยสุข๓. เป็นผู้มียศยิ่งใหญ่๔. มีการดำเนินชีวิตที่ดี๕. เป็นผู้มีร่างกายที่ได้สัดส่วน ๖. เป็นสุขุมาลชาติ๗. ปราศจากเสนียดจัญไรทั้งปวง ๘. ได้คุณอันไพบูลย์๙.ได้รับการยกย่องนับถืออย่างมั่นคง ปราศจากความหวาดเสียว
๑๐.เป็นผู้ได้คนโทน้ำและผอบ ๔ สี และช้างแก้ว ม้าแก้ว
คุณของข้าพเจ้านั้นไม่พินาศ นี้เป็นผลในการถวายคนโทน้ำและผอบ


๓๐. อานิสงส์ของการถวายวัตถุขัดสนิม
ข้าพเจ้าได้ถวายแปรงมือ ซึ่งเป็นวัตถุขัดสนิทในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยลักษณะทั้งปวง๒. เป็นผู้มีอายุยืน๓. เป็นผู้มีปัญญา
๔. เป็นผู้มีจิตตั้งมั่น๕. มีร่างกายพ้นจากความยากลำบากทุกอย่างในกาลทุกเมื่อ


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:23:47 »

๓๑. อานิสงส์ของการถวายกรรไกร
...ข้าพเจ้าได้ถวายกรรไกรที่มีคมบาง ซึ่งลับไว้ดีในพระสงฆ์ แล้วได้ญาณเป็นเครื่องตัดกิเลส ซึ่งบริสุทธิ์ไม่มีอะไรเปรียบเทียบ


๓๒. อานิสงส์ของการถวายแหนบ
...ข้าพเจ้าได้ถวายแหนบในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้ญาณเป็นเครื่องถอนกิเลสซึ่งบริสุทธิ์ ไม่มีอะไรเทียบเท่า


๓๓. อานิสงส์ของการถวายยานัตถุ์
....ข้าพเจ้าได้ถวายยานัตถุ์ในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๘ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีศรัทธา ๒.มีศีล๓. มีหิริ ๔. มีโอตตัปปะ๕. มีสุตะ ๖. มีจาคะ๗. มีขันติ ๘.มีปัญญา


๓๔. อานิสงส์ของการถวายถวายตั่ง
....ข้าพเจ้าได้ถวายตั่งในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้เกิดในตระกูลสูงมีโภคสมบัติมาก๒. เป็นผู้ที่ชนทั้งปวงยำเกรง
๓. มีชื่อเสียงฟุ้งขจรไป๔. มีบัลลังก์สี่เหลี่ยมจัตุรัสห้อมล้อมเป็นนิตย์ ตลอด ๑๐๐,๐๐๐ กัป
๕.เป็นผู้ยินดีในการจำแนกแจกจ่ายทาน



๓๕. อานิสงส์ของการถวายฟูก
...ข้าพเจ้าได้ถวายฟูกในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๖ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้มีร่างกายสมส่วนที่บุญกรรมก่อให้ อ่อนโยน มีรูปงาม น่าดู๒.เป็นผู้ได้ญาณอันประเสริฐ
๓.เป็นผู้ได้ฟูกที่ยัดด้วยนุ่นอันวิจิตรด้วยรูปสัตว์ต่าง ๆ มีรูปราชสีห์และเสือโคร่งเป็นต้น ด้วยผ้าไหม แกมดิ้นที่ปักเพชรพลอย
๔.เป็นผู้ได้ผ้าป่านอย่างดี และผ้ากัมพลต่าง ๆ จำนวนมาก
๕.เป็นผู้ได้ผ้าปาวารที่มีขนอ่อนนุ่ม และผ้าทำด้วยขนสัตว์อ่อนนุ่ม ในที่ต่าง ๆ
๖.เมื่อใด ข้าพเจ้าระลึกถึงตน เป็นผู้รู้เดียงสา เมื่อนั้น ....ข้าพเจ้าเป็นผู้ไม่เปล่ามีฌานเป็นเตียงนอน
นี้เป็นผลแห่งกายถวายฟูก


๓๖. อานิสงส์ของการถวายหมอน
....ข้าพเจ้าได้ถวายหมอนในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๖ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.ใช้หมอนที่ยัดด้วยขนสัตว์ ที่ยัดด้วยเกสรบัวหลวง และยัดด้วยจุรณจันทน์แดงหนุนศีรษะของข้าพเจ้าทุกเมื่อ
๒.ทำญาณให้เกิดในอัฏฐังคิกมรรคอย่างประเสริฐและในสามัญผล ๔ เหล่านั้นอยู่ตลอดกาลเป็นนิตย์
๓. ทำญาณให้เกิดในทาน ทมะ สัญญมะ อัปปมัญญาและรูปฌานเหล่านั้น อยู่ตลอดกาลทั้งปวง
๔. ทำญาณให้เกิดในวัตร คุณการปฏิบัติอาจารและกิริยา อยู่ตลอดกาลทั้งปวง
๕. ทำญาณให้เกิดในการเดินจงกรมในความเพียรที่เป็นประธาน และในโพธิปักขิยธรรมเหล่านั้น อยู่ตามความปรารถนา
๖.ทำญาณให้เกิดในศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติและวิมุตติญาณทัสสนะเหล่านั้นแล้วอยู่เป็นสุข ๑


๓๗.อานิสงส์ของการถวายตั่งแผ่นกระดาน
...ข้าพเจ้าได้ถวายตั่งแผ่นกระดาน ในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๒ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ได้บัลลังก์อย่างประเสริฐ ทำด้วยทอง ทำด้วยแก้วมณี
๒.เป็นผู้ทำด้วยงาช้างจำนวนมาก ……นี้เป็นผลแห่งการถวายตั่งแผ่นกระดาน


๓๘.อานิสงส์ของการถวายตั่งวางเท้า
....ข้าพเจ้าได้ถวายตั่งวางเท้าในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๒ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้ได้ยานพาหนะจำนวนมาก
๒. เป็นผู้ที่ทาสหญิงชาย ภรรยาและคนผู้อาศัยเหล่าอื่น บำรุงบำเรออยู่โดยชอบ
นี้เป็นผลแห่งการถวายตั่งวางเท้า



๓๙. อานิสงส์ของการถวายน้ำมันทาเท้า
....ข้าพเจ้าได้ถวายน้ำมันทาเท้า ในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้ไม่มีความเจ็บไข้๒. มีรูปงาม๓. มีเส้นประสาทรับรสได้เร็ว ๔. เป็นผู้ได้ข้าวและน้ำ
๕.เป็นผู้มีอายุยืน


๔๐. อานิสงส์ของการถวายเนยใสและน้ำมัน
....ข้าพเจ้าได้ถวายเนยใส และน้ำมันในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีกำลังแข็งแรง๒. มีร่างกายสมบูรณ์๓. เป็นคนร่าเริงทุกเมื่อ ๔. มีบุตรได้ทุกเมื่อ
๕.เป็นคนไม่เจ็บไข้ทุกเมื่อ ……นี้เป็นผลแห่งการถวายเนยใส และน้ำมัน


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7865


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 5.0.375.125 Chrome 5.0.375.125


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 30 กรกฎาคม 2553 13:24:41 »

๔๑.อานิสงส์ของการถวายน้ำบ้วนปาก
....ข้าพเจ้าได้ถวายน้ำบ้วนปากในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๕ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้มีลำคออันบริสุทธิ์ ๒. มีเสียงไพเราะ๓. เป็นผู้ปราศจากโรคไอ ๔.เป็นผู้ปราศจากโรคหืด
๕. เป็นผู้มีกลิ่นดอกอุบลฟุ้งออกจากปาก อยู่ทุกเมื่อ


๔๒. อานิสงส์ของการถวายนมส้ม
...ข้าพเจ้าได้ถวายนมส้มในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้บริโภคอมตภัตรคือกายคตาสติอันประเสริฐ


๔๓. อานิสงส์ของการถวายน้ำผึ้ง
....ข้าพเจ้าได้ถวายน้ำผึ้งที่มีสี กลิ่น และรสในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้วิมุตติรสที่ไม่มีรสอื่นเปรียบปานได้ และไม่เป็นอย่างอื่น


๔๔. อานิสงส์ของการถวายรส
....ข้าพเจ้าได้ถวายรส ตามความเป็นจริง ในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับผล ๔ ประการ (เปรี้ยว หวาน มันเค็ม) ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า

๔๕. อานิสงส์ของการถวายข้าวและน้ำ
....ข้าพเจ้าได้ถวายข้าวและน้ำในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๑๐ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑. เป็นผู้มีอายุยืน ๒.เป็นผู้มีกำลัง๓. เป็นนักปราชญ์ ๔. เป็นผู้มีวรรณะสวยงาม
๕. เป็นผู้มียศ๖. เป็นผู้มีสุข๗. เป็นผู้ได้ข้าว ๘. เป็นผู้ได้น้ำ๙. เป็นคนกล้า ๑๐.เป็นผู้มีปัญญา
ข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพ ได้คุณเหล่านี้


๔๖.อานิสงส์ของการถวายธูป
....ข้าพเจ้าได้ถวายธูปในพระสุคตและพระสงฆ์ซึ่งเป็นหมู่คณะที่ประเสริฐสุดแล้วได้รับอานิสงส์ซึ่งสมควรแก่กรรมของข้าพเจ้า ๑๐ ประการ คือ ข้าพเจ้า
๑.เป็นผู้มีกลิ่นตัวหอมฟุ้ง ๒. เป็นผู้มียศ๓. เป็นผู้มีปัญญาไว ๔.เป็นผู้มีชื่อเสียง
๕. เป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลม ๖. เป็นผู้มีปัญญากว้างขวาง๗. เป็นผู้มีปัญญาร่าเริง >>
๘. เป็นผู้มีปัญญาลึกซึ้ง๙.เป็นผู้มีปัญญาไพบูลย์ ๑๐. เป็นผู้มีปัญญาแล่นไปเร็ว
....เพราะผลแห่งการถวายธูปนั้นข้าพเจ้าเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ ได้บรรลุนิพพาน ซึ่งเป็นสันติสุขในกาลบัดนี้



ผลขั้นสุดท้ายแห่งอานิสงส์ต่าง ๆ
....กิเลสทั้งหลายข้าพเจ้าก็เผาได้แล้ว ภพทั้งปวงข้าพเจ้าก็ถอนขึ้นได้แล้วข้าพเจ้าตัดกิเลสเครื่องผูกพันไปแล้ว อยู่อย่างไม่มีอาสวะดุจพญาช้างตัดเครื่องพันธนาการได้แล้วอยู่อย่างอิสระการที่ข้าพเจ้าได้มาในสำนักของพระพุทธเจ้า เป็นการมาดีแล้วโดยแท้ วิชชา ๓ข้าพเจ้าได้บรรลุแล้วโดยลำดับ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้วคุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ข้าพเจ้าได้ทำให้แจ้งแล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้ทำสำเร็จแล้ว


สรุป....เมื่อท่าน ได้ทราบว่า ทำบุญอะไรแล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไรสมควรช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้ทราบด้วยเพราะเป็นการให้คนได้รู้ถึงอานิสงส์ของทำบุญในแต่ละอย่างจะได้จำสืบต่อกันไปอย่างถูกต้อง ดังนั้น จึงสรุปว่า การทำบุญอะไรก็ตามเมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ได้รับผลบุญในทันที กล่าวคือ ขณะที่ทำบุญนั้นสภาพจิตของเราตรงนั้น เป็นอย่างไร อิ่มใจไหม สุขใจไหม สบายใจไหม ภูมิใจไหมตรงนี้ไม่ต้องถาม หวังว่า ท่านที่เคยทำบุญมาแล้ว ก็จะตอบตนเองได้อย่างแจ่มแจ้งทีเดียว
.....เมื่อเรา ได้ทำบุญ ผลของการทำบุญจะให้อานิสงส์ไม่เหมือนกัน บุญบางอย่าง ก็ให้ผลตรงกัน แต่บุญบางอย่างก็ให้ผลโดยอ้อมไม่ตรงทีเดียว ในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า อานิสงส์แห่งการทำบุญนั้นไม่เหมือนกัน และผลบุญที่เราได้ทำนั้น รอให้ผลอยู่ตลอดเวลาแก่ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ตราบเท่าที่ยังมีผลบุญอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำบุญไว้ ถ้าไม่ประมาทถึงแม้ไม่มีอะไรจะทำบุญ เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาทำบุญ แล้วทำใจให้เลื่อมใสก็เป็นอันได้ทำบุญเหมือนกัน บุญชนิดนี้ เรียกว่า บุญด้านปัตตานุโมทนามัย

สุดท้ายนี้ ขอเดชานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและบุญกุศลที่ท่านได้กระทำมามีการถวายทาน รักษาศีล และการเจริญจิตภาวนา เป็นต้นจงมารวมกันเป็นตบะ เป็นเดชะพลวปัจจัยให้ท่านประสบความสุขความเจริญและจงเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ ธรรมสารสมบัติตลอดกาลเป็นนิตย์เทอญ


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: อานิสงส์ ผลบุญ ทาน ทำทาน ให้ทาน บุญ ผล 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.242 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 29 พฤศจิกายน 2567 16:05:27