[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 06:46:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สารคดี Ancient Aliens : พระเจ้าจากอวกาศ?  (อ่าน 11435 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.77 Chrome 16.0.912.77


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 25 มกราคม 2556 00:11:06 »



สารคดีชุดนี้ได้สร้างความฮือฮาขึ้นอีกครั้ง ในแนวทางของการศึกษาทางโบราณคดีกระแสรองซึ่งครั้งนี้ได้รับการสร้างขึ้นมาอีกครั้งเพื่อการเสนอทฤษฎีและความรู้ใหม่ๆเกี่ยวกับโลกโบราณที่มาจากทฤษฎีกระแสรองในขณะที่กระแสหลักนั้นได้พยายามอธิบายถึงประวัติศาสตร์ของมนุษย์จากการเริ่มขึ้นของอาณาจักรมนุษย์โฮโมเซเปียนสมัยใหม่จากอารยธรรม " เมโสโปเตเมีย " เมื่อราว ห้าพันปีก่อน (3000 ปีก่อนคริสตกาล)
กระแสรองได้พยายามหาคำอธิบายที่แตกต่างและความเป็นไปได้สำหรับ ความไม่น่าเป็นไปได้ในโลกโบราณด้วยการก้าวข้ามไปสู่พรมแดนของสิ่งที่มาจากนอกโลก (extraterrestrial)


Ancient Alien หรือ พระเจ้าจากอวกาศ


ในอีกชื่อคือ Ancient Astronaut Theory หรือ ETH (Extraterrestrial Hypothesis) ทฤษฎีนี้เสนอถึง การเข้ามาแทรกแซงของสิ่งมีชีวิตภูมิปัญญานอกโลก ต่อประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พูดง่ายๆ การเข้ามามีบทบาทแทรกแซงของเอเลี่ยนต่อการพัฒนาอารยธรรมของมนุษยชาติในการก้าวขึ้นมาของมนุษย์โฮโมเซเปียน การก้าวกระโดดขึ้นมาของมนุษยชาติ ครั้งสำคัญที่ทำให้เราเหนือกว่าบรรบุรุษเอฟ รุ่นก่อนๆกับหลักฐานของความไม่น่าเป็นไปไม่ได้ของปริศนาที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อนทั่วมุมโลกในการเชื่อมโยงด้วยจิกซอว์ที่หายไปสำหรับประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติ


ในขณะที่มนุษย์ยุคโบราณแรกเริ่ม กล่าวถึง "การมาถึงของพระเจ้าจากท้องฟ้า"
ความสอดคล้องกันของสิ่งต่างๆ หลักฐาน ปริศนา และความไม่น่าเป็นไปได้ทั้งหมดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
อะไรคือ ตัวตนที่แท้จริงของพระเจ้าที่มาจากฟากฟ้านั้น
เราจะมองหาความจริงและความเป็นไปได้แบบใหม่ ต่อความเข้าใจตัวเรา
เปิดตาให้กว้าง เปิดใจ เปิดความคิด และเปิดจิตนาการที่เรามี
เราอาจไม่ต้องไปตามหาสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวหรือรอสัญญาณวิทยุจากที่ที่ไกลแสนไกล
มองที่ตัวเรา มองสิ่งที่เราก้าวผ่านมา เราอาจจะพบสิ่งที่ตามหานั้นแล้วก็ได้
ซึ่งเรากำลังเล่นเกมส์นักสืบค้นหาความจริงนั้น ด้วยสื่อที่ชื่อว่า สารคดี ชุด ancient aliens ชุดนี้




ณ ตอนนี้(Nov 2010) กำลัง ฉาย ซี่ซันสองอยู่พอดี และก็ได้ไปดูดมาติดตามอยู่ทุกอาทิตย์เมื่อก่อนผมเป็นแฟนตัวยงเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องลึกลับซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความสนใจเรื่องราวอวกาศจากหนังสือเล่มแรกที่คุณพ่อซื้อให้ นั่นก็คือ หนังสือโดราเอมอน ชุด ตะลุยอวกาศเป็นหนังสือให้ความรู้สอนเด็กอ่ะครับ เป็นแรงบันดาลใจทำให้ผมชอบเรื่องราวของอวกาศและทำให้ชอบอ่านหนังสือต่อมาในชุดนี้เล่มอื่นๆก็พาเราไปรู้จักกับเรื่องราวต่างๆมากมายทั่วโลก และมักให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวปริศนาทั่วโลกด้วยครับเป็นหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมสนใจเรื่องพวกนี้ด้วย

ว่ากันตอนเด็กชอบอ่านเรื่องพวกนี้มากเหมือนกัน แต่ตอนโตชักห่างๆไป ตอนหลังกลับมาได้อ่านอีกครั้งจากการดูสารคดีชุดนี้ผมได้ดูครั้งแรกเมื่อปี 2010 นี่ก็รู้สึกว่าสนุกมาก เหมือนว่าได้รู้อะไรที่ไม่เคยรู้มากก่อน (ปกติค่อนข้างจูนได้กับเรื่องพวกนี้)ดูซี่รีย์แรกจบนั้นก็รู้สึกอยากหาคนคุยด้วยขึ้นมาทันทีทันใด แต่คงได้แค่เข้าไปดูพวกเว็บบอร์ดฝรั่ง (หาคนเม้าท์ด้วยยาก ฮาฮา) แต่ผมค่อนข้างสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมต้องสร้างซีซั่นสองขึ้นมาอีกทำไม หรือนั่นเพราะมีหลักฐานเชื่อมโยงใหม่หรือ พอได้ชมซี่ซันสองแล้วนั้นจะนำไปสู่ข้อมูลที่ลึกลงไปโดยเท่าที่ตามดูช่วงแรกจะอ้างถึงหลักฐานตามคัมภีร์และการตีความบันทึกจากคนโบราณซึ่งแอบดูว่ามันหลักฐานอ่อนไปหน่อยแต่ช่วงหลังจะอ้างหลักฐานที่เป็น physicalมากขึ้น รู้สึกว่าเริ่มดูสนุกเหมือนซีซันแรกๆแล้วครับ

แต่ถึงอย่างไร ทฤษฎีนี้มันก็คือกระแสรองอยู่ดี แต่ไม่แน่ว่าอีกสักสิบปีข้างหน้าหลักฐานยืนยันมากขึ้นเรื่อยๆนั้น อาจจะกลายเป็นกระแสหลักจนเป็นที่ยอมรับในที่สุดก็ได้ (แต่กว่าจะไปถึงตอนนั้นคงค้นพบอะไรเจ๋งขึ้นอีกเยอะแน่)


สนใจอยากหามาชมลองใช้ key search ชื่อสารคดี ค้นหาในยูทูป คงเจอได้แน่นอนครับ ค่อนข้างฮอตเหมือนกัน ในระดับที่เป็นสารคดี







สำหรับสารคดีชุดนี้ออกมาดังนี้ครับ

ภาค plot (หรือรวมๆคือเป็น introduction หรือ review)
"Ancient Aliens: Chariots, Gods & Beyond" - Original Air Date—March 8, 2009 -

[Seasons 1]
Episode 1: The Evidence - Original Air Date—20 April 2010 -
Episode 2: The Visitor - Original Air Date—27 April 2010 -
Episode 3: The Mission - Original Air Date—4 May 2010 -
Episode 4: The The Closer Encounter - Original Air Date—11 May 2010 -
Episode 5: The Return - Original Air Date—25 May 2010 -

[Seasons 2]
Episode 1: Mysterious Places - Original Air Date—28 October 2010 -
Episode 2: Gods and Aliens - Original Air Date—4 November 2010 -
Episode 3: Underwater Worlds
Episode 4: Underground Aliens
Episode 5: Aliens and the Third Reich

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.77 Chrome 16.0.912.77


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 มกราคม 2556 00:16:32 »



เกี่ยวกับสารคดีนี้

แม้ว่ามันจะฟังดูเหมือนทฤษฎีสมคบคิด
แต่จริงหากมองข้ามอคติของคำว่า conspiracy ไปได้
ทฤษฎีนี้มีศักยภาพพอตัวในเรื่องของความน่าเชื่อถือ
นั่นเพราะการอ้างหลักฐานความจริงที่เชื่อมโยงกัน
โดยหลักฐานนั้นมักจะเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก สำหรับอารยธรรมของมนุษย์ชาติในกระแสหลัก
เป็นที่แน่นอนว่าทฤษฎีนี้ ค่อนข้างจะหมิ่นเหม่ต่อการล่อเป้าโจมตีค่อนข้างมาก
สำหรับผู้ที่หัวค่อนข้างอนุรักษ์นิยมทั้งหลาย (เป็นเรื่องปกติมั้งครับ)


- ผมไม่ใช่แม่มด กรุณาอย่าจุดไฟเผาผม -
แต่ทว่า ศรัทธานั้น...
Your faith was strong but you needed proof...
เธอศรัทธาอย่างแรงกล้า แต่ต้องการเครื่องพิสูจน์
(มาจากเพลง Hallelujah ของ Leonard Cohen)



การนำเสนอนี้เรื่องราวเหล่านี้ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือไม่ใช่การโจมตีความคิดใดแต่อย่างใด มันเป็นการเสนอทฤษฎีที่ก้าวพ้นกระแสหลักมันเป็นการก้าวข้ามไปยังพรมแดนอีกฟากหนึ่งของความคิด ดังเช่น ชาร์ล ดาร์วิน ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งได้เขียน The Origin of The Spiecies "จุดกำเนิดแห่งสิ่งมีชีวิต" นั้นได้สะเทือนศาสนจักรและโลกมากเพียงใด

ภายใต้ความก้าวหน้าที่เป็นอัตราเร่งของมนุษย์ชาติภายใต้โลกยุคข้อมูลข่าวสารเครื่องมือที่มนูษย์พัฒนานั้นกำลังเผย ประวัติศาสตร์ที่เราได้ลืมมันไว้ ขึ้นมาเรื่อยๆ นั้นคือกำลังเผย "ความจริงที่เรายากจะยอมรับขึ้นเรื่อยๆ" แต่เราก็ปฏิเสธได้ยากว่ามันไม่ใช่ความจริง หรือว่าเรื่องราวเหล่านี้ เป็นสิ่งที่เรา " มิอาจจะปฏิเสธได้อีกต่อไป "

นีลอาร์มสตรองได้ก้าวท้าวไปเหยียบนดวงจันทร์ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ชาติได้พลิกไปนับตั้งแต่นั้นIt's Man's Man's Man's Worlds ของ Jame Brown ที่ออกมาสรรเสริญความก้าวหน้าของมนุษย์ก่อนหน่านั้นหากจะออกมาช้ากว่านี้ อาจจะปรับเนื้อเพลงสรรเสริญถึงการไปเยือน อวกาศก็เป็นไปได้ (ชื่อเพลง "โลกของมนุษย์" มีเนื้อหาสรรเสริญถึงไม่มีสิ่งใดที่มนุษย์สามารถไม่สามารถทำได้) พรมแดน (frontier) ใหม่ของประวัติศาสตร์มนุษย์ได้เปิดกว้างขึ้น ขยายไปเกินกว่าโลกมานับแต่นั้นการข้ามไปสู่นอกโลกหรือ (extraterrestrial) เปิดพรมแดนใหม่ที่พาเราเข้าไปสู่ประวัติศาสตร์ใหม่ที่อยู่นอกโลก มานับแต่นั้น...




แต่ ความจริง ความเกี่ยวข้องสิ่งเหล่านี้นั้นอาจจะอยู่กับเรามาตั้งแต่แล้วก็อาจเป็นไปได้
Ancient Alien : เอเลี่ยนโบราณ
- ฤาพระเจ้าของเราจะมาจากอวกาศ?

จาก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=asongforxx&month=07-11-2010&group=6&gblog=1
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 มกราคม 2556 00:26:51 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.77 Chrome 16.0.912.77


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 มกราคม 2556 00:18:50 »

สารคดี Ancient Aliens - Pilot - Chariots, Gods and Beyond (พากย์ไทย)


 รัก ตามได้ที่นี่ เยอะเลย รีบ ๆ เซฟนะ ก่อนเจอ บล๊อก

ปีแรก http://www.youtube.com/playlist?list=PLwm6n0lZk3eOpoALeYQXja5VTldsrA_ky

ปีสอง http://www.youtube.com/playlist?list=PLwm6n0lZk3eOVUBiXemZYhkj7Ut0Btdvy
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.77 Chrome 16.0.912.77


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 มกราคม 2556 00:39:00 »

สังเขปทฤษฎี "พระเจ้าอวกาศ!"



ทฤษฎี พระเจ้าอวกาศ หรือ นักบินอวกาศโบราณ ("Ancient Astronaut", "Ancient Alien" หรือ "Alien God") เป็นอีกทฤษฎีสำคัญ ที่ทรงอิทธิพลและได้กลายมาเป็นวัตถุดิบทางจินตนาการของหนังไซ-ไฟ หลายต่อหลายเรื่องด้วยกัน โดยได้หยิบยืมเอาไอเดียมาดัดแปลงใช้เป็นโครงเรื่อง-บทภาพยนตร์ สร้างความตื่นตาตื่นใจต่อท่านผู้ชมได้เป็นอย่างดีเยี่ยมตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน อาทิ 2001 A Space Odyssey, The Third Encounters of the Third Kind, Star Trek, The X-Files, Star Gate, Mission to mars, Alien VS Predator, Transformers และ Prometheus เป็นต้น...

- ครั้งหนึ่งในอดีตช่วงสงคราม อเมริกามักตั้งฐานทัพลับบนเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ชนพื้นเมืองที่ยังเป็นคนป่า เมื่อพวกเขาเห็นนกยักษ์เครื่องบินรบบินว่อนท้องฟ้า-ร่อนลงจอด ก็เป็นที่ตื่นตระหนก บางโอกาสพวกทหารก็ให้สินค้า-อาหารกระป๋องแด่พวกเขาด้วย บ้างก็ส่งลงมาจากเครื่องบิน สำหรับพวกเขาแน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่อัศจรรย์เหลือเชื่อ...ผลคือคนพื้นเมืองเหล่านั้นมองบรรดาทหาร-นักบินราวผู้วิเศษมาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์ เมื่อสิ้นภารกิจพวกทหารนักบินก็จากไป คนป่าชนพื้นเมืองจึงเข้าไปสำรวจฐานทัพลานบิน-อุปกรณ์ที่ทิ้งไว้เบื้องหลังอย่างถี่ถ้วน เก็บเศษสิ่งของเป็นที่ระลึก ที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือ ต่อมาพวกเขาได้เลียนแบบสร้างเครื่องบินจำลองจากไม้-หญ้า เป็นสัญลักษณ์ ไว้บูชา! ทั้งรอคอยการกลับมาของนักบิน แจกสินค้า-อาหารกระป๋องอีกครั้ง...นี่คือกรณีตัวอย่างสำคัญตัวอย่างหนึ่ง ที่นักทฤษฎีพระเจ้าอวกาศอ้างอิง...ในอดีตดึกดำบรรพ์อาจมี มนุษย์ต่างดาวบินมาเยือนคนป่ามนุษย์โบราณทำนองเดียวกัน และความคิด-ตำนานเกี่ยวกับทวยเทพเจ้า-ศาสนานับถือพระเจ้าต่างๆ ก็อาจถือกำเนิดจากสิ่งนี้นี่เอง! -




ทฤษฎี พระเจ้าอวกาศ มาจากการตั้งข้อสังเกตของนักวิชาการหลากหลายท่านด้วยกัน แต่ที่จุดประกายแนวคิดได้โดดเด่นเป็นที่กล่าวขวัญถึงคนแรกๆก็คือ "อีริช ฟอน ดานิเกน" (Erich Von Daniken) ดานิเก้นได้เขียนหนังสือเล่มนึงออกมาในชื่อ "Chariots of the Gods"(1968) แปลไทยเป็น "รถม้าของพระผู้เป็นเจ้า" อันอุปมาถึง ยานอวกาศ! ซึ่งเป็นที่ฮือฮาสนใจกันมาก ขายดีกว่า 40 ล้านเล่มทั่วโลก เนื้อหาหนังสือเป็นเชิงสารคดี ว่าด้วยแนวคิดมองประวัติศาสตร์-อารยธรรมโลกในมุมมองใหม่ เกี่ยวกับหลักฐานทางโบราณคดีที่แปลกประหลาดไม่ปกติ!ต่างๆ เขาตั้งได้ข้อสังเกตโดยกว้างๆ ทำนอง...ในอดีตโลกของเราอาจได้รับการมาเยือนจากมนุษย์ต่างดาวหรือสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก โดยเฉพาะในช่วงที่เผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณเพิ่งเริ่มสร้างเป็นสังคม-ก่อเกิดอารยธรรมต่างๆเมื่อหลายพันปีก่อน และมนุษย์ต่างดาวอาจได้ใช้ภูมิปัญญา-เทคโนโลยีล้ำสมัยของพวกเขา เข้ามามีส่วนช่วยอยู่เบื้องหลังบางอารยธรรมโบราณของมนุษย์ด้วย มนุษย์โบราณในอดีตจึงให้ความชื่นชมเคารพมนุษย์ต่างดาวเหล่านั้น ส่งผลให้กำเนิดเป็นความเชื่อว่าพวกเขาคงเป็น พระเจ้า เทพ-เทวา ฯลฯ ผู้มาจากสวรรค์ชั้นฟ้า เมื่อพวกมนุษย์ต่างดาวจากไป ก็ได้เกิดการเล่าขานสืบต่อกันมาจนเป็นตำนาน ทั้งยังมีจารึก-บันทึกในสถานที่สำคัญต่างๆ และก็ได้ต่อยอดกลายมาเป็น ลัทธิความเชื่อ-ศาสนา!ต่างๆของสังคมมนุษย์ในเวลาต่อมาจวบจนปัจจุบัน

ข้อเสนอของทฤษฎีพระเจ้าอวกาศอื่นๆ อาทิ สิ่งทรงภูมิปัญญามนุษย์ต่างดาวอาจมีส่วนในการก่อสร้างมหาพีระมิด หรือสิ่งก่อสร้างขนาดมหึมาอันน่าทึ่งต่างๆของอารยธรรมโบราณต่างๆทั่วโลก แม้กระทั่งอาจเข้ามามีส่วนในการจัดการกับวิวัฒนาการบางส่วนของเผ่ามนุษย์โบราณด้วย(ปรับ DNA!?) เพื่อให้มีโครงสร้างร่างกายที่ดีขึ้น-ฉลาดมากขึ้นกลายเป็นพันธุ์ที่ศัพท์วิชาการเรียกว่าพันธุ์ "Homo sapiens" และได้วิวัฒนาการต่อจนกลายมาเป็นมนุษย์พวกเราในปัจจุบันนั่นเอง

อย่างกรณี มหาพีระมิดแห่งอียิปต์ ประเมินโดยภาพรวมแล้วว่าชาวไอยคุปต์โบราณ ไม่น่าจะมีทางสร้างพีระมิดยักษ์ขนาดนี้ได้เลย หากปราศจากเทคโนโลยีชั้นสูง หลักฐานอันน่าทึ่งต่างๆในพีระมิดยังอาจสื่อถึงความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างจักรวาล - เลขฐานสิบ - กับโครงสร้างของมหาพีระมิด นอกจากนั้นยังมีหลักฐานโบราณอันน่าสงสัยอีกมากมาย อาทิ สัญลักษณ์ ลายเส้นและลานกว้างคล้ายลาดจอดสนามบิน บนยอดเขาแห่ง ทะเลทรายนาซคา(Nazca Lines) ประเทศเปรู ลายเส้นเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากที่สูงทางอากาศเท่านั้น ชาวนาซคาโบราณจะทำเช่นนี้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร? และหากเป็นลานบินจริงๆ เมื่อหลายพันปีที่แล้ว ยังไม่พบหลักฐานใดๆเลยว่ามนุษย์โบราณเคยมีพาหนะในเชิงเครื่องบิน

- หลักฐานทางโบราณคดีปริศนา-น่าสงสัยต่างๆมากมาย สถาปัตยกรรม รูปปั้น รูปสลัก รูปวาด ฯลฯ ปรากฏกระจายทั่วภูมิภาคทั่วโลก บรรพบุรุษของมนุษยชาติได้เห็นอะไรบางอย่าง! อันมีแนวโน้นที่อาจสื่อไปในทางการเกี่ยวโยงไปถึงการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว!ในอดีต ในแง่ใดแง่หนึ่ง หรือเปล่า ? -


- ลายเส้น สัญลักษณ์ และลานกว้าง คล้ายลาดจอดสนามบิน บนยอดเขาแห่งทะเลทรายนาซคา(Nazca Lines) ประเทศเปรู พื้นที่เส้นที่ ยาวที่สุดถึง 23 กม. -



และจากหลักฐานจารึก-ตำนานเรื่องเล่าโบราณ ในบรรดาหลายๆชนชาติที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต กรณีของการปรากฏของพระเจ้า-ทวยเทพผู้ทรงพาหนะบินไปมาในอากาศ น่าสังเกตว่ามักมีการกล่าวถึงเป็นไปในทำนองเดียว ยานพาหนะเหล่านั้นค่อนข้างมีโครงสร้างที่มีหลักการ หาใช่ว่าจะเป็นไปเชิงอิทธิปาฏิหาริย์เวทย์มนต์เสียทีเดียว ตัวอย่างในตำนานมหากาพย์ "มหาภารตะ" ของอินเดียเมื่อหลายพันปีก่อน มีการกล่าวถึงยานอวกาศของเหล่าเทพ เรียกว่า "วิมานะ" สิ่งที่เรียกว่าวิมานะนี้สามารถขับเคลื่อนไปมาในอากาศ โดยอาศัยโครงสร้างที่ทำจากโลหะผสมอันเบาบาง ขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานความร้อน มีหมอกควัน-ไฟ ฟุ้งกระจาย และเสียงกึกก้องคำรามน่าเกรงขาม

- ในพระคัมภีร์หลายคัมภีร์ของหลายลัทธิ-ศาสนา เมื่อหลายพันปีก่อนมักเอ่ยถึงการมาเยือนของ พระเจ้า-ทวยเทพ-ทูตสวรรค์ ฯลฯ ที่มาพร้อมกับพาหนะประหลาดหรือมีปีก เรื่องทำนองนี้อาจมาจากเค้าความจริง ? มันอาจเป็นเทคโนโลยียานอวกาศสุดล้ำ ? ที่คนโบราณได้เห็น และสรรหาคำมาอธิบายเท่าที่จะทำได้




นอกจากดานิเก้นแล้ว ก็ยังมีนักเขียนนักวิชาการอีกหลายคนที่ได้ตั้งข้อสังเกตและตั้งทฤษฎีในแนวพระเจ้าอวกาศ บางคนก็เจาะค้นคว้าไปในคัมภีร์ทางศาสนา-ลัทธิโบราณ ไบเบิล, พระเวทย์, วรรณคดีโบราณต่างๆ ฯลฯ ตลอดจนหลักฐานทางโบราณคดีปลีกย่อยอื่นๆ ซึ่งพบว่ามีหลายแง่มุมที่น่าพิศวงซ่อนอยู่มากมาย บางกรณีตีความออกมาแล้วก็ได้แง่มุมอันน่าทึ่งเป็นอย่างมาก อาทิ มีการสื่อไปในเชิงเหมือนมีการผ่าตัดดัดแปลง DNA จนถึงการทำโคลนนิ่ง!ได้ เพียงแต่ว่าวิธีการอธิบายของคนโบราณอาจจะแสดงออกในรูปของภาษาทางวรรณกรรมโบราณที่มักเป็นไปในเชิง อิทธิปาฏิหาริย์ เวทย์มนต์คาถา ก็ด้วยยุคโบราณยังไม่มีภาษาวิชาการเชิงวิทยาศาสตร์ ในแบบปัจจุบันนั่นเอง

- รูปซ้าย คือ ตัวอย่างภาพวาดโบราณพบในหุบเขา วาล คามอนิกา(Val Camonica) ประเทศอิตาลี สันนิษฐานว่าวาดไว้ตั้งแต่ราว 10,000ปี! ก่อนคริสตกาล ซึ่งผู้เสนอทฤษฎี Ancient Astronaut อ้างว่าภาพเหล่านี้รูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์อวกาศสมัยใหม่ (บนหัวเหมือนจะเป็นหมวกอวกาศ-ในมือถือเครื่องมืออุปกรณ์บางอย่าง?)...ส่วนภาพกลาง-ขวา สิ่งทรงผู้ปัญญาต่างดาวรูปลักษณ์คล้ายมนุษย์ ปรากฏในหนัง Prometheus(2012) สื่อออกมาในเชิง เป็นต้นกำเนิดมนุษยชาติ



- ตัวอย่างหลักฐานภาพวาดและรูปปั้นโบราณอื่นๆ รูปลักษณ์คล้ายกับมนุษย์อวกาศสมัยใหม่-มนุษย์ต่างดาว...รูปล่างขวาเป็นคน(แต่หัวขาด) สังเกต ตัวเหมือนสวมชุดอวกาศยุคปัจจุบันมาก นั้งอยุ่ในอะไรบางอย่างคล้ายกับยานจรวด -





บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.77 Chrome 16.0.912.77


ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 25 มกราคม 2556 00:42:05 »

*สรุปย่อ แนวคิดทฤษฎี "พระเจ้าอวกาศ" โดยภาพรวมทั้งหมด

- ครั้งหนึ่งโลกในอดีตของเรา ได้เคยมีการเยือนของสิ่งภูมิปัญญานอกโลก หรือ มนุษย์ต่างดาว ด้วยมีหลักฐานทางโบราณคดีแปลกประหลาดมากมายหลายอย่าง ที่ส่อนัยยะออกมาว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น...และแน่นอนว่ามนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นมาเยือนโลกก็ด้วยการเดินทางท่องอวกาศมาจากดาวดาวอื่น โดยอาศัยยานพาหนะเทคโนโลยีชั้นสูงชนิดใดชนิดหนึ่งทำนอง ยานอวกาศ-จรวด-จานบินUFO ฯลฯ

- มนุษย์ต่าวดาว ติดต่อกับมนุษย์ยุคโบราณอย่างเปิดเผย และได้ใช้ภูมิปัญญา-เทคโนโลยีของตนช่วยเหลือมนุษย์สร้างอารยธรรมด้วย(ทั้งเป็นการทดลองอะไรบางอย่างไปในตัว) สิ่งก่อสร้างใหญ่โตอันน่าทึ่งของอารยธรรมโบราณ ทั้งสถานโบราณแปลกๆลี้ลับต่างๆนั้น ล้วนมีส่วนของภูมิปัญญา-เทคโนโลยีมนุษย์ต่างดาว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

- มนุษย์ต่างดาวอาจมีการสั่งสอน-ชี้แนะ(หรือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง)ในกรณีวิถีการดำรงชีวิตแด่มนุษย์โบราณในอดีตนั้นด้วย (หรืออาจไม่ได้สอน แต่มนุษย์เลียนแบบเอง) สิ่งนี้เองที่อาจเป็นที่มาของ วัฒนธรรม, จริยธรรม, ประเพณี-พิธีกรรม อันสืบทอดกลายเป็นหลักศีลธรรมคำสอน-พิธีกรรมทางลัทธิศาสนาต่างๆของมนุษย์ในยุคนั้น แล้วจึงส่งผ่านไปยังรุ่นลูกหลานยุคหลังต่อๆมา(จวบจนปัจจุบัน)

- มนุษย์โบราณมองและเคารพมนุษย์ต่างดาวเป็นดั่งเทพที่มาจากฟากฟ้าสรวงสวรรค์ ก็ด้วยมากับยานอวกาศจากฟ้านั่นเอง ทั้งยังมีพลังอำนาจ-ความสามารถจากเทคโนโลยีอันน่าทึ่งมากมาย จึงเป็นต้นกำเนิดที่มาของความเชื่อในรูปแบบของพระเจ้า, เทพเจ้า, เทวดาศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งเล่าขาน บันทึก-จารึกสืบต่อกันมา จนได้กลายเป็นตำนานเทพนิยาย, เทพปกรณัม รวมไปถึงเรื่องราวปฏิหารย์ต่างๆที่ปรากฏในคัมภีร์ศาสนา-ลัทธิ

- มนุษย์ต่างดาวผู้มีเทคโนโลยีสูงส่ง อาจมาเยือนโลกหลายพวกด้วยกันในคราวเดียว ซึ่งบางพวกอาจไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ดีดั่งเทพให้ช่วยเหลือมนุษย์เสมอไป (บางพวกอาจไม่ยุ่งเกี่ยว) และบางพวกก็อาจรังแก-ฆ่ามนุษย์ก็เป็นได้เช่นกัน และบางคราวมนุษย์ต่างดาวก็อาจมีการสู้รบกันเองบนโลก (อันเป็นที่มาของมหากาพย์สงครามเทพนิยายโบราณ พระเจ้า VS ซาตาน เทวดา VS อสูร ฯลฯ)

- มนุษย์ต่างดาว อาจทดลองตัดต่อพันธุกรรมมนุษย์(หรือสัตว์ด้วย) ส่งผลให้ร่างกาย-ความฉลาดของมนุษย์ยุคหลังมีวิวัฒนาการดีขึ้น (ถ้าไม่มีมนุษย์ต่างดาว มนุษย์อาจไม่สามารถก้าวหน้าได้อย่างก้าวกระโดดมากนัก และอาจยังคงเป็นเพียงมนุษย์วานร อาศัยในป่า-ในถ้ำดังเดิม)...รวมไปถึงมนุษย์ต่างดาวบางพวกอาจทดลองผสมพันธุ์กับมนุษย์ด้วย เกิดเป็นเรื่องราว-เทพนิยายที่สื่อด้วยภาษาโบราณว่า เทพสมสู่กับมนุษย์ แทนที่จะใช้ภาษาบรรยายตรงๆอย่างปัจจุบันว่า เป็นการทดลองทางพันธุกรรม เพราะยุคนั้นยังไม่มีภาษาวิทยาศาสตร์นั่นเอง

- การทดลองทางพันธุกรรมของมนุษย์ต่างดาว ก็อาจเกิดการผิดพลาดได้เช่นกัน ส่งผลให้เกิดเป็นมนุษย์-สัตว์ประหลาด ไม่สมประกอบทำนองอสูรกาย! ซึ่งเล่าขานสืบทอดต่อกันมา จนได้ด้ดแปลงกลายเป็นตัวละครในเรื่องราวตำนานเทพนิยาย-วรรณกรรมโบราณ-ในคัมภีร์ศาสนา รวมทั้งเป็นหลักฐานโบราณคดีต่างๆด้วยเช่นกัน

- ฯลฯ


จะเห็นว่าแนวคิดของทฤษฎีพระเจ้าอวกาศ จัดเป็นมุมมองที่บรรเจิดน่าสนใจมาก(ถ้าในแง่ไอเดียพล็อตเรื่อง ก็ต้องนับว่าเป็นสุดยอดไซ-ไฟ :) แต่แน่นอนว่า ถึงแม้จะมีหลักฐานไม่น้อยอ้างอิงสนับสนุน แต่ยังไงเสียทฤษฏีพระเจ้าอวกาศก็ยังคงเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน และยังคงเป็นประเด็นโต้แย้งกันรุนแรงในแวดวงวิทยาศาสตร์-โบราณคดี ด้วยยังไม่มีการพิสูจน์ออกมาแจ่มแจ้ง 100% (ก็คงจนกว่าจะมีปรากฏตัวของ มนุษย์ต่างดาวตัวเป็นๆกันเลย) แต่ก็นับว่าเป็นการเปิดมุมมองใหม่ต่อประวัติศาสตร์-อารยธรรมโลกได้ล้ำลึกแหวกแนวมากทีเดียว

ปล. อ้างอิงจาก ทฤษฎี "พระเจ้าอวกาศ" ที่น่าคิดต่อ-เป็นคำถามปริศนาสำหรับยุคปัจจุบันนี้ก็คือ...แล้วทำไมพวกมนุษย์ต่างดาวในอดีตเหล่านั้นไม่กลับมาเยือนโลก หรือ เผยตัวให้มนุษย์ได้เห็นอีกในยุคปัจจุบัน?...และจากข่าวคราว UFO ที่ออกมาเป็นระยะๆ(ถ้าจริง) ก็ดูเหมือนปัจจุบันมนุษย์ต่างดาวมักมากันแบบลับๆ หลบๆซ่อนๆ เหมือนไม่อยากปรากฏตัวนัก ด้วยเหตุอันใด?

- หากสนใจรายละเอียดปลีกย่อย แง่มุมเชิงลึกต่างๆ รวมทั้งหลักฐานทางโบราณคดีอันสุดแสนน่าทึ่งอื่นๆอีกมากมายทั่วโลก ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีพระเจ้าอวกาศ...ลองหาชมได้จาก สารคดีทีวีซีรีย์-DVD (หรือYoutube) ในชุดที่ชื่อ "Ancient Aliens" ผลิตโดย The History Channel เป็นอีกสารคดีที่คอไซ-ไฟ ไม่ควรพลาด :) -



ANCIENT ALIENS - CHARIOTS, GODS AND BEYOND (Thai)


 รัก http://www.scifi.siligon.com/s_03aliengod.html
บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
คาวบอยปะทะเอเลี่ยน Cowboys & Aliens
หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
มดเอ๊ก 2 8063 กระทู้ล่าสุด 20 เมษายน 2554 00:24:35
โดย wondermay
คาถาต่อกระดูก (สารคดี)
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 0 3251 กระทู้ล่าสุด 13 มิถุนายน 2554 16:44:32
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
สารคดี : สุดยอดงานทางทหาร
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 0 2352 กระทู้ล่าสุด 31 สิงหาคม 2555 02:09:43
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
สารคดี Ancient Aliens - 209 - Alien Devastations (พากย์ไทย)
หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
Compatable 0 7047 กระทู้ล่าสุด 12 พฤศจิกายน 2555 14:35:30
โดย Compatable
สารคดี แมลงสาบ สัตว์สารพัดประโยชน์ แหวะ
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 2 2668 กระทู้ล่าสุด 26 มีนาคม 2556 12:23:10
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.57 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 22 กุมภาพันธ์ 2567 05:12:32