[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 02:08:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รู้หรือไม่ถึงต้นเหตุที่พระเทวทัตจองเวรพระพุทธเจ้ามาทุกภพชาติ  (อ่าน 2008 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Compatable
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1210


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Firefox 18.0 Firefox 18.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2556 16:11:38 »

เรื่อง ต้นเหตุพระเทวทัตจองเวรพระพุทธเจ้า
(เสริววาทนิชชาดก)

“อันธะตะมัง ตะฑา โหติ ยัง โลโภ สะหะเต นะรัง

เมื่อความโลภเข้าครอบงำคน เวลานั้นก็มีแต่ความมืดตื้อ”


คือในอดีตนับถอยหลังจากกัปนี้ลงไป มีพ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับอยู่ ๒ คน คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ คนหนึ่งซื่อสัตย์ ทั้งคู่อยู่ในเมืองเสรีวะ อยู่มาคราวหนึ่งทั้ง ๒ ได้เดินทางข้ามแม่น้ำนีลวะหะ เข้าไปยังเมืองอริฏฐบุรี ไปถึงตำบลหนึ่งพร้อมกัน พ่อค้าคนซื่อสัตย์เข้าทางตะวันออก ส่วนพ่อค้าเจ้าเล่ห์เข้าทางตะวันตก ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าทางตะวันตกได้ไปถึงบ้านเศรษฐีตกยาก (ล้มละลาย) คนหนึ่งก่อน ซึ่งในบ้านนี้มีเหลือยู่แค่ยายกับหลานสาวเท่านั้น ภายในบ้านยังมีถาดทองคำอยู่ถาดหนึ่ง ซึ่งนำไปเก็บปะปนกันกับเศษภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว

เมื่อหลานสาวเห็นพ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับก็อยากได้เครื่องประดับจึงบอกกับยายว่า “ยายจ๋า เรามีถาดเก่าอยู่ใบหนึ่ง พอจะเอามาแลกเครื่องประดับกับพ่อค้าได้ไหม ?” ยายจึงบอกหลานสาวให้เชิญพ่อค้าเข้ามาในบ้าน แล้วบอกกับพ่อค้าว่า “นายจ๋า เรามีถาดเก่าอยู่ใบหนึ่ง พอจะแลกเครื่องประดับเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ไหม ?” จึงนำถาดเก่าสนิมจับเกรอะกะใบหนึ่งมออกมาแลก ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ด้วยความที่เป็นพ่อค้าเร่มานานได้เห็นและจับดูก็สงสัยเนื่องจากน้ำหนักผิดปกติที่ควรจะเป็น จึงได้เอาเข็มกรีดดู ก็รู้ว่าเป็นทองคำ

เมื่อรู้ว่าเป็นทองคำแน่แล้ว ได้ชั่งน้ำหนักดู เห็นว่าถาดใบนี้มีมูลค่าตั้ง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ ก็ดีใจมากคิดอยากได้เปล่า จึงแกล้งบอกว่า “ถาดของพวกเจ้านี้ไม่มีราคาเท่าไหร่เลย ราคามูลค่าไม่ถึงสลึง จะมาแลกเอาอะไรกับของ (เครื่องประดับ) ๆ ข้าได้” แล้วก็โยนถาดลงกับพื้นเสมือนของไม่มีราคา แล้วออกเดินเร่ขายเครื่องประดับต่อไป ด้วยคิดจะย้อนกลับมาเอาเปล่าหรือเอาอย่างราคาถูกที่สุดในภายหลังก่อนกลับ (ด้วยคิดจะทำให้ยายและหลานสาวตายใจก่อน)

แต่พอไปสักครู่ใหญ่พ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับคนที่ซื่อสัตย์ที่เข้าทางตะวันออกก็มาถึงที่บ้านเศรษฐีตกยากหลังนี้ เมื่อหลานสาวเห็นก็อยากได้เครื่องประดับอีกจึงบอกกับยายว่า “ยาย มีพ่อค้ามาอีกคนแล้ว เราลองเอาถาดเราไปแลกดูอีกครั้งจะดีไหม ?” ยายบอกกับหลานว่า “ขนาดเมื่อกี้เขายังโยนถาดของเราทิ้ง แถมยังตีราคาให้ไม่ถึงสลึงเลย พ่อค้าคนนี้เขาจะรับของเราหรือ” หลานได้บอกกับยายว่า “แต่พ่อค้าคนนี้ดูท่าทางใจดี ไม่เหมือนพ่อค้าคนก่อนซึ่งพูดหยาบไม่น่านับถือ เดี๋ยวหนูไปเชิญเขาเข้ามาในบ้านนะยาย” เมื่อพ่อค้าเร่ได้เข้ามาในบ้าน ยายก็นำถาดเก่าสนิมจับเกรอะกะใบนั้น (ถาดทองคำ) มาขอแลก

และเนื่องด้วยที่เป็นพ่อค้าเร่มานานเช่นกัน เมื่อพ่อค้าก็หยิบถาดทองคำขึ้นดู ก็รู้สึกว่าหนักผิดปกติก็เอาเข็มกรีดดู พอรู้ว่าเป็นทองคำแน่แล้ว แล้วชั่งน้ำหนักดู ก็บอกตามความเป็นจริงกับยายและหลานสาวว่า “ยาย จ๋า ถาดนี้เป็นทองคำนะยาย เราตีราคาถาดทองคำนี้เท่ากับ ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ” ยายตกใจและค่อย ๆ พูดขึ้นอย่างใจเย็นว่า “พ่อค้าเร่ขายเครื่องประดับคนก่อนตีราคาถาดนี้ไม่ถึงสลึงเลย และเราไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะมีถาดทองคำที่มีมูลค่าทรัพย์ถึง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ อยู่ในมือ ถ้าอย่างนั้นก็เห็นจะเป็นบุญของหลาน เราจะให้ถาดนี้แก่หลานชาย ขอให้หลานชายให้เครื่องประดับแก่หลานสาวของยายสักเล็กน้อยก็แล้วกัน”

พ่อค้าเร่ผู้ซื่อสัตย์นั้นจึงบอกว่า “วันนี้จากการขายเครื่องประดับและเงินทั้งหมดของเราก็มีเพียงประมาณ ๕๐๐ กหาปณะเท่านั้น หลานจักยกให้หมด แล้วจักแถมของ (เครื่องประดับ) ให้อีก” ว่าแล้วก็ยกเครื่องประดับที่เหลือทั้งหมดมีมูลค่ารวมประมาณ ๕๐๐ กหาปณะ กับเงิน ๕๐๐ กหาปณะให้ เหลือเงินไว้เดินทางกลับถึงบ้านเพียงแค่ ๘ กหาปณะ แล้วพ่อค้าเร่ที่ซื่อสัตย์ก็เอาถาดทองคำใบนั้นไป หมายจะขึ้นเรือเดินทางกลับเมืองเสรีวะ

ห่างไปไม่นานอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าเมืองทางด้านตะวันตก ก่อนกลับก็ย้อนกลับมาที่บ้านเศรษฐีตกยากนี้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยหวังว่าจะมาเอาถาดทองคำให้ได้ ยายได้บอกกับพ่อค้าเจ้าเล่ห์ว่า “ถาดเก่าของยายมีมูลค่าถึง ๑๐๐,๐๐๐ กหาปณะ แต่เจ้ากลับตีราคาให้ไม่ถึงสลึง พอดีมีพ่อค้ายุติธรรมผ่านมา ข้าเลยมอบให้เขาไปแล้ว โน้นเขาขึ้นเรือกลับไปแล้ว” เมื่อพ่อค้าเจ้าเล่ห์รู้เรื่องก็เสียใจล้มลงทั้งยืน เมื่อตั้งสติได้พ่อค้าเจ้าเล่ห์ก็ทิ้งข้าวของที่ติดตัวมากระจัดกระจายระเนระนาด คว้าไม้คันชั่งหมายทำเป็นค้อนออกวิ่งไล่ตาม เมื่อไปถึงริมตลิ่ง แล้วตะโกนเรียกให้เรือกลับมารับตน

พ่อค้าซื่อสัตย์ซึ่งกำลังนั่งเรือข้ามน้ำจวนจะถึงฝั่งโน้นแล้ว สังเกตเห็นพ่อค้าเจ้าเล่ห์มีอาการโกรธ ฉุนเฉียว ไร้สติ จึงสั่งให้คนพายเรือแจวต่อไปไม่ต้องกลับเรือไปรับ เมื่อฝ่ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์เห็นเรือไม่กลับมารับตน ได้แต่มองเรือกำลังลับตาไปทุกขณะ ก็เกิดความพยาบาทอาฆาตแค้นเป็นอย่างมาก ก็กล่าวคำจอเวรขึ้นว่า “ขอให้เราได้ทำร้ายท่านในชาติต่อ ๆ ไปให้จงได้” ว่าแล้วก็ถึงกับหัวใจล้มเหลว โลหิตพุ่งออกจากปากถึงแก่ความตาย มาชาติสุดท้ายพ่อค้าเจ้าเล่ห์ที่เข้าเมืองด้านตะวันตกนั้นได้มาเกิดเป็นพระเทวทัต ส่วนพ่อค้าอีกคนที่ซื่อสัตย์ที่เข้าเมืองด้านตะวันออกได้มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า จบเรื่องนี้ใน เสริววาทนิชชาดก เอกนิบาท เท่านี้.

ธรรมนิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

“ความคดโกงไม่ดีเลย”
“โลภนักมักฉิบหาย โลภนักมักตัวตาย”
“ความโลภอยากได้ของเขา ทำให้เกิดความโกรธ”

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
Compatable
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +3/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1210


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Firefox 18.0 Firefox 18.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 กุมภาพันธ์ 2556 16:12:48 »

บันทึกการเข้า
คำค้น: พระเทวทัต พระพุทธเจ้า ชาดก 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.263 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 28 มีนาคม 2567 20:22:06