[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 06:32:42 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องอภัยราชกุมาร  (อ่าน 3999 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.8 Firefox 3.6.8


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553 09:07:38 »



<a href="http://www.youtube.com/v/ZV4yjdrC69E?fs=1&amp;amp;hl=en_US" target="_blank">http://www.youtube.com/v/ZV4yjdrC69E?fs=1&amp;amp;hl=en_US</a>


....................................ข้อความเบื้องต้น................................



พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระเวฬุวันทรงปรารภอภัยราชกุมาร ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า เอถ ปสฺสถิมํ โลกํ {ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้}เป็นต้น



พระกุมารได้รับพระราชทานราชสมบัติ


ได้ยินว่าเมื่ออภัยราชกุมารนั้นทรงปราบปรามปัจจันตชนบทให้สงบมาแล้ว

พระเจ้าพิมพิสารผู้พระบิดา ทรงพอพระทัยแล้วพระราชทานหญิงฟ้อนคนหนึ่งผู้

ฉลาดในการฟ้อนและการขับแล้วได้พระราชทานราชสมบัติสิ้น ๗ วันอภัยราช -

กุมารนั้นไม่เสด็จออกภายนอกพระราชมนเฑียรเลยเสวยสิริแห่งความเป็นพระราชา

สิ้น ๗ วันเสด็จไปสู่ท่าแม่น้ำในวันที่ ๘ ทรงสรงสนานแล้วเสด็จเข้าไปสู่พระ

อุทยานประทับนั่งทอดพระเนตรการฟ้อนและการขับของหญิงนั้นดุจสันตติมหา-

อำมาตย์ในขณะนั้นเองแม้นางนั้นได้ทำกาละ(ตาย)ด้วยอำนาจกองลมกล้าดุจศัสตรา

เหมือนหญิงฟ้อนของสันตติมหาอำมาตย์พระกุมารมีความโศกเกิดขึ้นแล้วเพราะ

กาลกิริยาของหญิงฟ้อนนั้นทรงดำริว่าผู้อื่นเว้นพระศาสดาเสียจักไม่อาจเพื่อให้

ความโศกนี้ของเราดับได้ดังนี้แล้วจึงเข้าไปเฝ้าพระศาสดากราบทูลว่า...........พระเจ้า

ข้าขอพระองค์จงให้ความโศกของข้าพระองค์ดับเถิด




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 สิงหาคม 2553 09:44:06 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.8 Firefox 3.6.8


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553 09:15:34 »





.................................ระงับความโศก..............................



พระศาสดาทรงปลอบพระกุมารนั้นแล้วตรัสว่า กุมารก็ประมาณแห่งน้ำตาทั้ง

หลายที่เธอร้องไห้อยู่ในกาลแห่งหญิงนี้ตายแล้วอย่างนี้นี่แลให้เป็นไปแล้ว

ย่อมไม่มีในสงสารซึ่งมีที่สุดอันใคร ๆ รู้ไม่ได้ทรงทราบความที่ความโศกเป็นภาพ

เบาบางเพราะเทศนานั้นแล้วจึงตรัสว่า.......กุมารเธออย่าโศกเลย

ข้อนั้นเป็นฐานะเป็นที่จมลงของชนพาลทั้งหลายดังนี้แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า................................

ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันตระการดุจ -

ราชรถที่พวกคนเขลาหมกอยู่(แต่)พวกผู้รู้หาข้องอยู่ไม่





(:LOVE:)แก้อรรถ รัก




บรรดาบทเหล่านั้นสองบทว่า เอถ ปสฺสถ พระศาสดาตรัสหมายเอาพระราช

กุมารนั่นเอง สองบทว่า อิมํ โลกํ ได้แก่ อัตภาพ กล่าวคือ ขันธโลกเป็นต้นนี้ บทว่า

จิตฺตํ ความว่า อันวิจิตรด้วยเครื่องประดับมีเครื่องประดับคือผ้าเป็นต้นดุจราชรถอัน

วิจิตรด้วยเครื่องประดับมีเเก้ว ๗ ประการ เป็นต้น สองบทว่า ยตฺถ พาลา ความ

ว่า พวกคนเขลาเท่านั้นหมกอยู่ในอัตภาพใด บทว่า วิชานตํ ความว่า แต่สำหรับ

พวกผู้รู้คือบัณฑิตทั้งหลายหามีความข้องในกิเลสเครื่องข้อง คือราคะเป็นต้นแม้อย่าง

หนึ่งในอัตภาพนั้นไม่

ในเวลาจบเทศนาพระราชกุมารตั้งอยู่ในโสดาปัตติผลแล้วพระธรรมเทศนา

ได้มีประโยชน์แม้เเก่ผู้ประชุมกันดังนี้แล



................................จบเรื่องอภัยราชกุมาร.............................



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 สิงหาคม 2553 09:36:18 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1921


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Firefox 3.6.8 Firefox 3.6.8


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553 09:26:07 »





พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งโลก ๖ โลก คือ โลกทางตา โลกทาง หู



โลกทางจมูก โลกทางลิ้น โลกทางกาย และโลกทางใจ ทรงรู้โลกทั้ง ๖ โลกตาม

ความเป็นจริง ซึ่งเป็นโลกที่พระอริยเจ้ารู้กัน สำหรับปุถุชนไม่รู้ไม่เข้าใจโลกในพระ -

อริยเจ้ารู้ก็ติดข้องอยู่เพราะฉะนั้นไม่ใช่ไปรู้โลกอื่นซึ่งไม่ใช่โลกทางตาโลกทางหู

และโลกทางใจตามความเป็นจริงหรือไปรู้เรื่องราวต่าง ๆ สัตว์ บุคคล สิ่งของต่าง ๆ

ซึ่งไม่ใช่สภาพธรรมที่มีจริง ๆ แล้วก็ติดข้องอยู่กับความไม่มีสาระว่ามีสาระ

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสพระคาถานี้ว่า.......................................

ท่านทั้งหลายจงมาดูโลกนี้อันตระการดุจราชรถ ที่พวกคนเขลาหมกอยู่(แต่)พวกผู้รู้หา

ข้องอยู่ไม่
                                  
ท่านอาจารย์{สุจินต์}กล่าวว่า...................ขณะที่คิดว่าเป็นโลก เป็นสัตว์ บุคคล วัตถุสิ่งของต่าง ๆ

นั้นเป็นชั่วขณะที่จิตคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏให้เห็นแต่ขณะที่กำลังเห็นเป็นอีกขณะ

หนึ่งไม่ใช่ขณะที่กำลังคิดนึกเรื่องสิ่งที่ปรากฏแต่ละคนก็มีจิตเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ

เดียว ๆ สืบต่อกันไปทีละขณะจนปรากฏเหมือนกับว่าเป็นโลกที่กว้างใหญ่มีผู้คนและ

สิ่งต่าง ๆ มากมายแต่จะเข้าใจโลกจริง ๆ นั้นต้องรู้ว่าสภาพธรรมปรากฏเพียงแต่ละขณะจิตเท่านั้น



ท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์และคณะวิทยากร มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่อภิธรรม บานธรรมมะ บุคโล ธนบุรี



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15 สิงหาคม 2553 09:35:17 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553 16:50:20 »


อนุโมทนาสาธุธรรมค่ะ น้อง"บางครั้ง"

บันทึกการเข้า
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 15 สิงหาคม 2553 18:08:30 »

สาธุ อนุโมทนามิ
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น: อภัย พระไตรปิฏก สุตันต บางครั้ง พระพุทธเจ้า ฟัง พุทธกาล dhamma 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.192 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 13 เมษายน 2567 22:03:49