[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 พฤษภาคม 2567 06:39:24 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หมู่เกาะเบอร์มิวดา กับปริศนา "สามเหลี่ยมปีศาจ"  (อ่าน 2885 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5505


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 9.0 MS Internet Explorer 9.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2556 18:14:04 »

.


หากกล่าวถึงเบอร์มิวดา  ผู้อ่านมักจะคิดว่าดินแดนนี้ลึกลับซับซ้อน ยานพาหนะไม่ว่าเรือ หรือเครื่องบินกระดิกพลิกตัวแล่นหรือบินผ่านไปก็มักจะหายวับไปกับตา อันตรธานไปจากโลกนี้  ใครมาเล่าให้ฟัง ว่าจะไปเยือนเบอร์มิวดา ผู้ทราบข่าวจะต้องตาลุกโพลง เหมือนกับว่าจะไปแดนดินถิ่นมหัศจรรย์ แล้วจะไม่ได้กลับมาอีกอย่างนั้น

โดยแท้ที่จริง เบอร์มิวดาก็เป็นหมู่เกาะธรรมดาที่มีประชาชนพำนักพักอาศัยอยู่ นับเมื่อปี ๒๐๐๗ ประมาณ ๖๖,๑๖๓ คน  เพียงแต่ว่าเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดายที่สุดในโลก อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ห่างจากภาคตะวันออกของแหลมแฮตเทอร์รัสของรัฐนอร์ทแคโรไลนา ๙๖๕  กิโลเมตร ห่างจากหมู่เกาะเวสต์อินดีส ๑,๓๐๐ กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะหินปะการังและเกาะเล็กเกาะน้อย ๓๖๐ เกาะ มีพื้นที่รวมทั้งหมด ๕๘.๘ ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงชื่อ "แฮมิลตัน" (Hamilton)

เบอร์มิวดาไม่มีแม่น้ำหรือทะเลสาบแม้แต่แห่งเดียว  ประชาชนคนที่นั่นต้องอาศัยน้ำฝนและน้ำจากโรงกลั่นน้ำขนาดใหญ่นำมาใช้อุปโภคบริโภคกันเท่านั้น

คนเบอร์มิวดามีรายได้สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ธุรกิจที่สำคัญและนำเงินตราต่างประเทศเข้ามามากที่สุดก็คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พวกธนาคารนอกประเทศก็ชอบมาตั้งที่เกาะนี้ บริษัทประกันภัยก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว รัฐบาลเบอร์มิวดาก็จึงเก็บภาษีจากธุรกิจธนาคารและประกันภัยได้มาก  อุตสาหกรรมต่างๆ ก็มีเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมผลิตสี น้ำหอม การต่อเรือ และยารักษาโรค แม้ว่าจะเป็นเกาะอยู่กลางมหาสมุทรสุดขอบฟ้า แต่ที่นี่การเกษตรก็ทำได้ดี  บนเกาะเบอร์มิวดาปลูกกล้วยหอมได้เยอะ มันฝรั่ง ส้ม หรือดอกไม้อะไรนี่ ก็ปลูกได้ทั้งนั้น


http://www.matichon.co.th/online/2008/08/12193851591219387086l.jpg
หมู่เกาะเบอร์มิวดา กับปริศนา "สามเหลี่ยมปีศาจ"

ภาพจาก : matichon.co.th

เบอร์มิวดาเป็นประเทศเอกราชชาติอิสระหรือ?  ต้องตอบว่าไม่ใช่  

เบอร์มิวดาเป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักรที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงเหลืออยู่ โดยมีชาวอังกฤษมาตั้งรกรากก่อนการรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรถึงสองศตวรรษ ปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ  มีสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ ๒ เป็นพระประมุข  โดยข้าหลวงใหญ่ทำหน้าที่แทนพระองค์ของกษัตริย์อังกฤษ  ดูแลในด้านการต่างประเทศ  กลาโหม และมหาดไทย  มีนายกรัฐมนตรี มีรัฐสภาที่ประกอบไปด้วยสภาผู้แทนราษฎร ๔๐ คน และวุฒิสมาชิก ๑๑ คน คนส่วนใหญ่ก็นับถือศาสนาคริสต์ ใช้อังกฤษเป็นภาษาราชการ  มีเงินสกุลของตนเองคือ ดอลลาร์เบอร์มิวดา  (Bermuda dollar) หรือ BMD

ดังนั้น เบอร์มิวดาจึงไม่ใช่ดินแดนลึกลับซับซ้อนตามที่เราเข้าใจ แต่เป็นแดนดินถิ่นที่มีอยู่จริง และมีการบริหารบ้านเมืองที่ทันสมัย

ผู้พบหมู่เกาะเบอร์มิวดาครั้งแรกเป็นชาวสเปน  พบเจอแล้วก็ออกไป  เกาะนี้ยังไม่มีคนมาตั้งถิ่นฐาน จนกระทั่ง พ.ศ.๒๑๕๒ เรือของชาวอังกฤษมาอับปางลง  ก็ได้อาศัยหมูที่ชาวสเปนนำมาปล่อยทิ้งไว้เมื่อสมัยร้อยกว่าปีก่อนหน้านั้นรับประทานเป็นอาหาร   ต่อมาก็มีการเอาพวกแอฟริกาและอเมริกันอินเดียนมาเป็นทาสบนเกาะ และให้เพื่อปลูกยาสูบ  ปัจจุบันทุกวันนี้ บนเกาะเบอร์มิวดาจึงมีพวกแอฟริกัน และอเมริกันอินเดียนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก  

นักท่องเที่ยวทั่วโลกนิยมไปว่ายน้ำ ดำน้ำ ตกปลา และแล่นเรือในเบอร์มิวดา เพราะที่นี่มีอากาศดีเกือบตลอดทั้งปี มีกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์ไหลผ่าน อาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของผู้คนก็ยังมีเสน่ห์แบบอาณานิคม ตามชายฝั่งมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่ลมและน้ำทะเลเซาะให้เป็นรูปร่างเหมือนเจดีย์ เสาหิน และถ้ำที่สวยงามมากมาย

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒  จนถึง พ.ศ. ๒๔๘๙ มีกฎหมายห้ามขับขี่รถยนต์บนเกาะทุกแห่ง ใครไปเที่ยวเบอร์มิวดา ต้องเดินทางด้วยรถจักรยาน รถม้า เรือ หรือใช้รถรางเท่านั้น  จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๘๙  จึงยกเลิกกฎหมายนี้  และยินยอมให้แต่ละครอบครัวมีรถยนต์ได้เพียงคันเดียวเท่านั้น  บนเกาะนี้ห้ามมีบริการรถเช่า  การกำหนดวิถีการเดินทางแปลกๆ อย่างนี้ ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัส

แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเกาะเบอร์มิวดาประมาณ ๖๐๐,๐๐๐ คน ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนไม่น้อย  ถ้าเปรียบกับพื้นที่เกาะ จำนวน ๕๘.๘ ตารางกิโลเมตร  และทำให้ ๔๐% ของรายได้ที่เข้าประเทศทั้งหมดนั้น มาจากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว  เบอร์มิวดาจึงเป็นอีกแดนดินถิ่นหนึ่งที่น่าไปเยือน และน่าเอาเป็นตัวอย่างด้านการบริหารจัดการท่องเที่ยวที่สร้างกฎเกณฑ์อะไรแปลกๆ ขึ้นมาให้เป็นที่น่าสนใจ



แต่สิ่งที่เรารู้จักประเทศเบอร์มิวดามากที่สุด คือความอัศจรรย์ของ "สามเหลี่มเบอร์มิวดา" (Bermuda Triangle)  บริเวณสมมติในมหาสมุทรแอตแลนติก มีเนื้อที่ประมาณ ๑.๒ ตร.กม. อยู่ระหว่างจุด ๓ จุดที่ไม่เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ได้แก่ เปอร์โตริโก ปลายสุดของมลรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นที่รู้จักทางสื่อมวลชนอย่างแพร่หลาย หลังจากที่ค้นพบว่าคุณสมบัติทางฟิสิกส์ต่างๆ ไม่เป็นไปตามกฎพื้นฐาน
 
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เริ่มเป็นที่รู้จักในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ (ค.ศ. ๑๙๕๑) หลังจากที่มีเรือขนาดใหญ่หายสาบสูญภายในบริเวณสามเหลี่ยม รวมถึงเครื่องบินและเรือขนาดเล็กอื่นๆ จนได้รับขนานนามว่า "สามเหลี่ยมปีศาจ" (The Devil′s Triangle)

สำหรับศัพท์คำว่า "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา" หรือ "Bermuda Triangle" นี้ มีที่มาจากบทความนิตยสารอาร์กอสซี่ เจ้าของบทความชื่อ Vincent H. Gaddis ได้นำเสนอเรื่องราวของเรือและเครื่องบินที่สาบสูญไปอย่างลึกลับโดยปราศจากคำอธิบายในนิตยสารดังกล่าว เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๖๔ แต่ แกดดิส ไม่ได้เป็นคนแรกที่สังเกตเรื่องนี้  ก่อนหน้าในปี ค.ศ.๑๙๕๒ นาย George X. Sands เสนอเรื่องทำนองนี้เช่นกันในนิตยสาร Fate เนื้อหากล่าวถึงปริมาณของเรือและเครื่องบินที่สาบสูญไปอย่างผิดปกติในบริเวณน่านน้ำดังกล่าว ซึ่งยอดสูญหายนี้มันมากเกินไปกว่าที่จะสันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุ
  
ต่อมาถัดมาในปี ค.ศ. ๑๙๖๙ นายวอลเลซ สเปนเซอร์ ได้เขียนหนังสือว่าด้วยสามเหลี่ยมปริศนานี้โดยเฉพาะออกจำหน่ายในชื่อว่า "Limbo of the Lost" ถัดจากนั้นก็มีหนังสือออกจำหน่ายตามมาอีกมากมายเกี่ยวกับความลึกลับของสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ซึ่งก็มียอดจำหน่ายดีแทบทุกเล่ม ที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษคือบทความที่มีชื่อว่า "The Devil′s Triangle" ตีพิมพ์ในปี ค.ศ. ๑๙๗๔ ซึ่งเนื้อหาสำหรับเป็นที่ชื่นชอบความลึกลับเกี่ยวกับสามเหลี่ยเบอร์มิวดาเป็นอันมาก เป็นที่น่าสังเกตคือ หนังสือแทบทุกเล่มมุ่งประเด็นไปยังมุมมองที่ว่า เบื้องหลังของการสูญหายนี้ มาจากเทคโนโลยีของสิ่งทรงภูมิปัญญามากกว่าประเด็นอื่น เช่น มาจากมนุษย์ต่างดาว หรือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรบริเวณนั้น ต่างก็หาหลักฐานและทฤษฎีมาถกเถียงกัน
 
บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวดามีอาณาบริเวณที่กว้างมากจาก ฟลอริด้า-เปอร์โต ริโก-เกาะเบอร์มิวดา กินพื้นที่ประมาณ ห้าแสนตารางไมล์ เพราะฉะนั้นการจะค้นหาอะไรๆจากสามเหลี่ยมเบอร์มิวดาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็มีองค์กรของรัฐ เอกชน ต่างให้ความสนใจในการสำรวจ โดยหวังว่าจะเจอหลักฐานอะไรก็ตามที่นำมาใช้ไขปริศนาของดินแดนบริเวณนี้ได้ และมีนักบินขี่เครื่องบินสามลำแล้วหายไปในสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
 
นอกจากปริศนาอันลึกลับของ "สามเหลี่ยมปีศาจ" นี้แล้ว เบอร์มิวด้า ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายสีชมพู เลื่องชื่อของอุทยานแอสท์วู้ด ท่าเรือแฮร์มิลตันที่คึกคัก รวมทั้งโบสถ์และปราสาทโบราณที่งดงามอีกมาก ที่สำคัญยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์การค้นพบหมู่เกาะต่างๆ อย่างบันทึกของ จอห์น สมิธ ผู้เขียนประวัติศาสตร์ครั้งแรกของหมู่เกาะเบอร์มิวดา เป็นต้น



หาดทรายสีชมพูที่เบอร์มิวด้า



เมืองแฮมิลตัน



อ้างอิง ๑. เบอร์มิวดา  หน้า ๒ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
         ๒. เปิดประเทศเบอร์มิวดา  หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน
         ๓. วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี

* สำหรับหนังสือพิมพ์ที่อ้างอิงนั้น จะตัดเก็บรวบรวมสิ่งที่น่าสนใจไว้จำนวนมากหลังอ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
   แต่ลืมจดบันทึกรายละเอียดวันเดือนปี ฯลฯ ไว้... ต้องขออภัยค่ะ

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 สิงหาคม 2556 22:29:57 โดย Mckaforce » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
"Lemon Soup" อาสาส่ง"ทุกวัน"เพลงกระตุ้น"รัก"ที่เมื่อรู้สึกแล้วต้อง"บอก"
หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
มดเอ๊ก 0 5513 กระทู้ล่าสุด 03 มิถุนายน 2554 10:29:07
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.378 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 12 พฤษภาคม 2567 09:14:50