ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« เมื่อ: 18 มกราคม 2553 00:39:07 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 00:41:40 » |
|
ได้มีการส่งผ่านคัมภีร์โบราณของไบเบิ้ล เรียกว่า "ทัลมุด" มายังบิลลี่ก่อนแล้ว โดยมีการสูญเสียชีวิตบ้าง อันว่า บิลลี่นี้ เหมือนเป็นศาสดาของวงการจานบินไปแล้ว เพราะได้รับแนวคิด-คำสอนจากชาวพลีอิเดี้ยนมามาก บางครั้งยังอ้างถึงคัมภีร์พระเวท (The Vedas)ของศาสนาฮินดูอีกด้วย
"การตื่นฟื้นของแถบดีเอ็นเอทั้ง 12 แถบ นั้นสอดคล้องกับ การหมุน การตื่นขึ้น การเคลื่อนไหว และการเปิดออกของแหล่งข้อมูลทั้ง12" (ข่าวสารจากพลีอิเดี้ยน-ผ่านทาง บาร์บาร่า มาร์ซิเนียค)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 00:45:43 » |
|
กลุ่มดาวพลีแอด เป็นกลุ่มหนึ่งของระบบดาว เทารัส(Tuarus) ห่างจากโลก 500ปีแสง (ปีแสงคือระยะทางที่แสงใช้เวลาเดินทาง 1 ปี --มันไกลมาก เพราะแสงเดินทางได้วินาทีละสามแสนกิโลเมตร) ในกลุ่มนี้มีราว 250-500 ดวง อยู่รวมกัน แม้ว่าจะมีคนตั้งชื่อไว้แค่ 9 ดวงก็ตาม กระจุกดาวนี้ มีชื่อเรียกเดิมว่า "เจ็ดสาวพี่น้อง"
มีผู้คนมากมายที่ได้ติดต่อกับพลีอิเดี้ยน แต่ที่ติดต่อยาวนาน และเก็บข้อมูล ไว้อย่างมีระบบ ก็คือบิลลี่ ไมเออร์ ชาวสวิส ซึ่งได้ติดต่อกับสาวสวยนาม เซ็มเจส เธอบอกว่ามาจากดาวชื่อ เออร่า ซึ่งมีภูมิประเทศคล้ายเชิงเขาแอลป์ และเชื้อสาย พงษ์เผ่าเหล่ากอของเธอ ก็เหมือนมนุษย์มากๆ ซึ่งก้าวหน้ากว่าชาวโลกอย่างมาก ทั้งด้านเทคโนโลยี่ และทางจิตวิญญาณ บนดาวของเธอ -เธอมีอาชีพเป็นประชาสัมพันธ์ ติดต่อกับชนชาติอื่นๆ -เธอได้รับการฝึกมาอย่างดี และชาวดาวนี้จะติดต่อกับสิ่งมีชีวิต ที่พัฒนาในด้านความคิดความอ่านเท่านั้น และต้องมีเหตุผลด้วย มีจุดประสงค์หลายอย่าง ที่เธอชี้แจงมาดังนี้
1.เพื่อแบ่งปันข้อมูลกับชาวโลกว่า พวกเราไม่ได้อยู่เพียงลำพังในจักรวาลนี้ 2.เพื่อการช่วยเหลือนำทางชาวโลกในด้านศาสนาต่างๆ และเสริมสร้างทางจิตวิญญาณ 3.เพื่อเตือนชาวโลกว่า ได้มีชาวต่างดาวฝ่ายอธรรมสองสามเผ่า ที่กำลังพยายาม เข้าครอบตรองโลก ด้วยเหตุผลของความเห็นแก่ตัว 4.เพื่อเตือนชาวโลกถึงการทำลายธรรมชาติเยี่ยงสัตว์ป่า ซึ่งพวกเราต้องเจอผลกระทบเสียเอง 5.เพื่อช่วยชาวโลกในด้านจิตวิญญาณ และเทคโนโลยี่ ตราบใดที่ความช่วยเหลือนั้น เป็นการบริการแด่พระผู้สร้าง(มีความหมายรวมถึงชาวต่างดาวที่ได้สร้างมนุษย์)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 00:49:25 » |
|
ชาวพลีอิเดี้ยนสามารถเดินทางได้ไกลแสนไกล โดยใช้เวลาอันสั้น เพราะสามารถเปลี่ยนสภาพยานสู่ "อุตตรอวกาศ" -ไฮเปอร์สเปซ พวกเขาเอาชนะ กาลเวลา และอวกาซ(ที่ว่าง) โดยภาวะที่เรียกว่า "ภาวะไร้กาลเวลา" (นัล-ไทม์)
ซึ่งในเสี้ยวๆของวินาที เขาสามารถไปไกลได้นับล้านปีแสงเลยที่เดียว ใช้เวลาเดินทางจากโลกถึงดาวพลีแอดเพียงเจ็ดชั่วโมง ปกติจะเร็วกว่านี้หน่อย แต่เป็นเพราะว่าไม่อาจที่จะออกจากไฮเปอร์สเปซ ให้ใกล้ดวงดาวมากเกินไปนั่้นเอง อายุของชาวพลีอิเดี้ยนสามารถอยู่ได้ ประมาณ หนึ่งพันปี โดยช่วงที่เซมเจสเธอมาติดต่อชาวโลกนั้นเธออายุ 330ปี เทียบกับอายุมนุษย์ทั่วไป เธอเพิ่งจะ 33 ปีเอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 00:55:31 » |
|
ชาวต่างดาวฝ่ายธรรมมะ-ชาวพลีอิเดี้ยน-พลีจารัน (ภาพจานบินของพลีอิเดี้ยน ถ่ายโดยบิลลี่ ไมเออร์) เธอและลูกเรือได้ศึกษาภาษาต่างๆของโลก โดยใช้เครื่ิองสอน ซึ่งจะดึงให้สู่ภาวะคล้าย ๆ สะกดจิต แล้วจะป้อนโปรแกรมภาษา เข้าจิตใต้สำนึก กระบวนการนี้กินเวลา 21 วัน เมื่อเสร็จแล้วจะย้ำ ให้เกิดความเชี่ยวชาญในการพูดอีก 10 วัน
เธอบอกว่ายานของเธอไม่มีการตก-การระเบิดเลย เพราะจะมีระบบ อัตโนมัติที่ควบคุมโอกาส (แห่งความเป็นไปได้) แห่งการล้มเหลว ของระบบเครื่องกล ซึ่งจะพบก่อนที่จะเสียตั้งหลายวันที่เดียว และบนยานแม่บางลำมีก็หุ่นแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นหุ่นปัญญาประดิษฐ์ โดยมีครึ่งหนึ่งเป็นชีวภาพ อีกครึ่งเป็นเครื่องกลไก (ซึ่งจะเห็นว่าข้อมูล ในหนังสตาร์เทรคนั้นใกล้ความจริงมากกว่าที่เราคิดกัน) ดาวเออร์ร่าของเซ็มเจสนั้นก้าวหน้ากว่าโลกถึงสามพันปีในด้านของเทคโนโลยี ยานต่างๆจะมีระบบพรางตัว ซึ่งเราไม่สามารถจะมองเห็นมันได้ แม้ว่า มันจะลอยตัวอยู่ตรงหน้าเราก็ตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:00:13 » |
|
ชาวพลีอิเดี้ยนเชื่อในพระเจ้าและการเวียนว่ายตายเกิด(ระลึกชาติ) และมาที่โลกนี้เพื่อการรับใช้ช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ได้มองตนว่าสมบูรณ์แบบ หรือเหนือกว่ามนุษย์ แต่มองเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง เพื่อเป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น พวกเขาบอกว่าเวลาตามนาฬิกานั้น เป็นเพียงการสร้างสมทางจิตใจและอารมณ์ ทำให้มนุษย์เหมือนติดกับอยู่ ไม่สามารถจะเดินทางไปได้ไกลนักในอวกาศ จนกว่าจะเข้าใจความจริงเรื่องนี้ (ระยะทางกับเวลานั้นเกี๋ยวพันกันอยู่)-- (พอดีถกกันเรื่องเวลาในพันธ์ทิพ งั้นดูเรื่องเวลาในตามแนวคิดชาวพลีอิเดี้ยนละกัน)
คำว่าชาวพลีอิเดี้ยนนั้นหมายถึงการรวมเป็นหนึ่งของเผ่าผู้อาศัยในกลุ่มดาวนี้ ซึ่งกว้างขวางมาก ครอบคลุมประชากรประมาณ 127 พันล้านคน และติดต่อ อยู่กับกลุ่มที่ใหญ่กว่า ในชื่อของ "สมาคมแห่งพหุโลก" (Association of Worlds) เป็นกลุ่มของสิ่งมีชีวิตพวกที่มีร่างกาย และไร้ร่างกายจากหลาย ๆ ระดับของจิตวิญญาณ หรือจะเรียกว่า สมาพันธ์กาแลกติคแห่งดวงดาว ก็ได้ พวกเขามีความหวังที่ว่า ชาวโลกจะได้หลุดพ้นจากธรรมชาติที่ป่าเถื่อน และการกระทำเยี่ยงสัตว์ และสามารถ เข้าร่วมในสมาคมนี้ได้ และสมาคมนี้ก็เป็นที่รับทราบว่าตั้งอยู่ใน ระบบดาวอันโดรเมด้า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:02:59 » |
|
มีบ่อยครั้งมากที่เราสามรถพบเห็นชาวพลีอิเดี้ยนในชีวิตประจำวัน พวกเขาสามารถแฝงตัวกับผู้คนตามท้องถนนโดยเราไม่สามารถรู้ได้ เพราะพวกเขาสามรถหายใจในอากาศของโลกได้ แม้ว่าในระยะยาว จะเกิดโรคไซนัสเพราะมลภาวะในอากาศก็ตาม แม้ว่าจะถูกจับได้ใน บางครั้งว่าไม่ใช่มนุษย์ แต่ก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้อย่างง่ายดาย เพราะมีความสามารถพืเศษที่มีอิทธิพลเหนือความคิดจิตใจของมนุษย์ทั่วๆไป
พวกเขามีเครื่องมือที่อยู่บนยานของเขา ที่สามารถมองทะลุวัตจุทึบแสงได้ เช่นมองเห็นมนุษย์ที่อยู่ในสถานีอวกาศได้อย่างชัดเจน
เมื่อเซ็มเจสถูกถามเรื่องจุดสิ้นสุดของเอกภพ เธอบอกว่าเมื่อสุดเขตเอกภพ ตรงขอบเขตรอยต่อ จะพบว่ามีเครื่องขวางกั้น(แบเรียร์) เธอบอกว่า นั่นคือ เอกภพดาล(Dal Universe) ซึ่งเจริญกว่าโลกของเธอถึง 350 ปีด้านเทคโนโลยี และสองเผ่านี้สนิทสนมปรองดองกันอย่างดี ชาวเอกภพนี้ยังช่วยออกแบบและ สร้างยานบินรุ่นล่าสุดให้กับดาวเออร์ร่าด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:05:21 » |
|
พวกเอกภพดาลเป็นเหมือนชาวนอร์ดิก เหมือนคนเชื้อสายคอเคเชี่ยน ทางยุโรปตอนเหนือ และสามารถหายใจในอากาศของโลกได้ โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยใดๆ มีสิ่งมีชีวิตชาวต่างดาวหลายพวก ที่ไม่เหมือนมนุษย์แบบ อดัม-กัดมอน(ร่างมนุษย์ทั่วไป) ซึ่งเราไม่ควร จะตื่นตกใจไป เพราะอาจเสียโอกาสที่จะได้ติดต่อกับพวกเขา
บิลลี่ ไมเออร์ ได้มีโอกากาสพบพ่อของเซ็มเจส (พทาห์) ซึ่งสามารถ พูดกับเขาเป็นภาษาเยอรมัน เพราะใช้เครื่องแปลภาษาที่ติดอยู่ตรงเข็มขัด เครื่องนี้ใช้เทเลพอร์ท คือล่องหนหายตัวไปในที่ ๆ ต้องการ เหมือนในหนัง สตาร์เทรคมาก ครั้งหนึ่งในการถ่ายรูปจานบิน เขาพบว่าต้นไม้บางต้น ได้หายไปแบบไร้ร่องรอย เมื่อเขาสอบถาม เซ้มเจสบอกว่า ต้นไม้หายไปได้ เพราะเปลี่ยนระบบเวลาของต้นไม้ (เหมือนมันไม่เคยเกิดอยู่ตรงนั้น อาจมาเกิดในอนาคต)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:08:03 » |
|
อารยธรรมดาวไลแรน(กลุ่มดาวพิณ)
ในปี 1977 มีจานบินหนึ่งลำที่ดูแปลกตา ได้ลงจอดที่หน้าบ้านบิลลี่ มีผู้โดยสารมาด้วยสามคน หนึ่งในนั้นแนะนำตัวว่า เธอชื่อมีนาร่า จากระบบดาวพิณ เธอบอกว่า ดาวของเธอมีประชากร 14 พันล้านคน และเข้าสัีงกัดสมาพันธ์ดวงดาวด้วย เธอบอกว่า่่ผู้คนของเธอทำงานร่วมกับ ชาวพลีอิเดี้ยนและชาวเอกภพดาลในการช่วยชาวโลก เธอว่า ยานลำนี้จริง ๆ แล้ว ถูกสร้างไว้ในอนาคตอีก 350 ปี ตามเวลาโลก-แถมยังใช้งานมาตั้ง 250ปีแล้วด้วย เธอยังบอกว่า ชาวไลแรนนั้น มีความเจริญล้ำหน้าชาวเอกภพดาลอยู่ตั้งหลายพันปี(คุยทับซะเลย)
อีกคนชื่ออเลน่า ได้กลับมาอีกครั้งในยานของเธอเอง เธอบอกว่ามาจาก กลุ่มดาวเวก้า ซึ่งอยู่ในระบบดาวพิณ และพวกเวแกน แบบเธอ ก็สืบเชื้อสายมาจากชาวไลแรนเดิม เช่นเดียวกับพวกพลีอิเดี้ยน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:10:15 » |
|
ชาวไลแรนเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์โดยแท้ เมื่อหลายพันปีก่อน พวกเขาขึ้นสู่เทคโนโลยี่ระดับสูง และเกิดความแตกแยกในหมู่ประชากร จนกลายเป็นสงคราม ซึ่งได้ทำลายชีวิตผู้คนไปมากมาย ดังนั้นผู้คนจากดาวพิณ จึงขึ้นยานอวกาศขนาดใหญ่-อพยพไปสู่กลุ่มดาวพลีแอด, ไฮแอดเดส และสู่ระบบดาวเวก้า
บางส่วนของชาวพลีอิเดี้ยนเชื้อสายไลแรน ได้มาสู่โลกในยุคของทวีปเลมูเรี่ยน และแอตแลนติส ซึ่งเขาได้มีบทเรียนจากความสับสนวุ่นวาย และวิวัฒนาการ ผ่านสภาพล้ายสงคราม ดูไปก็คล้ายๆกับญาติทางกาแลกซีของมนุษย์
พระเจ้าได้สร้างร่างกายหลายๆแบบเอาไว้เพื่อให้ชีวิตได้ดำรงอยู่ ในหลายสภาพของแรงโน้มถ่วงและดินฟ้าอากาศ และเป็นพี่ชายน้องสาว แห่งครอบครัวจักรวาลด้วยกัน, แม้ว่าบางแบบก็ดูคล้ายๆกับมนุษย์ บางแบบก็ดูน่าเกลียด,แปลกประหลาดหรือบิดเบี้ยว แต่ก็ควรจำไว้ว่า ความสวยงามนั้นขึ้นอยู่กับสายตาของผู้มองดู (ลางเนื้อชอบลางยา) และมนุษย์ก็สามรถมองดูชั่วร้ายได้เหมือนๆกัน ยังมีชาวต่างดาวที่ ตัวเล็ก, ตัวสูง, เหมือนสัว์เลื้อยคลาน, เหมือนแมลง, ดูคล้ายจระเข้ และบางพวกมีตาเฉียงๆ ไม่มีผม, มีหัวใหญ่, นิ้วยาว และอื่นๆ-- เหมือนในฉากในบาร์ของเรื่องสตาร์วอร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:16:47 » |
|
ชาวต่างดาวฝ่ายธรรมมะ-ชาวพลีอิเดี้ยน-พลีจารัน บิลลี่- (Billy Miere)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:19:06 » |
|
ชาวต่างดาวฝ่ายธรรมมะ-ชาวพลีอิเดี้ยน-พลีจารัน ยานของพลีแอด -(Pleaidids Spaceship)-
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:20:55 » |
|
ชาวต่างดาวฝ่ายธรรมมะ-ชาวพลีอิเดี้ยน-พลีจารัน ชาวต่างดาวฝ่ายธรรมมะ-ชาวพลีอิเดี้ยน-พลีจารัน เซ็มเจส- (Semjase) - พ่อเซ็มเจส(SFATH)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:23:59 » |
|
ชาวไลแรนได้เริ่มสำรวจกลุ่มดาวของพวกเขาเมื่อ 22 ล้านปีก่อน ซึ่งก็ได้แวะเยี่ยมที่ ไฮเปอร์โบเรีย ซึ่งเป็นทวีปที่เกิดก่อนยุค-พรี-เลอมูเรีย โดยในหนังสือ เดอะซีเคร็ทด็อคทริน ของมาดามบลาวัตสกี้ ได้เขียนไว้ ชัดเจนว่า ชาวโลกนั้นได้รับประโยชน์มากมากมายจากการเยี่ยมเยียน ของชาวไลแรนในครั้งนี้
ชาวเวกั้นนั้นมีเทคโนโลยีล้ำ้หน้าชาวพลีอีเดี้ยนอยู่ราว 250ปี พวกเวกั้นนั้น ติดต่อกับพวกเอกภพดาลและได้รับการช่วยเหลือแนะนำอย่างดี ชาวเวกั้นนั้น สีผิวจะคล้ำกว่าไลแรน และมีกระดูกโหนกแก้มสูง ใบหน้ายังเป็นรูปสามเหลี่ยม มากกว่าอีกด้วย ชาวเวกั้นยังต้องช่วยเหลืออาณานิคมของพวกเขาส คือ อัลแทร์ เซ็นทอรี่ ซีริอุส และโอเรี่ยน(ดาวนานพราน) ท่านกลางพวกอื่นแล้ว อัลแทร์จะอยูไกลจากโลกเพียง 15ปีแสง อารยธรรมอัลแทร์นั้น จะเงียบ ๆ เป็นแนวปรัชญา ไม่ยุ่งกันกับการสำรวจอวกาศเลย อารยธรรมทั้งหมดนี้ได้รับ การชี้ทางโดยผู้ไร้ร่างกายซึ่งอยู่ในสภาแอนโดรมีด้า อันโดรเมด้านั้นเป็น กาแลกซี่แบบหมุนวนขนาดใหญ่ ใกล้ที่สุดกับกาแลกซี่ทางช้างเผือกของเรา คือ 2.2ล้านปีแสง
เพิ่มเติมเรื่องชาวพลีอิเดี้ยน ชาวพลีอิเดี้ยนทุกคนจะต้องมีสวนเล็กๆ ที่ปลูกด้วยมือของตน สำหรับพวกเขา มันคือหนทางที่จะได้ติดค่อกับพระผู้สร้าง
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 มกราคม 2553 01:29:34 โดย ไอย »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:32:33 » |
|
เรื่องนี้โดยย่อจากแหล่งข่าวอื่น บิลลี่ติดต่อกับชาวต่างดาวได้ตั้งแต่เด็ก การมองเห็นและการติดต่อ ได้มีมากขึ้นๆ จนกระทั้งเขาอายุได้ 7 ขวบ ในวันเกิดของเขาเอง เมื่อ 3 กพ. 1944 มีเสียงติดต่อมาเป็นการส่วนตัว บอกว่าให้ทำงานนี้ ให้หนักขึ้น เพราะถูกเลือกมา เสียงนั้นบอกว่าชื่อ สฟาธ์(SFATH) เป็นผู้ชายสูงอายุ
หกเดือนหลังจากนั้น ในฤดูร้อน ปี 1944 สฟธ์ได้กลับไปยังยานรูปชมพุ่สีเงิน และได้มารับตัวบิลลี่อีกครั้ง เป็นเวลาสี่ชั่วโมงที่พวกเขาได้พูดถึงภารกิจและ เป้าหมายของบิลลี่ และมีอุปกรณ์เหมือนหมวกกันน็อคและสายไฟ ที่จะทำให้ บิลลี่เห็นภาพต่าง ๆ
เขาได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่มีอิทธิพลในจิตใจ หลุดไปจากโลกและเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ ก่อนที่มันจะเกิด หรือสิ่งที่ตอนนั้นเขาก็ไม่เข้าใจ จากนั้นยานก็มาส่งเขาที่เดิม แล้วบินขึ้นไปในแนวดิ่งด้วยความเร็วสูงมาก
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็มีเสียงที่ติดต่อเข้ามาโดยทางโทรจิต แนะนำตัวว่าชื่อ แอสเก็ต ดูเธอจะเป็นสาวอยู่ แข็งแรง มีพลังมาก
แอสเก็ตได้ติดต่อมาเป็นประจำหลังจากนั้น และมีความรู้อื่นให้อย่างมาก และชี้นำสู่ประสพการ์ณใหม่ในตลอดอีกหลายปี เธอเป็นเพื่อนที่คอยปลอบใจ พาไปยังส่วนต่างๆของโลกของเขา ให้แนวทาง และให้บททดสอบต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะได้เผชิญโลกต่อไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:35:54 » |
|
แอสเก็ตบอกว่าเชื้อสายของเธอเรียกกันว่า เอกภพดาล ซึ่งมีความน่าจะเป็น อย่างมากที่เป็็นส่วนคู่ขนานของสิ่งจริง คือเอกภพของเรา เธอว่าเอกภพของเธอ มีอยู่เพราะเอกภพเรา และเราก็เช่นกัน -มีอยู่เป็นอยู่เพราะเอกภพของเธอ ถ้ามีเหตุที่ทำให้ฝ่ายหนึ่งหายไป อีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามรถดำรงอยู่ได้ และยังมี จักรวาลอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องกันแบบนี้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ คือเรื่องมีสสารแล้ว ต้องมีคู่ปฏิสสารด้วย
ความคิดแบบนี้เขาได้รับทราบหมด เขาได้รับการสอนอย่างเข้มข้นในเรื่อง ของนิยายวิทยาศาสตร์ และแม้แต่ฟิสิกส์ดั้งเดิมยังเพิ่งค้นพบเรื่องปฏิสสาร และความจริงทางเลือกในภาวะอื่น ในเวลาไม่นานนี้เอง
ฟริตจ็อฟ คาปร้า ได้เขียนหนังสือเรื่อง เต๋าแห่งฟิสิกส์-Tao of Physics, ได้แสดงง่ายๆว่า สมการเรื่องสสารนั้นไม่สามราถเป็นจริง ถ้าเราไม่นำเข้าสู่แง่ ของสิ่งตรงข้ามกันคือปฏิสสารด้วย
ไดอะแกรมของไฟน์แมนนั้นเราได้ใช้อธิบายอนุภาคในการตอบโต้กับ กระบวนการพลังงานสูงๆ และเราพบว่ามันสามรถย้อนกลับได้ ในกระบวนการ ที่สสารและปฏิสารทำลายล้างกันในห้องเล็ก ๆ ตามทฤษฎีนั้น มันจะหายไปจากโลกของความเป็นจริงของเราไปสู่โลกของความเป็นจริงแบบอื่นๆ แต่ความสมดุลยังอยู่ คือมันจะคายพลังงานออกเป็นความร้อนหรือแสงกลับคืนมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:39:06 » |
|
หลังจากที่ได้เจอจานบินหลายปี แอนโธนี่ เซอราไทส์ - Anthony Seratites ซึ่งเป็นวิศวกรของ ดาว-เคมิคอล อยู่ก็ได้ตื่นขึ้นในโลกของสสสารและพลังงาน เขาได้นึกถึง เรื่องที่เขาได้เห็น ย้อนหลังไป ว่า ไม่มีอนุภาคพื้นฐานที่เล็กที่สุด เราได้เห็นสิ่งที่แสดงออกเป็น โปรตอน อิเล็คตรอน กลูออน มิวออน ควาร์ก นิวตริโน และอื่นๆ และสิ่งที่แสดงตัวว่าเป็นปฏิ-อนุภาค นั้น ไม่มีอะไรเลยนอกจากก้อนพลังงานของ โฟตอน(เม็ดแสง) ซึ่งจัดรวมตัวขึ้นในหลากหลายแนวทางเท่านั้นเอง
ก้อนโฟตอนนี้จะมองไม่เห็น จนกว่ามันจะรวมตัวขึ้นเป็น"บางสิ่ง" และสามารถเปลี่ยนแปลงเป็น"ปฏิ-บางสิ่ง" ในแง่มุมมองของ เขาเห็นภาพว่าก้อนโฟตอนนี้ คือส่วนของคลื่นอันหนึ่ง มีความโค้ง เคริล หรือสปิน(การหมุน) เขาพบว่าทิศทาง หรือเว็คเตอร์ของมัน เปลี่ยนได้ โดยเปลี่ยนความโค้ง หรือความโค้ง เปลี่ยนกลับทางได้โดย เปลี่ยนมุมการหมุนให้เป็น 90 องศากับแกนหมุนเดิม มันก็จะรวมตัวกัน เป็นสสารได้ แต่เป็นในรูปของปฏิสสาร (เป็นการเดินทางสู่มิติอื่น- เอกภพปฏิสสารเช่นเอกภพดาล-ผู้แปล-ผมเอง)
----เซอราไทส์เขียนไดอะแกรม แสดงถึงว่า อิเลคตรอนอย่างเดียว มีถึง 228 ชิ้นส่วนที่เหมือนๆกัน (เหมือนความคิดของชาวซีต้า หรือเกรย์ -ไม่มีควาร์ก) เขาได้ใช้เวลาหลายปี เขียนหนังสือโครงสร้างทางธรรมชาติ ของวัตถุ-The Structual Nature of Matter และมีไดอะแกรมของ อะตอนและโมเลกุลในหนึังสือชื่อ The Universal Field law ทั้งสองเล่มโดย Anthony D. Seratites.
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:41:43 » |
|
เซอราไทส์เป็นที่รู้จักในนามนักประดิษฐ์แผ่นฟิล์มเซราน ซึ่งเป็นแผ่นบางที่สุด,เบาสุด,และแข็งแรงที่สุด ที่ปกป้องไอน้ำ ไม่ให้ผ่านมันได้ เป็นโลกของเคมีที่เกิดจากความคิดทางอะตอมของเขา และไม่แน่ว่าอีกต่อไป บางทีเขาอาจะได้เป็นเจ้าพ่อแห่งวงการฟิสิกส์ แบบย้อนยุคเข้าสักวัน
วิลเบิร์ท บี สมิธ Wilbert B. Smith ได้ติดต่อกับจานบิน-UFO ในปี1954 เขาได้รับความรู้ต่อเนื่องกับทฤษฎีควอดดราเจอร์ของเขา เกี่ยวกับแอนตี้แมตเตอร์ในอีกรูปแบบหนึ่ง
ในปี 1960 ก่อนที่แอสเก็ตจะได้รับบิลลี่ขึ้นยานจากในสวิส ช่างไฟฟ้าชาวแอฟริกาใต้ ชื่อเอ็ดวาร์ด Edward F. White, ได้ติดต่อกับชาวต่างดาว ซึ่งบอกเขาว่า พวกเขานั้นเดินทางมาจาก โลกของปฏิสสาร หรือมาจากจักรวาลคู่ขนานนั่นเอง
พวกเขากำลังสำรวจสิ่งกีดขวางทางขั้วมิติระหว่างสองจักรวาล และแปลกใจว่าจักรวาลด้านนี้ก็มีสิ่งมีชีวิตอยู่ด้วยเช่นกัน พวกเขาพบว่าระบบเวลาต่างกัน และเริ่มสำรวจดินแดนที่ข้ามมิติ เป็นดินแดนแห่งความจริงแบบอื่น ก็คือจักรวาลแห่งปรากฏการณ์ของเรานี้เอง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ไอย
สมาชิกขาประจำ
นักโพสท์ระดับ 11
คะแนนความดี: +2/-0
ออฟไลน์
เพศ:
Thailand
กระทู้: leet
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 18 มกราคม 2553 01:45:36 » |
|
ต้องขอโทษแฟนพันธุ์แท้เรื่องต่างดาวด้วย ถ้าดูจากในเน็ต มีหลายเว็บเช่นกันที่เสนอว่า บิลลี่คนนี้ได้ทำจานบินปลอมขึ้น จากเครื่องครัว ซึ่งก็พิสูจน์กันแล้วว่าปลอมจริง เป็นที่น่าแปลกใจว่า ภาพต่างๆที่ถ่ายรูปยุคแรก ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นของจริง มีภาพนิ่ง มีเสียงจานบิน มีคลิปวีดิโอ ---มีข้อมูลมากมาย และมีคำสอนที่ดีๆ --- มีรูปของ เซ็มเจส นี่ร่า และแอสเก็ต ซึ่งมีสาว ๆ ออกมาบ่นว่า เป็นรูปของเพื่อนๆเธอที่เป็นดารานักแสดงชาวสวิสทัี้งสิ้น แล้วบิลลี่ ต้องโกหกทำไม หรือเขาเป็นคนโรคจิตที่อยากดัง หรือเพื่อกลบเกลื่อน ว่าสิ่งทั้งกหมดเป็นเรื่องโกหก ซึ่งผิดหลักกู้ชาติของชาวพลีอิเดี้ยน แต่อย่างไรผมก็จะเสนอเรื่องนี้ต่อไป ขอให้มองมันเหมือนของที่มี สองด้านก็แล้วกันนะครับ -
ด้วยจิตคารวะจากผู้เขียน โดย: jesdath 17 มกราคม 2553 6:38:50 น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
กำลังโหลด...