.ระยะนี้อยู่ในช่วงวิกฤติการณ์น้ำท่วม สร้างความเสียหายหลายพื้นที่ในประเทศไทย
แต่ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันศุกร์ที่
13 กันยายน พ.ศ. 2556 ปริมาณน้ำในเขื่อนมีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ดูตามภาพค่ะ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ Pa Sak Jolasid Damอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นตามแนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงให้กรมชลประทานศึกษาความเหมาะสมถึงการสร้างเขื่อนเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสักในฤดูน้ำหลาก และขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน อันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ภายหลังการศึกษาความเหมาะสม และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมแล้ว คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ใช้งบประมาณ 23,336 ล้านบาท (สองหมื่นสามพันสามร้อยสามสิบหกล้านบาทถ้วน) ก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำลุ่มแม่น้ำป่าสัก โดยเริ่มต้นการก่อสร้างเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2537 ใช้เวลากว่า 5 ปี จึงแล้วเสร็จ ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาเสด็จมาเป็นองค์ประธาน และในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2541 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามเขื่อนแห่งนี้ว่า "เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" อันหมายถึง "เขื่อนแม่น้ำป่าสักที่เก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านแก่งเสือเต้น ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี และบ้านคำพราน ตำบลคำพราน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เป็นเขื่อนแกนดินเหนียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 4,860 เมตร ความสูงที่จุดสูงสุด 36.50 เมตร สร้างขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ครอบคลุมพื้นที่ลุ่มน้ำ 14,520 ตารางกิโลเมตร ความยาวลำน้ำจากต้นน้ำถึงเขื่อน 380 กิโลเมตร ความจุที่ระดับเก็บกักน้ำสูงสุด 960,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จุดเด่นที่น่าสนใจภายในเขื่อน ได้แก่ จุดชมวิวสันเขื่อน พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก ซึ่งแสดงความรู้ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม ร้านจำหน่ายของที่ระลึกของชาวบ้าน เช่น ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดทานตะวัน น้ำผึ้ง ไข่เค็มดินสอพอง ในวันหยุดมีรถรางวิ่งพาชมทัศนียภาพบริเวณเขื่อนหอคอยเฉลิมพระเกียรติ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าจามเทวี สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แห่งราชวงศ์จักรี
อดีตบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ
แก่ชาวจังหวัดลพบุรีมาตั้งแต่โบราณกาล
ทางเข้่าหอคอยเฉลิมพระเกียรติ ชั้นบนสุดเป็นกระจกรอบด้าน
สามารถมองทิวทิศน์ของเขื่อนป่าสัก และบริเวณโดยรอบได้อย่างสะดวก
โครงกระดูกมนุษย์โบราณ จัดแสดงในหอคอยเฉลิมพระเกียรติ
ส่วนหนึ่งของโบราณวัตถุที่จัดแสดงในหอคอยเฉลิมพระเกียรติ
รถสวัสดิการ ลากจูง นำนักท่องเที่ยวชมทัศนียภาพอันสวยงามบนสันเขื่อน
ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ไปกลับ 10 กิโลเมตร
ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 25 บาท เด็ก 10 บาท ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงค่ะ
สืบเนื่องจากการก่อสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในเส้นทางรถไฟช่วงสถานีรถไฟแก่งเสือเต้นถึงสถานีรถไฟสุรนารายณ์ (เดิม) ซึ่งเส้นทางรถไฟตั้งอยู่ต่ำกว่าระดับการกักเก็บน้ำของเขื่อน ทำให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ต้องย้ายเส้นทางรถไฟที่จะถูกน้ำท่วมให้ทันกับการสร้างเขื่อน พร้อมทั้งสร้างที่หยุดรถไฟบริเวณดังกล่าวเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งนั้นได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2540 ใช้เวลา 14 เดือน แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ทางรถไฟที่ย้ายมาสร้างใหม่จะอยู่ติดกับอ่างเก็บน้ำเป็นระยะทางรวม 24 กิโลเมตร เมื่อสร้างเสร็จแล้วได้เริ่มมีการเดินรถผ่านเส้นทางดังกล่าว ซึ่งจะเห็นขบวนรถวิ่งบนสันเขื่อนลัดเลาะไปข้างๆ อ่างเก็บน้ำ มองดูเหมือนขบวนรถวิ่งไปบนผิวน้ำ จนชาวบ้านเรียกกันว่า รถไฟลอยน้ำตลอด 2 ข้างทางจะได้ชมทัศนียภาพข้างทางรถไฟอันงดงาม
เส้นทางรถไฟก่อนถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก่อนถึงสถานีรถไฟหินซ้อน จะผ่านไร่ดอกทานตะวันบานสะพรั่งตลอดเส้นทางรถไฟสวยงามมาก ว่ากันว่าเป็นไร่ดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยวชมความงามของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในช่วงฤดูหนาวทุกปี ขบวนรถออกจากกรุงเทพ 06.40 น. ถึงกรุงเทพ 17.45 น. ...
ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี