[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 05:06:20 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาของชื่อ "ขนมจีน" (ที่คนจีนไม่รู้จัก)  (อ่าน 3528 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5462


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 28 กันยายน 2556 14:47:19 »

.


ที่มาของชื่อ ขนมจีน
(ที่คนจีนไม่รู้จัก)

ที่มาของชื่อ "ขนมจีน"  คุณครูพิศาล บุญผูก ครูภูมิปัญหาไทยผู้มีเชื้อสายมอญ เจ้าของพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านบ้านเกาะเกร็ด อ.เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี สืบค้นได้ความมาเป็นข้อสันนิษฐานว่า คำ "ขนมจีน" น่าจะมาจากภาษามอญ จากที่ชาวมอญหรือรามัญเรียกขนมจีนซึ่งเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่กินเป็นประจำ ว่า "คนอมจิน" ทั้งนี้ คนอม แปลว่าจับกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ส่วน จิน แปลว่าทำให้สุก

นอกจากนี้ คำว่า คนอม ยังใกล้เคียงกับคำไทยว่า "เข้าหนม" คือข้าวที่นำมานวดให้เป็นแป้งเสียก่อน ซึ่งภายหลังกร่อนเป็น ขนม โดยที่จริงๆ แล้ว ขนม ในความหมายดั้งเดิมมิใช่ของหวานอย่างที่เข้าใจในปัจจุบัน ขนม หรือหนมในภาษาเขมร หรือคนอมในภาษามอญ หมายถึงอาหารที่ทำจากแป้ง ขนม จีนจึงน่าจะเพี้ยนมาจาก คนอมจิน และนั่นทำให้เกิดสมมติฐานอีกว่า เดิมทีเดียวขนมจีนเป็นอาหารมอญ ก่อนแพร่หลายสู่ชนชาติอื่นๆ ในสุวรรณภูมิ และด้วยเป็นอาหารที่ทำง่าย หารับประทานได้ทั่วไป จึงได้รับความนิยมสูง

สำหรับเมืองไทย เรากินขนมจีนอันประกอบด้วยเส้นเรียกว่าเส้นขนมจีน กับน้ำยาหรือน้ำแกง (รุ่นเด็กอาจกินขนมจีนคลุกน้ำปลา) และสารพัดผัก เป็นสูตรสำเร็จที่นิยมทุกท้องถิ่น แตกต่างกันก็ตรงที่แต่ละท้องถิ่นก็มีการปรุงน้ำยาต่างกัน เช่นเดียวกับภาษาที่ใช้เรียกขนมจีน อย่างภาษาเหนือเรียกขนมเส้น ภาษาอีสานเรียกข้าวปุ้น ส่วนแป้งขนมจีนที่ใช้ทำเส้นขนมจีนแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ 1.ขนมจีนแป้งหมัก คือการหมักแป้งข้าวเจ้า โดยนำข้าวเจ้ามาแช่น้ำให้นิ่ม จากนั้นนำไปโม่ แล้วหมักประมาณ 7 วัน เมื่อหมักแล้วจึงนำมานวดในเครื่องนวดแป้ง 2.ขนมจีนแป้งสด ใช้วิธีการผสมแป้งข้าวเจ้าแต่ไม่ต้องหมักทิ้งไว้ นำมานวดในเครื่องนวดแป้ง

นวดแป้งแล้ว เทแป้งใส่กระบอกทองเหลืองที่ปลายด้านหนึ่งเจาะเป็นรูๆ ไว้ กดแป้งเข้าไปในกระบอก เมื่อผ่านรู แป้งจะถูกบีบเป็นเส้น แล้วเส้นขนมจีนก็จะไหลออกจากปลายกระบอก เป็นเส้นกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1-1.5 มิลลิเมตร ลงสู่น้ำร้อน ก่อนราดด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เส้นขนมจีนที่ได้จะจัดเรียงเอาไว้เป็นกลุ่มๆ ขนาดประมาณ 1 ฝ่ามือ เรียกว่า 1 จับ หรือบางถิ่นเรียกหัว เมื่อเรียงในจานสำหรับรับประทาน จะใส่ 3-4 จับ



ขนมจีนของคนอีสาน จังหวัดอุดรธานี
มีทั้งเส้นเล็กยาวๆ จัดเรียงเป็น"จับ" และชนิดตัวแป้งคล้ายขนมลอดช่อง

ขนมจีนภาคกลางนิยมกินกับน้ำพริก น้ำยา และแกงเผ็ดชนิดต่างๆ น้ำยาเป็นน้ำยากะทิ มีกระชายเป็นส่วนผสมหลัก ส่วนน้ำพริก น้ำแกงปนด้วยถั่วเขียว ถั่วลิสง นอกจากนี้ ยังมีขนมจีนซาวน้ำที่กินกับสับปะรด ขิง พริกขี้หนู กระเทียม มะนาว ราดด้วยหัวกะทิเคี่ยว ด้านภาคเหนือนิยมขนมจีนน้ำเงี้ยวที่มีดอกงิ้วเป็นองค์ประกอบสำคัญ กินกับแคบหมูเป็นเครื่องเคียง ส่วนอีสานกินกับน้ำยาใส่กระชายเหมือนน้ำยาภาคกลาง แต่เติมน้ำปลาร้า หรือกินกับน้ำต้มกระดูก ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ไม่ใส่เนื้อปลา หรือนำขนมจีนไปปรุงแบบส้มตำ เรียกตำซั่ว สำหรับภาคใต้ ขนมจีนเป็นอาหารเช้าเมนูหลักเมนูหนึ่ง น้ำยาขนมจีนภาคใต้ใส่ขมิ้น แต่ไม่ใส่กระชาย หรืออาจเป็นขนมจีนราดแกงไตปลา ขนมจีนน้ำยาปู ขนมจีนกับน้ำชุบ หยำ หรือน้ำพริกที่ปรุงด้วยการขยำเครื่องปรุงเข้าด้วยกัน ไม่ได้โขลกให้เข้ากันในครก

ขนมจีนมีกินกันทั่วในแถบอินโดจีน กัมพูชาเรียกว่านมปันเจ๊าะ นิยมกินกับน้ำยาปลาร้า พม่าก็มีอาหารประจำชาติเรียกหม่อนี่งา คล้ายขนมจีนน้ำยาปลา แต่ใส่หยวกกล้วย ไม่มีกะทิและกระชาย เวียดนามมีเส้นคล้ายขนมจีนเรียกบุ๋น นิยมกินกับน้ำซุปหมูและเนื้อ ส่วนลาวนิยมกินกับน้ำยาปลาหรือน้ำยาเป็ด



"น้ำพริก" ขนมจีน





ข้อมูล : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ขนมจีน “ซาวน้ำ” นามและรสอันเป็นปริศนา
สุขใจ ไปรษณีย์
ใบบุญ 0 1521 กระทู้ล่าสุด 04 เมษายน 2561 18:56:12
โดย ใบบุญ
ดราม่า ต้มยำกุ้ง / อาหารชื่อนานาชาติ แต่มีแค่เฉพาะในไทย (ขนมจีน กล้วยแขก ฯลฯ)
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪ 0 1011 กระทู้ล่าสุด 10 พฤศจิกายน 2563 23:24:36
โดย 【ツ】ต้นไม้ความสุข ♪
ขนมจีน “ซาวน้ำ” สูตรโบราณเฉพาะครัวไทยภาคกลาง นามและรสอันเป็นปริศนา
สุขใจ ไปรษณีย์
ใบบุญ 0 416 กระทู้ล่าสุด 11 ธันวาคม 2564 16:20:31
โดย ใบบุญ
สเต๊ก - ที่มาของชื่อ
เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
Kimleng 0 504 กระทู้ล่าสุด 08 มิถุนายน 2565 15:51:15
โดย Kimleng
‘ขนมจีน’ หรือ ‘ขนมเส้น’
สุขใจ ไปรษณีย์
ใบบุญ 0 371 กระทู้ล่าสุด 16 มิถุนายน 2565 11:14:55
โดย ใบบุญ
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.275 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 23 กุมภาพันธ์ 2567 04:36:04