กรำทุกข์เหนือทุกข์ ยอดคนเหนือคน
สำเร็จ ธรรมได้พร้อมกับความสุขสำราญ ? เชื่อว่าไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน ! ! ! เพราะเหตุนี้ ศิษย์พี่ศิษย์น้องทั้งหลายที่ได้รับวิถีธรรมและที่กำลังบำเพ็ญธรรม เมื่อได้รับวิถีอนุตตรธรรมอันเป็นพระสัทธรรมแท้ และเป็นการถ่ายทอดหลักธรรมญาณจริงแล้ว ก็ควรที่จะกำหนดความมุ่งมั่นที่จะบำเพ็ญจริงปฏิบัติแท้ หากต้องการที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อความหลุดพ้น ก็ต้องทนทุกข์ในความลำบากตรากตรำ เน้นหนักงานทางธรรมเบาบางงานทางโลก เช้า สาย บ่าย ค่ำไม่ห่างจากธรรมแท้ และยังสามารถบำเพ็ญตน สำรวมจิต และเสริมสร้างคุณธรรม ควรรู้ว่าความเยื่อใยผูกพันทางโลกล้วนไม่ยั่งยืนนานถึง 70 ปี ก็เท่ากับละเวลาเพียงแค่ 25,000 กว่าวันเท่านั้นเอง ! ยิ่งกว่านั้นชีวิตมนุษย์เป็นอนิจจัง อะไรก็เกิดขึ้นได้ทุกขณะ วันนี้ไม่อาจล่วงรู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้ได้ วันนี้ถอดรองเท้าเข้านอนไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะลงจากเตียงมาใส่รองเท้าอีกได้ หรือเปล่า ! เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงควรอาศัยชีวิตมนุษย์ที่แสนสั้นนี้แสวงหาหนทางเพื่อหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ และหากต้องการหลุดพ้นจากทะเลทุกข์ก็ต้องกำหนดความมุ่งมั่นทางธรรม ก็ต้องได้รับวิถีธรรม บำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรม ผู้บำเพ็ญธรรมไม่ควรถูกวัตถุตัณหาครอบงำ ไม่ควรถูกรูปเสียงล่อลวงไป ทุกกิริยาวาจาตลอดจนทุกข์อิริยาบถต้องสอดคล้องตามหลักธรรม ประคองรักษาจิตมุ่งมั่นทางธรรมให้มั่นคง ก้าวเดินไปยังเป้าหมายคือ แดนอนุตตรภูมิ จงจำเอาไว้ว่า "ธรรมจริงทวนกระแส แท้ขึ้นบน เฉกเช่นการขึ้นบันได แต่ละขั้นที่ต้องมีความระมัดระวัง และมีความอดทนฉันใดก็ฉันนั้น ตราบใดที่ยังไม่ถึงเป้าหมายก็อย่าได้ย่อท้อไม่หย่อนยานในปณิธาณความมุ่งมั่น วิริยะบำเพ็ญเพียรมุ่งหน้าต่อไป สร้างบุญบรรลุมรรคผล ในมงคลสมัยยุคสามนี้ เป็นโอกาสทองที่จะได้สำเร็จเป็นเทพเซียนพุทธอริยเจ้า ขอกล่าวเตือนด้วยความจริงใจให้ยอมทนเหน็ดเหนื่อยเพื่อธรรมะ ยอมบุกเบิกฉุดช่วยเวไนยเพื่ธรรมะยอมคิดการล่วงหน้าเพื่อการอนุเคราะห์เวไนย ประกาศความวิเศษแยบยลของวิถีธรรม บังเกิดความเมตตาร่วมพายนาวาช่วยเหลือ คนเดิม ทั่วสารทิศ จวบจนมรรคพร้อมผลพูนรอสนองพระบัญชาให้พุทธอริยามานำพากลับคืนเบื้องบนร่วม ประชุมอริยะหลงฮว๋า กราบเฝ้าทวยเทพเซียน ดื่มสุราทิพย์กินเซียนท้อ ไม่มีการเกิดไม่มีการดับ ทุกข์สิ้นสุขเกิด อิสระไร้พันธนาการ ท่องทั่วอนุตตรภูมิ อยู่ยงเป็นคนเหนือคนตลอดชั่วกาลนาน..............................เครดิตจาก.......................วิถีอนุตรธรรม