.หลายคน หลายประเทศคงยังสับสนหรือคิดว่า
“โยคะ” เป็นศาสตร์ต้องห้ามขัดกับกฎหมายศาสนาของตัวเอง เช่น มาเลเซียกับอินโดนีเซียที่มีคำสั่งไปแล้ว แม้แต่ชาวยิว ชาวคริสเตียน ก็ใช้วิธีเลี่ยงบาลีเปลี่ยนการเรียกชื่อท่าต่างๆ ให้เข้ากับหลักคำสอนของตัวเอง
เพราะหวั่นว่า
การฝึกโยคะ ซึ่งมีมานมนานถึงวิถีการผสานร่างกาย + สมาธิของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ต้องเข้าให้ถึงจิตวิญญาณเลยหรือไม่? หรือฝึกไปนานๆ แล้วจะหลงลืมศาสนาที่ตนนับถือหรือไม่?
ยิ่งท่าที่ชาวโลกตะวันตกรู้จักกันว่า “หฐโยคะ” Hatha Yoga (เป็นหนทางไปสู่ “การรู้แจ้ง” มุ่งเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ)
ซึ่งความหมายคำว่า “การรู้แจ้ง” ก็ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติมาช้านานจนกลายเป็นประเพณี สำหรับชาวฮินดูเชื่อเรื่องการหลุดพ้นวัฏสงสาร แต่สำหรับนักปฏิบัติโยคะทั่วไปตั้งมากมายมองเป็นเพียงท่าที่ทำให้เกิดความสงบนิ่งของจิตใจ หรือเข้าถึงธรรมชาติที่แท้จริงบนโลกใบนี้ และที่ที่เรายืนอยู่...เท่านั้น
แต่บางท่าก็ถกเถียงกัน ยกตัวอย่าง “อาสนะ”, “สุริยะนมัสการ” การคารวะองค์สุริยะ เทพแห่งดวงอาทิตย์ของชาวฮินดู ซึ่ง รีเบคกา เอฟเฟรนช์ ผู้ร่วมก่อตั้ง “โยคะลอนดอน” และเป็นครูสอนวิชาปรัชญาที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก็บอก “แม้เป็นเรื่องศาสนา ก็อยู่ที่ความตั้งจิตของเรา การคุกเข่า จะหมายถึง กำลังนั่งสวด หรือกำลังแค่คุกเข่าธรรมดาล่ะ?”
น.ส.ฟาริดา ฮัมซา ซึ่งเป็นชาวมุสลิมในสหรัฐฯ สนใจฝึกโยคะ 2-3 ปี ก็เคยกังวล แต่เธอก็เชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าใจ จึงบอกผู้ฝึกสอนว่าไม่ได้มาร่วมพิธีกรรม ซึ่งครูสอนก็เคารพในความคิดของเธอ กระทั่งเธอค้นพบเองว่า โยคะกับศาสนาอิสลามไม่เพียงแค่อยู่ร่วมกันได้ แต่มีบางส่วนทับซ้อนกันด้วย เพราะคำสอนองค์แปด “ยมะ” และ “นิยมะ” ของโยคะ ก็เหมือนกับคำสอนเสาหลักทั้ง 5 ของศาสนาอิสลาม
การละหมาดบางท่าก็เหมือนโยคะ แม้แต่การใช้นิ้วกลางแตะนิ้วโป้งระหว่างสวด สอดคล้องกับ เอฟเฟรนช์ ที่บอก “โยคะเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ ทุกขณะที่ทำ คุณอาจจะกำลังอุทิศให้กับพระพิฆเนศ พระกฤษณะ พระพุทธ พระเยซู หรือพระอัลลาห์”
ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับเรากำหนดเอง...

สุริยะนมัสการ (โยคะศาสตร์) ศาสตร์ที่ประยุกต์เข้าถึงแก่นของศาสนา
โยคะเป็นศาสตร์และวิถีชีวิตของคนอินเดียโบราณ
ไม่แต่เพียงใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายและท่าทาง
หากยังใช้การควบคุมการหายใจแลการใช้สมาธิอีกด้วย
ทีมนักศึกษามหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ ค้นคว้าพบว่า
การฝึกทำโยคะวันละ 20 นาที จะทำให้สมองไวขึ้น
ผู้เข้าร่วมสามารถทำการทดสอบความจำและการควบคุมตนเอง
ของการทำงานของสมองที่เกี่ยวกับความสามารถในการใช้สมาธิ การรับ
และเก็บรักษาข้อมูลใหม่ๆ ได้ดีขึ้น ผู้เข้าร่วมบางคนยังสามารถทำงาน
ได้ผลดีกว่าการออกกำลังแบบแอโรบิกในเวลาเท่าๆ กันด้วย
ที่มา ไทยรัฐ







