[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 พฤษภาคม 2567 05:53:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จากอุดมคติของศาสนาที่ถูกถ่ายทอดลงสู่งานศิลป์  (อ่าน 8867 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5469


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0 MS Internet Explorer 7.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 10 ธันวาคม 2556 12:38:49 »

.


พระพุทธรูปปางลีลา ประดิษฐานที่ห้องโถงใหญ่ชั้นบนสุดใต้ท้องช้าง
และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและเทวรูปโบราณ
ที่เจ้าของพิพิธภัณฑ์สะสมไว้จำนวนมาก


ช้างเอราวัณหรือช้างสามเศียร

ศาสตร์แห่งศิลป์
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง  จังหวัดสมุทรปราการ

พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมือง  จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่เก็บรักษาของโบราณที่ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ (เจ้าของพิพิธภัณฑ์) สะสมไว้ เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางศิลปกรรมเท่านั้น หากยังเป็นรูปเคารพที่ศักดิ์สิทธิ์ของคนโบราณ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองและแผ่นดิน

ส่วนบนของอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เป็นประติมากรรมช้างสามเศียรขนาดใหญ่ ลักษณะลอยตัว  

ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์จากพื้นดินถึงเศียรช้างมีความสูง ๔๓.๖๐ เมตร (หรือสูงขนาดตึก ๑๔-๑๗ ชั้น)

ตัวช้างสร้างจากโลหะทองแดงแผ่นเล็กสุดมีขนาดเท่าฝ่ามือ ด้วยวิธีเคาะด้วยมือ จำนวนนับแสนชิ้นนำมาเรียงต่อกันด้วยความประณีต  (ผลงานนี้นับเป็นแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในโลก)

ตัวช้าง เฉพาะส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ ๑๐๐ ตัน ลำตัวช้างหนัก ๑๕๐ ตัน สูง ๒๙ เมตร กว้าง ๑๒ เมตร และยาว ๓๙ เมตร ภายในตัวช้างออกแบบให้เป็นโถงจัดแสดงโบราณวัตถุจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูป เทวรูป เครื่องเบญจรงค์ยุคสมัยต่างๆ เครื่องสังคโลกต่างๆ จากประเทศจีน เช่น ชุดน้ำชา ถ้วย จาน ชาม เป็นต้น

ประติมากรรมภายในอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ งดงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง  เป็นที่เรียนรู้ปรัชญาของศาสนาสำคัญของโลกที่ถูกถ่ายทอดลงสู่งานศิลป์หลากหลายรูปแบบที่แสดงออกด้วยการปั้น การแกะสลัก การหล่อ โดยใช้วัสดุ อาทิ โลหะ กระจกสี ไม้ หิน ปูน และนำเครื่องเบญจรงค์มาตกแต่งสลับลวดลายสอดสี  ด้วยเจตนารมณ์ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมได้เรียนรู้งานศิลปะซึ่งสร้างสรรผลงานโดยอิงหลักธรรมแห่งศาสนาทั้ง ๓ ได้แก่ ศาสนาพุทธ (พุทธศาสนาเถรวาท และพุทธศาสนามหายาน)  ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลามหรือฮินดู  ที่ล้วนมีจุดมุ่งหมายให้มนุษย์ทำความดีละเว้นความชั่วและอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข



พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม







หลักธรรมค้ำจุนโลก
ภายในพิพิธภัณฑ์ช้าง ก็คือบริเวณฐานช้างและภายในท้องช้างนั่นเอง
เสารองรับเพดานอาคาร ใช้กระจกสีเป็นรูปของแผนที่โลก รวม ๔ ต้น
เสาแต่ละต้นสลักภาพนูนต่ำแสดงประวัติและหลักธรรม
ของแต่ละศาสนา ได้แก่ ๑. พุทธศาสนาเถรวาท ๒. พุทธศาสนามหายาน
๓. ศาสนาคริสตร์ และ ๔. ศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู
อุปมาหลักธรรมของศาสนาเป็นเครื่องค้ำจุนโลก... ความเห็นส่วนตัวค่ะ









ประติมากรรมอันวิจิตรงดงามภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ




ภูมิทัศน์รอบนอกอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ
เป็นที่เดินชมรูปปั้นสัตว์ป่าหิมพานต์ ซึ่งแสดงกิริยาท่าทางงดงามอ่อนช้อย
ควรแก่การศึกษาหาความรู้เป็นอย่างยิ่ง รูปปั้นเหล่านี้จัดวางอย่างกลมกลืน
ไว้ตามจุดต่างๆ ในสวนไม้ยืนต้นและไม้ประดับที่ถูกจัดให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนป่า
มีน้ำตกจำลอง มีธารน้ำไหล จึงเป็นที่ให้ความร่มรื่นร่มเย็น งดงามสบายตาแก่นักท่องเที่ยว



กินรี (Kinnari) อมนุษย์เพศหญิง ครึ่งคนครึ่งนก อย่างเดียวกับกินนร


กินนร (Kinnara) อมนุษย์ครึ่งคนครึ่งนก เพศผู้ มีหน้าและลำตัวเป็นคน ส่วนท่อนล่างมีขาและหางเป็นนก


วารีกุญชร (Waree Kunchorn) ลักษณะตัวเป็นช้างมีหางเป็นปลา รวมกันคือ “ช้างน้ำ”


คชปักษา (Gaja-Puksa) คือครุฑผสมหงส์และช้าง โดยมีขาและหางเป็นหงส์
ลำตัวและแขนเป็นครุฑ ส่วนหัวมีงวงมีงาแบบช้าง





กิเลน (Qilin) สัตว์ในเทพนิยายจีน เชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความดี
อายุยืน สามารถขจัดสิ่งชั่วร้าย กิเลนเป็นสัตว์หิมพานต์มี ๓ ชนิด คือ กิเลนไทย กิเลนจีน และกิเลนปีก




คชสีห์ (Gaja-Singha) คือสิงห์ผสมช้าง ลักษณะลำตัวเป็นสิงห์แต่มีหัวเป็นช้าง
มีงวงมีงา ซึ่งไทยใช้เป็นตราประจำกระทรวงกลาโหม


นกหัสดี หรือ หัสดีลิงค์ (Hussadee bird) ลักษณะตัวเป็นนก หัวเป็นราชสีห์
มีงวงและงาแบบช้าง มีปีกและลำตัวใหญ่โต พลังมหาศาล




นาค (Naga) พญานาคเป็นเจ้าแห่งงู
ถ้าเป็นเพศผู้เรียก “นาคะ” เพศเมียเรียกว่า “นาคี”


นกอินทรี (Eagle) นกขนาดใหญ่ที่มีหางกนก


นางเงือก (Mermaid) เงือกมีท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นปลา
เงือกที่มีชื่อเสียงมี ๒ ตัว คือ นางเงือกในพระอภัยมณี มีลูกชื่อสุดสาคร
กับสุวรรณมัจฉา เป็นเมียหนุมานในเรื่องรามเกียรติ์












สินธพกุญชร ม้าหัวช้าง : ตัวเป็นม้า ขาและหางเป็นม้า


สาระความรู้
เรื่อง
สัตว์หิมพานต์
จาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด

สัตว์หิมพานต์เป็นจินตนาการที่กวี จิตรกร ประติมากร พรรณนาถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาส ดังปรากฏในวรรณคดีไตรภูมิกถา (ไตรภูมิพระร่วง) และรามเกียรติ์

นายช่วง สเลลานนท์ ผู้ประพันธ์หนังสือศิลปไทย ในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ จำแนกสัตว์หิมพานต์เป็น ๓ ประเภท คือ สัตว์ทวิบาท (สองขา) สัตว์จตุบาท (สี่ขา) และปลา รวม ๑๕ ชนิดดังนี้

๑. กิเลน เป็นสัตว์หิมพานต์ที่ได้รับมาจากประเทศจีน เช่นเดียวกับสัตว์หลายชนิดในจีน กิเลนตัวผู้กับตัวเมียมีชื่อเรียกไม่เหมือนกัน ตัวผู้มีชื่อเรียกว่า "กิ" ส่วนตัวเมียเรียกว่า "เลน"  ตำนานเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนี้มีอยู่ในประเทศอื่นด้วย เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี ในญี่ปุ่นเรียกสัตว์ชนิดนี้ว่าคิริน ในไทยเองก็มีรูปกิเลนตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ และมีรูปลักษณ์ต่างออกไป มี ๓ แบบ คือ กิเลนจีน กิเลนไทย และกิเลนปีก
๒. กวาง สัตว์ประหลาดที่มีเค้าจากกวางในตำนานหิมพานต์ ได้แก่ มารีศ พานรมฤค และอัปสรสีหะ
๓. สิงห์ สัตว์ในป่าหิมพานต์ส่วนใหญ่จัดอยู่ในหมวดสิงห์ สิงห์ในตำนานหิมพานต์จำแนกได้เป็น ๒ ชนิดหลักๆ คือ ราชสีห์ มี ๔ ชนิด คือ บัณฑุราชสีห์ กาฬสีหะ ไกรสรราชสีห์ และ ติณสีหะ  อีกชนิดเป็นสิงห์ผสม คือสัตว์ประสมที่มีลักษณะของราชสีห์กับสัตว์ประเภทอื่น ได้แก่ เกสรสิงหะ เหมราช คชสีห์ ไกรสรจำแลง ไกรสรคาวี ไกรสรนาคา ไกรสรปักษา โลโต พยัคฆ์ไกรสร สางแปรง สกุณไกรสร สิงฆ์ สิงหคาวี สิงหคักคา สิงหพานร สิงโตจีน สีหรามังกร เทพนรสีห์ ฑิชากรจตุบท โต โตเทพสิงฆนัต และทักทอ
๔. ม้า เช่น ดุรงค์ไกรสร ดุรงค์ปักษิณ เหมราอัสดร ม้า ม้าปีก งายไส สินธพกุญชร สินธพนที โตเทพอัสดร อัสดรเหรา อัสดรวิหค
๕. แรด หรือ ระมาด เป็นสัตว์หิมพานต์ที่มาจากสัตว์ที่มีตัวตนอยู่จริง แต่แรดเป็นสัตว์ป่าหายาก ระมาดที่ปรากฏในศิลปะไทยจึงดูคล้ายตัวสมเสร็จ มีจมูกเป็นงวงสั้นๆ
๖. ช้าง ตำนานของช้างที่เกี่ยวกับป่าหิม พานต์มีเหตุมาจากความเชื่อของศาสนาฮินดู อันได้แก่ เอราวัณ กรินทร์ปักษา วารีกุญชร ช้างเผือก
๗. วัวควาย ไทยและอินเดียเป็นประเทศกสิกรรม สัตว์ประเภทวัวควายจึงมีส่วนสำคัญในการดำรงชีพ ตำนานบางเรื่องจึงมีวัวควายเป็นตัวละคร ได้แก่ มังกรวิหค ทรพี และทรพา
๘. ลิง ได้แก่ กบิลปักษา และมัจฉานุ
๙. สุนัข ในภาพเขียนเก่าจะเป็นภาพสุนัขมีขนคอหนาและหางเป็นพุ่ม
๑๐. นก เป็นสัตว์ที่มีมากที่สุดในป่าหิมพานต์ มีจำนวนมากถึง ๒๘ ชนิด แตกต่างตามถิ่นที่อยู่อาศัย แต่นกที่ได้รับการเคารพสูงสุดสำหรับฮินดู คือครุฑ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของเทพปักษีและเทพกินนร สัตว์หิมพานต์ ประเภทนก ได้แก่ อสูรปักษา อสุรวายุพักตร์ ไก่ นกการเวก ครุฑ หงส์ หงส์จีน คชปักษา มยุระคนธรรพ์ มยุระเวนไตย มังกรสกุณี นาคปักษี นาคปักษิณ นกหัสดี นกอินทรี นกเทศ พยัคฆ์เวนไตย นกสดายุ เสือปีก สกุณเหรา สินธุปักษี สีหสุบรรณ สุบรรณเหรา นกสัมพาที เทพกินนร เทพกินรี เทพปักษี นกทัณฑิมา
๑๑. ปลา ได้แก่ เหมวาริน กุญชรวารี มัจฉนาคา มัจฉวาฬ นางเงือก ปลาควาย ปลาเสือ ศฤงคมัสยา
๑๒. จระเข้ ได้แก่ กุมภีนิมิตร และเหรา
๑๓. ปู รูปลักษณะไม่เปลี่ยนจากรูปแบบทางกายภาพจริง แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
๑๔. นาค เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามคติในศาสนาพุทธ และพบได้บ่อยในสถาปัตยกรรมภาษาไทย
๑๕. มนุษย์ ได้แก่ คนธรรพ์ และมักกะลีผล

การจัดสร้างหุ่นสัตว์หิมพานต์ประดับพระเมรุ เป็นคติสื่อถึงการเดินทางสู่เขาพระสุเมรุ อันเป็นหลักชัยแห่งสวรรค์
... ที่มาข้อมูล - หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 กันยายน 2558 12:36:18 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.372 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 7 ชั่วโมงที่แล้ว